+ ไม่เข้าใจคนพวกนี้เลยจริงๆ +
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2008 12:23 am
พวกที่ว่า
"ทำไมผมเชื่อพระเจ้าแล้วชีวิตเจอแต่ปัญหา พระเจ้าอยู่ที่ไหนทำไมไม่ฟังคำขอร้องของผม"
หรือ
"เชื่อพระเจ้ามา 5 ปีแล้วอะค่ะ กำลังจะเลิกเชื่อแล้วเพราะเหมือนพระองค์ไม่เคยตอบคำภาวนาเลย ชีวิตไม่เคยดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆที่ไม่เชื่อพระเจ้าเลยค่ะ"
หรือ
"นับถือพระเจ้าแล้วดีนะ จะได้ตายดีๆ"
หรือที่แย่และเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยพบพานเลยก็คือ
"วันก่อนเอาเงินที่จะต้องถวายสิบลดมาใช้ ปรากฏว่าขับรถออกไปยางรถแตกเลย ซวยทั้งวันเลยวันนั้น" !!!!!
คือผมไม่เข้าใจเค้าครับ ว่าที่คนพวกนี้มานับถือพระเจ้าเนี๊ยะนับถือเพราะอะไร? เพราะอยากรวย? อยากมีชีวิตที่สุขสบาย? หรืออยากมีบารมีให้คนกราบไหว้บูชา? ขอโทษทีนะครับอยากให้ดูพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ครับ ต้นแบบคริสตชนชายหญิงที่ควรเอาแบบอย่างและเป็นต้นกำเนิดของคริสต์ศาสนา ดูซิ๊ว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง
ท่านรวยมั้ยครับ ...ขอโทษทีครับสุดจะจนเลย
ท่านสุขสบายมั้ยครับ... เอ่อ..ท่านต้องทรมาณและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนนะครับ
ท่านยกตัวเองให้คนกราบไหว้ไหมครับ... ท่านล้างเท้าให้สานุศิษย์ครับ
แล้วผมงงมากๆว่าอะไรที่ทำให้เค้าคิดว่านับถือพระเจ้าแล้วจะรวย ชีวิตจะไร้ปัญหา..... ทั้งๆที่พระคำภีร์ก็บอกอยู่ทนโท่ว่า
ลูกา 14:27
ผู้ใดมิได้แบกกางเขนของตนตามเรามาผู้นั้นจะเป็นสาวกของเราไม่ได้..
นั่นหมายถึงบอกใว้ก่อนเลยว่า มาเป็นคริสชนนั้นต้องเจอกับความทุกข์ยากลำบาก และปัญหา แต่สิ่งที่เราหวังเราไม่ได้หวังในโลกนี้ แต่เราหวังในโลกหน้าต่างหาก
สิ่งที่ท่านจะมีและเราจะได้รับแน่นอน 100% เลยก็คือ "ความสุข" ในวิญญาณ นี่คือสิ่งที่พระองค์จะประทานให้พวกเราอย่างแน่นอน ขอเพียงแต่พวกเราต้องมองเห็นพระพรที่ซ่อนอยู่
ปัญหาและอุปสรรค์ในชีวิตนั้นทำให้เราใกล้ชิดกับพระองค์มากขึ้น ทำให้เราไม่ทิ้งพระและห่างจากพระเพราะความสุขสบายทางโลก พระคาร์ดินัลไมเคิลมีชัยเคยกล่าวใว้ว่า "ทุกคนที่เคบประสบกับชีวิตที่ล้มเหลว และมีแต่อุปสรรค ความสุขยากลำบากนั้น ให้รู้ใว้เถอะว่า ชีวิตของท่านเป็นที่โปรดปราณของพระเป็นเจ้า " ตึง!!...นักปราชญ์หรือความฉลาดฝ่ายโลก งง เลยครับ อะไรวะ?ชีวิตย่ำแย่อย่างนั้นพระเจ้าจะรักได้ไง นั่นมันชีวิตที่ถูกพระเจ้าสาปแช่งต่างหากเล่า!! ดังนั้นใครที่เคยคิดแบบนี้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่นะครับ เพราะท่านไม่ได้คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์
1 โครินธ์ 1:18-20
คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่แต่พวกเราที่กำลังจะรอดเห็นว่าเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าเราจะทำลายสติปัญญาของคนมีปัญญาและจะทำให้ความฉลาดของคนฉลาดสูญสิ้นไป คนมีปัญญาแห่งยุคนี้อยู่ที่ไหนบัณฑิตแห่งยุคนี้อยู่ที่ไหนนักโต้ปัญหาแห่งยุคนี้อยู่ที่ไหนพระเจ้าได้ทรงกระทำปัญญาของโลกให้โฉดเขลาไปแล้ว..
มีแต่คนที่มีความสุภาพถ่อมตน และมีความรัก เท่านั้นที่จะได้สัมผัสความความสุขที่แท้จริงที่พระเจ้าประทานใหผ่านทางความยากลำบากในชีวิต ซึ่งความทุกข์เป็นกำแพงที่มิอาจทำลายได้ที่กันเราใว้จากความสุขภายใน มีเพียงความสุภาพถ่อมตนและความรักเท่านั้นที่จะพังทลายกำแพงนี้และให้เราได้พบความความสุขที่แท้จริงได้ ซึ่งเป็นความสุขที่ไม่เหมือนโลกให้ เป็นความสุขนิรันดร์ที่ไม่มีใครแม้แต่พญามารจะพรากไปจากเราได้นิรันดร์
"ทำไมผมเชื่อพระเจ้าแล้วชีวิตเจอแต่ปัญหา พระเจ้าอยู่ที่ไหนทำไมไม่ฟังคำขอร้องของผม"
หรือ
"เชื่อพระเจ้ามา 5 ปีแล้วอะค่ะ กำลังจะเลิกเชื่อแล้วเพราะเหมือนพระองค์ไม่เคยตอบคำภาวนาเลย ชีวิตไม่เคยดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆที่ไม่เชื่อพระเจ้าเลยค่ะ"
หรือ
"นับถือพระเจ้าแล้วดีนะ จะได้ตายดีๆ"
หรือที่แย่และเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยพบพานเลยก็คือ
"วันก่อนเอาเงินที่จะต้องถวายสิบลดมาใช้ ปรากฏว่าขับรถออกไปยางรถแตกเลย ซวยทั้งวันเลยวันนั้น" !!!!!
คือผมไม่เข้าใจเค้าครับ ว่าที่คนพวกนี้มานับถือพระเจ้าเนี๊ยะนับถือเพราะอะไร? เพราะอยากรวย? อยากมีชีวิตที่สุขสบาย? หรืออยากมีบารมีให้คนกราบไหว้บูชา? ขอโทษทีนะครับอยากให้ดูพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ครับ ต้นแบบคริสตชนชายหญิงที่ควรเอาแบบอย่างและเป็นต้นกำเนิดของคริสต์ศาสนา ดูซิ๊ว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง
ท่านรวยมั้ยครับ ...ขอโทษทีครับสุดจะจนเลย
ท่านสุขสบายมั้ยครับ... เอ่อ..ท่านต้องทรมาณและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนนะครับ
ท่านยกตัวเองให้คนกราบไหว้ไหมครับ... ท่านล้างเท้าให้สานุศิษย์ครับ
แล้วผมงงมากๆว่าอะไรที่ทำให้เค้าคิดว่านับถือพระเจ้าแล้วจะรวย ชีวิตจะไร้ปัญหา..... ทั้งๆที่พระคำภีร์ก็บอกอยู่ทนโท่ว่า
ลูกา 14:27
ผู้ใดมิได้แบกกางเขนของตนตามเรามาผู้นั้นจะเป็นสาวกของเราไม่ได้..
นั่นหมายถึงบอกใว้ก่อนเลยว่า มาเป็นคริสชนนั้นต้องเจอกับความทุกข์ยากลำบาก และปัญหา แต่สิ่งที่เราหวังเราไม่ได้หวังในโลกนี้ แต่เราหวังในโลกหน้าต่างหาก
สิ่งที่ท่านจะมีและเราจะได้รับแน่นอน 100% เลยก็คือ "ความสุข" ในวิญญาณ นี่คือสิ่งที่พระองค์จะประทานให้พวกเราอย่างแน่นอน ขอเพียงแต่พวกเราต้องมองเห็นพระพรที่ซ่อนอยู่
ปัญหาและอุปสรรค์ในชีวิตนั้นทำให้เราใกล้ชิดกับพระองค์มากขึ้น ทำให้เราไม่ทิ้งพระและห่างจากพระเพราะความสุขสบายทางโลก พระคาร์ดินัลไมเคิลมีชัยเคยกล่าวใว้ว่า "ทุกคนที่เคบประสบกับชีวิตที่ล้มเหลว และมีแต่อุปสรรค ความสุขยากลำบากนั้น ให้รู้ใว้เถอะว่า ชีวิตของท่านเป็นที่โปรดปราณของพระเป็นเจ้า " ตึง!!...นักปราชญ์หรือความฉลาดฝ่ายโลก งง เลยครับ อะไรวะ?ชีวิตย่ำแย่อย่างนั้นพระเจ้าจะรักได้ไง นั่นมันชีวิตที่ถูกพระเจ้าสาปแช่งต่างหากเล่า!! ดังนั้นใครที่เคยคิดแบบนี้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่นะครับ เพราะท่านไม่ได้คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์
1 โครินธ์ 1:18-20
คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่แต่พวกเราที่กำลังจะรอดเห็นว่าเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าเราจะทำลายสติปัญญาของคนมีปัญญาและจะทำให้ความฉลาดของคนฉลาดสูญสิ้นไป คนมีปัญญาแห่งยุคนี้อยู่ที่ไหนบัณฑิตแห่งยุคนี้อยู่ที่ไหนนักโต้ปัญหาแห่งยุคนี้อยู่ที่ไหนพระเจ้าได้ทรงกระทำปัญญาของโลกให้โฉดเขลาไปแล้ว..
มีแต่คนที่มีความสุภาพถ่อมตน และมีความรัก เท่านั้นที่จะได้สัมผัสความความสุขที่แท้จริงที่พระเจ้าประทานใหผ่านทางความยากลำบากในชีวิต ซึ่งความทุกข์เป็นกำแพงที่มิอาจทำลายได้ที่กันเราใว้จากความสุขภายใน มีเพียงความสุภาพถ่อมตนและความรักเท่านั้นที่จะพังทลายกำแพงนี้และให้เราได้พบความความสุขที่แท้จริงได้ ซึ่งเป็นความสุขที่ไม่เหมือนโลกให้ เป็นความสุขนิรันดร์ที่ไม่มีใครแม้แต่พญามารจะพรากไปจากเราได้นิรันดร์