Belong to the Truth Jesus Christ

คือได้อ่านข่าวน่ะค่ะ เเล้วเเอบสะดุดเล็กน้อย
เกี่ยวกับ คาเเรคเตอร์ของดัมเบิลดอร์ ในเเฮรี่ พอตเตอร์
เพราะว่า ในที่สุด เจ เคย์ ก็ออกมายอมรับเเล้ว
ว่าเธอได้เขียนคาเเรคเตอร์ของ ดัมเบิลดอร์ ให้เป็นเกย์
คือ ไม่ใช่อะไรนะคะ เเต่ตัวละครตัวนี้ ข้าพเจ้าเอง ปลื้มม๊ากเป็นที่สุด ในเรื่อง
เเล้วก็ดูเเม๊น เเมน เเล้วก็อายุซะปูนนี้เเล้ว มันก็เลยดูเเปลกๆๆ เท่านั้นเอง ไม่เป็นไรๆ

เเต่นั่นไม่ใช่ประเด็นค่ะ
ที่สะดุดจริงๆคือตรงนี้ต่างหาก

Not everyone likes her work, Rowling said, likely referring to Christian groups that have alleged the books promote witchcraft. Her news about Dumbledore, she said, will give them one more reason.

มันดูเหมือนกับว่า พวกคริสเตียนบางคนเป็นตัวประหลาด ที่ไม่เห็นด้วยกับกระเเสรักร่วมเพศยังไงๆ

http://www.foxnews.com/story/0,2933,303760,00.html

ป.ล. สมัยโป๊ปยอห์น ปอล ท่านก็ว่า เเฮรี่ พอตเตอร์เป็นหนังสือที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร..ซึ่งมันก็จริง (เเต่ตอนนั้นกับตอนนี้มันค่อนข้างต่างกัน...มาก)

ดัมเบิลดอร์ เป็นเกย์ 
อายุปูนนี้แล้ว 

มิน่า....

she บอกว่า christian groups อาจจะหมายถึง กลุ่มคริสตชนบางกลุ่มก็ได้

ซึ่งก็มีพวกสุดโต่งอยู่จริงๆ

+Ecclesia+ เขียน: Not everyone likes her work, Rowling said, likely referring to Christian groups that have alleged the books promote witchcraft. Her news about Dumbledore, she said, will give them one more reason.

http://www.foxnews.com/story/0,2933,303760,00.html

เอ Rowling ก็เหน็บแนมเก่งนิ

melis เขียน: ดัมเบิลดอร์ เป็นเกย์ 
อายุปูนนี้แล้ว 

ทำไม แปลกอะไร อาจจะเป็นมาตั้งแต่เด็ก แต่ แต๋วหลุดตอนแก่งัย

// ได้ฟังทั้งผู้ใหญ่และกำนัน เล่าให้ฟังว่า หลายๆคนที่แต่งงานแล้ว (ผู้ชายงับ) ตอนแรกควบคุมเพศให้เป็นไปตาม sex มีเมีย มีลูก สร้างฐานะทางสังคม ได้ดีแล้ว ................ต่อมาแต๋วหลุด เกย์โผล่ ดันเลิก /แยกกะเมีย ไปอยู่กะผู้ชายก็ถมไป อิอิ

Jeab Agape เขียน:

melis เขียน: ดัมเบิลดอร์ เป็นเกย์ 
อายุปูนนี้แล้ว 

ทำไม แปลกอะไร อาจจะเป็นมาตั้งแต่เด็ก แต่ แต๋วหลุดตอนแก่งัย

// ได้ฟังทั้งผู้ใหญ่และกำนัน เล่าให้ฟังว่า หลายๆคนที่แต่งงานแล้ว (ผู้ชายงับ) ตอนแรกควบคุมเพศให้เป็นไปตาม sex มีเมีย มีลูก สร้างฐานะทางสังคม ได้ดีแล้ว ................ต่อมาแต๋วหลุด เกย์โผล่ ดันเลิก /แยกกะเมีย ไปอยู่กะผู้ชายก็ถมไป อิอิ

ได้แต่ภาวนา ขออย่าให้เกิดกับตัวลูกเลยนะคะ อาแมน 

A little bit disappointed... 
I think... ... ...
It used to be my favorite fiction.
I think... ... ...

Jeab Agape เขียน:

melis เขียน: ดัมเบิลดอร์ เป็นเกย์ 
อายุปูนนี้แล้ว 

ทำไม แปลกอะไร อาจจะเป็นมาตั้งแต่เด็ก แต่ แต๋วหลุดตอนแก่งัย

// ได้ฟังทั้งผู้ใหญ่และกำนัน เล่าให้ฟังว่า หลายๆคนที่แต่งงานแล้ว (ผู้ชายงับ) ตอนแรกควบคุมเพศให้เป็นไปตาม sex มีเมีย มีลูก สร้างฐานะทางสังคม ได้ดีแล้ว ................ต่อมาแต๋วหลุด เกย์โผล่ ดันเลิก /แยกกะเมีย ไปอยู่กะผู้ชายก็ถมไป อิอิ

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของหญิงยุคปัจจุบันสินะ

ว่าแล้ว...ชอบสัมผัสตัวแฮร์รี่

ในอเมริกากลุ่มคริสเตียนเขาเยอะ และมีหลายกลุ่มที่ค่อนข้างจะเคร่งมาก และค่อนข้างจะแรงครับ ผมเคยอ่านเจอหนังสือ ที่ศิษยาภิบาลทางโน้นสอนว่า แม้แต่การเล่นเกมส์ที่ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นตัวละคร เกมส์ RPG ใดๆ ที่สามารถสวมบทบาทเป็นตัวละครที่ใช้เวทย์มนต์ได้ ก็ห้ามเล่น และถือว่าบาปครับ

Holy เขียน: ในอเมริกากลุ่มคริสเตียนเขาเยอะ และมีหลายกลุ่มที่ค่อนข้างจะเคร่งมาก และค่อนข้างจะแรงครับ ผมเคยอ่านเจอหนังสือ ที่ศิษยาภิบาลทางโน้นสอนว่า แม้แต่การเล่นเกมส์ที่ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นตัวละคร เกมส์ RPG ใดๆ ที่สามารถสวมบทบาทเป็นตัวละครที่ใช้เวทย์มนต์ได้ ก็ห้ามเล่น และถือว่าบาปครับ

แต่ J.K. เป็นคนอังกฤษนี่ฮะ
(ใช่ป่ะ แต่คิดว่าใช่นะ)

อ้าว ซะงั้น

necromancer เขียน:

Holy เขียน: ในอเมริกากลุ่มคริสเตียนเขาเยอะ และมีหลายกลุ่มที่ค่อนข้างจะเคร่งมาก และค่อนข้างจะแรงครับ ผมเคยอ่านเจอหนังสือ ที่ศิษยาภิบาลทางโน้นสอนว่า แม้แต่การเล่นเกมส์ที่ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นตัวละคร เกมส์ RPG ใดๆ ที่สามารถสวมบทบาทเป็นตัวละครที่ใช้เวทย์มนต์ได้ ก็ห้ามเล่น และถือว่าบาปครับ

แต่ J.K. เป็นคนอังกฤษนี่ฮะ
(ใช่ป่ะ แต่คิดว่าใช่นะ)

หนังสือเขาขายทั่วโลกนะครับ

ผมฟังข่าวมาเขาบอกว่า
ตอนหนุ่มๆ ดัมเบิ้ลฯ เนี่ย
เคยตกหลุมรักพ่อมดหนุ่มคนหนึ่ง
แต่ตอนหลังพ่อมดที่ดัมเบิ้ลฯ หลงรัก
ดันไปเรียนเวทย์มนต์ดำ
ก็เลยทำให้ดัมเบิ้ลฯกับเขา กลายเป็นศัตรูกัน อิอิ
อันนี่ฟังจากช่อง 3 มานะ นักข่าวบอกว่า JK บอก

เหอๆ ไปกันใหญ่ละ..เริ่มรับไม่ด๊ายยยยยยยยยค่ะ

รับไม่ได้อ้า

โลกมันเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย เลิกสนใจพระเจ้าหันมาสนใจเทพนิยาย ไหนจะเรื่องรองรังนางสาวกับ......(คงรู้นะผมขอไม่พูด)


มันเป็นอะไรแล้วเนี่ย




แต่ก็จะอ่าน(อ้าว)  ถึงว่ามาบอกตอนเล่มสุดท้าย

necromancer เขียน: มิน่า....

มิน่า อาะไรอ่ะ บอกต่อหน่อยจิ อยากรู้


ว่าแต่มาบอกทำไมตอนนี้อ่ะ

เรื่องก็จบไปแล้วนี่หว่า เล่ม 7 ก็ขายไปแล้วนี่อาวสาน ก็ อวสาน แล้ว อ่ะ มาบอกอย่างนี้เพื่ออะไร

จะทำตอนใหม่ ชื่อ แฮรี่ พอตเตอร์ กับ ดับเบิลดอร์ ในห้องแห่งความลับ  รึยังไง

จริงๆ เรื่องนี้เมื่อประกาศแบบนี้ น่าจะถอดออกจาก วรรณกรรมเยาวชน นะครับ

ไม่รู้คนอื่นคิดยังไงนะครับ

Matthew เขียน:

necromancer เขียน: มิน่า....

มิน่า อาะไรอ่ะ บอกต่อหน่อยจิ อยากรู้


ว่าแต่มาบอกทำไมตอนนี้อ่ะ

เรื่องก็จบไปแล้วนี่หว่า เล่ม 7 ก็ขายไปแล้วนี่อาวสาน ก็ อวสาน แล้ว อ่ะ มาบอกอย่างนี้เพื่ออะไร

จะทำตอนใหม่ ชื่อ แฮรี่ พอตเตอร์ กับ ดับเบิลดอร์ ในห้องแห่งความลับ  รึยังไง

จริงๆ เรื่องนี้เมื่อประกาศแบบนี้ น่าจะถอดออกจาก วรรณกรรมเยาวชน นะครับ

ไม่รู้คนอื่นคิดยังไงนะครับ

จริงค่ะๆ เหอะๆ
เพราะส่วนตัวข้าพเจ้าเองคิดว่าดัมเบิลดอร์ เป็นคนดี๊ดี (ซึ่งก็ดีจริงๆ)
เเต่ว่า ถ้าเด็กรุ่นใหม่ๆ ไม่รู้เรื่องอะไรมาอ่าน ก็อาจจะคิดไปประมาณว่า ขนาดคนชอบธรรมอย่างดัมเบิลดอร์ ยังเป็นเช่นนี้เลย
งั๊น ถ้าฉันเป็นบ้าง...........

ขันที!

Matthew เขียน: จะทำตอนใหม่ ชื่อ แฮรี่ พอตเตอร์ กับ ดับเบิลดอร์ ในห้องแห่งความลับ  รึยังไง

Batholomew เขียน:

Matthew เขียน: จะทำตอนใหม่ ชื่อ แฮรี่ พอตเตอร์ กับ ดับเบิลดอร์ ในห้องแห่งความลับ  รึยังไง

สงสัยจะถูกด่าแน่ๆ ถ้าสร้างออกมานะ

Batholomew เขียน:

Matthew เขียน: จะทำตอนใหม่ ชื่อ แฮรี่ พอตเตอร์ กับ ดับเบิลดอร์ ในห้องแห่งความลับ  รึยังไง

ไม่อยากจะนึกภาพหน้าปกหนังสือ

เจ.เค. โวย "ดัมเบิลดอร์เป็นเกย์" มันเรื่องของฉัน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 ตุลาคม 2550 08:17 น.

หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เธอได้สร้างความแตกตื่นไปทั่วโลกวรรณกรรมในการเปิดเผยว่า "อัลบัส ดัมเบิลดอร์" ตัวละครชื่อดังในผลงานนิยายสนั่นโลก "แฮร์รี่ พอตเตอร์" เป็นเกย์ เธอก็ออกมาโต้กับบรรดาผู้ที่มาวิพากษ์วิจารณ์เธอถึงการออกมาสร้างกระแสดังกล่าวว่า พฤติกรรมทุกอย่างของตัวละครที่เธอสร้างขึ้นมาเองย่อมเป็นสิทธิ์ของเธอ และเธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเวทมนต์ฮอกวอตส์รายนี้เป็นชาวสีม่วงมาตั้งนานแล้ว!
     
      "มันไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับฉันเลยที่ชายที่ทั้งเฉลียวฉลาดและกล้าหาญและรักผู้ชายด้วยกัน" เจ.เค. โรว์ลิง แถลงต่อสื่อในการไปร่วมงานเทศกาลนักเขียนที่โตรอนโต ประเทศแคนาดา
     
      เธอกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่แล้วในการพบปะกับนักอ่านที่นิวยอร์กว่า อัลบัส ดัมเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเวทมนต์ฮอกวอตส์ เป็นชายรักชาย โดนหวานใจวัยหนุ่มของเขาได้แก่ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ พ่อมดหนุ่มสุดหล่อที่มีสติปัญญาใกล้เคียงกับเขาและกำลังวางแผนที่สร้างการเปลี่ยนแปลงโลกของเวทมนตร์ด้วยความสามารถของพวกเขา แต่ความสัมพันธ์ก็ต้องแตกหักเมื่อ กรินเดลวัลด์หันไปฝักใฝ่ศาสตร์มืด จนทำให้ดัมเบิลดอร์ต้องกำจัดเขาแทน
     
      ทันทีที่ข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป ก็ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย โดยเฉพาะในเว็บไซต์ The Leaky Cauldron ที่มีผู้มาลงความเห็นถึงประเด็นดังกล่าวกว่า 3,000 ความเห็น ที่แม้ว่าส่วนใหญ่จะเห็นชอบกับแนวคิดดังกล่าว แต่ก็มีไม่น้อยที่แปลกใจกับการออกมาให้ข่าวของนักเขียนแม่ลูก 3 ผู้นี้
     
      ปีเตอร์ แท็ตเชล จากกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิชาวเกย์เปิดเผยว่าเขายินดีกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
     
      "มันเป็นเรื่องดีที่วรรณกรรมเยาวชนได้สร้างตัวละครที่เป็นชาวรักร่วมเพศ เพราะทุกวันนี้พวกเรามีตัวตนอยู่ในสังคมทุกระดับชั้น"
     
      "แต่กระนั้นผมก็รู้สึกผิดหวังที่เธอไม่ยอมเปิดเผยมันในหนังสือ การทำมันอย่างแจ่มแจ้งจะเป็นการสร้างความเข้าใจและการยอมรับที่มีพลังยิ่งกว่า"
     
      เมลลิซา อเนลลี เว็บมาสเตอร์ของ The Leaky Cauldron กล่าวต่อทางสำนักข่าวเอพีว่า
     
      "โจ คิดว่าการทำให้ตัวละครซักตัวในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่แสนโด่งดังของเธอเป็นเกย์ จะเป็นการลดทัศนคติแย่ๆ ที่มีต่อชาวรักร่วมเพศเป็นอย่างดี ด้วยการสร้างให้ตัวละครที่ทั้งเป็นที่ยกย่อง, ฉลาด และสุภาพ แล้วก็เป็นชาวรักร่วมเพศด้วย เธอได้กระตุ้นแนวคิดที่ว่าความเป็นเกย์ของใครซักคนไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องอับอาย"
     
      ซึ่งตัว เจ.เค. เองไม่คิดว่าการออกมาเปิดโปงความลับเรื่องรสนิยมทางเพศของศาสตราจารย์แห่งฮอกวอตส์ครั้งนี้จะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ต่อต้านเกย์
     
      "เขาเป็นตัวละครที่ฉันสร้างขึ้นมา เขาเป็นอย่างที่เขาเป็น และฉันก็มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ที่จะพูดอะไรก็ได้เกี่ยวกับตัวเขา" เจ.เค. กล่าวต่อรอยเตอร์ โดยย้ำว่าที่เธอไม่เคยออกมาพูดถึงมันก่อนหน้านี้ เพราะว่าไม่มีใครมาถามกับเธอตรงๆ นั่นเอง
     
      "ส่วนใหญ่ที่คนจะถามฉันก็คือเรื่องเนื้อหาตอนต่อไปของหนังสือ ฉันถึงเก็บมันเอาไว้ แล้วตั้งหน้าตั้งตากับพล็อตของฉันต่อไป ฉันไม่อยากจะเผยอะไรมากมายก่อนเวลาที่สมควร"
     
      หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับงานเขียนชิ้นนี้แล้ว เจ.เค. เผยว่าเธอรู้สึกอิ่มตัว โดยเฉพาะไม่สนใจที่จะไปขุดคุ้ยข้อมูลเพื่อมาสร้างงานเขียนประเภทต้นกำเนิดของเรื่องราวแห่งเวทมนตร์นี้อีก แต่เธอก็ไม่ยืนยันว่าจะเลิกคิดถึงมันซะทีเดียว
     
      "ถ้าจะทำ prequel มันไม่เหมือน Star Wars Episode I ไปหน่อยเหรอ แต่ฉันจะไม่มีทางใช้คำว่า "ไม่" หรอกน่ะ เพราะทุกครั้งที่ฉันใช้คำนี้มันเหมือนยิ่งห้ามยิ่งยุ สุดท้ายฉันจะอยากทำทุกอย่างที่ฉันบอกว่าไม่ซะทุกครั้งเลย"
     
      ส่วนแฟนหนังสือที่ยังโหยหากับการผจญภัยในโลกแห่งเวทมนตร์ชิ้นนี้ เตรียมพบกับผลงานชิ้นต่อไปของเธอได้ในสารานุกรรมเกี่ยวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เธอออกมาดักคอพวกที่ชอบว่าเธอเป็นพวกหากินกับความสำเร็จเก่าๆ ว่าผลงานชิ้นนี้เธอจะมอบเข้าการกุศล แต่กระนั้นเหล่าแฟนๆ คงต้องรอกันนานหน่อย เพราะกว่าเธอจะกลับมาจับปากกาอีกครั้งก็หลังจากการวางมือระยะยาวครั้งนี้ของเธอ
     
      "มันเหมือนการแยกกันอยู่ของคู่แต่งงานน่ะรู้ไหม มันเป็นความคิดที่ดีที่จะไม่ต้องเห็นหน้ากันซักพัก และหลังจากนั้นคุณก็จะได้กลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในที่สุด"


http://www.manager.co.th/Entertainment/ ... 0000127026

ข้อสงสัยมานานได้กระจ่างแล้ว

ข่าวลือที่มักกอนากัลกิ๊กกับดัมเบิลดอร์ก็ไม่เป็นจริง><

ชิ...มันก็เรื่องของฉันที่จะเเบนเหมือนกัน เหอๆๆ

เป็นวงจรธรรมชาติ(อุบาทว์)ของมนุษย์

เริ่มต้นอ่อนแอ พึ่งตัวเองไม่ได้ สวดอ้อนวอนให้พระเจ้าช่วย

แล้ว

พระเจ้าช่วย ประสบความสำเร็จ เกิดความมั่นใจในตนเอง

แล้ว

ความมั่นใจในตนเอง ก่อให้เกิดความหยิ่งจองหอง คิดว่าตัวเองแน่ ไม่ต้องพึ่งพระเจ้าก็ได้ หันหลังให้พระเจ้า ไม่ใส่ใจพระเจ้า

แล้ว

พระเจ้าปล่อยเลยตามเลย เพื่อให้เราสามารถเรียนรู้ถึงตัวเราเอง

แล้ว

ประสบความล้มเหลวอีก เกิดความรู้สึกอ่อนแอ พึ่งตัวเองไม่ได้ สวดอ้อนวอนให้พระเจ้าช่วย

----

เพียงแต่เห็นพฤติกรรมอย่างเดียวกัน กับศิลปินชื่อดังทั้งหลาย ที่ตอนแรกสร้างสรรค์ผลงาน ย่อมคิดถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก ทำอะไรคิดถึงจิตใจลูกค้า

แต่เมื่อประสบความสำเร็จ ความสำคัญของลูกค้าย่อมลดลง และความสำคัญของตัวเองย่อมมากขึ้น กลายเป็น จะสร้างสรรค์ผลงานโดยไม่คิดถึงจิตใจลูกค้า

"ไม่เห็นหัวใคร ข้าเป็นใหญ่ผู้เดียว"

วันหนึ่งลูกค้าเกิดความเบื่อหน่ายถอนตัวหมดสิ้น ก็จะกลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง

----

ไม่ได้ตั้งใจจะเปรียบเทียบพระเจ้ากับ"กลุ่มลูกค้า" ไม่ได้กล่าวว่าการตัดสินใจเขียนเช่นนั้นของนักเขียนท่านนี้ดีหรือไม่ดี เพียงแต่สะดุดใจตรงที่อ่านมาถึงที่ว่า

"เขาเป็นตัวละครที่ฉันสร้างขึ้นมา เขาเป็นอย่างที่เขาเป็น ฉันก็มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ที่จะพูดอะไรก็ได้เกี่ยวกับตัวเขา"

เพียงจะกล่าวถึงความอ่อนแอของคน ที่ก่อให้เกิดวงจรอุบาทว์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวงจรอุบาทว์ที่เราทำกับพระเจ้า หรือกับคนอื่นๆรอบตัวเรา ต่างก็เป็นวงจรที่คล้ายๆกัน เพราะมันเป็นธรรมชาติของเรา (ผมเองก็เป็นบ่อย และไม่เคยเรียนรู้ได้เสียที แม้จะพิมพ์อยู่ขณะนี้ ก็อดจองหองลำพองไม่ได้)

สักวัน ทุกคนคงเรียนรู้ที่จะหาทางทำลายวงจรอุบาทว์ของตนเองได้เสียที...

+Ecclesia+ เขียน: ชิ...มันก็เรื่องของฉันที่จะเเบนเหมือนกัน เหอๆๆ

ถึงว่าJKประกาศตอนที่เล่ม7ขายไปแล้ว (แน่นอนหลายคนอ่านจบแล้ว><) แบนทันมั้ยเนี่ย

เอ่อ เราจะโดนยำมั้ยเนี่ย จะบอกว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย ง่ะ
ป๋าดัมเป็นเกย์ = เป็นคนไม่ดีหรอครับ
หรือว่า แก่แล้ว = ห้ามเป็นเกย์ หรือครับ

ตามความคิดของเรา วรรณกรรมเยาวชน ไม่ควรมีเรื่องที่เด็กไม่สมควรได้รู้ ไม่ควรมีเหตุการณ์เกิดกว่าเด็กจะรับได้
แต่เรื่องเป็นเกย์ มันคนละเรื่องกันนะครับ กับตัวละคนตัวหนึ่ง ที่จะเป็นมนุษย์หมาป่า เป็นคนใจร้อนมุทะลุ เป็นพวกชอบแบ่งชนชั้น นี่เลือดบริสุทธิ์นั่นเลือดสีโคลน นี่พ่อมดแม่มดนี่มักเกิ้ลโสโครก นี่คริสตชนหรือนั่นพวกไร้พระเจ้า เป็นคนมีลูกเยอะ เป็นคนโลภในอำนาจ หรือแม้แต่ เป็นเกย์!!!

การเป็นกย์คือ เกิดมาเพื่อเป็น ไม่ได้ ต้องการเป็นเพื่อปฏิเสธพระเจ้า นี่นา แม้แต่พระสันตปาปาจอห์นปอล ท่านยังใจกว้างกว่าเลยนะครับ และที่พึ่งมาบอกหลังเล่มเจ็ด เนื่องจาก มันเป็นความลับในเนื้อเรื่อง ที่จะมาบอกเราเล่ม 7 ครับ เนื่องจากตอนหนุ่มๆ ป๋าดัมเคยพบรักกับพ่อมดหนึ่งผู้หนึ่ง ป๋าดัมเคยผิดพลาดเ เหลวแหลกเพราะผู้ชายคนนั้นไม่ดี แล้วป๋าดัมก็ดันพาลไปกับเขาด้วย จนเมื่อคิดได้ เลยเป็นศรัตรูกัน และมุ่งหาทางสว่าง จนเป็นพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ในที่สุด ในหนังสือเรื่องนี้ เป็นประเภทไมไ่ด้บอกรายละเอียดต่างๆแต่ไม่ใช่ไม่มี นอกจากเรื่องป๋าดัมเป็นเกย์ เราจะเห็นว่า จนจบแล้ว เรายังไม่รู้เลยว่าห้องพักบ้านฮัลเฟิลพัฟ เป็นไง (เป็นห้องสีโทนอุ่นๆ มีทางเข้าหอนอนแบบรูอุโมงค์ครับ)และอีกหลายๆอย่างที่ไม่ได้บอกในหนังสือ แต่มีในเนื้อเรื่อง คือพวกที่ไม่ได้สำคัญต่อเนื้อเรื่องแต่ก็มีอยู่ ประเภทนี้ครับ

ไม่อยากให้มองว่า ตัวละครเกย์ เป็นของต้องห้ามนะ น่าสงสารออก แต่อีกอย่างที่น่าสงสารคือสังคม พอรู้ว่าเป็นเกย์ ก็กลายเป็นว่าสังคมมองว่า เกย์ = สกปรก โสโครก และ ลามกต่ำช้า
ทำไมมองงั้นหล่ะ ทำไมต้องมองว่าป๋าดัมมีความรักแบบอีรอสกับแฮร์รี่ กับเจมส์ หรือกับคนที่รู้ว่าใครก็ด้วย ป๋าดัมทำหน้าที่ของครูมากกว่าเรื่องพวกนี้เยอะ อย่ามองในแง่ร้ายเลยนะครับ เราเป็นคริสตชนต้องไม่ใช่พวกชอบสาปแช่ง แต่เป็นพวกที่อยู่ในพระคริสต์นะครับ ตั้งแต่ตอนดูจากข่าวแล้วที่เจเคว่าต้องโดนพวกคริสต์หัวรุ่นแรงต่อว่าแน่นอน นี่ก็ทำให้เห็นแล้วว่า ในสายตาคนอื่น มองคนในกายพระคริสต์แบบไหน

ผู้รับได้ย่อมรับได้
ผู้รับไม่ได้ย่อมรับไม่ได้

การบีบบังคับให้ผู้รับไม่ได้ให้ยอมรับได้โดยผู้ยอมรับได้ ย่อมไม่แตกต่างจากการบีบบังคับให้ผู้รับได้ยอมรับไม่ได้โดยผู้ยอมรับไม่ได้