Belong to the Truth Jesus Christ

Gen 9:3  สิ่งทั้งปวงที่มีชีวิตเคลื่อนไหวไปมาจะเป็นอาหารของพวกเจ้า เช่นเดียวกับพืชผักเขียวสด เรายกทุกสิ่งให้แก่พวกเจ้า
Gen 9:4  แต่เนื้อกับชีวิตของมัน คือเลือดของมัน พวกเจ้าอย่ากินเลย

หมายความตรงตัวเลยเปล่าครับ  เลือดของมัน พวกเจ้าอย่ากินเลย ตรงเนี่ย

ต้มเลือดหมู กินได้อะเปล่าครับอย่างเนี้ย

กินได้นะพี่

Ecclesia (totus tuus) เขียน: กินได้นะพี่

ตกลงกินได้นะ จะได้ไม่ต้องระแวดระวังการกิน พอดีไปอ่านเจอพระคัมภีร์ข้อนั้นมา เลยเกิดความสงสัย จากสงสัยกลายเป็นระแวงอาหาร

จากข้อนี้ทำให้เกิดการเผาบูชาเลือดให้พระเจ้ารึเปล่าครับ :huh:

ปกติถ้ามันคลุมเคลือๆผมจะดูทั้งบทนะ


ตามมุมมองผมนะ
พระเยซูเคยพูดไว้ว่าไม่มีสิ่งใดที่กินเข้าไปแล้วทำให้เขามีมลทิล สิ่งที่ออกมาจากปากของเขาต่างหากที่ทำให้เขาเป็นมลทิล

ดังนั้นผมว่ากินได้

สมัยก่อน

สัตว์ต่างๆ มักจะสกปรกครับ
ยิ่งถ้ากินเลือดของสัตว์ โอกาสติดเชื้อสูง

ก็เหมือนที่ พระเจ้ห้ามให้กิน สัตว์มลทิน (เป็นต้นว่าหมู )


หรือ การบอกให้เข้าสุหนัต


__________


พระเจ้ายอดเยี่ยม ทรงเตรียมสุขภาพของผู้เชื่อ ตามแนววิทยาศาสตร์

กจ 10:1-33

(9)วันรุ่งขึ้น ขณะที่เขาทั้งสามคนกำลังเดินทางมาใกล้เมืองยัฟฟา เปโตรขึ้นไปบน  ดาดฟ้าของบ้านเพื่อจะอธิษฐานภาวนาเวลาเที่ยง  (10)เขารู้สึกหิว ขณะที่คนในบ้านกำลังเตรียมอาหาร เปโตรก็เข้าสู่ภวังค์  (11)และเห็นท้องฟ้าแหวกออก สิ่งหนึ่งคล้ายผ้าผืนใหญ่ถูกมัดไว้ทั้งสี่มุมกำลังถูกหย่อนลงมายังพื้นดิน  (12)ในนั้นมีสัตว์นานาชนิด ทั้งสัตว์สี่เท้า สัตว์เลื้อยคลาน และนก  (13)มีเสียงหนึ่งพูดกับเขาว่า

ในกลุ่มชาวคริสต์ ก็ตีความเรื่องอาหาร แตกต่างกันบ้าง แล้วแต่เบื้องหลังวัฒนธรรม ด้วย

เช่นคริสต์ เซเวนเดย์แอดเวนติสท์ (คริสตจักรวันเสาร์ ) ตีความการนมัสการหรือวันสะบาโต วันเสาร์ เขาจึงมีนมัสการวันเสาร์
เรื่องอาหาร เขาเป็นพวกมังสะวิรัติ ( เห็นว่าคนกลุ่มนี้เป็นมะเร็งน้อย ) ถือเรื่องอาหารแบบพระคัมภีร์เดิม อะไรที่เคยเป็นมลทิน
ในกฏหมายโมเสส ก็ยังเป็นถึงปัจจุบัน

ส่วนเรื่องเลือดนี่ หลายๆชาติๆ หลายๆเผ่าพันธุ์ไม่กิน ถึงแม้เขาไม่อ่านพระคัมภีร์ เช่นพวกตะวันตก จะไม่กินเครื่องใน เลือด เป็นต้น

แต่คนเอเชียเชื้อสาย จีน ญวน ลาว ไทย กินดะ ( ถือแบบที่พี่จิงยกมาเลย )

คุณพี่ลองอ่านลิงก์ นี้ เกี่ยวกับการกิน การดื่ม ที่พี่พีพี เคยโพสต์ไว้ :cheesy:

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=1829.0

หากท่านได้ขบคิด        พิจารณ์ (ใช้ "พิจารณ์" มาหลายทีละ ชักเบื่อ)
เมื่อครั้นแต่เบาราณ      นั่นแน่
เลือดตกคือ อาการ      สิ้นชีพ แท้นา
เลือดจึ่งคือสิ่งแท้        ชีวิต ผู้นั้น

โลหิตสัตว์ถูกใช้          บูชา
มิใช่ซึ่งโภคา              อาหาร
อีกทั้งเป็นพยาธิ์          มากล้น เหลือหลาย
อีกคือสัญญะการ        ประหาร ชีวิน

ในที่พระธรรมใหม่      ก็กล่าว
น. เปาโลร่ายยาว      แน่แท้
โลหิตกลิ่นคลุ้งคาว    พึงเลี่ยง เถิดนา
แล้วแต่ท่านคิดแก้      ขบไข ปัญหา

สาระเปาโลเล่า            นั้นคือ
ธรรมเนียมมนุษย์ถือ      ละไว้
จิตใจผูกมัดฤๅ              มิสำ- คัญกว่า
หากอยู่ในพระไว้          ประพฤติใด สำคัญ

ส่วนข้าฯ นั้นปรานโปรด      ลาบเลือด
หลู้เลือดสดๆ เชือด            จากหมู
ปรุงรสเครื่องปรุงเดือด        อร่อยแท้ ล้านนา
มีหูจงไว้หู                        อยากรู้ ให้ลอง

ซดเลือดเข้าไปแล้ว          ฟันแดง
น่าเกลียดประหนึ่งแมง      เห็บเหา
เหมือนมารมาจำแลง        ร่างอยู่ กับนา
อยากเห็นก็หลอกเอา        ให้เขา หัวร่อ

อันนี้ถ้าจำไม่ผิดคือพระธรรมในพันธสัญญาเดินนะครับ บทความเหล่านี้จะปรากฏอยุ่ในพระธรรมเลวีนิติ ประมาณบทที่11นะครับ เช่นในบทที่11ข้อที่7เรื่องของหมู เป็นบัญญัตที่พระเจ้าตรัสสั่งนะครับ ลองอ่านดูจะมี อาหารจำพวกที่ควรกินเเละต้องห้ามครับ ซึ่งข้อห้ามเหล่านี้ยังคงปรากฎในปัจจุบันบ้างครับ เช่นในพี่น้องนายู หรือมุสลิม ครับ ชาวยิวบางกลุ่ม และชาวคริตส์บางกลุ่มเช่นกัน ธรรมเนียมเยี่งนี้ใช้กันมาตั้งแต่ก่อนยุคโมเสส(นบีมูซา)  ครับ แต่มีการจะจึกในช่งพระคำภีร์ครับ ในสมัยนั้นอาหารจำพวกนี้ต้องห้ามที่สุดครับ แต่ในสมัยพระเยซูนั้น(นบีอีซา)นั้นบัญญัตินี้โดนยกเลิกครับ เพราะว่าเพราะว่าอาหารทุกอย่างเรากินได้เพราะพระองค์ได้ชำระเเล้ว ดังนั้นชาวคริตส์จึงเริ่มกินมันมา(บางชนิดนะครับ)บางสิ่งที่สุดโต่งเราก็ไม่กินตามสภาพอยุ่แล้วแต่ผู้ท่ไม่เชื่อในพระคริสต์ก้ยังคงทำเช่นเดิมคือไม่กินนะครับ  ข้อมูลอาจน้อยแต่จำเท่าที่เรียนมาและจำได้ครับ
สันติสุขจงมีแด่ท่านครับ

ความจริงไม่ใช่สมัยพระเยซูหรอกครับ เป็นสมัยอัครสาวก เป้นการใช้อำนาจพระสันตะปาปาเปลี่ยนกฎครั้งแรกของเปโตร

taiyo เขียน: Gen 9:3  สิ่งทั้งปวงที่มีชีวิตเคลื่อนไหวไปมาจะเป็นอาหารของพวกเจ้า เช่นเดียวกับพืชผักเขียวสด เรายกทุกสิ่งให้แก่พวกเจ้า
Gen 9:4  แต่เนื้อกับชีวิตของมัน คือเลือดของมัน พวกเจ้าอย่ากินเลย

หมายความตรงตัวเลยเปล่าครับ  เลือดของมัน พวกเจ้าอย่ากินเลย ตรงเนี่ย

ต้มเลือดหมู กินได้อะเปล่าครับอย่างเนี้ย

ขึ้นชื่อว่าอาหารทุกอย่างกินได้แต่ดูประโยชน์หน่อยก็ดีครับ
ประโยคที่ขีดเส้นใต้น่าจะเป็นอุปมาหรือเปล่าครับ
คงจะหมายถึงพระองค์ทรงตั้งศีลมหาสนิท
ที่พระองค์ทรงบิขนมปังแล้วตรัสว่า "จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา
แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วยตรัสขอบพระคุณแล้วตรัสว่า
ทุกท่านจงดื่มจากถ้วยนี้เถิด นี่เป็นโลหิตของเรา "โลหิตแห่งพันธสัญญา"
     ความหมายน่าจะใช่ว่าไม่มีสิ่งใดที่กินแล้วจะได้รับความบริสุทธิ์
เท่ากับสิ่งที่พระองค์ทรงมอบให้ "ลองวิเคราะห์ดูครับ

bowbiwa เขียน:

taiyo เขียน: Gen 9:3  สิ่งทั้งปวงที่มีชีวิตเคลื่อนไหวไปมาจะเป็นอาหารของพวกเจ้า เช่นเดียวกับพืชผักเขียวสด เรายกทุกสิ่งให้แก่พวกเจ้า
Gen 9:4  แต่เนื้อกับชีวิตของมัน คือเลือดของมัน พวกเจ้าอย่ากินเลย

ขึ้นชื่อว่าอาหารทุกอย่างกินได้แต่ดูประโยชน์หน่อยก็ดีครับ
ประโยคที่ขีดเส้นใต้น่าจะเป็นอุปมาหรือเปล่าครับ

มาดูกันที่ "กาล" กับ "เทศะ" ครับ

สมัยก่อน เชื้อโรคเยอะ แล้วจะอยู่เยอะมากในเลือด

เหมือนเรื่อง "ขริบ" ละครับ :lipsrsealed:


พระเจ้าเรายิ่งใหญ่จริงๆ เป็นพระเจ้าแห่งวิทยาศาสตร์

[quote="~@Little lamb@~"]
กจ 10:1-33

(9)วันรุ่งขึ้น ขณะที่เขาทั้งสามคนกำลังเดินทางมาใกล้เมืองยัฟฟา เปโตรขึ้นไปบน  ดาดฟ้าของบ้านเพื่อจะอธิษฐานภาวนาเวลาเที่ยง  (10)เขารู้สึกหิว ขณะที่คนในบ้านกำลังเตรียมอาหาร เปโตรก็เข้าสู่ภวังค์  (11)และเห็นท้องฟ้าแหวกออก สิ่งหนึ่งคล้ายผ้าผืนใหญ่ถูกมัดไว้ทั้งสี่มุมกำลังถูกหย่อนลงมายังพื้นดิน  (12)ในนั้นมีสัตว์นานาชนิด ทั้งสัตว์สี่เท้า สัตว์เลื้อยคลาน และนก  (13)มีเสียงหนึ่งพูดกับเขาว่า

minirosary เขียน: กิจการ 15:20     แต่เราจงเขียนหนังสือฝากไปถึงเขาว่าให้งดเว้นเสียจากสิ่งที่มลทินเนื่องด้วยรูปเคารพจากการล่วงประเวณีจากการรับประทานเนื้อสัตว์ที่รัดคอตายและจากการรับประทานเลือด
กิจการ 15:29     คือว่าให้ท่านทั้งหลายงดการรับประทานสิ่งของซึ่งเขาได้บูชาแก่รูปเคารพและการรับประทานเลือดและการรับประทานเนื้อสัตว์ซึ่งถูกรัดคอตายและการล่วงประเวณีถ้าท่านทั้งหลายงดการเหล่านี้ก็จะเป็นการดีขอให้อยู่เป็นสุขเถิด

*** แล้วข้อความนี้หล่ะ
ช่วยอธิบายหน่อยสิ
จนป่านนี้แล้ว เรายังไม่ค่อยกล้ารับประทาน... อยู่เลย

ดูข้อพระคัมภีร์ก่อนหน้านั้นสิครับ
_________________________

ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเห็นว่าไม่ควรก่อความยุ่งยากแก่คนต่างศาสนาที่กลับใจมาหาพระเจ้า  กจ 15:19

_______

คนต่างศาสนาในที่นี่หมายถึง พวกยิว ที่ยังยึดติดบัญญัติเดิม

หากเขาได้พบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ จะทำให้ความเชื่อของเขาที่ยังไม่มั่นคงนั้นสะดุดได้

เราควรที่จะทำให้ความเชื่อของเขามั่นคงก่อนครับ

ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน:

minirosary เขียน: กิจการ 15:20     แต่เราจงเขียนหนังสือฝากไปถึงเขาว่าให้งดเว้นเสียจากสิ่งที่มลทินเนื่องด้วยรูปเคารพจากการล่วงประเวณีจากการรับประทานเนื้อสัตว์ที่รัดคอตายและจากการรับประทานเลือด
กิจการ 15:29     คือว่าให้ท่านทั้งหลายงดการรับประทานสิ่งของซึ่งเขาได้บูชาแก่รูปเคารพและการรับประทานเลือดและการรับประทานเนื้อสัตว์ซึ่งถูกรัดคอตายและการล่วงประเวณีถ้าท่านทั้งหลายงดการเหล่านี้ก็จะเป็นการดีขอให้อยู่เป็นสุขเถิด

*** แล้วข้อความนี้หล่ะ
ช่วยอธิบายหน่อยสิ
จนป่านนี้แล้ว เรายังไม่ค่อยกล้ารับประทาน... อยู่เลย

ดูข้อพระคัมภีร์ก่อนหน้านั้นสิครับ
_________________________

ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเห็นว่าไม่ควรก่อความยุ่งยากแก่คนต่างศาสนาที่กลับใจมาหาพระเจ้า  กจ 15:19

_______

คนต่างศาสนาในที่นี่หมายถึง พวกยิว ที่ยังยึดติดบัญญัติเดิม

หากเขาได้พบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ จะทำให้ความเชื่อของเขาที่ยังไม่มั่นคงนั้นสะดุดได้

เราควรที่จะทำให้ความเชื่อของเขามั่นคงก่อนครับ

ไม่ใช่นะยศ คนต่างศาสนาในบทนั้นหมายถึงคนที่ไม่ใช่ยิว

ผมเข้าใจมาตลอดว่าห้ามกินเลือดนะเนี่ย 
ยังไงจะรอผู้รู้อภิปรายกันต่อไปครับ 

ถ้าทำให้พี่น้องสะดุด ก็เลี่ยง
ถ้าทำให้คนต่างศาสนาว่าได้ ก็เลี่ยง