หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์คริสตศาสนาและเทวดาศาสนาอื่น
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 15, 2007 4:26 am
โดย Holy
สภาวะของทูตสวรรค์
จำนวนของทูตสวรรค์นั้นเหลือคณนา เป็นจิตที่รับใช้พระเจ้าไปช่วยเหลือมนุษย์ เป็นภาพสะท้อนฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวว่า
พระเจ้าทรงกล่าวถึงบรรดาทูตสวรรค์ว่า “ทรงใช้ลมเป็นทูตนำสาร ทรงใช้เปลวเพลิงเป็นผู้รับใช้ของพระองค์” (ฮบ 1:7)
พระศาสนจักรจึงสรุปคำสอนว่า “ ความมีอยู่จริงของจิตบริสุทธิ์ที่ไม่มีร่างกายซึ่งพระคัมภีร์เรียกเป็นประจำว่าทูตสวรรค์ เป็นข้อความจริงของความเชื่อ ”
บรรดาทูตสวรรค์ “ เป็นผู้รับใช้และผู้ส่งข่าวของพระเจ้า ” “ ทูตสวรรค์ในฐานะที่เป็นจิตล้วนจึงมีสติปัญญาและอำเภอใจ เป็นบุคคลที่ถูกสร้างและไม่รู้จักตาย มีความศักดิ์สิทธิ์ครบครันเหนือกว่าสิ่งสร้างทั้งหลายที่มองเห็นได้ ”
บทบาทหน้าที่ของบรรดาทูตสวรรค์
นอกจากบรรดาทูตสวรรค์จะเป็น “ เป็นผู้รับใช้และผู้ส่งข่าวของพระเจ้า ” ทูตสวรรค์จำนวนมากยังมีหน้าที่ประจำอื่นๆ
ปกป้องดูแลทวีป ประเทศชาติ หรือเมือง
เราทราบว่ามีทูตสวรรค์อุปถัมภ์ของชาติต่างๆ นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 นักบุญเกลเมนแห่งอาเล็กซานเดรียกล่าวว่า “ พระเจ้าทรงบัญชาให้ทูตสวรรค์แยกย้ายกันไปอยู่ตามชาติต่างๆ ”
ในพระคัมภีร์มีการกล่าวถึงเทวดาอารักขาพวกกรีกและพวกเปอร์เซีย นักบุญเปาโล กล่าวถึงทูตสวรรค์ที่อารักขามาซิโดเนีย และอัครเทวดามีคาแอล นอกจากเป้นจอมทัพสวรรค์ ยังถือว่าเป็นผู้อารักขาประชากรอิสราแอลด้วย
พระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ตรัสเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1986 ว่า “ เราพอที่จะยืนยันได้ว่าหน้าที่ของบรรดาทูตสวรรค์เป็นเสมือนทูตของพระเจ้าทรงชีวิตที่สัมพันธ์ไม่เฉพาะกับแต่ละบุคคลหรือกับบุคคลที่ได้รับการเลือกสรรเท่านั้น แต่กับคนทั้งชาติด้วย ”
ทูตสวรรค์เป็นผู้พิทักษ์เราแต่ละคน
คริสต์ศาสนามีข้อคำสอนที่ว่า มีทูตสวรรค์ดูแลเราแต่ละคนอยู่ พระเยซูคริสต์ได้ตรัสเรื่องนี้มีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ว่า
“จงระวังให้ดี อย่าดูหมิ่นคนธรรมดา ๆ เหล่านี้คนใดเลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า ตลอดเวลาในสวรรค์ ทูตสวรรค์ของเขาเฝ้าชมพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ ” (มธ 18:10)
ทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์เรา ท่านจะอยู่กับเราตลอดเวลา ท่านพิทักษ์เราจากพลังชั่วทุกอย่าง กี่ครั้งแล้วที่ท่านได้ช่วยเราให้รอดพ้นจากภยันตรายทั้งกายและใจ ท่านได้ช่วยเราให้รอดพ้นจากการประจญล่อลวงอย่างนับครั้งไม่ถ้วน
ในศตวรรษที่ 5 มีเหตุการณ์ที่บันทึกในประวัติศาสตร์ที่ อัตตีลา นำทัพชาวฮั่นบุกตีทั่วยุโรปจนมาถึงกรุงโรม และกลับถอยทัพกลับไปเฉยๆเมื่อพบกับพระสันตะปาปาเลโอ(ปัจจุบันได้รับการประกาศเป็นนักบุญแล้ว) ว่ากันว่าเวลาที่นักบุญพระสันตะปาปาเลโอองค์ใหญ่ออกจากกรุงโรมเพื่อจะได้ไปพบกับอัตตีลา กษัตริย์ของพวกฮั่นซึ่งต้องการยึดกรุงโรมนั้น ทูตสวรรค์ได้ปรากฏมาอย่างยิ่งใหญ่หลังพระสันตะปาปา อัตตีลามีความเกรงกลัวต่อปรากฏการณ์นี้มากจนถึงกับได้สั่งให้กองทัพถอยทัพกลับจากสถานที่แห่งนั้น เป็นไปได้ไหมว่านั่นเป็นอารักขเทวดาของพระสันตะปาปา แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ กรุงโรมได้รอดพ้นจากโศกนาฏกรรมที่น่าสะพรึงกลัวนั้น เป็นความจริงที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์โลก
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาใน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 15, 2007 4:28 am
โดย Holy
ความเข้าใจแบบผิดๆ เรื่องทูตสวรรค์ และ ปีศาจ
มีภาพยนตร์ การ์ตูน หรือ เกมมากมายที่นำเรื่อราวของทูตสวรรค์มาใช้ และนำไปใช้กันอย่างผิดๆ เป็นต้นการนำทูตสวรรค์ไปใช้เสมือนหนึ่งว่าเป็นสิ่งมีชีวิตปกติธรรมดา เป็นเผ่าๆหนึ่งที่อยู่ในโลก ไม่แตกต่างอะไรจากสิ่งมีชีวิตปกติอื่นๆเสียเท่าไหร่ เป็นต้น ซึ่งภาพลักษณ์ที่บิดเบี้ยวหลายๆแบบนี้เราสามารถพบเห็นได้ตามการ์ตูนและสื่อต่างๆทั่วไป ที่อาจทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของทูตสวรรค์ผิดไปจากความเชื่อสากลเรื่องทูตสวรรค์
ในพระคัมภีร์มีการพูดถึงธรรมชาติของทูตสวรรค์ไว้อย่างชัดเจนว่า
ทูตสวรรค์คือสิ่งมีชีวิตที่มีจิตวิญญาณ มีความฉลาด มีอารมณ์ และ เจตนารมณ์ ทูตสวรรค์มีความฉลาด ทูตสวรรค์เป็นวิญญาณ ที่ไม่มีรูปร่าง แต่การไม่มีรูปร่างไม่ได้หมายถึงว่าทูตสวรรค์ไม่มีตัวตน
ความรอบรู้ของทูตสวรรค์มีความจำกัดเพราะทูตสวรรค์เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ซึ่งหมายความว่าเหล่าทูตสวรรค์ไม่ได้รอบรู้ไปหมดทุกอย่างเหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงรอบรู้ แต่ทูตสวรรค์จะมีความรอบรู้มากกว่ามนุษย์ ทูตสวรรค์ถูกสร้างขึ้นมาในจักรวาลให้อยู่ในระดับสูงกว่ามนุษย์ ดังนั้นเหล่าทูตสวรรค์จึงมีความรู้ที่มากกว่าโดยปริยาย ทูตสวรรค์ได้รับสติปัญญาจากการเฝ้าดูกิจกรรมของมนุษย์มาเป็นเวลาช้านาน ทูตสวรรค์ไม่จำเป็นที่จะต้องศึกษาอดีตเหมือนมนุษย์; ทูตสวรรค์ประสบการณ์เหล่านั้นมาแล้วจึงรู้ว่าคนอื่นๆ มีปฏิกิริยาหรือตอบโต้อย่างไรในสถานการณ์นั้นๆ และสามารถทำนายค่อนข้างจะถูกต้องว่าเราจะมีปฏิกิริยาอย่างไรในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่าทูตสวรรค์จะมีเจตนารมณ์ แต่พวกเขาก็ต้องจำนนต่อเจตนารมณ์ของพระเจ้าเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่พระองค์ทรงสร้าง ทูตสวรรค์ที่ดีถูกพระเจ้าส่งมาให้ช่วยผู้ชอบธรรม
ทูตสวรรค์เป็นสิ่งที่ทรงสร้างที่แตกต่างไปจากมนุษย์โดยสิ้นเชิง มนุษย์ไม่ใช่ทูตสวรรค์ และทูตสวรรค์ไม่ใช่มนุษย์ และมนุษย์เองก็ไม่ได้กลายเป็นทูตสวรรค์เมื่อเสียชีวิตลง ซึ่งตรงข้ามกับความเข้าใจที่ผิดว่ามนุษย์ที่ทำความดี ตายไปจะได้เป็นทูตสวรรค์เป็นเทวดาจากการ์ตูนหรือเกมบางอัน ที่สับสนความเชื่อของเทวดาพุทธและพราหมณ์เข้ามา
ไม่มีปีศาจดี ไม่มีทูตสวรรค์ชั่ว
หลายๆครั้ง เราพบมุขการ์ตูนหรือเกมส์ ที่แสดงภาพของทูตสวรรค์และปีศาจเป็นเรื่องของเผ่าที่ต่างกัน แถมมีปีศาจจิตใจดี หรือทูตสวรรค์จิตใจชั่ว สิ่งนี้คือความสับสนจากเทวดาและมารในทางพุทธหรือพราหมณ์ เพราะในทางหลักความเชื่อคริสต์ศาสนา พระเจ้าไม่ได้สร้างปีศาจหรือซาตาน ปีศาจคือทูตสวรรค์ที่หลงผิดคิดชั่วและนั่นทำให้ทูตสวรรค์จะไม่เป็นทูตสวรรค์อีกต่อไป แต่กลายเป็นปีศาจทันที ทูตสวรรค์ จึงไม่ใช่ชื่อเผ่าที่มีรูปร่างหน้าตาแบบมีปีกขาวๆ แต่เป็นชื่อเรียกจิตที่ดีที่รักมนุษย์ ถ้าจิตใดเกลียดมนุษย์และคิดชั่วเราจะเรียกจิตนั้นว่าปีศาจ ดังนั้น หากจิตใดเคยดีงามความงดงามนั้นออกมาจากความรักและความดีของจิตนั้น จิตใดเปลี่ยนไปเป็นชั่วหรือเลวร้ายจิตนั้นก็สกปรกน่าเกลียดกลายเป็นปีศาจโดยอัตโนมัติ เพราะทูตสวรรค์เป็นจิตล้วนๆไม่ได้มีกายเนื้อคอยบดบังจิตใจแท้จริงแบบเรา ดังนั้นการที่ชั่วช้าโดยยังมีจิตที่ดูสวยงามจึงเป็นไปไม่ได้ จึงไม่มีปีศาจใจดี หรือทูตสวรรค์ใจชั่ว
ดังนั้นปีศาจก็คือทูตสวรรค์ที่ทำการกบฎขัดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าและได้ตกสวรรค์ แปดเปื้อนความชั่วร้ายจนกลายเป็น “ปีศาจ” ไป หากปีศาจหรือจิตชั่วร้ายกลับใจใหม่หาแสงสว่างเปลี่ยนเป็นจิตที่ดี ก็จะกลับเป็นทูตสวรรค์ไม่ใช่ ปีศาจ อีกต่อไป แน่นอนไม่มีการเป็นพ่อเป็นแม่ แต่งงานมีลูก มีพี่มีน้องออกมาอย่างที่การ์ตูนบางเรื่องทำด้วย เพราะทูตสวรรค์ทั้งหมดมาจากพระเจ้าผู้เป็นผู้สร้างแต่พระองค์เดียว ไม่มีเพศ ทูตสวรรค์จึงไม่ต้องมีการสืบพันธุ์หรือมีเรื่องเกี่ยวกับเพศ แต่ภาพลักษณ์ที่ดูเป็นชายหรือหญิง มาจากบุคลิคที่จิตนั้นสะท้อนออกมาประกอบกับการรับรู้ของผู้เห็นนิมิต แปลออกมาให้ดูเป็นชายหรือหญิงแต่ไม่ใช่เพศแบบของมนุษย์แน่นอน
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาใน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 15, 2007 4:30 am
โดย Holy
ความเชื่อเรื่องเทวดาในศาสนาต่าง ๆ
แทบทุกศาสนาในโลกนี้ยอมรับในการมีอยู่ของเทพเทวดา...หรือแม้ไม่เชื่อเรื่องเทวดา อย่างน้อยที่สุด ก็ยังมีการกล่าวถึงในเรื่องของชาวฟ้าชาวสวรรค์ ซึ่งนอกจากความเชื่อเรื่อง ทูตสวรรค์ของทางศาสนาคริสต์แล้ว ศาสนาอื่น ๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นศาสนาเก่าแก่โบราณอย่างกรีก โรมัน อียิปต์โบราณ หรือศาสนาที่ยังมีผู้นับถือในปัจจุบัน อย่าง ฮินดู อิสลาม ชินโต พุทธ ก็ล้วนแต่มีการพูดถึงเทวดาด้วยกันทั้งสิ้น แต่มีมุมมองที่ต่างกันในรายละเอียด
ความเชื่อเรื่องเทวดาของทางพุทธ และ พราหมณ์
ในทางพุทธนั้น ถ้าเราศึกษาถึงที่มาของเทวดาต่างๆ ที่สังคมไทยรู้จักและนับถือกันอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็จะพบว่า เทวดาต่างๆ เกือบทั้งหมดนั้นมาจากคัมภีร์หลักของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู และ พุทธศาสนา และถ้าว่าตามคัมภีร์ชั้นปฐมภูมิของทั้ง 2 ศาสนานี้ต่างก็กล่าวไว้ในทำนองเดียวกันว่า มีสิ่งที่อยู่เหนือประสาทสัมผัสธรรมดาของมนุษย์บางประเภทเรียกว่า "เทวดา" ซึ่งมีคุณสมบัติและความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์ธรรมดาอยู่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะมีการยอมรับตรงกันว่าเทวดามีจริง แต่สถานภาพของเทวดาในพุทธศาสนาและศาสนาฮินดูกลับแตกต่างกันเป็นอย่างมาก เมื่อเทวดามีสถานภาพที่ต่างกัน ทั้ง 2 ศาสนาจึงได้บัญญัติหรือสอนวิธีที่มนุษย์จะพึงปฏิบัติหรือมีปฏิสัมพันธ์ต่อเทวดาไว้ต่างกันอีกด้วย
ศาสนาฮินดู หรือศาสนาอย่างชินโต ที่เป็นศาสนาพหุเทวนิยม เทวดาคือแก่นหลักของศาสนา เทวดาทุกองค์ได้รับการยกย่องในฐานะเทพเจ้า เป็นอำนาจเหนือธรรมชาติที่มีอิทธิพลเหนือมนุษย์ เทวดาคือที่มาของศีลและธรรมของศาสนา แต่ในอีกฝั่งหนึ่ง เช่น ศาสนาพุทธในบางนิกาย เทวดาไม่ใช่แก่นหลักของศาสนา เทวดาไม่ได้อยู่ในฐานะที่ได้รับการยกย่องนับถือจากศาสนิกชนเช่นเดียวกับเทพเจ้าในศาสนาฮินดู เพราะเทวดาไม่มีอิทธิพลให้คุณให้โทษเหนือมนุษย์ แต่เทวดาในทางพุทธศาสนาเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งที่จะช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ในความเชื่อทางศาสนา หรืออย่างน้อยที่สุด ในความเชื่อ ความเข้าใจของพุทธศาสนิกชนบางหมู่เหล่า เทวดาก็เป็นตัวอย่างที่ดีของ “รางวัล” ที่จะพึงตอบแทนให้แก่ผลกรรมดีที่ศาสนิกชนได้ปฏิบัติไป
ในคัมภีร์พระสุตตันตปิฎก คำว่าเทวดาเป็นคำใช้เรียกชาวสวรรค์ที่มีกำเนิดเป็นโอปปาติกะ คือ มีกำเนิดด้วยการผุดขึ้นทันทีโดยอาศัยอำนาจแห่งกุศลกรรมที่เคยทำไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉานเป็นผู้จัดสรร ถ้าหากต้องการจะใช้เรียกเจาะจงเพศ จะเรียกเทวดาเพศชายว่า เทพบุตร และเรียกเทวดาเพศหญิงว่า เทพธิดา ส่วนในคัมภีร์พระเวทสังหิตา ไม่มีคำเรียกเทวดาเพศชายเป็นคำเฉพาะ คงมีแต่คำเรียกเทวดาเพศหญิง โดยใช้คำว่า เทวี ต่อท้ายชื่อ
ประเด็นที่แตกต่างกันระหว่างเทวดาในคัมภีร์ของทางพุทธกับทางพราหมณ์ คือ เทวดาในคัมภีร์พระสุตตันตปิฎกไม่มีบิดามารดาเป็นผู้ให้กำเนิด แต่มีกรรมดีที่ได้ทำไว้เมื่อครั้งมีชีวิตเป็นผู้ให้กำเนิด ซึ่งการเกิดในลักษณะนี้เรียกว่า "โอปปาติกะ" คือเกิดผุดขึ้นโตเต็มที่ในทันที แม้เมื่อเกิดเป็นเทวดาแล้วก็ยังอยู่ในภาวะของปุถุชนและยังต้องเวียนว่ายตายเกิดเช่นเดียวกับมนุษย์จนกว่าจะสิ้นกิเลสอาสวะ เทวดาจึงอยู่ในฐานะต่ำกว่าพระอริยเจ้า ในขณะที่เทวดาในคัมภีร์พระเวทมีมารดาบิดาเป็นผู้ให้กำเนิด เมื่อเจริญเติบโตถึงวัยหนุ่มสาวแล้วก็คงอยู่ในวัยนี้ตลอดไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มีชีวิตเป็นอมตะ และมีความยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์ทุกระดับ ส่วนความเชื่อเทวดาในสังคมไทยนอกจากยังคงเชื่อและนับถือผีแบบดั้งเดิมแล้ว สังคมไทยก็ได้ยอมรับนับถือเทวดาที่มาจากวัฒนธรรมอื่นโดยเฉพาะวัฒนธรรมอินเดียอีกด้วย และคนส่วนใหญ่ที่นับถือเทวดาก็เพราะหวังพึ่งพาอำนาจจากเทวดาหรือหวังผลประโยชน์จากเทวดาเป็นสำคัญ
เทวดาเหล่านี้ แม้จะมีจิตใจไม่ดีขึ้นมา เช่น คิดอิจฉา หรือผิดลูกเมีย หากยังไม่หมดกรรมที่จะไปจุติใหม่ก็ยังคงสถานะเทวดาต่อไป เช่นการลักลอบเป็นชู้ของพระอินทร์ ในตำนานต่างๆ
มารในพุทธศาสนา และพราหมณ์
มารในพุทธศาสนาไม่ได้เหมือนปีศาจในคริสต์ศาสนาตรงที่ ในทางพุทธ มาร เป็นอีกเผ่าหนึ่งไม่ได้เป็นเทวดาที่เปลี่ยนไปแบบทางคริสต์ ตั้งแต่เกิดจนตายเป็นมาร มีลูกหลานสืบพันธุ์ก็เป็นเผ่ามาร มักแสดงภาพออกมาเป็นยักษ์ จึงมีคำกล่าวเรียกคู่กันในภาษาไทยว่า “ยักษ์มาร” แต่อาจมีจิตใจดีงามกว่าเทพเทวดาบางองค์ สามารถบำเพ็ญเพียรเพื่อเกิดใหม่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ดีกว่าได้ แต่เมื่อเกิดเป็นมารก็ยังคงสถานะเป็นมารอยู่ เช่นในเรื่องรามเกียรติ์ ภิเพกที่เป็นยักษ์กลับใจมาเข้าฝ่ายพระราม (แต่ก็ยังเป็นยักษ์อยู่ดี) เป็นต้น
เทวดาพุทธศาสนาและทูตสวรรค์ในคริสตศาสนา
ซึ่งหากเทียบกันแล้วจะเห็นว่าทางเทวดาของทางพุทธ จะแตกต่างจากทูตสวรรค์ของคริสต์ และเป็นที่มาของความสับสนของบรรดาการ์ตูนและเกมส์ที่ผู้แต่งหรือผู้เขียนเป็นพุทธหรือชินโต แต่อยากเอาเรื่องทูตสวรรค์คริสต์มาใช้ แต่กลับเอามาใช้ในบริบทความเชื่อเดิมของตัวเองไม่ใช่ตามความถูกต้องของทูตสวรรค์ของคริสตศาสนา
ในทางพุทธ ในสวรรค์เทวดาบางพวกยังเสพกาม มีนางอัปสรเป็นนางบำเรอเทวดาชาย ในทางฮินดูเทพเทวดาสมรสมีชายา และมีบุตรธิดา แต่ในคริสตศาสนา ทูตสวรรค์ไม่กระทำสิ่งเหล่านี้
มธ 22:29
พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านคิดผิดแล้ว เพราะไม่เข้าใจพระคัมภีร์ และไม่รู้จักพระอานุภาพของพระเจ้า เมื่อมนุษย์จะกลับคืนชีพ จะไม่มีการแต่งงานเป็นสามีภรรยากันอีก แต่เขาจะเป็นเหมือนทูตสวรรค์
หากจะเปรียบว่าเทวดาของพุทธเหมือนชาวสวรรค์แบบไหนของคริสต์ ก็อาจเทียบได้กับ “นักบุญ” มากกว่า “ทูตสวรรค์” เพราะนักบุญในคริสต์ศาสนา ก็คือศาสนิกชนที่กระทำคุณงามความดี เมื่อเสียชีวิตลงก็ได้รับรางวัลเป็นผลตอบแทนจากคุณงามความดีที่ได้กระทำมา ได้ไปอยู่ในสวรรค์จึงเรียกว่า “นักบุญ” ดังนั้น นักบุญทางคริสต์คือคนในโลกมาก่อนเหมือนเทวดาทางพุทธ แตกต่างจากทูตสวรรค์ที่เป็นจิตที่ถูกพระเจ้าสร้างขึ้นเป็นทูตสวรรค์เลยโดยตรงและไม่เป็นมนุษย์มาก่อน
นอกจากนี้เทวดาทางพุทธจะยังสามารถหมดสถานะเทวดา กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ หรือสัตว์ หรืออื่นๆ แต่ทูตสวรรค์จะเป็นจิตตลอดไปเพราะถูกสร้างมาเช่นนั้น หากทำผิดจะกลายเป็นปีศาจ ไม่มีการเกิดมามีเนื้อหนัง เป็นคน หรือสัตว์ ในโลก
นอกจากนี้ ทูตสวรรค์ มีหน้าที่รับใช้พระเจ้า ไม่ต้องการกินดื่ม แต่เทวดาในทางพุทธหรือพราหมณ์ เกิดเป็นเทวดาเพื่อเสวยผลบุญที่ทำความดีมา อาจรับของเซ่นไหว้ ในรูปแบบอาหารต่างๆจากมนุษย์
ทั้งหมดนี้ คือบางส่วนของความแตกต่างที่ไม่เหมือนกัน ของบรรดาทูตสวรรค์และเทวดาในศาสนาอื่น ที่หลายๆคนรวมทั้งคริสตชนเองสับสนกันเสมอๆ แม้เราจะไม่สามารถรู้ทุกอย่างของฟ้าสวรรค์ แต่เราก็มีความรู้ในบางอย่างที่ทำให้ทราบและแยกแยะความแตกต่างได้
สำหรับคริสตชนเราแล้ว ทูตสวรรค์ทุกองค์รักเราและเป็นเพื่อนเรา และท่านเหล่านั้นปรารถนาให้เราทุกคนได้กลับไปอยู่ในสวรรค์ด้วยกันกับพวกท่านนิรันดร เราจงรู้จักขอความช่วยเหลือจากเพื่อนในสวรรค์ที่เต็มใจช่วยเราในกิจการดีตามพระประสงค์ของพระเจ้าทุกประการ
ขอทูตสวรรค์ทั้งหลายช่วยวิงวอนพระเจ้าเพื่อเราด้วยเทอญ
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 17, 2007 12:41 am
โดย Batholomew
อาแมน
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 17, 2007 4:25 pm
โดย Nihil
เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สับสนเรื่องความเชื่อระหว่างศาสนามากครับ

Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 17, 2007 8:15 pm
โดย Immanuel (MichaelPaul)
ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อนะครับ ^^
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 18, 2007 12:27 am
โดย Holy
เอาเถอะ
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 19, 2007 3:33 pm
โดย jimseason
คุณ โฮลี่ นี่ข้อมูลเหลือล้นจริงๆ
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 12:52 pm
โดย Andreas
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผมไปชม The National Museum of Singapore เขาจัดแสดงประติมากรรมจากกรีก ยุคคลาสสิค ซึ่งเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์ลูฟ ฝรั่งเศส ทำไมเทวดาของกรีกถึงมีรูปร่างเหมือนทูตสวรรค์ในศาสนาคริสต์ครับ

Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 1:43 pm
โดย Holy
Andreas เขียน:
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผมไปชม The National Museum of Singapore เขาจัดแสดงประติมากรรมจากกรีก ยุคคลาสสิค ซึ่งเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์ลูฟ ฝรั่งเศส ทำไมเทวดาของกรีกถึงมีรูปร่างเหมือนทูตสวรรค์ในศาสนาคริสต์ครับ
เทพกรีก มีไนกี้กับคิวปิดเท่านั้นแหละที่มีปีก เหมือนครุฑหรือคนธรรพ์ของฮินดูที่มีปีกเหมือนกัน
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 3:08 pm
โดย King Zadin
ขอบคณมากนะงับ
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 22, 2007 11:21 pm
โดย ดานุ้งพุงระเบิด
Andreas เขียน:
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผมไปชม The National Museum of Singapore เขาจัดแสดงประติมากรรมจากกรีก ยุคคลาสสิค ซึ่งเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์ลูฟ ฝรั่งเศส ทำไมเทวดาของกรีกถึงมีรูปร่างเหมือนทูตสวรรค์ในศาสนาคริสต์ครับ
ผมดูแล้วนึกถึงเทพอิคารัสนะ
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 12:14 am
โดย Holy
Danung เขียน:
Andreas เขียน:
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผมไปชม The National Museum of Singapore เขาจัดแสดงประติมากรรมจากกรีก ยุคคลาสสิค ซึ่งเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์ลูฟ ฝรั่งเศส ทำไมเทวดาของกรีกถึงมีรูปร่างเหมือนทูตสวรรค์ในศาสนาคริสต์ครับ
ผมดูแล้วนึกถึงเทพอิคารัสนะ
จริงๆแล้ว อีคารอส ไม่ใช่เทพ แต่เป็นบุคคลในเทพนิยาย และอีคารอสเป้นผู้ชาย อันนี้ผู้หญิง มีองค์เดียวคือไนกี้
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 4:52 pm
โดย BloodSweatAndTearz
เออ..อืม...ช่ายยยย ได้อ่านแล้วดูกระจ่างดีครับ
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 9:32 pm
โดย †PricELiFE†
เข้าใจล่ะ ๆ ๆ งั้นซาตานก็เคยเป็นฑูตสวรรค์อ่าดิ

Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 9:34 pm
โดย In the name of father
~Sand~ เขียน:
เข้าใจล่ะ ๆ ๆ งั้นซาตานก็เคยเป็นฑูตสวรรค์อ่าดิ
เรียก ลูกไม่รักดีครับ
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 6:56 pm
โดย †PricELiFE†
In the name of father เขียน:
~Sand~ เขียน:
เข้าใจล่ะ ๆ ๆ งั้นซาตานก็เคยเป็นฑูตสวรรค์อ่าดิ
เรียก ลูกไม่รักดีครับ
แล้วจะ นำทางซาตานกลับเป็นฑูตสวรรค์ได้ยังไง่อ่ะคับ (อาจเอื้อมเกินไปเปล่าเนี่ย) มีวิธีหรือเปล่า
จากที่อ่านก็พอจะรู้ว่า ฑูตสวรรค์มีชั้นที่สูงกว่าเราอ่ะนะ ( หรือผมงงเอง ?? )
Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 8:08 pm
โดย Zion
~Sand~ เขียน:
แล้วจะ นำทางซาตานกลับเป็นฑูตสวรรค์ได้ยังไง่อ่ะคับ (อาจเอื้อมเกินไปเปล่าเนี่ย) มีวิธีหรือเปล่า
จากที่อ่านก็พอจะรู้ว่า ฑูตสวรรค์มีชั้นที่สูงกว่าเราอ่ะนะ ( หรือผมงงเอง ?? )
อื้ม
อย่าว่าแต่จะให้เราทำให้ซาตานกลับใจเลย
แค่เราควบคุมตัวไม่ให้ตกในการล่อลวงของซาตาน
ก็สาหัสมากแล้วครับ

Re: +ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์ในคริสตศาสนาและเทวดาในศาสนาอื่น++
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 8:11 pm
โดย †PricELiFE†
พี่ยศ พูดอะไรขนาดนั้นคร้าบบ ???
สู้ครับ พี่ ๆ ๆ
Re: ความไม่เหมือนที่แตกต่าง ทูตสวรรค์คริสตศาสนาและเทวดาศาสนา
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 30, 2012 10:52 am
โดย rosa-lee
...อ่านแล้ว เข้าใจเรื่องทูตสวรรค์ เทวดาในศาสนาต่างๆมากขึ้นค่ะ
ไม่รู้ว่ามี กระทู้นี้ ด้วย
...พอดีอ่าน คริสตังไทยยกมือขึ้นในFACEBOOKเลยคลิกเข้ามาดู......
...

...
...สงสัยต้องพยายามๆอ่านกระทู้เก่าๆมีบทความเก่าๆที่ดีๆ
และไม่รู้มาก่อนมากมายใน new mana
ขอบคุณค่ะ..
...

...