Belong to the Truth Jesus Christ

ใครเฝ้าศีลบ้าง  ยกมือขึ้น   ::013::

เฝ้าที่ไหนคะ 
แต่ละครั้งใช้เวลานานเท่าไหร่  และไปทำอะไรบ้างในช่วงเวลานั้น
เฝ้าบ่อยแค่ไหน  (กี่ครั้งต่อสัปดาห์)
เคยเฝ้าศีลมหาสนิททั้งคืนหรือไม่ (อันนี้ถามเอาความอึด  ไม่ได้ซีเรียสค่ะ)
เชื่อการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทแค่ไหน  (อาจลองเล่าเป็นประสบการณ์  หรือบทสนทนากับพระองค์  หรืออะไรก็ได้ที่อยากแบ่งปันค่ะ)
ระหว่างเฝ้าศีลที่อยู่ในตู้ศีล  กับเฝ้าศีลที่มีการตั้และอาจมีการอวยพรศีลมหาสนิทตอนท้าย  แบบไหนที่รู้สึกถึงการประทับอยู่ของพระเป็นเจ้ามากกว่ากัน  (ตอบตามความรู้สึกนะคะ  ไม่ต้องตอบตามเทววิทยา)


หลังการรับศีลมหาสนิทแล้ว  การสวดหลังรับศีลคิดว่า  พอหรือไม่  หมายความว่า  อยากสวดเพิ่มมั้ย  อิ่มมั้ย

ขอบคุณมากค่ะ

น้องส้มจ๋า
      เฝ้าศีลที่วัดอัสสัมชัญคะ วัดพระจิตเจ้า เคยค้างไปที่โรงเรียนแสงอรุณของคณะโอเบด อยู่กลางดง
     
      เวลาไม่แน่นอนคะ บางครั้ง ก็ 30 นาที ถึง 1 ชม.
      แต่ถ้าช่วงที่ไปกลางดง จะไปก่อนนอน พิจารณาสิ่งที่ตัวเองทำไปในวันที่ผ่านมา คุยกับพระองค์ถึงเรื่องที่ค้างใจในแต่ละวัน ถ้ามี
      และไปคุกเข่าสวดสายประคำ 1 สาย และตื่นมาตอนตีสี่ ขอบพระคุณพระองค์ที่ให้เราผ่านเมื่อวานนี้ คืนที่ผ่านมา และให้เรามีเวลานี้
      ที่ได้นั่งต่อหน้าพระพักตร์ของพระเยซูเจ้า และสวดสายประคำอีก 1 สาย 
     
      แล้วแต่ช่วงเวลา ถ้าเป็นช่วงมหาพรต ปัสกา จะหาเวลา 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วแต่วัดไหนเปิดคะ
      ส่วนใหญ่ที่ทำทุกวัน คงจะไม่สามารถเรียกว่าเฝ้าศีลได้ เพราะอยู่บ้าน คุกเข่าสวด อ่านหนังสือศรัทธา อ่านพระคัมภีร์ทุกเช้า
      ต่อหน้าไม้กางเขน พระเยซูเจ้า แม่พระ คุยกับพระองค์ ตอบ 2 ข้อในข้อเดียวแล้วกัน ไม่เคยเฝ้าทั้งคืนคะ
      ที่นานสุดน่าจะเป็นที่ไปกลางดง น่าจะสัก 3 ชม. ไม่น่าเกินกว่านี้ 
     
      เรื่องเชื่อการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท นี่ เชื่อมากๆเลย
      ตั้งแต่เราเดินเข้าวัดเลยนะคะ เป็นความอบอุ่นใจ ยิ่งตอนรับศีลมา ของพี่จะคล้ายๆน้องเจน
      สังเกตว่าถ้าช่วงไหนเรามีความคิดสับสน ไม่สบายใจ เป็นช่วงที่"ทุกข์ยากในความอ่อนแอของตัวเอง" ขอใช้คำนี้เพราะในขณะที่เรารู้สึก
      อ่อนล้า สับสน เราเองก็ทุกข์ไปกับความอ่อนแอของเราด้วย จะมีความรู้สึกว่าลูกอยากได้กำลังใจ อยากรับยารักษา การเยียวยาจากพระองค์
      แผ่นศีลที่รับมานี่จะหนามากๆ เหมือนมีสัก 2 แผ่นติดกัน (ซึ่งไม่ทีทางเป็นไปได้) จะค่อยๆละลายอย่างช้าๆ ขนาดบางครั้งคุกเข่าสวด
      จนผ่านภาคปิดพิธี ผ่านบทสวดภาวนาแม่พระนิจจานุเคราะห์ไปแล้ว คนอื่นทะยอยออกจากวัดแล้ว พี่ก็ยังคุกเข่าสวดอยู่....

      อย่างหลังจะหลั่งนำ้ตามากกว่านะ  โอกาสที่เราจะเฝ้าศีลแบบมีภาคพิธีด้วยก็จะไม่บ่อย แต่ถ้าเฝ้าศีลบ่อยๆ
      ติดๆกันหลายวัน ตลอดช่วงมหาพรตนี่ ถือว่าประทับใจมากๆ 

      อยากสวดนานๆ ไม่อยากไปไหน อยากเข้าไปอยู่ในอารามแต่ทำไม่ได้ เพราะใจไม่เด็ดขาดพอ เรายังไม่สะอาดพอ
      สับสนในความคิดของตัวเอง กลับไปกลับมา แต่พอใช้เวลาค่อยๆคิด ก็ได้รับการรักษาจากพระองค์นะคะ จะว่าอิ่ม ก็ยังไม่เชิง เพราะพี่
      รู้สึกว่าเราเป็นคนบาปเหลือเกิน แต่ทำให้มีกำลังกลับคืนสู่โลกได้ เป็นที่ปรึกษาให้ใครๆได้ เหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น
     
      ถ้าช่วงที่หนักๆมากๆ ไปวัดบ่อยๆ ถี่ๆ เพื่อให้เราใช้เวลาอยู่กับพระนานๆ ก็จะไป พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เลย เตือนแกมบังคับ
      ให้ตัวเราอยู่ในร่องในรอยมากขึ้น แก้บาป แล้วรับศีล แผ่นศีลจะบางเฉียบ ละลายบนลิ้นอย่างรวดเร็ว เดินกลับมายังไม่ถึงที่นั่ง.....
      ....หมดแล้ว 
      คุกเข่าสวดขอบพระคุณ วันนั้นมีความสุขมากๆ ไม่อยากกินข้าวกินนำ้เลย ไม่อยากให้รสศีลในปากเลือนไป 

      ขอบคุณน้องส้มนะคะ ที่ให้โอกาสในการแบ่งปัน 
     

ผมเฝ้าศีลครับ

เฝ้าที่วัดที่เข้าประจำส่วนใหญ่ครับ ใช้เวลาไม่ค่อยเกิน 10 นาที เพราะว่าคุยกับพระแบบตรง ๆ มากกว่า (ก็เลยเร็ว)

เฝ้าประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ครับ

ไม่เคยแบบทั้งคืน แต่คิดว่าน่าสนใจนะครับ

เชื่อในการประทับอยู่ของพระองค์ในศีลมหาสนิท 100% ครับ

ชอบเฝ้าศีลแบบส่วนตัวอ่ะครับ ไม่ชอบแบบเป็นแพทเทริน ผมว่าการที่เราเฝ้าศีลก็เหมือนคุยกับพระตรง ๆ มากกว่า

สวดหลังรับศีลครับ ขอบคุณพระ แต่คิดว่าไม่พอครับ ดังนั้น เวลาธรรมดาในชีวิตประจำวันจะภาวนามาก ๆ แทนครับ (โดยเฉพาะแม่พระ)

ใครเฝ้าศีลบ้าง  ยกมือขึ้น   ::013::



ยก


เฝ้าที่ไหนคะ
-----อาราม ไม่ก็วัดพระจิต ไม่ก็อัสสัมชัญค่ะ

แต่ละครั้งใช้เวลานานเท่าไหร่  และไปทำอะไรบ้างในช่วงเวลานั้น
----- เอ อันนี้ก็จำไม่ได้เหมือนกันนะคะว่านานเท่าไหร่ เเต่ถ้าจะไปก็จะ สวดสายประคำ, พูดไปเรื่อยๆ ในกรณีที่ไม่ทุกข์ร้อน,
ขอบคุณพระหากได้อะไรดีๆ, ขอโทษพระหากทำอะไรผิดไป, ถามพระเมื่อต้องการคำตอบ (เเล้วไปเปิดพระคัมภีร์ที่หลัง),
ร้องเพลงเบาๆ หากไม่มีคนเเถวนั้น, นั่งร้องไห้ถ้าวันไหนเเปรปรวนจัด, นั่งเฉยๆ ประมาณว่าอยู่ใกล้พระก็โอเเล้ว

เฝ้าบ่อยแค่ไหน  (กี่ครั้งต่อสัปดาห์)
-----ไม่เป็นระบบระเบียบอ่าค่ะ เเล้วเเต่โอกาส

เคยเฝ้าศีลมหาสนิททั้งคืนหรือไม่ (อันนี้ถามเอาความอึด  ไม่ได้ซีเรียสค่ะ)
-----ไม่เคยอ่าค่ะ ตอนเเรกกะจะอยู่เฝ้าเมื่อสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านมา เเต่ประตูวัดก็กำลังจะปิด เลยกลับก่อน

เชื่อการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทแค่ไหน  (อาจลองเล่าเป็นประสบการณ์  หรือบทสนทนากับพระองค์  หรืออะไรก็ได้ที่อยากแบ่งปันค่ะ)
----- ยังเชื่อได้อีกเจ้าค่ะ ไม่เชื่ออะไรไปมากกว่านี้เเล้ว(ยกเว้นเรื่องการฟื้นคืนชีพฯลฯ) ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะว่าทำไมถึงเชื่อ
เเต่เป็นความรู้สึกมากกว่าว่าพระองค์อยู่ที่นั่นจริงๆ ถึงข้าพเจ้าจะเเวะเวียนไปอารามบ่อย เเละขนเศษศีล(เศษปังส่วนเกินที่ตัดออกตอนทำเเผ่นศีล)
มากินเปรียบดั่งอาหารเที่ยง เเต่ในตอนนั้น รู้สึกว่ามันก็คือเเผ่นปังเฉยๆ เเต่ในพิธีมิสซาไม่ใช่
บางครั้งวันไหนไม่ตั้งใจมิสซาเเผ่นศีลจะอุ่น วันไหนจะรีบร้องเพลงเเละรีบกลืน เเผ่นศีลกลับติดเพดานบน กลืนไม่ลงเเทน (เเทบจะทุกครั้งที่รีบ)
ทำให้เราสำนึกได้ว่า อืมส์...เรายังตั้งใจไม่พอนะ....

ระหว่างเฝ้าศีลที่อยู่ในตู้ศีล  กับเฝ้าศีลที่มีการตั้และอาจมีการอวยพรศีลมหาสนิทตอนท้าย  แบบไหนที่รู้สึกถึงการประทับอยู่ของพระเป็นเจ้ามากกว่ากัน  (ตอบตามความรู้สึกนะคะ  ไม่ต้องตอบตามเทววิทยา)
-----เอาความรู้สึกนะคะ เท่ากันค่ะ ต่างไปเเค่สถานที่ ว่า ตอนนี้พระองค์อยู่ที่ไหน เเต่เปอร์เซนต์ความยำเกรงจะเพิ่มขึ้นหากมาอยู่บนพระเเท่น
เพราะเรามองเห็นพระกายชัดกว่าเดิม...ส่วนการอวยพรจะรู้สึกเหมือนพระองค์เปลี่ยนจากประทับเฉยๆ เป็นลุกขึ้นอวยพร

หลังการรับศีลมหาสนิทแล้ว  การสวดหลังรับศีลคิดว่า  พอหรือไม่  หมายความว่า  อยากสวดเพิ่มมั้ย  อิ่มมั้ย
-----เเล้วเเต่กรณีค่ะ ถ้าเราไปเป็นผู้ร่วมมิสซา พอรับศีลก็จะกลับมาสวดได้พอ เเต่เมื่อเราไปในฐานะนักขับร้อง เราต้องรีบไปรับศีลก่อนคนอื่น
เเละรีบกลับมาร้องต่อ หรือไม่ก็รับหลังคนอื่น เเละเวลาสวดก็จะน้อยลง เพราะคุณพ่อจะเริ่มปิดพิธีเเล้ว ทั้งหมดทำไปด้วยความรีบเร่ง
จึงขอเเค่มีเวลาสงบจิตสงบใจ เเล้วมาสวดหลังจบพิธีเเทน
อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าคิดว่าศีลมหาสนิทไม่ได้จบเเค่ในมิสซา ถึงเราเดินออกมาจากวัดเราก็ยังมีเเผ่นศีลอยู่ในเรา (อย่างน้อยก็ก่อนย่อย)
ดังนั้น ถามว่าอิ่มไหมก็คงอิ่มเจ้าค่ะ

(ก็อป คห.บน) 



เฝ้าที่ไหนคะ 

เฝ้าที่วัดคะ เคยเฝ้าที่บ้าน แต่คุณพ่อบอกว่า เฝ้าที่วัดจะเหมาะกว่า


แต่ละครั้งใช้เวลานานเท่าไหร่  และไปทำอะไรบ้างในช่วงเวลานั้น

ประมาณ 10-20 นาที บางครั้งก็เฝ้าตามวันในหนังสือ บางทีก็ใช้พูดแบบตรงไปตรงมากับพระ บางโอกาศก็มองพระองค์นิ่งๆ เฉยๆ เหมือนอยู่กับคนที่เรารักแม้ไม่ต้องพูดอะไรก็รู้สึกดีดีได้มากมาย


เฝ้าบ่อยแค่ไหน  (กี่ครั้งต่อสัปดาห์)

กำหนดไม่ได้คะ ถ้าไม่มีอะไรมาวุ่นวาย ก็จะพยายามเฝ้าพระองค์


เคยเฝ้าศีลมหาสนิททั้งคืนหรือไม่ (อันนี้ถามเอาความอึด  ไม่ได้ซีเรียสค่ะ)

ไม่เคยคะ ไม่อึด


เชื่อการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทแค่ไหน  (อาจลองเล่าเป็นประสบการณ์  หรือบทสนทนากับพระองค์  หรืออะไรก็ได้ที่อยากแบ่งปันค่ะ)

เชื่อ 100% เชื่อว่าพระองค์ประทับ และรอคอยเราเสมอ


ระหว่างเฝ้าศีลที่อยู่ในตู้ศีล  กับเฝ้าศีลที่มีการตั้งและอาจมีการอวยพรศีลมหาสนิทตอนท้าย  แบบไหนที่รู้สึกถึงการประทับอยู่ของพระเป็นเจ้ามากกว่ากัน  (ตอบตามความรู้สึกนะคะ  ไม่ต้องตอบตามเทววิทยา)

ถ้าแบบรู้สึกได้คือแบบที่ 2 เพราะเห็นเป็นเรื่องเป็นราว แต่อย่างไรก็ตามความรู้สึกถึงการประทับอยู่ รู้สึกได้ทั้ง 2 แบบ


หลังการรับศีลมหาสนิทแล้ว  การสวดหลังรับศีลคิดว่า  พอหรือไม่  หมายความว่า  อยากสวดเพิ่มมั้ย  อิ่มมั้ย

ก็อยากสวดเพิ่ม แต่บางทีมีภาระหน้าที่ที่ต้องเตรียมในขณะนั้นจึงทำให้สวดได้น้อยลง บางครั้งหลังรับศีลมีการประกาศอะไรมากมายก็วอกแวกอีก

(ยกมือด้วยคนค่ะ )

เฝ้าที่ไหนคะ
- ที่วัด แต่ไม่ประจำที่ใดที่หนึ่ง ถ้าผ่านหน้าวัดเห็นประตูเปิดก็จะเข้าไปเฝ้าค่ะ

แต่ละครั้งใช้เวลานานเท่าไหร่  และไปทำอะไรบ้างในช่วงเวลานั้น
- ไม่แน่นอนค่ะ เพราะบางทีเข้าไปและบอกพระองค์ว่าลูกแวะมาหา เดี๋ยวจะต้องไป...(บอกสถานที่หรือเล่าเรื่องต่างๆ) แล้วก็ออกมา คงจะประมาณ 10-15 นาที  หรือถ้ามีปัญหาทุกข์ใจ เสียใจ ฯลฯ ก็จะไปนั่งร้องไห้ แล้วอยู่เงียบๆ กับพระองค์จนกว่าจะสบายใจค่ะ

เฝ้าบ่อยแค่ไหน  (กี่ครั้งต่อสัปดาห์)
- แล้วแต่โอกาส  จริงๆ อยากไปเฝ้าบ่อยๆ ค่ะ

เคยเฝ้าศีลมหาสนิททั้งคืนหรือไม่ (อันนี้ถามเอาความอึด  ไม่ได้ซีเรียสค่ะ)
- ไม่เคยค่ะ

เชื่อการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทแค่ไหน  (อาจลองเล่าเป็นประสบการณ์  หรือบทสนทนากับพระองค์  หรืออะไรก็ได้ที่อยากแบ่งปันค่ะ)
- เชื่อแบบไม่ลังเล สงสัยเลยค่ะ  อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน  เคยมีครั้งหนึ่ง ตอนนั้นยังไม่ได้ล้างบาป แต่เริ่มเรียนคำสอนได้สักพักแล้ว ก็เกิดปัญหาที่กดดันเรามากๆ หาทางออกไม่ได้  เดินไปร้องไห้ไปผ่านหน้าวัดฟาติมา  ไม่รู้จะไปไหน มันสับสนมาก เลยเข้าไปนั่งร้องไห้หน้าตู้ศีล ในใจคิดแต่ว่าจะทำยังไงดี จะแก้ปัญหายังไงดี...คิดวนไปวนมา  แล้วจู่ๆ ก็มีลมพัดเบาๆ มาที่ตัวจนสัมผัสได้  ปัญหาที่หนักใจเมื่อสักครู่ก็หายไปเลย...หายไปแบบ

คุณพ่อยอห์น ซัลลิสดริน คณะซาเลเซียน(ตอนนี้อยู่ที่หาดใหญ่) เคยเป็นพยานในการเทศน์ถึงกษัตริย์กุสต๊าฟ (อาจจะจำพระนามผิด แต่เอาเป็นว่ากษัตริย์จากยุโรปเหนือที่เป็นคาทอลิก)ตอนที่เสด็จมางานในหลวงแล้วเสด็จไปพัทยา พระองค์ได้ไปมิซซา คุณพ่อหรือใครสักคนนี่แหละจำไม่ได้แล้วถามพระองค์ว่า พระองค์เชื่อจริงๆเหรอว่าพระเยซูเจ้าทรงประทับในแผ่นศีล พระองค์ตอบชัดถ้อยชัดคำว่า
"yes, I do believe"
อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกับกระทู้นัก แต่ก็อยากแบ่งปันเรื่องความเชื่อในการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในแผ่นศีล

ใครเฝ้าศีลบ้าง  ยกมือขึ้น 


ไม่ต้องตอบตามเทววิทยา

เฝ้าที่ไหนคะ
วัด,วัดน้อย,อาราม

แต่ละครั้งใช้เวลานานเท่าไหร่  และไปทำอะไรบ้างในช่วงเวลานั้น
(i)ครึ่งชั่วโมงขึ้นไป
(ii)ทำวัตร หรือ สวดภาวนาตามวัน (หรือถ้าไปค้นเจอเอกสารอะไรที่เกี่ยวข้องและพกไปก็จะตามนั้น)

เฝ้าบ่อยแค่ไหน  (กี่ครั้งต่อสัปดาห์)
อาทิตย์ละครั้ง(บางครั้งติดภาระกิจก็จะไม่ได้เฝ้าเลย)
*ถ้าว่างจัด 7 ครั้ง/สัปดาห์(ช่วงมหาพรต)
ที่แน่ๆ 4 สัปดาห์ครั้ง(1เดือน) เป็น มาตรฐาน ทุกศุกร์ต้นเดือน

เคยเฝ้าศีลมหาสนิททั้งคืนหรือไม่
เคย (แต่ไม่แนะนำ ถ้าไม่ได้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ เมื่องั้น หลับคา!)

เชื่อการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทแค่ไหน
เชื่อ
ถ้าให้แบ่งปันรึ?ขอให้ในทุกครั้งที่ร่วมพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ ทุกๆคำ ทุกๆการกระทำ ตั้งแต่ต้นจนจบจงจดจ่อและเข้าใจ ในองค์พระเยซูคริสตเจ้า "พระเจ้าและพระผู้ไถ่ผู้ประทับอยู่ในศีลมหาสนิทบนพระแท่น" ก็พอ

ระหว่างเฝ้าศีลที่อยู่ในตู้ศีล  กับเฝ้าศีลที่มีการตั้งและอาจมีการอวยพรศีลมหาสนิทตอนท้าย  แบบไหนที่รู้สึกถึงการประทับอยู่ของพระเป็นเจ้ามากกว่ากัน 

รู้สึกทั้งสองไม่มากน้อยไปกันกว่ากัน
*แต่สนับสนุนแบบที่ 2 เพราะช่วยยกจิตพี่น้องไปด้วยกัน

หลังการรับศีลมหาสนิทแล้ว  การสวดหลังรับศีลคิดว่า  พอหรือไม่  หมายความว่า  อยากสวดเพิ่มมั้ย  อิ่มมั้ย

ไม่พอ
โดยมากจะสวดจนกว่า พระสงฆ์จะพูดว่า "ให้เราภาวนา(เชิญยืน)" หรือไม่ก็คุกเข่าอยู่อย่างนั้น คิดอะไรเรื่อยๆ
โดยส่วนตัว,สวดเพิ่มด้วยเพราะต้องอุทิศให้ผู้คนต่างๆที่รู้จัก คนละสาย ทั้งสวดพระเมตตา หรือสวดพิเศษอื่นๆ


แบ่งปันตามเทววิทยา

เราสามารถสัมผัสได้ถึง"พระผู้ประทับอยู่ในศีลมหาสนิทบนพระแท่น"ทุกครั้งที่มิสซา
แน่นอนว่าทรงลงมาประทับทุกครั้ง และพระศาสนาจักรรื้อฟื้นความสำคัญนี้เสมอในบทพิธีกรรม(แต่ละวัน)และในเทศกาลสมโภชพระคริสตกายา(Corpus Christi)

"โปรดทรงพระกรุณาส่งพระจิตเจ้า มาบันดาลให้ปังและเหล้าองุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนเป็นพระกาย และพระโลหิตของพระเยซูคริสตเจ้า สำหรับข้าพเจ้าทั้งหลาย"


แถมๆ(สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน)

มีอะไรในวันสมโภชพระคริสตกายา(Corpus Christi)
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=8310.0

มีอะไรใน"พิธีบูชาขอบพระคุณ(มิสซา)"
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... 88#p112488

ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะ  ที่แบ่งปัน  เดี๋ยวจะสรุปและประเมินผลนะคะ แต่ขอรอจำนวนกลุ่มตัวอย่างให้เยอะกว่านี้หน่อย จะได้สรุปได้ดีนิดนึง

แต่จากที่อ่านมา  ทุกคนมีความกระหายพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท  เชื่อในการประทับอยู่ของพระองค์  และมีประสบการณ์ในพลังแห่งศีลมหาสนิทในการเยียวยารักษา  ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ  และก็สถานที่เฝ้าศีลก็ไม่ได้หายากเกินไป  (ในกรุงเทพฯ)  ไม่รู้ต่างจังหวัดเป็นยังไง

อันนี้เป็น Eucharistic Healing Service ของ Fr. Kevin Scallon, CM  (ซึ่งที่จริง  พระสงฆ์องค์ไหนก็ทำได้นะคะ )  ถ้ามีประสบการณ์แบบนี้ ภาพที่เห็นก็ไม่รู้สึกแปลก สะดุด หรือเวอร์ อะไรใช่มั้ยคะ

Buddy เขียน: ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะ  ที่แบ่งปัน  เดี๋ยวจะสรุปและประเมินผลนะคะ แต่ขอรอจำนวนกลุ่มตัวอย่างให้เยอะกว่านี้หน่อย จะได้สรุปได้ดีนิดนึง

แต่จากที่อ่านมา  ทุกคนมีความกระหายพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท  เชื่อในการประทับอยู่ของพระองค์  และมีประสบการณ์ในพลังแห่งศีลมหาสนิทในการเยียวยารักษา  ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ  และก็สถานที่เฝ้าศีลก็ไม่ได้หายากเกินไป  (ในกรุงเทพฯ)  ไม่รู้ต่างจังหวัดเป็นยังไง

อันนี้เป็น Eucharistic Healing Service ของ Fr. Kevin Scallon, CM  (ซึ่งที่จริง  พระสงฆ์องค์ไหนก็ทำได้นะคะ )  ถ้ามีประสบการณ์แบบนี้ ภาพที่เห็นก็ไม่รู้สึกแปลก สะดุด หรือเวอร์ อะไรใช่มั้ยคะ

Fr. Kevin Scallon, CM
คณะมิชชั่น Congregation of Mission  รึ

ผมว่าการรับศีลอย่างถูกต้องดีที่สุดคับบ

Dominus Deus_Win เขียน: ผมว่าการรับศีลอย่างถูกต้องดีที่สุดคับบ

ไม่ต้องมานั่งเฝ้าศีล  หมายความแบบนี้รึเปล่าคะ

ถามเพิ่มนะคะ  แล้วมีใครอ่านหรือใช้คู่มือเฝ้าศีล ของนักบุญ อัลฟอนโซ บ้างมั้ยคะ  หรือใช้หนังสืออื่นๆในการเฝ้าศีลค่ะ

พระอวยพรค่ะ

ปกติไม่ค่อยใช้หนังสืออ่าค่ะ ยกเว้นวันไหนมีพระคัมภีร์ติดมือไปด้วย

Man of Macedonia เขียน: Fr. Kevin Scallon, CM
คณะมิชชั่น Congregation of Mission  รึ

Vincentian Community ค่ะ  ไม่รู้ว่าย่อมายังไงเหมือนกันค่ะ  พ่อเกิดที่ไอร์แลนด์  และก็ไปเป็นมิสชันนารีที่อังกฤษกับไนจีเรีย  ตอนนี้ทำ Intercession for Priests  www.intercessionforpriests.org

ว้าว....หลายคำถามดีจังหนูส้ม

ที่วัดค่ะ 
ก็น่าจะครึ่งชั่วโมงน่ะค่ะ
อาทิตย์ละครั้ง ตอนไปวัดโดยประมาณ ระหว่างสัปดาห์เมื่อมีเวลาว่างทุกเวลา ก็คุยกับพระเยซูเจ้า
ไม่เคยเลยค่า
เชื่อหมดหัวใจเลยค่ะ ส่วนประสบการณ์ ก็คือมีอยู่ครั้งหนึ่งพี่ เฝ้าแบบไม่สวด ไม่พูดอะไรเลย ได้แต่จ้องมองไปที่ประทับของศีลมหาสนิท แล้วก็คิดถึงแต่ความรักของพระองค์ ปรากฏว่า พี่รู้สึกถึงความอบอุ่น สันติสุขลึกๆในใจ และนั้นก็ป็นครั้งแรกและครั้งเดียวตั้งแต่เคยเฝ้าศีลมา เพราะส่วนใหญ่หลังจากการเฝ้าศีล พี่จะรู้สึกถึงความสดชื่นสบายใจมากกว่า
สำหรับพี่ความรู้สึกถึงการประทับอยู่ของพระองค์ไปว่าที่ไหน ก็เท่าๆกันน่ะค่ะ แต่พี่จะตื่นเต้นเวลาเห็นศีลมหาสนิทที่ถูกเชิญออกมาจากตู้ศีลซะมากกว่า ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
ปกติไม่เคยสวดหลังศีลเลยค่ะ เพราะที่ผ่านมาเป็นนักร้องค่ะ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะขอบคุณพระองค์และก็สนทนากับพระองค์ ไม่เคยสวดตามแบบภาวนาอ่ะ เท่าที่เวลาจะอำนวยค่ะ

ก่อนวันคริสต์มาสสิคับ สุดยอดเลยคับบ 

Dominus Deus_Win เขียน: ก่อนวันคริสต์มาสสิคับ สุดยอดเลยคับบ 

เเถววันปัสกา ได้ฟีลกว่า

+Ecclēsia เขียน:

Dominus Deus_Win เขียน: ก่อนวันคริสต์มาสสิคับ สุดยอดเลยคับบ 

เเถววันปัสกา ได้ฟีลกว่า

ให้ใจไปหม๊ดเลย......

kyrie เขียน: แต่พี่จะตื่นเต้นเวลาเห็นศีลมหาสนิทที่ถูกเชิญออกมาจากตู้ศีลซะมากกว่า ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน

ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะ    ตอนรับศีลก็ตื่นเต้นเหมือนกัน 

เล่าให้ฟังค่ะ  ...  วันนี้ในวัดน้อย  เจอผู้หญิง ๒ คน  แต่งตัวชุดประจำชาติทางแอฟริกา  มาที่วัดน้อย  เข้าไปหมอบกราบที่ตู้ศีลอยู่นานมาก  และก็ไปจูบที่ตู้ศีล  เป็น act of adoration ที่น่ารักมากๆเลย  เห็นแล้วน่ารักดี  ขอบคุณพระที่ให้ได้เห็น 

คำว่า corpus dominus คืออะไร!!

--- เขียน: คำว่า corpus dominus คืออะไร!!

corpus dominus Properly corpus domini, "the Lord's body" (Words of the Host 435).

(ที่มา : http://www.ronaldecker.com/glossary.htm)