กว่าจะเป็น"พระคัมภีร์"(intro.)
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2007 1:58 am
ผมไม่รู้ว่า มีใครเคยเขียนประวัติของพระคัมภีร์ย่อๆของฉบับต่างๆและที่มาที่ไปแล้วหรือยัง
ผมอนุมานว่าอาจจะยัง(เท่าที่ดูตามกระทู้ที่ปักหมุดไว้)
ผมลองเปิดหนังสือคำสอนของพระศาสนจักร(CATECHISM OF THE CATHOLIC CHURCH)ผ่านๆ
มีพูดถึงในแง่ จิตวิญญาณอยู่แล้ว เป็นต้นว่า กระบวนการได้มาซึ่งการจดบันทึก(การดล และ การเผยแสดง)
คิดว่า น่าจะหาอ่านได้ง่าย
http://www.catholic.or.th/archive/catechism/catech11/
ทีนี้เรามา Intro เกี่ยวกับพระคัมภีร์ในแง่ประวัติเพื่อเสริมความรู้ดีกว่าครับ
(หมายเหตุ.มีความเป็นไปได้นะครับ ที่ข้อมูลที่เรามีอาจไม่ตรงกัน เพราะอย่างว่าล่ะครับ "ประวัติศาสคร์")
1.การทำความเข้าใจเกี่ยวกับพันธสัญญาเก่า
........................เราคงรู้กันอยู่แล้วว่า คัมภีร์ในคริสตศาสนา โดยเฉพาะพันธสัญญาเก่า มีกลิ่นอายของศาสนายิวอย่างชัดเจน ที่ผมไม่พูดเหมือนคนอื่นว่า พันธสัญญาเราถอดแบบคัมภีร์ยิวออกมานั้น เนื่องจากเรากับยิวตีความพระคัมภีร์(ถอดความจากภาษาฮีบรู)ไม่สู้จะเหมือนกัน เช่น
(ตัวอย่างคร่าวๆ)
"ผู้เวียนว่ายอยู่ในมหานที(sea)แห่งเยธฺซิรา(Yetzirah) และผู้โผบินไปในนภา(air)แห่งไบรอะ(Briah)" ตาม Genesis ของยิว ซึ่งสำหรับศาสนาคริสต์คือ ฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ(ดู ปฐมกาล1:26)
(ขอไม่ยกภาษาฮีบรูทั้งบทมานะครับ;อ้าง Sefer Yetzirah (The Book of Formation))
ดูเผินๆ ผู้เวียนว่าย=ปลา และ ผู้โผบิน=นก
แต่คำว่า Yetzirah และ Briah นั้น คือ หนึ่งในโลกทั้งสี่(The four worlds) อันได้แก่ อาทซิลุธฺ (Atziluth) ไบรอะ (Briah) เยธฺซิรา (Yetzirah) และอัซซิอะ (Assiah) ซึ่งคือ โลกแห่งจุดกำเนิด (World of emanation) โลกแห่งการสร้างและความมีสถานะ (World of creation) โลกแห่งการประกอบเป็นร่าง (World of form) และโลกแห่งการแสดงออก (World of action)
........................ผมยกมาให้ดูคร่าวๆ ถึงความแตกต่างน่ะครับ ทีนี้มาพูดถึงวิวัฒนาการกันต่อ กล่าวคือหนังสือเหล่านี้ เป็นสมบัติของชาวฮีบรู(ยิว) จนถึงทุกวันนี้ก็ยังได้เก็บรักษาและสืบสานต่อเช่นเดียวกับคริสตศาสนาเพื่อเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการเผยแสดงที่พระเจ้าทรงมีต่อบรรพบุรุษของพวกเขา(เผ่าพันธุ์ที่สืบมาตั้งแต่อับราฮัม ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงประทานสัญญา)
Outline หัวข้อต่อไป
1.ภาษาของพันธสัญญาเก่า
2.กลุ่มหนังสือในพันธสัญญาเก่า
3.การเรียบเรียงดังที่ปรากฎในปัจจุบัน
ขออภัยที่ต้องค้างไว้เพราะเวลาล่วงเลยมามากแล้ว
ยังไม่ได้สวดมนต์(วันนี้ก็วันอาทิตย์แล้ว)
พระเจ้าอวยพร,
ผมอนุมานว่าอาจจะยัง(เท่าที่ดูตามกระทู้ที่ปักหมุดไว้)
ผมลองเปิดหนังสือคำสอนของพระศาสนจักร(CATECHISM OF THE CATHOLIC CHURCH)ผ่านๆ
มีพูดถึงในแง่ จิตวิญญาณอยู่แล้ว เป็นต้นว่า กระบวนการได้มาซึ่งการจดบันทึก(การดล และ การเผยแสดง)
คิดว่า น่าจะหาอ่านได้ง่าย
http://www.catholic.or.th/archive/catechism/catech11/
ทีนี้เรามา Intro เกี่ยวกับพระคัมภีร์ในแง่ประวัติเพื่อเสริมความรู้ดีกว่าครับ
(หมายเหตุ.มีความเป็นไปได้นะครับ ที่ข้อมูลที่เรามีอาจไม่ตรงกัน เพราะอย่างว่าล่ะครับ "ประวัติศาสคร์")
1.การทำความเข้าใจเกี่ยวกับพันธสัญญาเก่า
........................เราคงรู้กันอยู่แล้วว่า คัมภีร์ในคริสตศาสนา โดยเฉพาะพันธสัญญาเก่า มีกลิ่นอายของศาสนายิวอย่างชัดเจน ที่ผมไม่พูดเหมือนคนอื่นว่า พันธสัญญาเราถอดแบบคัมภีร์ยิวออกมานั้น เนื่องจากเรากับยิวตีความพระคัมภีร์(ถอดความจากภาษาฮีบรู)ไม่สู้จะเหมือนกัน เช่น
(ตัวอย่างคร่าวๆ)
"ผู้เวียนว่ายอยู่ในมหานที(sea)แห่งเยธฺซิรา(Yetzirah) และผู้โผบินไปในนภา(air)แห่งไบรอะ(Briah)" ตาม Genesis ของยิว ซึ่งสำหรับศาสนาคริสต์คือ ฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ(ดู ปฐมกาล1:26)
(ขอไม่ยกภาษาฮีบรูทั้งบทมานะครับ;อ้าง Sefer Yetzirah (The Book of Formation))
ดูเผินๆ ผู้เวียนว่าย=ปลา และ ผู้โผบิน=นก
แต่คำว่า Yetzirah และ Briah นั้น คือ หนึ่งในโลกทั้งสี่(The four worlds) อันได้แก่ อาทซิลุธฺ (Atziluth) ไบรอะ (Briah) เยธฺซิรา (Yetzirah) และอัซซิอะ (Assiah) ซึ่งคือ โลกแห่งจุดกำเนิด (World of emanation) โลกแห่งการสร้างและความมีสถานะ (World of creation) โลกแห่งการประกอบเป็นร่าง (World of form) และโลกแห่งการแสดงออก (World of action)
........................ผมยกมาให้ดูคร่าวๆ ถึงความแตกต่างน่ะครับ ทีนี้มาพูดถึงวิวัฒนาการกันต่อ กล่าวคือหนังสือเหล่านี้ เป็นสมบัติของชาวฮีบรู(ยิว) จนถึงทุกวันนี้ก็ยังได้เก็บรักษาและสืบสานต่อเช่นเดียวกับคริสตศาสนาเพื่อเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการเผยแสดงที่พระเจ้าทรงมีต่อบรรพบุรุษของพวกเขา(เผ่าพันธุ์ที่สืบมาตั้งแต่อับราฮัม ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงประทานสัญญา)
Outline หัวข้อต่อไป
1.ภาษาของพันธสัญญาเก่า
2.กลุ่มหนังสือในพันธสัญญาเก่า
3.การเรียบเรียงดังที่ปรากฎในปัจจุบัน
ขออภัยที่ต้องค้างไว้เพราะเวลาล่วงเลยมามากแล้ว
ยังไม่ได้สวดมนต์(วันนี้ก็วันอาทิตย์แล้ว)
พระเจ้าอวยพร,