หน้า 1 จากทั้งหมด 1
อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 23, 2007 5:59 am
โดย Holy
อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน
การเป็นอาสาสมัครในทัศนะของชาวคริสต์ มี 2 บทบาทที่สำคัญ
บทบาทแรก เป็นการเดินตามพระเยซู - ชาวนาซาเร็ธในฐานะศิษย์ที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนคริสตชน บทบาทที่สอง ในฐานะพลเมืองผู้ทำงานร่วมกันกับผู้อื่นเพื่อสร้างสรรค์สังคม และเพื่อความดีส่วนรวมของทุกคน
แนวคิดของการเป็นอาสาสมัครมิใช่เรื่องการเป็น ' ฮีโร่ ' การอุทิศตนเป็นอาสาสมัคร เป็นผลสืบเนื่องมาจากแรงจูงใจคริสตชน และปรากฏเป็นภาคปฏิบัติของการทำงานในฐานะที่เป็นพลเมือง ซึ่งผูกเรื่อง 2 เรื่อง เข้าด้วยกัน คือความรับผิดชอบและการเสียสละอุทิศตนเพื่อความยุติธรรม
มีหลักเกณฑ์พื้นฐาน 2 ประการ ที่กล่าวว่า งานอาสาสมัครเป็นหน้าที่ของคริสตชน
หลักเกณฑ์ที่ 1 จุดยืนพระคัมภีร์ต่อเรื่องความห่วงใยในคนยากจน
เอกลักษณ์ของพระเจ้าในพระคัมภีร์ เป็นพระเจ้าผู้ดำรงอยู่ในความสัมพันธ์กับสรรพสิ่ง กับมนุษย์ โดยมีความรักเป็นหลักยึดเอก ไม่ใช่การครอบครองหรือการกีดกัน เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับชาวอิสราเอลในแคว้นไซนาย สะท้อนถึงการสอนให้มนุษย์ปฏิบัติความรักในความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผู้ที่อ่อนแอ หญิงม่ายและเด็กกำพร้า (อพย.22 : 21) เป็นการปฏิบัติความรักที่เต็มไปด้วยความกรุณาปรานีและความเมตตา
หลักเกณฑ์ที่ 2 การเป็นศิษย์ติดตามพระเยซู
เช่นเดียวกัน ในการเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูของมนุษย์นั้น อาณัติเอกที่พระเจ้าทรงมอบ คือ จงรักกันและกันเหมือนเรารักท่าน (ยน.13 : 34-35) และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเองจากตัวอย่างของชาวสะมาเรียผู้ใจดี (ลก.10 : 25 - 37) ซึ่ง 'เพื่อนบ้าน' มิใช่คนที่อยู่รอบข้างเท่านั้น แต่ขยายไปถึงคนที่สังคมไม่ยอมรับคนที่เป็น 'ศัตรู' จากความขัดแย้งทางการเมือง และจากบทสอนเรื่องการปฏิบัติกับผู้อื่นในบุญลาภแปดประการ
ผู้มีใจยากจนย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา, ผู้เป็นทุกข์โศกเศร้าย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับการปลอบโยน, ผู้มีใจอ่อนโยนย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับแผ่นดินเป็นมรดก, ผู้หิวกระหายความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะอิ่ม, ผู้มีใจเมตตา ย่อมเป็นสุข เพราะเขาได้รับพระเมตตา, ผู้มีใจบริสุทธิ์ ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า, ผู้สร้างสันติย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า, ผู้ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา (มธ. 5 : 3 -10)
ทั้งนี้ บทสอนแปดประการดังกล่าว ได้ทำให้การเอาใจใส่ผู้อื่นเป็นหัวใจของผู้ดำเนินชีวิตอาสาสมัครด้วยเช่นกัน และในการยืนยันความเชื่อของวิถีคริสตชนที่แท้จริงนั้น ก็ไม่มีสิ่งใดที่สำคัญเท่ากับบทพิสูจน์การปฏิบัติความรักและความเมตตาแก่ผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่ต่ำต้อย ผู้ที่เดือดร้อน ดังบทพิพากษาสุดท้ายที่เตือนทุกคนไว้เสมอว่า
"ถ้าท่านมิได้กระทำแก่ผู้ต่ำต้อยที่สุดสักคนหนึ่ง ท่านก็มิได้กระทำแก่เราด้วย ถ้าท่านกระทำแก่คนใดคนหนึ่งในบรรดาพี่น้องของเรา ท่านก็กระทำแก่เราด้วย" (มธ.25)
พระเยซูเจ้าทรงส่งสานุศิษย์ของพระองค์ไปทำงาน 'อาสาสมัคร' ตลอดระยะเวลา ไม่ว่าจะเป็นการไปรักษาคนเจ็บป่วย ช่วยให้คนที่ถูกผีสิงได้หาย คนป่วยโรคเรื้อนได้หายสะอาด และยังสอนต่อไปอีกว่า จงให้เปล่าๆ ในสิ่งที่ท่านได้รับมาเปล่าๆ (มธ.10, 8) ดังนี้ในงานประกาศข่าวดีใดๆ หรืองานอาสาสมัคร (หากเรียกขานในปัจจุบัน) จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องให้และทุ่มเท อย่างไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ทำงานอย่างไม่หวังผลตอบแทนใดๆ
Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 23, 2007 6:02 am
โดย Holy
โดยความเป็นจริง ธรรมชาติการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์ มีความแท้จริงอยู่ 2 เรื่อง คือ
ความต้องการเพราะความขาดแคลนขัดสน
และการสมควรที่จะได้รับ
งานอาสาสมัครเป็นงานเชื่อมสองความจริงเข้าด้วยกันสำหรับโลกของผู้ทุกข์ยากลำบาก งานอาสาสมัครเป็นงานที่ผู้เป็นอาสาสมัครปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับผู้ถูกกีดกันจากสังคม ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่างๆ ทั้งจากการกระทำของธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์ ซึ่งในการอุทิศตนทำงานเพื่อผู้อื่น ตัวอาสาสมัครเองก็ได้ค้นพบความเมตตารัก อันเป็นแรงดลใจสำคัญที่ขับเคลื่อนออกมาสู่การปฏิบัติ
ซึ่งความเมตตารักมิใช่แค่ความรู้สึกสงสาร เวทนา แต่เป็นการเข้าถึงความจริงที่มาจาก 'หัวใจ' มิได้มาจาก 'หัวสมอง'
งานอาสาสมัคร เป็นงานที่หัวใจเราได้เปิดกว้างให้ความเมตตารักปรากฏออกมาในทางปฏิบัติ พร้อมที่จะเรียนรู้เข้าใจ และตระหนักต่อการให้คุณค่าในการดำเนินชีวิต รวมทั้งยินดีที่จะปล่อยให้ตนเองประสบ / เผชิญกับความเป็นจริงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวด ความขัดแย้ง หรือแม้แต่ความก้าวร้าวจากผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง อาสาสมัครยังเป็นผู้บอกกล่าวสังคม ถึงเรื่องราวที่ถูกปิดบังของเหรียญสองด้าน ด้านหนึ่งคือความทุกข์ยาก สงคราม และการต่อสู้ อันเป็นต้นเหตุแห่งการทำลายศักดิ์ศรีของมนุษย์ อีกด้านหนึ่งคือความหวังที่มนุษย์ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพที่เลวร้ายอย่างไร แต่ละคนย่อมมีความหวัง ซึ่งการจะค้นพบความชัดเจนของเหรียญสองด้านที่มีสภาวะแตกต่างกันเช่นนี้ จำเป็นต้องให้ความเมตตารัก ทะลวงกำแพงแห่งวัฒนธรรมเห็นแก่ตัวในยุควัตถุนิยมนี้ ที่หลงติดอยู่ในตัวอาสาสมัครออกก่อน อาสาสมัครจึงสามารถเปิดตนเองค้นพบความเป็นจริงในผู้อื่นที่เขาอุทิศชีวิตทำงานอยู่ด้วย บ่อยครั้งที่อาสาสมัคร คนตัวเล็กหัวใจโตนี้ ได้ค้นพบความกรุณา โอบอ้อมอารี และอิสรภาพ อันเป็นผลมาจากการที่มนุษย์มีความสัมพันธ์แบบมนุษย์ด้วยกัน
ในภาวะที่สังคมตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของความสะดวกสบายครอบงำอย่างยากจะเบียดตัวหนีออกได้นี้ งานอาสาสมัครถือเป็นทุนทางสังคมที่สวนกระแสทุนทางวัตถุ ในสถานการณ์ที่สังคมมนุษย์ได้รับภัยจากการกระทำของธรรมชาติ หรือจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่ปรากฏรูปเป็นสงครามเช่นปัจจุบันนี้ งานอาสาสมัครเป็นโครงข่ายที่เกี่ยวพันร้อยรัดกันด้วยหัวใจของคนต่างชาติ ต่างผิวพรรณ ต่างฐานะ ต่างภาษา วัฒนธรรม และต่างศาสนา ซึ่งพร้อมจะทำงานเพื่อคนทุกข์ยาก คนที่ตกอยู่ภาวะลำบาก จึงถือเป็นกลุ่มแนวร่วมที่ทำให้เจตนารมณ์ของพระศาสนจักร ที่มุ่งเน้นการทำงานเพื่อผู้ยากไร้ ด้วยความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อยกเว้น เป็นรูปธรรมและไม่มีพรมแดน
อัจฉรา สมแสงสรวง ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องด้านสังคม
http://www.jpthai.org/content/view/138/63/
Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 23, 2007 7:54 pm
โดย Jeab Agape
อาจารย์ อัจฉรา มาช่วยสอน การทำงานกับชุมชน ให้พวกเราด้วยครับ ( ตอนนี้ท่านไปโรม ) :cheesy:
Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 24, 2007 1:53 am
โดย Buddy
จริงๆงานอาสาสมัครก็เป็น healing ได้นะคะ เคยเห็นเหมือนกันที่เค้าส่งเด็กที่พ่อแม่ตามใจมากๆ มาช่วยงานอาสาสมัคร คือเค้าก็คงไม่เต็มใจทำเท่าไหร่ และก็ไม่ได้มีจิตตารมณ์อะไรมากมาย แต่พอทำไปทำมา เค้าก็เรียนรู้และเปลี่ยนทัศนคติตัวเองได้ อย่างน้อยก็ตามใจตัวเองน้อยลง เห็นใจคนอื่นมากขึ้น
Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 24, 2007 7:20 am
โดย Prod Pran
Buddy เขียน:
จริงๆงานอาสาสมัครก็เป็น healing ได้นะคะ เคยเห็นเหมือนกันที่เค้าส่งเด็กที่พ่อแม่ตามใจมากๆ มาช่วยงานอาสาสมัคร คือเค้าก็คงไม่เต็มใจทำเท่าไหร่ และก็ไม่ได้มีจิตตารมณ์อะไรมากมาย แต่พอทำไปทำมา เค้าก็เรียนรู้และเปลี่ยนทัศนคติตัวเองได้ อย่างน้อยก็ตามใจตัวเองน้อยลง เห็นใจคนอื่นมากขึ้น
จริงๆแล้ว งานอาสาสมัคร เป็นตามที่น้องบัดดี้กล่าวมา และเรื่องอื่นๆ เช่นเป็นการแบ่งปันความรัก เป็นการอุทิศ เป็นการให้เห็นความสำคัญของคนอื่นๆ
ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง และจริงของเขา เป็นการช่วยให้ คน (เด็ก ) มีส่วนในสังคม ไม่ว่ากับบุคคล สัตว์ ต้นไม้ หรือสิ่งของอื่นๆ
จึงเห็นว่ากิจกรรมของมหาวิทยาลัย หรือการศึกษา จึงมีค่ายต่างๆ เช่นค่ายอาสาพัฒนา เป็นต้น
คนไทยยังให้ความสำคัญเรื่องนี้น้อยมาก โดยเฉพาะคนที่มีฐานะ เพราะกลัวว่าเด็กจะลำบาก เด็กจะไปขลุกคลี กับชุมชนไม่ดี เป็นต้น
จึงปล่อยให้ลูกตัวเอง เล่นแต่เกมส์ เดินแต่ห้าง เข้าแต่โรงหนัง จนกลายเป็นเด็กที่มีแต่ตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่ได้เห็นอกเห็นใจคนอื่น
หาแต่ความสุขสบายให้ตัวเอง เท่านั้น :afro:
Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 24, 2007 10:53 am
โดย อันตน
Buddy เขียน:
จริงๆงานอาสาสมัครก็เป็น healing ได้นะคะ เคยเห็นเหมือนกันที่เค้าส่งเด็กที่พ่อแม่ตามใจมากๆ มาช่วยงานอาสาสมัคร คือเค้าก็คงไม่เต็มใจทำเท่าไหร่ และก็ไม่ได้มีจิตตารมณ์อะไรมากมาย แต่พอทำไปทำมา เค้าก็เรียนรู้และเปลี่ยนทัศนคติตัวเองได้ อย่างน้อยก็ตามใจตัวเองน้อยลง เห็นใจคนอื่นมากขึ้น
เด็กหญิงส้ม เธอคัดคำว่า
บำบัด, เยียวยา, ดัดนิสัยมาร้อยคำ ต่อไปใช้แทนคำว่า "หิวลิง" นะ
Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 24, 2007 11:07 pm
โดย Buddy
อันตน เขียน:
Buddy เขียน:
จริงๆงานอาสาสมัครก็เป็น healing ได้นะคะ เคยเห็นเหมือนกันที่เค้าส่งเด็กที่พ่อแม่ตามใจมากๆ มาช่วยงานอาสาสมัคร คือเค้าก็คงไม่เต็มใจทำเท่าไหร่ และก็ไม่ได้มีจิตตารมณ์อะไรมากมาย แต่พอทำไปทำมา เค้าก็เรียนรู้และเปลี่ยนทัศนคติตัวเองได้ อย่างน้อยก็ตามใจตัวเองน้อยลง เห็นใจคนอื่นมากขึ้น
เด็กหญิงส้ม เธอคัดคำว่า
บำบัด, เยียวยา, ดัดนิสัยมาร้อยคำ ต่อไปใช้แทนคำว่า "หิวลิง" นะ

คือไม่รู้จะใช้คำไหนไงคะพี่ มันมีผลทั้งหมดอ่ะพี่ ทั้ง บำบัด, เยียวยา, ดัดนิสัย ก็เลยใช้ "หิวลิง" ไปก่อน
Prod Pran เขียน:
Buddy เขียน:
จริงๆงานอาสาสมัครก็เป็น healing ได้นะคะ เคยเห็นเหมือนกันที่เค้าส่งเด็กที่พ่อแม่ตามใจมากๆ มาช่วยงานอาสาสมัคร คือเค้าก็คงไม่เต็มใจทำเท่าไหร่ และก็ไม่ได้มีจิตตารมณ์อะไรมากมาย แต่พอทำไปทำมา เค้าก็เรียนรู้และเปลี่ยนทัศนคติตัวเองได้ อย่างน้อยก็ตามใจตัวเองน้อยลง เห็นใจคนอื่นมากขึ้น
คนไทยยังให้ความสำคัญเรื่องนี้น้อยมาก โดยเฉพาะคนที่มีฐานะ เพราะกลัวว่าเด็กจะลำบาก เด็กจะไปขลุกคลี กับชุมชนไม่ดี เป็นต้น
อันนี้จริงค่ะ คือถ้าบอกว่า ไปเลี้ยงเด็กกำพร้า เค้ารับได้นะ แต่ถ้าบอกว่า ไปเป็นอาสาสมัครดูแลคนป่วย เค้ารับไม่ได้ บอกว่า ไปสลัมยังเงี้ย รับไม่ได้เลยล่ะ ต้องแอบๆไป ไม่ให้รู้

ซึ่งก็เป็นอะไรที่เราอยากเล่านะ อยากคุยให้ฟัง แต่คุยไม่ได้ ขนาดอายุปูนนี้แล้วนะ

Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 24, 2007 11:47 pm
โดย Holy
อยากอาสาไปเยี่ยมคนป่วยไม่รู้จะไปยังไง
Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 25, 2007 12:48 am
โดย Buddy
Holy เขียน:
อยากอาสาไปเยี่ยมคนป่วยไม่รู้จะไปยังไง
ที่เคยทำคือ ไปที่บ้าน Mercy นะคะ พี่ลองติดต่อดู ไปนวดคนป่วย HIV น่ะค่ะ และที่เห็นอีกอันคือ ของคามิลเลียนน่ะค่ะ ไม่รู้รายละเอียดเหมือนกัน ไม่เคยทำ และก็มีอีกอันที่เคยไปก็ของพ่อที่วัดแม่พระมหาการุณย์ที่นนทบุรีน่ะค่ะ แต่ไปครั้งเดียวค่ะ ในสลัม ตอนนั้นเจอบราเดอร์น้อย ไปเยี่ยมคนป่วย HIV ที่บ้าน
ของเมืองไทยเหมือนจะเป็นระบบตามพ่อไป หรือไม่ก็ตามบราเดอร์ไป และก็เรียนรู้เอาเอง แต่พออยู่นี้ เค้าจัดอบรมวันนึง และก็ปล่อยให้ไปเองเลย คนเดียว และก็เดือนนึงก็มาคุยกัน
พี่ลองดูนะคะ

Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 25, 2007 3:25 am
โดย Holy
Buddy เขียน:
Holy เขียน:
อยากอาสาไปเยี่ยมคนป่วยไม่รู้จะไปยังไง
ที่เคยทำคือ ไปที่บ้าน Mercy นะคะ พี่ลองติดต่อดู ไปนวดคนป่วย HIV น่ะค่ะ และที่เห็นอีกอันคือ ของคามิลเลียนน่ะค่ะ ไม่รู้รายละเอียดเหมือนกัน ไม่เคยทำ และก็มีอีกอันที่เคยไปก็ของพ่อที่วัดแม่พระมหาการุณย์ที่นนทบุรีน่ะค่ะ แต่ไปครั้งเดียวค่ะ ในสลัม ตอนนั้นเจอบราเดอร์น้อย ไปเยี่ยมคนป่วย HIV ที่บ้าน
ของเมืองไทยเหมือนจะเป็นระบบตามพ่อไป หรือไม่ก็ตามบราเดอร์ไป และก็เรียนรู้เอาเอง แต่พออยู่นี้ เค้าจัดอบรมวันนึง และก็ปล่อยให้ไปเองเลย คนเดียว และก็เดือนนึงก็มาคุยกัน
พี่ลองดูนะคะ ::001::
บ้านเมอร์ซี่ของพ่อไมเออร์เหรอครับ
Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 25, 2007 6:46 am
โดย Buddy
Holy เขียน:
Buddy เขียน:
Holy เขียน:
อยากอาสาไปเยี่ยมคนป่วยไม่รู้จะไปยังไง
ที่เคยทำคือ ไปที่บ้าน Mercy นะคะ พี่ลองติดต่อดู ไปนวดคนป่วย HIV น่ะค่ะ และที่เห็นอีกอันคือ ของคามิลเลียนน่ะค่ะ ไม่รู้รายละเอียดเหมือนกัน ไม่เคยทำ และก็มีอีกอันที่เคยไปก็ของพ่อที่วัดแม่พระมหาการุณย์ที่นนทบุรีน่ะค่ะ แต่ไปครั้งเดียวค่ะ ในสลัม ตอนนั้นเจอบราเดอร์น้อย ไปเยี่ยมคนป่วย HIV ที่บ้าน
ของเมืองไทยเหมือนจะเป็นระบบตามพ่อไป หรือไม่ก็ตามบราเดอร์ไป และก็เรียนรู้เอาเอง แต่พออยู่นี้ เค้าจัดอบรมวันนึง และก็ปล่อยให้ไปเองเลย คนเดียว และก็เดือนนึงก็มาคุยกัน
พี่ลองดูนะคะ ::001::
บ้านเมอร์ซี่ของพ่อไมเออร์เหรอครับ
อันนั้นล่ะค่ะ พี่ลองไปเยี่ยมก่อนก็ได้ เค้ามีหลายกลุ่ม ที่น่ารักสุดคือ น้องติดเชื้อ

และก็มีกลุ่มเด็กเร่ร่อน กำพร้า และก็มีผู้ป่วย เรื่องนวดนี่ก็ ไปถึงก็ลุยเลย ใส่ถุงมือ (กันเค้าติดเชื้อเรานะคะ ไม่ใช่เราติดเค้า) และก็ทาโลชั่น จากนั้นก็ไปทา ไปนวดให้เค้า ชวนเค้าคุย
พี่อาจจะลองติดต่อกับบราเดอร์มหาไถ่ก่อนก็ได้ค่ะ ไปกับเค้าก่อนว่า เป็นยังไง และก็จะได้เหมือนมีเพื่อนไปก่อนด้วย ไม่ขัดเขิน จากนั้นก็ค่อยติดต่อกับเจ้าหน้าที่ว่า เราจะมาทำอาสาสมัครนะ วันนั้นวันนี้ก็ว่าไป

Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 25, 2007 7:04 am
โดย Buddy
สิ่งที่ได้จากการเป็นอาสาสมัครมากกว่าที่คิด เราคิดว่า เราไปให้เค้า แต่หลายครั้งเลยคือ เค้าให้เรามากๆ (หลายครั้งรู้สึก มากกว่าที่เราให้เค้าซะอีก) ยิ่งผู้ป่วย HIV นี่ สัจธรรมชีวิต หลั่งไหลมาจากไหนไม่รู้ มาสอนเรา และหลายครั้งที่เค้าสอนเราแบบไม่ตั้งใจสอน เค้าก็เป็นธรรมชาติของเค้า แต่มันมาสะกิดใจเรา
อยากให้ทุกคนได้ลองไปทำนะคะ อะไรก็ได้ ทำไปเถอะ ขอให้เปิดใจ

Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 28, 2007 6:37 am
โดย Buddy
อันนี้ก็เป็นอีกโอกาสนึงนะคะ แต่อาจต้องเต็มเวลานิดนึง (และก็เหมือนจะหมดเขตแล้ว

)
http://board.scriptsby.com/view_topic.p ... an&id=1438
คิดว่า ถ้าใครอยากทำอาสาสมัครน่าจะลองติดต่อที่นี่ได้ค่ะ (Camillian)
อันนี้ Mercy Center (คลองเตย)
http://www.mercycentre.org/
และเล่มนี้สำหรับคนที่สนใจเด็กเร่ร่อนหรือในชุมชนแออัดค่ะ (Welcome to the Bangkok Slaughterhouse)
http://www.mercycentre.org/en/info_help ... id=9&Mid=2

Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 29, 2007 5:47 am
โดย Buddy
Oasis_Thai_DeSeRT เขียน:
บางคนบอกว่ารักพระคริสต์ แต่ไม่รักพี่น้องเป็นๆ บนโลกนี้ บางคนพูดเรื่องเราต้องรับใช้ แต่ไม่เคยรับใช้ผู้อื่นเลย
บางคนบอกว่าต้องออกไปอาสานะ แต่ตัวเองไม่เคยผ่านงานอาสาเลยแม้แต่น้อย หรือไม่ทำ
เปรียบเสมือน ดีแต่พูด ทำตัวเหมือนผู้ชอบธรรม
หลอกด่าคนอื่นนะเนี่ย ร้ายจริงๆ
เชิญชวนเฉยๆก็พอนะคะ ไม่ต้องไปหลอกด่าเค้าแบบนี้

ความรักแสดงออกได้หลายรูปแบบ อาสาสมัครก็เป็นรูปแบบนึงเท่านั้น
สำหรับผมแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนก็ออกไปรับใช้สังคม ถางหญ้าตัดต้นไม้ เก็บขญะในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แถวๆ แฮปปี้แลนด์
และผมอยากฟังท่านอื่นๆ เล่าบ้างครับ
น่าจะบอกรายละเอียดด้วยนะคะ เผื่อคนที่สนใจว่า จะไปยังไง
มีอีกอันที่น่าสนใจค่ะ ใครอยู่ มจธ ให้รายละเอียดละกันนะคะ
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNew ... 0000141301
Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 29, 2007 5:58 am
โดย Buddy
ลืมบอกไปเรื่องนึงคือ confidentiality หรือ การรักษาความลับ ถ้าเราไปเยี่ยมใครหรือดูแลคนป่วย บางทีเรามักจะรู้เรื่องราวของเค้านะคะ เรื่องการแบ่งปันขอให้ระวัง ถ้าจะให้ดีเลยคือ ลืมๆไปซะ อย่าไปพูดอะไรเด็ดขาด บางคนเค้าไม่อยากให้ใครรู้กระทั่งว่า เค้าป่วยหรือมีปัญหา หรือมีคนไปเยี่ยม ถ้าจะเล่าเพื่อกรณีศึกษาก็ขอแค่บอกว่า ไปเยี่ยมคนๆหนึ่ง เท่านั้นนะคะ ถ้าไปเจอเค้าที่อื่นก็ทักธรรมดา อย่าพูดถึงเรื่องไปเยี่ยมเด็ดขาด นอกจากเค้าจะพูดเอง
และก็เวลาไปทำงานดูแลหรือเยี่ยมคนป่วยเนี่ย มันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบขนาดนั้น บางทีมีเหมือนกันที่ โดนด่าบ้าง อะไรบ้าง ก็ต้องทนและก็อย่าถือสา เพราะว่า คนป่วยบางทีอารมณ์ไม่ดีน่ะค่ะ
Re: อาสาสมัคร บทสะท้อนความรักเพื่อนบ้าน...
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 01, 2007 1:02 am
โดย Buddy
สำหรับคนที่อยากไปเยี่ยมคนป่วย ถ้ายังไม่มั่นใจ ลองอบรมอันนี้ก่อนก็ดีนะคะ ถึงไม่ตรงนักแต่คิดว่า หลักการเดียวกัน
----------------------------------------------------------------
สมาคมคาทอลิกแห่งประเทศไทย
จะจัดอบรมหลักสูตร