10กว่าปีแล้ว..ที่เขาไมได้พาเธอมาร่วมแสวงบุญกัน
10กว่าปี..ที่เขาต้องติดในคุก เพียงเพราะคำกล่าวหาที่ไม่มีมูล
ว่าเขาเป็นสายลับของพวกนาซี จากปากคำพล่อยๆของเพื่อนที่ร่วมโต๊ะกาแฟกันมา
เพื่อนคนนั้นคงหวังเป็นที่โด่งดัง โดยไม่สนใจเลยว่าต้องทำให้เพื่อนคนหนึ่งลำบากเพียงใด
ตลอด10ปีนั้น ที่ภรรยาของเขา เฝ้าบอกให้เขาให้อภัยเพื่อนคนนั้น และไว้วางใจในพระเป็นเจ้า
แต่ก็ดูเป็นคำพูดที่ไม่มีวันจะบังเกิดผล
...
เมื่อ3เดือนที่แล้ว ภรรยาไม่ได้เยี่ยมเขาเลย
เมื่อพ้นโทษและกลับมาถึงบ้าน ก็เป็นไปตามที่เขาคาด
ภรรยาเป็นคนสุขภาพไม่ค่อยดี บัดนี้ เธอได้จากเขาไปแล้ว บ้านจึงดูร้างเช่นนี้
ณ กลางโต๊ะ มีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่
"ที่รักของฉัน หากคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้
นั่นก็แปลว่า ฉันคงได้แต่มองคุณจากบนสวรรค์
แม้ไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันในสวรรค์หรือไม่ เพราะดูคุณก็คงจะหมดศรัทธาในพระเจ้าเต็มที
ก็โปรดเถิด โปรดฟังคำขอของฉัน
แม้นไม่เห็นแก่พระเจ้า ก็เห็นแก่ความสัมพันธ์ของสองเรา ที่อยู่กินกันมาครึ่งค่อนชีวิต
จำได้มั้ยตั้งแต่เราแต่งงานกัน คุณจะพาฉันไปแสวงบุญที่ลูร์ดทุกปี
ฉันขอให้คุณไปที่ลูร์ดอีกครั้ง ไม่จำเป็นที่จะต้องขอมิซซาให้ฉัน
ขอแค่ไประลึกถึงความหลังเท่านั้น ก็ถือว่าคุณทำตามคำขอของฉันแล้ว...ด้วยรัก"
......

รถไฟจอดที่ลูร์ดแล้ว เขามุ่งตรงไปที่หน้าถ้ำแม่พระ
เขาไม่ได้เสาะแสวงหาน้ำศักดิ์สิทธิ์ เหมือนผู้ศรัทธาคนอื่นๆ
หากเพียงแต่พยายามระลึกถึงเมื่อครั้งภรรยาเขายังมีชีวิตอยู่
แต่ในทันใดนั้นเอง มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังสวดหน้าถ้ำแม่พระ
เธอสังเกตเห็นเขา และได้ยื่นแก้วที่ตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาให้
แม้นเขาจะไม่มีศรัทธา แต่ก็ไม่อยากปฎิเสธน้ำใจของหญิงผู้นี้ เขาจึงรับและดื่มไป
....และไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขากำลังเดินไปสถานีรถไฟเพื่อกลับ ก็สวนทางกับคุณพ่อองค์หนึ่ง
คุณพ่อทักว่า ทำไมจึงรีบกลับ ยังเช้าอยู่เลย
เขาจึงได้เล่าเรื่องราวการสิ้นความศรัทธาของเขาและคำขอของภรรยา
คุณพ่อตั้งใจฟังตลอดโดยไม่ขัด จนกระทั่งเมื่อเล่าจบ คุณพ่อพูดแต่เพียงว่า
"นานๆคนอายุเยอะอย่างเราจะออกมาข้างนอก
พ่อว่าลูกเดินเที่ยวรอบๆหน่อย แล้วตอนเย็นค่อยกลับก็ไม่เสียหายนะ"
เขาเห็นด้วยจึงกระทำตามที่คุณพ่อบอก
เขาได้จับจ่ายซื้อของ ชมธรรมชาติ
เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างก็เย็นและกำลังจะกลับ เขาได้เดินผ่านถ้ำแม่พระ
และเจอหญิงสาวคนที่ยื่นน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้เขาดื่มเมื่อเช้ายังคงสวดอยู่
"แม่หนู ศรัทธาจังเลยนะ"เขาทัก
"มิได้หรอกค่ะ"หญิงสาวผู้นั้นตอบ
"ฉันเองก็เป็นวัยรุ่นประสาโลก ที่มาลูร์ดนี่ก็ครั้งแรก ตามคำขอของพ่อฉัน
พ่อฉันท่านได้ป่วยเรื้อรังและกำลังจะตาย
พ่อฉันให้ฉันมาสวดเผื่อท่าน แต่ท่านมิได้ขอให้ท่านรอดจากความตายนี้
ท่านบอกว่า มันสาสมแก่ความผิดของท่านแล้ว
ที่ทำให้ เพื่อนรักคนหนึ่งของท่านต้องติดคุกเพียงเพราะต้องการชื่อเสียง
ท่านต้องการเพียงขอโทษ และรับการอภัยจากเพื่อนคนนั้น"
ชั่ววินาทีนั้นเขาได้ทักหญิงสาวคนนั้นว่า
"เธอชื่อ แอนนารึเปล่า?"
หญิงสาวสะดุ้งและถามกลับว่า "คุณอาทราบได้อย่างไรคะ?"
"10กว่าปีก่อน ฉันเห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งชื่อแอนนา กับพ่อของเด็กหญิงคนนั้น"
น้ำตาค่อยๆซึมมาจากเปลือกตาของเขา แต่ก็พร้อมๆกับรอยยิ้มที่ค่อยๆแย้ม
"แอนนา เธอจะกลับบ้านเมื่อไหร่ละ ฉันจะไปเยี่ยมบ้านของเธอ ไปหาพ่อของเธอ"
เรียบเรียงจากเรื่องจริงผ่านคำบอกต่อ
เชื่อว่าเหตุการณ์เดียวกัน
http://www.issara.com/article/sorry-forgive.html