Belong to the Truth Jesus Christ

ในที่พระคัมภีร์บอกไว้ว่า
มก13:24-27; ลก. 21:25-28
แต่พอสิ้นความทุกข์ลำบากแห่งวันเหล่านั้นเเล้ว ดวงอาทิตย์ จะมืดไป
และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง ดวงดาวทั้งปวงจะตกจากฟ้า และบรรดาสิ่งที่มีอำนาจ
ในท้องฟ้า จะสะเทือนสะท้าน เมื่อนั้นนิมิตแห่งบุตรมนุษย์ จะปรากฎขึ้นในท้องฟ้า
มนุษย์ทุกชาติทั่วโลก จะตีอกร้องไห้ เเล้วจะเห็นบุตรมนุษย์ เสด็จมาบนเมฆในท้องฟ้า
ทรงฤทธานุภาพและพระสิริเป็นอันมาก พระองค์ทรงใช้ทูตสวรรค์ของพระองค์ มาด้วย
เสียงแตรอันดังยิ่งนัก ให้รวบรวมคนทั้งปวงที่พระองค์เลือกสรรไว้เเล้ว ทั้งสี่ทิศนั้น
ตั้งเเต่ที่สุดฟ้าข้างนี้จนถึงที่สุดฟ้าข้างโน้น

Why are you psoing this phrais which we moslty can read from the bible?

Please tell us your point as well si krub ;)

- -" เอามาโพสแค่นี้ ไม่อธิบายอะไรเพิ่มแล้วจะรู้ได้ไงว่าจะสื่อสารอารายคร๊าบบบ ???

ผมเอามาจากพระคำภีร์คับ *swt
ก็คือวันที่พระเยซูคริสตเจ้าเสด็จกลับมาอีกครั้ง
จะเกิดเหตุการเเบบนี้ขอรับนายท่าน เราจะรอวันที่ พระองค์เสด็จกลับมา

คริสตชนอยู่ด้วยพระวจนะ"ทุกคำ"
ยังมีใน พระวิวรณ์อีกครับ ฯลฯ

มีกลอนภาษาอิสานอยู่ครับที่เล่าถึงการมาของพระผู้ช่วย ถ้าหาหนังสือเจอ จะรีบเอามาให้อ่านเลยนะครับ

นี้ครับกลอนภาษาอิสานที่ผมว่า เป็นการทำนาย เรียกว่าบั้นพยากรณ์ครับ ลองอ่านดูนะครับ
๖ ฝูงคนเฒ่าศีลธรรม บ่มีเชื่อ
เชื่อแต่คนขี้เหล้า มาเว้าแจกเงิน
ความเดือดฮ้อน คนก่อให้มันเป็น
มีแต่ อัปปรีย์เป็น ให้หมั่นเห็น เลิกพ้อ
๑ คนสิตายถ้อนเข้าเหลือสาม ฮ่มโพธิ์ศรี
เขาจึงมีใจคิด เฮียกหาพระไตรแก้ว
๒ ต่อจากหั่น พระยาธรรมสิมาซ่อย
หินอยู่พื้นสิจมลง คือเก่า
บักน้ำเต้าหน่วยแห้ง สิฟูขึ้นดั่งเดิม
๓ ทุกสิ่งเชื้อที่เกิดอยู่ เมืองมนุษย์
เขาสิมีความสุข ทุกข์บ่มีมาใกล้
ว่าดังนี้แหละนาง

อันนี้ของคำทำนายพยากรณ์ทางพุทธครับ คิดว่าแต่งขึ้นในสมัยอยุธยา

จึงเกิดเข็ญเป็นอัศจรรย์สิบหกประการ
คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ
อุปัทวเหตุเกิดขึ้นทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะร้อนเป็นเพลิงกาฬ
เกิดนิมิตพิสดารทุกบ้านเมือง
พระคงคาจะแดงเดือดดังเลือดนก
อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าจะวิ่งเข้าสิงเมือง
ผีเมืองจะออกไปอยู่ไพร
พระเสื้อเมืองทรงเมืองจะละหนี
กาลกาลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกไห้
อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม

ในลักษณะว่าไว้บ่ห่อนผิด
เมื่อวินิจคิดดูก็เห็นสม
มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม
มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด
มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวพ้น
มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ
ทั้งต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด
เกิดวิบัตินานาทั่วสากล

เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา
จะรักษาแต่ฝ่ายอกุศล
สัปปุรุษจะแพ้แก่ทรชน
มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว
คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์
ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก
จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ
นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย
น้ำเต้าอันน้อยจะถอยจม

พระเสื้อเมือง ทรงเมืองคืออะไรเหรอครับ

I Love Jesus เขียน: พระเสื้อเมือง ทรงเมืองคืออะไรเหรอครับ

เป็นพระที่ศาสนาพุทธและพราหมณ์เชื่อว่าเป็นผู้คุ้มครองบ้านเมืองครับ

O.K.

ใช้คำว่า "พระ" ยังดูกำกวมไปหน่อยนะ

ให้เข้ใจละกันว่าเป็น วิญญาณ ที่ทำหน้าที่เป็นGuardian

เค้าเรียกสิ่งศักย์สิทธิ์ของเขาว่าพระหมดและครับ ทั้งพระจริงๆตามแก่นอท้ของศาสนา และพวกวิญญาณ ขอนไม้ ต้นไทร ก้อนหินฯลฯ แปลกดีนะ เขาก็สอนไม่ให้เชื่อเรื่องงมงมยเหมือนกัน แต่วันหวยออกละก็...

มีพี่น้องคนหนึ่ง มาเชื่อพระเจ้าแล้วบังเอญเป็นคนขี้แก๊กที่สุดในคริสตจักร วันหนึ่งคุณป้าเขาบุกเข้ามาในโบสถ์ ศบ.ก็ออกไปกูู้สถานการ(ศบ.โบสถ์ตรังนี่เขาติดรากหญ้าครับ ออกลุยเลี้ยลูกแกะเองเลยสนิทกะพวกผมมาก)
พี่หยอง:(ตกใจนิดๆนึกว่าป้ามาเอาเรื่อง) หวัดดีครับ ป้าของบูมใช่ไหมครับ
ป้า:...ฯลฯ... เออ ใครนำไอ้บูมมันมาเชื่อพระเจ้า
พี่หยอง:(ตกใจกว่าเดิม) ไม่...ไม่ทราบครับ
ป้า:เนี่ย...ตั้งแต่มันมาเชื่อพระเจ้าแล้วมันน่ารักกกขึ้นเยอะ ไม่ดื้อ ไม่เลวเหมือนก่อน(ตอนพี่หยองมาแฉให้พวกเราฟังไม่มีใครเชื่อครับ)
พี่หยอง:(โล่งใจ) แล้วป้าไม่เชื่อด้วยล่ะ...
ป้า:อ๋อ ยังก่อน พอดีเชื่อหลายพระแล้ว ไหว้ไม่ทัน

ตลกดีมั๊ยล่ะครับ ;D
อดีตชาวพุทธตามกฎหมาย ปัจจุบัน ลูกพระเจ้าตามพระสัญญา :)

เนืี่ย เพื่นเล่วว่าคราวก่อนที่รืู้้อห้องสมุดโบสถ์เจอใบปรกาศของอิสลาม มีเรื่องน้ำท่วมโลก และการสร้างโลกใน7วันด้วยละ
เรื่องอวสานโลกเนี่นก็เหมือนกัน หลายแห่งเขาก็ยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเกิดแน่ แต่พอเอาไปแบ่งปันกลับโดยตอกว่าของศาสนา...ก็มี ไบเบิลไม่เห็นมีอะไร ::) เฮ้อ ความจริงกลายเป็นข้ออ้างเสียนี่

Joshua, The Lamb เขียน: ใช้คำว่า "พระ" ยังดูกำกวมไปหน่อยนะ

ให้เข้ใจละกันว่าเป็น วิญญาณ ที่ทำหน้าที่เป็นGuardian

กำกวมยิ่งกว่าเดิม

พึ่งนึกคำเปรียบเทียบได้

พระเสื้อเมือง จะเหมือน อารักเทวดาประจำเมืองหลวง/เมืองสำคัญ

แต่ไม่ใช่วิญญาณจากสวรรค์ ::)

claustrophobia เขียน: ในที่พระคัมภีร์บอกไว้ว่า
มก13:24-27; ลก. 21:25-28
แต่พอสิ้นความทุกข์ลำบากแห่งวันเหล่านั้นเเล้ว ดวงอาทิตย์ จะมืดไป
และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง ดวงดาวทั้งปวงจะตกจากฟ้า และบรรดาสิ่งที่มีอำนาจ
ในท้องฟ้า จะสะเทือนสะท้าน เมื่อนั้นนิมิตแห่งบุตรมนุษย์ จะปรากฎขึ้นในท้องฟ้า
มนุษย์ทุกชาติทั่วโลก จะตีอกร้องไห้ เเล้วจะเห็นบุตรมนุษย์ เสด็จมาบนเมฆในท้องฟ้า
ทรงฤทธานุภาพและพระสิริเป็นอันมาก พระองค์ทรงใช้ทูตสวรรค์ของพระองค์ มาด้วย
เสียงแตรอันดังยิ่งนัก ให้รวบรวมคนทั้งปวงที่พระองค์เลือกสรรไว้เเล้ว ทั้งสี่ทิศนั้น
ตั้งเเต่ที่สุดฟ้าข้างนี้จนถึงที่สุดฟ้าข้างโน้น

ความหมายของ วันสิ้นสุดโลก ไม่เกี่ยวกะด้านบนซะเท่าไรแต่แนวเดียวกัน
เมื่อพรเยซูเสด็จกลับมาในโลกอีก วันสุดท้ายของโลกนี้จะมาถึง ทุกคนจะยืนอยู่ต่อหน้าพระเยซู ทั้งผู้ที่ตายแล้วและมีชีวิตอยู่ ทุกคนจะถูกพิพากษาตามการกระทำ เช่น ผู้ที่ไม่เชื่อ ผู้ที่ชอบทำชั่ว ผู้ที่ฆ่าเพื่อนมนุษย์ ผู้ที่กระทำอันน่าเกลียดน่าชัง ผู้ที่กราบไหว้สิ่งต่างๆแทนที่จะนมัสการพระเจ้าของเมืองสวรรค์ คนโกหก อื่นๆ คนเหล่านี้จะถูกโยนลงไปในนรกวึ่งเป็นบึงไฟครับ

ความหมายก็เป็นเช่นนี้แหละ