พระสันตะปาปา เตือนสติอย่ามองภัยธรรมชาติคือวันสิ้นโลก

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Invy
โพสต์: 137
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ส.ค. 07, 2007 1:00 am
ที่อยู่: ปทุมธานี
ติดต่อ:

ศุกร์ พ.ย. 30, 2007 2:56 pm

สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงเตือนสติผู้มาร่วมสวดภาวนาเทวทูต ถือสาร ไม่ให้ทำตัวสิ้นคิดด้วยการมองว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในระยะนี้คือสัญญาณบ่งบอกถึงวันสิ้นโลก ขณะเดียวกัน พระองค์ยังปฏิเสธแนวคิดของคนบางกลุ่มที่พยายามเชื่อมโย งภัยธรรมชาติเข้ากับการเสด็จกลับมาอีกครั้งของพระเมสซิอาห์(พระผู้ไถ่) โดยพระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงอธิบายอย่างชัดเจนว่า ประวัติศาสตร์โลกกำลังดำเนินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางโศกนาฏกรรมและ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเสด็จมาของพระผู้ไถ่แต่อย่างใด

เมื่อช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา (ตามเวลาวาติกัน) สมเด็จพระสันตะปาปา เบเน ดิกต์ ที่ 16 ทรงเป็นประธานในการนำสัตบุรุษกว่า 40,000 คนร่วมสวดภาวนาเทวทูตถือสาร ณ ลานหน้ามหาวิหาร ซาน ปิเอโตร โดยก่อนจะเริ่มภาวนานั้น พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันข้อคิดที่ได้จากบท พระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 33 ในเทศกาลธรรมดา ด้วยการเตือนใจว่า ขอให้ทุกคนดำเนินชีวิตด้วยการสวดภาวนาและมอบตัวเราไว้ในการดูแลของพระเจ้า เพราะไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่า เครื่องหมายของวันสิ้นโลกจะมาเมื่อไหร่

พระสันตะปาปา เริ่มต้นแบ่งปันด้วยการตรัสว่า "นับตั้งแต่พระศาสนจักรได้ถือกำเนิดขึ้น เราดำรงอยู่โดยอาศัยคำภาวนา ภายใต้การอารักขาของพระเจ้า พร้อมทั้งเฝ้าระวังเครื่องหมายแห่งกาลเวลาซึ่งบ่งชี้ว่า วันสิ้นโลกจะมาเมื่อไหร่"

"แต่กระนั้นก็ดี ประวัติศาสตร์โลกเดินไปข้างหน้าอยู่เสมอ แม้บางครั้ง จะมีความเศร้าโศกเสียใจจากภัยพิบัติทางธ รรมชาติและหายนะต่างๆเข้ามาบ้างก็ตาม เรื่องเลวร้ายเหล่านี้ ไม่ได้บอกเราเกี่ยวกับวันสิ้นโลก เพราะว่า เครื่องหมายที่พระผู้ไถ่จะเสด็จมานั้น ได้บังเกิดขึ้นไปตั้งแต่ตอนที่พระคริสต์เจ้าทรงลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ทรงสิ้นพระช นม์และทรงกลับคืนชีพจากความตาย นี่คือพระธรรมล้ำลึกที่พระศาสนจักรประกาศยืนยันอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังทำให้บังเกิดผลผ่านทางการเทศน์สอนต่างๆ รวมถึงศีลศักดิ์สิทธิ์และการเป็นพยานยืนยันถึงความรักของพระเจ้าอีกด้วย" พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงอธิบายอย่างชัดเจน

พระสันตะปาปาชาวเยอรมัน ทรงให้กำลังใจด้วยว่า "เราอาจเจอปัญหาต่างๆที่เข้ามาในชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ตาม จงอย่ากลัวอนา คต เราต้องตอบรับคำเชิญจากองค์พระคริสต์เจ้า ผู้ทรงต้องการให้เราเผชิญทุกเหตุการณ์ในทุกวันๆด้วยความรักและวางใจที่มีต่อพระองค์"

จบจากบทเทศน์เชิงเทวศาสตร์แล้ว พระสันตะปาปาทรงร่วมไว้อาลัยให้กับชาวบังกลาเทศที่ต้องสูญเสียเพื่อนร่วมชาติไป 2,217 ศพจากเหตุการณ์พายุไซโคลน "ซิดร์" พัดถล่มทางตอนใต้ของประเทศ พร้อมกันนี้ พระองค์ยังเชิญชวนให้นานาชาติร่วมกันให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยร้ายแรงในครั้งนี้ด้วย

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พ่อขอร่วมเป็นทุกข์เสียใจกับพี่น้องชาวบังกลาเทศที่ต้องประสบชะตากรรมจากพายุไซโคลนซิดร์ซึ่งพัดถล่มเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พ่อขอเชิญชวนให้ประชากรทุกชาติทุกภาษา ร่วมด้วยช่วยกันจัดหาสิ่งขอ งบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องของเราอย่างสุดความสามารถ"

จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวปิดท้ายด้วยการอวยพรให้การประชุมขององค์กรรณรงค์เพื่อยุติกับระเบิดนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่ ประเทศจอร์แดน สำเร็จไปด้วยดี พร้อมกันนี้ พระองค์ยังร่วมเรียกร้องให้ทั่วโลก ยกเลิกการใช้กับระเบิดอย่างเด็ดขาดด้วย

"พ่อขอส่งความปรารถนาดีจากใจไปยังที่ประชุมองค์กรรณรงค์เพื่อยุติกับระเบิดนานาชาติ ขอให้พวกท่านบรรลุวัต ถุประสงค์ของการประชุมด้วยดี นอกจากนี้ พ่อขอร่วมเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องให้ทุกชาติยกเลิกการใช้กับระเบิดอย่างจริงจัง เพราะมันเป็นภัยคุกคามผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กๆทุกคน" พระสันตะปาปาตรัสปิดท้าย

Credit : http://www.catholic.or.th/events/vatican/vatican074/vatican134.html
Nativity
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 3:31 pm
ที่อยู่: Peace in sinner

ศุกร์ พ.ย. 30, 2007 3:19 pm

อ่านวิวรณ์ดีกว่า  : xemo023 :
panali
โพสต์: 56
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ย. 12, 2007 11:09 pm
ที่อยู่: กรุงเทพฯ

อังคาร ธ.ค. 11, 2007 1:20 pm

น่าคิดครับ
แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็ทำให้เราฉุกคิดถึงเหตุการณ์ในวิวรณ์ทุกที สงสัยนั่นเป็นเหตุให้คนทั้งโลกเซไปข้างหนึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาจึงตรัสดึงกลับมาอีกข้างหนึ่งเพื่อให้เกิดสติและความสมดุลของความคาดหวัง
No.7

อังคาร ธ.ค. 11, 2007 2:11 pm

panali เขียน: แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็ทำให้เราฉุกคิดถึงเหตุการณ์ในวิวรณ์ทุกที สงสัยนั่นเป็นเหตุให้คนทั้งโลกเซไปข้างหนึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาจึงตรัสดึงกลับมาอีกข้างหนึ่งเพื่อให้เกิดสติและความสมดุลของความคาดหวัง
เห็นด้วยครับ
bomzaiya
โพสต์: 663
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
ที่อยู่: Sriracha Chonburi
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 11, 2007 2:36 pm

สำหรับผมแล้วครับ "ไม่ต้องฟังใครทั้งนั้น"
ความเชื่อที่แต่ละคนมี พระพร พระหรรษทาน จะโปรยปราย เปิดหัวใจของแต่ละคนให้ทราบการนั้นเอง
ใครที่ได้รับพระพร จะเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ว่าใช่ หรือไม่ใช่ ... ทุกคนรู้แก่ใจอยู่แล้วว่า เหตุการณ์ต่างๆ นั้นหมายถึงอะไร
หากทุกคนเชื่อมจิตใจกับพระเจ้าตลอดเวลา ...
ตอบกลับโพส