Belong to the Truth Jesus Christ

ตอนนี้ก็มีข่าวออกมาเยอะเรย  เกี่ยวกับเรื่องการที่พวกกระเทยไปตัดลูกอัณฑะ  เพื่อจะได้ไม่มีฮอร์โมนเพศชาย  แล้วพวกคุณคิดยังไงกับเรื่องนี้  พระศาสนจักรเขาห้ามป่าว  มันดีไหม  ยังไง  ช่วยกันแสดงความคิดเห็นหน่อย  อยากรู้ความคิดของคนในบอร์ดนี้

สิ่งที่พระเจ้าสร้างมา  มันก็ดีทั้งนั้นแหละค่ะ
มันก็มีประโยชน์เหมาะสมกับแต่ละคน
มนุษย์เราไม่พอใจมันเอง  ตัดมันเองไม่ใช่เหรอคะ 

Jacqueline เขียน: ตอนนี้ก็มีข่าวออกมาเยอะเรย  เกี่ยวกับเรื่องการที่พวกกระเทยไปตัดลูกอัณฑะ  เพื่อจะได้ไม่มีฮอร์โมนเพศชาย  แล้วพวกคุณคิดยังไงกับเรื่องนี้  พระศาสนจักรเขาห้ามป่าว  มันดีไหม  ยังไง  ช่วยกันแสดงความคิดเห็นหน่อย  อยากรู้ความคิดของคนในบอร์ดนี้

ถ้าพระศาสนจักรรู้ แน่นอน!คงห้ามโดยตรง แต่โดยข้อคำสอนย่อมขัดอยู่แล้ว(ไม่ว่าศาสนาไหน?)
อันนี้ในเชิงจริยศาสตร์ความเชื่อนะครับ
แต่ถ้าในคริสตจริยศาสตร์ทั่วไป สิ่งไม่ดี(การเลือกที่จะตัด)ตรงนี้ ไม่ได้หมายความว่า เขาตัดสัมพันธ์กับพระเจ้าครับ แม้ว่า เขาจะขัดข้อคำสอนก็ตาม

โดยส่วนตัว,ถ้าไม่ได้ทำด้วยความกระหายทางราคะมากเกินไป หรือเป็นถูกล่อลวงให้ทำ หรือชักจูงให้ทำ ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรกับ"กระเทยที่ตัดลูกอัณฑะ"ทิ้ง ผมทราบว่ามันคงไม่ดีหรอก(สักวันเขาน่าจะรู้เอง)

แต่พร้อมนะที่จะ ยื่นสายประคำพระเมตตาให้เขา แล้วกระซิบว่า
"สวดทุกบ่ายสามโมงนะจ๊ะ เป็นผู้หญิงไม่หยุดสวยมาเยอะแล้ว ลองเป็นผู้หญิงไม่หยุดสวดบ้าง"

Jacqueline เขียน: ตอนนี้ก็มีข่าวออกมาเยอะเรย  เกี่ยวกับเรื่องการที่พวกกระเทยไปตัดลูกอัณฑะ  เพื่อจะได้ไม่มีฮอร์โมนเพศชาย  แล้วพวกคุณคิดยังไงกับเรื่องนี้  พระศาสนจักรเขาห้ามป่าว  มันดีไหม  ยังไง  ช่วยกันแสดงความคิดเห็นหน่อย  อยากรู้ความคิดของคนในบอร์ดนี้

จะไปตัดใช่ป่ะล่ะ...

น่าสงสารอ่ะ
มนุษย์ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตนเองมี

เฮ้อ..ขอให้พี่น้องช่วยสวดภาวนาเพื่อบุคคลเพศที่3ด้วยนะค่ะ

ก็มีเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องที่เป็นเพศที่ 3 เยอะค่ะ แต่ที่รู้จักก็ยังไม่เคยเห็นใครไปตัดอัณฑะ เพราะว่าถ้าพูดถึงตัดอัณฑะเนี่ย เรื่องใหญ่พอควรทีเดียวเพราะคุณต้องคิดไตร่ตรองให้ดี มันเป็นเรื่องทางจิตวิทยาด้วยนะ ถ้าตัดไปแล้วทำใจได้ปรับตัวกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ก็โอเคค่ะ แต่ถ้าทำใจไม่ได้ก็ยุ่งเหมือนกันนะ ตอนนี้เพื่อนที่เค้าไม่ได้ตัด ไม่ได้แปลงเพศเค้าก็อยู่ในสังคมเป็นคนดีมีความสุขได้มีเพื่อนฝูงมีคนรักด้วยนะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราค่ะ พระเจ้าให้เรามาทุกคนอยู่แล้ว....

คิดว่าเป็นการทำร้ายตัวเองในระยะยาวครับ คือตอนนี้ตัดไปก็อาจจะได้ทำอะไรตามใจที่ตัวเองชอบคือไม่มีหนวดเครา กินฮอร์โมนเพศหญิงแล้วนมโตกว่าเดิมอะไรทำนองนี้  แต่พอแก่ตัวไปก็จะลงพุงอ้วนแผละขี้โรค 

สรุปก็คือเป็นการกระทำที่คิดสั้นไปหน่อย

หน้าเห็นใจคนที่มีจิตใจอยากเป็นผู้หญิงนะครับ เป็นได้ทั้งกลุ่มที่เกิดจากโฮโมน และกลุ่มที่เกิดจากอาการทางจิตเนื่องจากว่าในเด็กๆ ครอบครัวแม่มีบทบาทมากกว่าพ่อจนเป็นจุดเด่นมากว่าพ่อ หรือพ่อแม่เลิกกันอยู่กับแม่มากเกินไปเลยไม่เห็นแบบอย่างของพ่อ หรือถูกจับแต่งตัวเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่เล็กแล้วมีคนชมว่าสวยได้รับการยกย่องทำให้เขารู้สึกประทับใจ แล้วก็อื่นๆ อีก พวกนี้รักษาได้ถ้าเกิดจากโฮโมนก็ต้องรักษาด้านโฮโมน ถ้าโฮโมนไม่สมดุลก็ต้องฉีดโฮโมนเพศชายลงให้สมดุลแล้วก็ทานยาควบคุมจนกว่าจะหาย  ถ้าเกิดจากจิตก็ต้องต้องรักษาด้านจิต แต่ถ้ายังปล่อยและยอมรับให้เขาแปลงเพศได้และทำอะไรตามใจฉันโดยไม่รักษาก็น่าเสียดาย

ส่วนการตัดลูกลูกอัณฑะนั้นศาสนาเราถือว่าบาป เพราะตัดสิ่งที่พระเจ้าให้มา

"สิ่งที่พระเจ้าสร้างไว้คู่กัน มนุษย์อย่าได้แยกออกจากกัน"
(น่าจะใช้กะกรณีนี้ได้นะครับ)

พระยุติธรรมของพระเจ้า เขียน: "สิ่งที่พระเจ้าสร้างไว้คู่กัน มนุษย์อย่าได้แยกออกจากกัน"
(น่าจะใช้กะกรณีนี้ได้นะครับ)

ขำมาก

เสียดายคร้าบ (ตัดทั้งยวงไปโลด )

คิดว่าเรื่องการตัดเติมอะไรในร่างกาย เพื่อความพอใจของตนเองเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมครับ
เพราะพระเจ้าทรงให้สิ่งที่เหมาะสมกับตัวเราแล้ว

คนเกิดเป็นชาย ก็แสดงว่าเขามีส่วนที่เหมาะสมที่เป็นชายอยู่แล้ว

คิดว่าไม่ควรครับ

ผมเป็นห่วงในแง่ของสุขภาพกายและสุขภาพจิตมากกว่าครับ เชื่อแน่ๆ(ล้านเปอร์เซนต์)ว่ามีผลข้างเคียงต่อเจ้าตัว(ผู้ตัดอัณฑะ)อย่างแน่นอน และที่หน้ากลัวมากคือ เมื่อตัดไปแล้ว คือตัดไปเลย เคยดูในรายการทีวีบอกว่า ไม่สามารถแก้ไขให้เป็นอย่างเดิมได้ด้วย(นี้แหละคือสิ่งที่น่ากลัวล่ะ)

พอเข้าใจว่า(และเห็นใจ) สำหรับหญิงที่เกิดมาในร่างชาย ทำให้ตัดสินใจในการกระทำดังกล่าวด้วยเหตุผลเรื่องลดปริมาณฮอร์โมนเพศชายให้ลดลง และส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเพศหญิงมีมากขึ้นในร่างกายตนเอง แต่......จุดที่เป็นห่วงมากที่สุดคือ เรื่องของโรคแทรกซ้อน(ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว)ของการไม่มีฮอร์โมนเพศชายมากกว่า

ส่วนเรื่องศาสนา(ทั้งศาสนาของพวกเราและศาสนาของคนส่วนใหญ่ในสังคม)และค่านิยม มุมมองของสังคม กับกลุ่มบุคคลประเภทนี้นั้น ไม่ขอออกความเห็นดีกว่า เพราะศาสนาไหน หากยึดตามคำสอน(ในบางมุม)ก็ต้องไปตัดสินเขาว่าผิด(หรือบาป)อยู่แล้ว ดูๆแล้วเหมือนศาสนาและความเชื่อ กลับซ้ำเติม  และไม่ได้เป็นที่พึ่งของเขาจริงๆ(ศาสนาและความเชื่อควรเป็นที่พึ่้งทางจิตใจของทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม) ส่วนค่านิยมของสัีงคม ก็รู้ๆกันอยู่ เคยมองคนกลุ่มนี้ดีซะที่ไหน

ผมนึกถึงพระเยชูเจ้า ในเรื่องที่เกี่ยวกับหญิงชาวสะมาเรียกับน้ำธรรมรงชีวิต และนิทานคำสอนของพระเยชูเรื่อง " ชาวสะมาเรียผู้ใจดี" และเรื่องที่พระเยชูเจ้าด่าสาดเสียเทเสียต่อพวกฟาริสี ที่กำลังยุยงชาวบ้านให้เอาหินขว้างหญิงล่วงประเวณี เพราะทำตัวผิดพระบัญญัตทางศาสนา

เข้าใจแ้ล้วล่ะว่า ทำไมพระเป็นเจ้า จึงต้องมาเกิดเป็นมนุษย์เสียเอง(ในนามพระเยชู) หากพระนาม(และคำสอน)ของพระองค์ ดันกลายเป็นตัวสร้างความทุกข์กับลูกของพระองค์เสียเอง(โดยบางคนที่รู้ตัว และไมรู้ตัว) พระคงปรอทแตกเมื่อมองจากสวรรค์ จึงกระโดดมาเกิดในครรภ์ของพระนางมาเรีย มาเป็นพระเยชูเจ้า(ประมาณว่า กูลุยเอง สอนเอง แพร่ธรรมเองดีกว่า) ปล่อยให้มนุษย์ทำกันเอง คนกลับห่างพระมากขึ้น(พระวาจาของพระ ควรใช้ และหนุนนำใจ ไม่ว่าคริสตชนหรือผู้อื่น ในแง่ของความรัก ความเมตตา และให้กำลังใจ) ไม่ใช่เปิดพระคัมภีร์บอกว่า ไอ้นู้นบาป ไอ้นี้ทำไม่ได้ เอ็งต้องตกนรก เห็นบางลัทธิแพร่ธรรมในลักษณะนี้
ขับรถผ่านแล้ว อยากจอดรถแล้วกระทืบมันให้ตายคาตีนจริงๆ การดำเนินชีวิตในสังคมก็ยาก ลำบาก และต่ิอสู้ดิ้นรนอยู่แล้ว ดันมาพูดแบบนี้ในเรื่องพระนั้น เหมือนเป็นการซ้ำเติมจิตใจของผู้คนที่อ่อนแอและ้เหนื่อยล้าจริงๆ

แต่แพร่ธรรมต้องทำตามแบบพระเยชูเจ้าในพระวรสารครับ ส่วนพวกแพร่ธรรมในแนวดูถูก เหยียดหยาม ซ้ำเติม ถากถาง และทำตัวคล้ายฟาริสี(เปิดพระคัมภีร์ บอกนู้นบาปนี้บาป ไม่เชื่อพระแล้วตกนรก แต่ตนเองไร้ซึ่งความรัก นำพระนามพระเจ้ามาอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรม) ผมขับรถผ่านแล้ว อยากใส่เกียร์ห้าพุ่งชนมันให้ตาย แถมถอยรถเหยียบซ้ำ  และดูดน้ำมันรถ(จากถังรถตัวเอง)ราดตัวมัน เผาีผีมันตรงนั้นเลย(และซ้ำด้วยปืนพกจนหมดกระสุนในแม็กกาซีน) พระเยชูเจ้าท่านให้แต่ความรัก กำลังใจ และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส จนเห็นแสงสว่างในความรอดของพระเยชูผ่านความรักจากพระองค์ แต่พวกแม่ง ซ้ำเติม ด่า่ทอ กดขี่ ดูถูก เหยียดหยาม เอาพระคัมภีร์เปิดด่าคนอืี่่่น สร้างศัตรู(ทางศาสนา)โดยไม่จำเป็น ตัวเองยังเอาไม่รอด ยังเสือกลากองค์กรและสถาบันให้เดือดร้อนไปด้วย คนสนใจในพระเจ้าและความรักในพระวรสาร กลับเจอฟาริสีโขกสับและได้น้ำตาและความเจ็บซ้ำกลับมา น่าจะเอาโม่ผูกคอพวกมันและนำไปถ่วงทะเลยังเสียดีกว่า ไม่เสียใจเลย(และเต็มใจ)หากพระลงโทษผมให้ตกนรกอเวจี ตลอดกาล เพียงเพราะว่าผมจับพวกฟาริสีกลับชาติมาเกิด ไปนั่งยางเผาทั้งเป็น

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

มันไม่ใช่เส้นผมนะที่จะงอกมาใหม่ได้

เคยดูหนังเรื่องนึง เขามีประโยคว่า "อย่าเมาเข้าร้านสัก ไม่งั้นรอยสักนั้นมันจะติดตัวเธอตลอดไป"

จริง ๆ คิดให้ดีก่อนทำ

ดานุ้งพุงระเบิด เขียน: เคยดูหนังเรื่องนึง เขามีประโยคว่า "อย่าเมาเข้าร้านสัก ไม่งั้นรอยสักนั้นมันจะติดตัวเธอตลอดไป"

ในกรณีนี้คงต้องเปลี่ยนเป็น
"อย่ามั่วเข้าร้านตัด ไม่งั้นรอยตัดนั้นจะติดตัวเธอตลอดไป"
หึหึหึ

Ecclēsia เขียน:

ดานุ้งพุงระเบิด เขียน: เคยดูหนังเรื่องนึง เขามีประโยคว่า "อย่าเมาเข้าร้านสัก ไม่งั้นรอยสักนั้นมันจะติดตัวเธอตลอดไป"

ในกรณีนี้คงต้องเปลี่ยนเป็น
"อย่ามั่วเข้าร้านตัด ไม่งั้นรอยตัดนั้นจะติดตัวเธอตลอดไป"
หึหึหึ

รอยสักนั้นลบได้ แต่รอยตัดต่อคืนไม่ได้ แม้จะใช้เซฟทีคัต

รอยสักลบก็ไม่เหมือนเดิมนะคะ 

ถือว่าเป็นการบิดเบือนสิ่งสร้างของพระเจ้า โดยเฉพาะมนุษย์ที่เป็นพระฉายา
ศัลยกรรมคือการไม่พอใจและดูถูกพระปัญญาของพระเจ้าในการทรงสร้าง
พูกง่ายๆ ไม่พอใจในสิ่งที่พระเจ้าให้มา