หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 20, 2005 8:52 am
โดย Andreas
รูปภาพ รูปภาพ

เมื่อวันเสาร์ที่แล้วได้ชมรายการเหนือธรรมชาติทางช่องโมเดิร์นไน เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ผ้าตราสังแห่งตุริน ซึ่งเชื่อว่าเคยใช้ห่อหุ้มพระวรกายของพระเยซูเจ้าหลังจากที่ทรงถูกตรึงกางเขนจนสิ้นพระชนม์ ซึ่งในรายการนี้พยายามนำเสนอข้อมูลจากนักวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ว่าเป็นภาพที่ทำขึ้นมาในยุคกลาง ซึ่งผมเองก็เห็นภาพพระพักตร์ของพระเยซูเจ้าที่ผ้าตราสังนั้น เหมือนกับภาพที่อยู่บนปกหนังสือชีวิตแท้ในพระเจ้า ของวาสุลา ไรเด็น ซึ่งผมก็ได้เข้าไปในเวปไซต์ www.tlig.org ในหัวข้อ http://www.tlig.org/shroud.html ก็ได้พบคำอธิบายถึงผ้าตราสังนั้น โดยพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ทรงตรัสถึงผ้าตราสังนั้นว่า
"Let it be known that any image of Mine or of My Mother is to be honoured, for it represents Us, as My Cross is representing Me. Let it be known that My Holy Shroud is indeed authentic; It is the same that covered Me. "
(Jesus spoke to Vassula of the Shroud in 1987:)

ผมเองก็ไม่ถนัดเรื่องแปลเท่าไรนัก แต่พอเดา ๆ ได้ว่าพระเยซูเจ้าทรงบอกว่าผ้าตราสังแห่งตุรินนี้เหมือนกับผ้าตราสังที่ใช้ห่อหุ้มพระวรกายของพระองค์

Re:ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 20, 2005 8:56 am
โดย Andreas
Some recent scientific developments

TURIN, Italy, MAY 10, 2001 - The Shroud of Turin has bloodstains on its reverse side, indicating that the image of the man it bears was not copied, a new study indicates.

The shroud, widely believed to have been the burial cloth of Jesus, was subjected to new scanning techniques last November, and results of the tests were first scrutinized by a symposium of scientists. Cardinal Severino Spoletto, archbishop of Turin, released the news of the tests.

In 1534, two years after a fire damaged the shroud, Poor Clare nuns added a linen lining to the cloth to mend the damage. That allowed only one side of the relic to be seen.

The recent examination, carried out with a scanner, revealed bloodstains on the reverse side, indicating that the image was not copied.

"This is a confirmation of the unfounded character of the hypothesis formulated in the past, according to which the image of the holy shroud was formed by combustion, namely, by the warming of an image wrapped in the cloth," explained Monsignor Giuseppe Ghiberti, vice president of the Commission for the Exposition of the Shroud.

Experiments which have reproduced this technique have always left traces on the reverse of the fabric -- something that does not happen in the case of the Shroud of Turin.

Paolo Soardo of the Galileo Ferraris Italian Institute carried out the scanning of the reverse of the shroud, which no one had seen in more than 450 years.

In the one-week study, done in the sacristy of the new cathedral, a flat scanner was introduced between the shroud and the linen lining. This made possible the photographing of the central band, and yielded the unique images, Monsignor Ghiberti said.

The photographs show bloodstains from the wounds in the feet, legs, hands and arms.

The color and black-and-white pictures will be published in two volumes: one for the general public and one for experts.

(Zenit.org)


รูปภาพ รูปภาพ
--------------------------------------------------------------------------------


DALLAS, January 19, 2005 - The American Shroud of Turin Association for Research (AMSTAR), a scientific organization dedicated to research on the enigmatic Shroud of Turin, thought by many to be the burial cloth of the crucified Jesus of Nazareth, announced today that the 1988 Carbon-14 test was not done on the original burial cloth, but rather on a rewoven shroud patch creating an erroneous date for the actual age of the Shroud.

"Now conclusive evidence, gathered over the past two years, proves that the sample used to date the Shroud was actually taken from an expertly-done rewoven patch," says AMSTAR President, Tom D'Muhala. "Chemical testing indicates that the linen Shroud is actually very old -- much older than the published 1988 radiocarbon date."

"As unlikely as it seems, the sample used to test the age of the Shroud of Turin in 1988 was taken from a rewoven area of the Shroud," reports chemist Raymond Rogers, a fellow of the Los Alamos National Laboratory in New Mexico. Rogers' new findings are published in the current issue of Thermochimica Acta, a chemistry peer reviewed scientific journal.

"Pyrolysis-mass-spectrometry results from the sample area coupled with microscopic and microchemical observations prove that the radiocarbon sample was not part of the original cloth of the Shroud of Turin which is currently housed at The Turin Cathedral in Italy," says Rogers.

"The radiocarbon sample has completely different chemical properties than the main part of the shroud relic," explains Rogers. "The sample tested was dyed using technology that began to appear in Italy about the time the Crusaders' last bastion fell to the Mameluke Turks in AD 1291. The radiocarbon sample cannot be older than about AD 1290, agreeing with the age determined in 1988. However, the Shroud itself is actually much older."

Rogers' new research clearly disproves the 1988 findings announced by British Museum spokesperson, Mike Tite, when he declared that the Shroud was of medieval origin and probably "a hoax." The British Museum coordinated the 1988 radiocarbon tests and acted as the official clearing house for all findings.

Almost immediately, Shroud analysts questioned the validity of the sample used for radiocarbon dating. Researchers using high-resolution photographs of the Shroud found indications of an "invisible" reweave in the area used for testing. However, belief tilted strongly toward the more "scientific" method of radiocarbon dating. Rogers' recent analysis of an authentic sample taken from the radiocarbon sample proves that the researchers were right to question the 1988 results.

As a result of his own research and chemical tests, Rogers concluded that the radiocarbon sample was cut from a medieval patch, and is totally different in composition from the main part of the Shroud of Turin.

Re:ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 20, 2005 9:36 am
โดย Andreas
รูปภาพ
จากภาพใบหน้าของพระเยซูบนผ้าตราสัง นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยี ในการช่วยให้เราเห็นว่าถ้าหากพระเยซูเจ้าทรงมีพระพักตร์ในวัย 33 แบบในผ้าตราสัง และถ้าหากพระองค์มีอายุ 12 ปี จะทรงมีพระพักรต์เช่นใด

http://wcco.com/localnews/local_story_137093318.html

Re:ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 20, 2005 10:35 am
โดย พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
น่าร๊ากกกก พระเยซูเจ้าข้า ลูกรักพระองค์

Re:ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 20, 2005 10:39 am
โดย kk-chan
Andreas เขียน: "Let it be known that any image of Mine or of My Mother is to be honoured, for it represents Us, as My Cross is representing Me. Let it be known that My Holy Shroud is indeed authentic; It is the same that covered Me. "
(Jesus spoke to Vassula of the Shroud in 1987:)
ช่วยแปลให้ค่ะ

"จงรับรู้เอาไว้ว่า ไม่ว่ารูปใดๆของเราหรือของแม่ของเราจะต้องได้รับการเคารพบูชา เพราะมันแสดงถึงพวกเรา อย่างที่กางเขนของเราแสดงถึงเรา จงรับรู้เอาไว้ว่า ผ้าห่อพระศพอันศักดิ์สิทธิ์ของเรานี้เป็นของจริง มันเป็นผ่าผืนเดียวกันที่คลุมร่างเรา"

พระเยซูตรัสกับ Vassula of the Shroud ในปี 1987

Re:ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 20, 2005 11:32 am
โดย Batholomew
*thx สำหรับข้อมูลครับ

Re:ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 20, 2005 12:46 pm
โดย Andreas
ขอบคุณครับที่ช่วยแปลให้ในส่วนที่เป็นคำยืนยันของพระเยซูเจ้า

Re: พบอักษรภาษาอารามาอิก บนผ้าตราสังแห่งตุริน

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 19, 2009 6:05 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
พบอักษรภาษาอารามาอิก บนผ้าตราสังแห่งตุริน July 29, 2009

ด้วยเหตุที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงยืนยันการจะไปเสด็จเยี่ยมชมผ้าตราสังแห่งตุรินในปีหน้า. นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Thierry Castex จึงได้เปิดเผยสิ่งที่เธอเพิ่งค้นพบว่ามีอักษรอารามาอิกบนผ้าตราสัง

พระสันตปาปาทรงยืนยันที่จะเสด็จไปเยี่ยมชมผ้าตราสังนี้ ในพิธีเปิดนิทรรศการผ้า ตราสังที่อาสนวิหารแห่งตุรินในวันที่ 10 เม.ย - 23 พ.ค. 2010

Thierry Castex นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้ค้นพบเมื่อไม่นานนี้ว่า บนผ้าตราสังมีร่องรอยตัวอักษรเป็นภาษาอารามาอิก เขียนด้วยตัวอักษรฮีบรู

และ Barbara Frale นักวิจัยของทางวาติกันให้สัมภาษณ์กับทางวาติกันเรดิโอเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นี้ว่า จากการศึกษาของเธอเอง เธอสันนิษฐานว่าตัวอักษรนี้ถูกเขียนบนผ้ามานานมากกว่า 1800 ปี

เธอกล่าวว่า ในปี 1978 ศาสตราจารย์ชาวลาตินในเมืองมิลานได้สังเกตเห็นตัวอักษรนี้และในปี 1989 ผู้เชี่ยวชาญได้พบอักษรฮีบรูซึ่งมีบางส่วนอ่านได้ว่า "กษัตริย์ของชาวยิว"

แต่เมื่อไม่นานมานี้ Castex ได้พบตัวอักษรที่อ่านได้ว่า "พบ" และคำอื่นที่ถัดจากมันซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการแปลความหมายอยู่ "มันอาจจะอ่านได้ว่า "เพราะพบว่า" หรือ "เราพบว่า" ก็ได้ เธอให้ข้อมูล

สิ่งที่ทำให้เธอสนใจคือ มันทำให้เธอคิดถึงประโยคในพระวรสารของนักบุญลูกา ซึ่งเขียนว่า "เราได้พบว่าชายคนนี้กำลังชี้นำประชาชนของเราให้หลงผิด" ซึ่งเป็นคำพูดของฟาริสีผู้นำชาวยิวบอกกับปอนติอัส ปีลาต เมื่อเขาถามว่า พระเยซูเจ้าทำผิดอะไร

เธอบอกว่า เป็นสิ่งไม่ปกตินัก ที่จะมีการเขียนตัวอักษรไว้บนผ้าที่ใช้คลุมศพเพื่อระบุถึงผู้ตาย.


http://uk.geocities.com/palangjai2004/shroud2.html

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 28, 2009 9:39 am
โดย ~ฮีUโปฟัuxaoxน้ๅโJ™~
พระเยซู สิ้นพระชนพ์ที่อิสราเอล- -?แล้วทำไม ผ้ามันไปโผล่ที่ อิตาลีอ่ะคับ

Re:ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 28, 2009 3:41 pm
โดย (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
kk-chan เขียน:
Andreas เขียน: "Let it be known that any image of Mine or of My Mother is to be honoured, for it represents Us, as My Cross is representing Me. Let it be known that My Holy Shroud is indeed authentic; It is the same that covered Me. "
(Jesus spoke to Vassula of the Shroud in 1987:)
ช่วยแปลให้ค่ะ

"จงรับรู้เอาไว้ว่า ไม่ว่ารูปใดๆของเราหรือของแม่ของเราจะต้องได้รับการเคารพบูชา เพราะมันแสดงถึงพวกเรา อย่างที่กางเขนของเราแสดงถึงเรา จงรับรู้เอาไว้ว่า ผ้าห่อพระศพอันศักดิ์สิทธิ์ของเรานี้เป็นของจริง มันเป็นผ่าผืนเดียวกันที่คลุมร่างเรา"

พระเยซูตรัสกับ Vassula of the Shroud ในปี 1987
ขอบคุณคะ

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 28, 2009 4:38 pm
โดย Edwardius
~Holy Maiden Nerine~ เขียน:
kk-chan เขียน:
Andreas เขียน: "Let it be known that any image of Mine or of My Mother is to be honoured, for it represents Us, as My Cross is representing Me. Let it be known that My Holy Shroud is indeed authentic; It is the same that covered Me. "
(Jesus spoke to Vassula of the Shroud in 1987:)
ช่วยแปลให้ค่ะ

"จงรับรู้เอาไว้ว่า ไม่ว่ารูปใดๆของเราหรือของแม่ของเราจะต้องได้รับการเคารพบูชา เพราะมันแสดงถึงพวกเรา อย่างที่กางเขนของเราแสดงถึงเรา จงรับรู้เอาไว้ว่า ผ้าห่อพระศพอันศักดิ์สิทธิ์ของเรานี้เป็นของจริง มันเป็นผ่าผืนเดียวกันที่คลุมร่างเรา"

พระเยซูตรัสกับ Vassula of the Shroud ในปี 1987
ขอบคุณคะ
เกลาระดับภาษาใหม่ครับ

ให้รู้ไว้ว่า รูปภาพใดๆ ของเรา (พระเยซู) และมารดาของเรา (แม่พระ) จะต้องได้รับเกียรติ (honoured ให้ความหมายประมาณว่า ให้่เกียรติ เป็นเกียรติ หรือยกย่องครับ ไม่ค่อยตรงกับบริบทของเคารพบูชาเท่าไหร่ อันนั้นจะไปพ้องกับ Worship เอา) เหตุว่ามันเป็นภาพแสดงถึงเรา (พหูพจน์ หมายถึง พระเยซู กับแม่พระ ตามบริบทก่อนหน้า) ดั่งที่กางเขนของเราเป็นแสดงถึงเรา ให้รู้ไว้ว่าผ้าห่อพระศพอันศักดิ์สิทธิ์ของเราเป็นของจริงแน่แท้ เป็นผืนเดียวกับที่ใช้ห่อหุ้มร่างกายของเรา

มู๋กระป๋อง เขียน: พระเยซู สิ้นพระชนพ์ที่อิสราเอล- -?แล้วทำไม ผ้ามันไปโผล่ที่ อิตาลีอ่ะคับ
ผ้ามันไม่มีขาครับ ไปเองไม่ได้

คนเค้าพาไปไงครับ

สาวกคนใดคนหนึ่งอาจเอาออกไปเอง จากนั้นมันก็ถูกส่งไปส่งมา

อย่าลืมว่า เปาโล กับ เปโตร ก็ไปที่กรุงโรมหลายที

คนเดินทางบ่อยได้เท่าไหร่ ของก็อาจไปกับคนได้บ่อยเท่านั้นครับ

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 28, 2009 10:37 pm
โดย วอ
มิน่าล่ะทำไม ถึงไปโผล่ที่อิตาลี

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 5:20 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
มู๋กระป๋อง เขียน: พระเยซู สิ้นพระชนพ์ที่อิสราเอล- -?แล้วทำไม ผ้ามันไปโผล่ที่ อิตาลีอ่ะคับ
ลองเข้าไปอ่านในนี้นะคะ  http://www.geocities.com/prakobkit/new1/jesuscloth.htm

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 7:37 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
เนื่องด้วยทาง Yahoo, Geocities ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเนื้อที่สำหรับทำเวปไซต์ของพลังใจ ได้มีนโยบายที่จะปิดการให้บริการตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2009 นี้ จึงทำให้เวปไซต์พลังใจต้องปิดตัวตามไปด้วยโดยปริยาย เลยขออนุญาตินำเนื้อหามาลงไว้ทั้งหมดเลยค่ะ เดี๋ยวเปิดเข้าไปดูอีกไม่ได้
http://uk.geocities.com/devoutlifej/shroud.html


หลักฐานใหม่เกี่ยวกับผ้าตราสังแห่งตุริน
การทดสอบหาอายุด้วยคาร์บอน14 ผิดพลาด, ผ้าตราสังเป็นของแท้

รูปภาพ
การทดสอบหาอายุด้วยคาร์บอน 14 ในปี 1988 ระบุว่า ผ้าตราสังถูกทำขึ้นในศตวรรษที่ 16.   เรย์ โรเจอร์ ผู้อำนวยการและนักเคมีแห่งสถาบันลอส อาลามอส และเป็นหัวหน้าผู้ทำการวิจัยผ้าตราสังแห่งตุริน the Shroud of Turin Research Project (STRP)   เขาเคยกล่าวว่า ผ้าตราสังซึ่งมีรูปของพระเยซูเจ้านั้นถูกทำขึ้นอย่างชาญฉลาด.   แต่เมื่อ 3 ปีก่อนจะเสียชีวิต เขาได้เปิดเผยแก่สาธารณะว่า ผ้าที่ถูกตัดเพื่อนำไปทดสอบนั้นถูกตัดจากบริเวณของผ้าที่เคยได้รับการซ่อมแซมปะชุนในศตวรรษที่ 16   ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ผลการทดสอบออกมาผิดพลาด.   และผ้าตราสังจึงน่าจะเป็นผ้าห่อพระศพของพระเยซูเจ้าที่แท้จริง.

ในการประกาศผลการทดสอบครั้งนั้น โรเจอร์เคยพูดว่า "ผมเป็นคนที่ไม่เชื่อในอัศจรรย์ซึ่งขัดแย้งกับกฎเกณท์ทางธรรมชาติ.   หลังจากการทดสอบผ้าตราสังในปี 1988 ผมก็ไม่เชื่อในผ้าตราสัง."

"แต่ในตอนนี้ผมได้มาถึงบทสรุปแล้วว่า เป็นไปได้อย่างยิ่งที่ผ้าตราสังนั้นคือผ้าห่อพระศพของพระเยซูเจ้าตามประวัติศาสตร์"   เขากล่าวไว้ในวิดีโอ เขากล่าวเช่นนี้หลังจากที่ได้ตรวจสอบซ้ำในสมมุติฐานของนักวิทยาศาสตร์สองคนที่ถูกเขาไล่ออก ซู เบนฟอร์ด และ โจ มารีนา จากโอไฮโอ

ซู เบนฟอร์ด และ โจ มารีนา สงสัยว่า ตัวอย่างผ้าที่ใช้ในการทดสอบในปี 1988 นั้น จะได้มาจากส่วนของผ้าที่ได้รับการซ่อมแซมในศตวรรษที่16 อันเนื่องมาจากได้รับความเสียหายเพราะถูกไฟไหม้

โรเจอร์เล่าว่า "เรื่องนี้รบกวนใจผมมาก ผมจึงต้องการพิสูจน์ว่า ซู และ โจ เป็นฝ่ายผิด"

อย่างไรก็ตาม, เมื่อเขาตรวจดูเส้นด้ายของผ้าตัวอย่างซึ่งตัดมาในปี 1978 นั้นเอง   เขาพบว่ามีผ้าฝ้ายปนอยู่ด้วย เขาบอกว่า "เส้นใยผ้าฝ้ายถูกเคลือบด้วยสีย้อม   ซึ่งบ่งบอกว่ามันถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับใยผ้าลินินในการซ่อมแซมนั่นเอง.   "ผมจึงสรุปได้ว่าผ้าตัวอย่างจากบริเวณที่ตัดมานั้นถูกปะชุนโดยช่างผู้ชำนาญมาก."

"ซู และ โจ เป็นฝ่ายถูกในเรื่องตัวอย่างที่นำมาวิเคราะห์ด้วยคาร์บอน 14"

"ผ้าตัวอย่างที่นำมาทดสอบประกอบด้วยวัสดุที่แตกต่างกัน ซึ่งผ้าตราสังจริงๆ จะมีวัสดุเพียงประเภทเดียว.   ดังนั้นการทดสอบหาอายุจึงได้ผลออกมาไม่ถูกต้อง"

วิดีโอที่เขาให้สัมภาษณ์ ถูกทำขึ้นก่อนที่เขาจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี 2005 เขากล่าวในวิดีโอว่า "ผมได้ผลสรุปแล้วว่าผ้าตราสังแห่งตุรินนั้นเป็นผ้าที่เคยห่อพระศพของพระเยซูเจ้าตามประวัติศาสตร์"

หลักฐานใหม่ล่าสุดนี้ถูกเปิดเผยโดยดิสโคเวอรี่แชนแนลในวันอาทิตย์ที่ 12 เม.ย. 2009 เวลา 8.00 น.

ตั้งแต่การทดสอบในปี 1988 เป็นต้นมา ทำให้หลายคนเชื่อว่าผ้าตราสังแห่งตุรินเป็นของปลอมที่ทำขึ้นในยุคกลางของยุโรป   เพราะผลการวิเคราะห์ด้วยคาร์บอน 14 ระบุอายุว่าอยู่ระหว่างปี 1260 - 1390.

หลักฐานชิ้นใหม่นี้ ทำให้ความหวังของชาวคริสต์เป็นจริงขึ้นมา   เพราะจากการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ของรอยโลหิตและเซรั่มบนผ้านั้น ปรากฏผลออกมาว่าเป็นโลหิดและเซรั่มของมนุษย์จริง.

*******************

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 7:43 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
(ต่อ)

ผ้าห่อพระศพ ถูกพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1357 ที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ในประเทศฝรั่งเศส แต่ก่อนหน้านี้ก็มีการเล่าลือถึงผ้าซึ่งมีภาพของพระเยซูเจ้าปรากฏอยู่แล้ว นักประวัติศาสตร์กล่าวว่า เริ่มพบหลักฐานของผ้าอยู่ที่กรุงคอนแสตนติโนเปิล ในปี 944 และมีเอกสารกล่าวถึงผ้าโบราณซึ่งเรียกว่า ภาพแห่งเอเดสสา Image of Edessa โดย Eusebius of Caesarea ในตอนต้นศตวรรษที่ 4 เป็นผู้บันทึกไว้ ซึ่งมีร่องรอยของอายุย้อนไปถึงศตวรรษแรก. ผ้าโบราณนี้อยู่ทางตะวันออกและกล่าวกันว่ามีภาพของพระเยซูปรากฏอยู่ซึ่ง "ไม่ได้ถูกทำขึ้นด้วยมือมนุษย์"

ตามบันทึกของ Eusebius (และนี่ต้องพิจารณาว่าเป็นเพียงตำนาน) ผ้าถูกนำมาที่ Edessa โดย อัครสาวก โทมาส หรือไม่ก็ เทเดียส. ในปี 544 ผ้าที่มีภาพของพระเยซูเจ้านั้นก็ถูกซ่อนเอาไว้ที่กำแพงทางเข้าเมืองแห่ง Edessa. ผ้าถูกนำไปที่คอนแสตนติโนเปิลเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 944. ในเวลานั้นมีการเขียนบรรยายถึงความยาวของผ้าและภาพของพระเยซูเจ้าและรอยเปื้อนพระโลหิตของพระองค์. ต่อจากคอนแสตนติโนเปิล ในปี 1204 ผ้าก็กลายเป็นสมบัติของ Othon de la Roche, ดยุกฝรั่งเศสแห่งเอเธนและทิบิส. ท่านได้ส่งผ้าไปเก็บรักษาไว้ที่ปราสาทของท่านที่เมือง Besan?on, ฝรั่งเศสในปี 1207. ที่ปราสาท Eastertide, ผ้าถูกส่งต่อจากปราสาทแล้วนำไปแสดงในอาสนวิหาร Besan?on Cathedral จนกระทั่งอาสนวิหารถูกไฟไหม้ในเดือนมีนาคม 1349. เอกสารบันทึกต่างๆ ของทางโบสถ์ อาจถูกไฟไหม้หมดไปในเวลานั้น. ในปีเดียวกันนั้นเอง, Geoffroy de Charny, อัศวินฝรั่งเศสได้แต่งงานกับ Jeanne de Vergy, พระนัดดาของ Othon de la Roche, และท่านได้ส่งผ้าตราสังไปที่ canons of Lirey, และนั่นเป็นบันทึกของผ้าตราสังที่มาอยู่ที่ยุโรปตะวันตก

ปัจจุบันผ้าตราสังถูกเก็บรักษาไว้ที่อาสนวิหาร ซาน โจวานนี่ บัตติสต้า ในเมืองโตริโน่(ตูริน) ประเทศอิตาลี

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 7:50 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
(ต่อ)

ผ้าห่อพระศพแห่งตูริน เป็นผ้าลินินยาว 14 ฟุต กว้าง 4 ฟุต นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการตรวจสอบร่องรอยที่เปรอะเปื้อนบนผืนผ้าห่อพระศพก็พบว่า รอยเหล่านั้นเป็นคราบเลือดกรุ๊ป AB ของผู้ชาย ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องที่พระเยซูได้รับบาดเจ็บจากการถูกตรึงบนไม้กางเขน และยังมีร่องรอยบาดแผลเกิดจากมงกุฏหนามและรอยบาดเจ็บอื่นๆ

เมื่อเร็วๆนี้ ทางวาติกันได้ออกมาแถลงให้ทราบว่าอัศวิน Knights Templar เป็นคนเก็บรักษาผ้านี้ไว้มากกว่า 100 ปี นับตั้งแต่สงครามครูเสด ทางวาติกันแถลงครั้งนี้เพื่อแก้ข้อสงสัยหลายคนเกี่ยวกับประวัติของผ้าที่สูญหายไปก่อนปี 1349

ราว 11.45 น. ของวันศุกร์ที่ 11 เมายน 1997 ได้เกิดไฟไหม้ขึ้นที่โบสถ์กัวริน (Guarini) สถานที่ตั้งแสดงผ้าห่อพระศพของพระเยซู ไฟได้ไหม้ลุกโหมอย่างรวดเร็ว เดชะบุญที่ผ้าห่อพระศพได้ถูกย้ายจากแท่นบูชามาเก็บไว้ในวิหารใหญ่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1993 ผ้าห่อพระศพถูกบรรจุอยู่ในหีบเงิน และใส่ไว้ในตู้กระจกกันกระสุนอีกทีหนึ่ง แต่กระนั้นนักผจญเพลิงก็ยังไม่ไว้ใจว่าผ้าผืนนั้นจะปลอดภัยจากเพลิงที่กำลังโหมเข้ามาใกล้ พวกเขาจึงกรูกันเข้าไปใช้ฆ้อนปอนด์อันใหญ๋ทุบกระจกกันกระสุนอย่างหนา เพื่อจะเอาหีบพระศพออกมา

เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่ากระจกที่สามารถกันกระสุนได้กลับถูกนักดับเพลิงทุบจนแตกกระจาย และนั่นก็อาจเป็นเพราะพลังแห่งศรํทธาที่นักดับเพลิงมีต่อผ้าศักดิ์สิทธิ์ผืนนั้น

เมื่อได้หีบนั้นมาแล้วพวกเขาต่างก็รีบนำไปส่งให้กับพระคาร์ดินัล จิโอวานนิ ซาล ดารินิ ถึงแม้ว่าพระเพลิงจะยังมาไม่ถึงวิหารใหญ่ที่เก็บหีบก็ตาม แต่เศษกระจกจากยอดโดมที่แตกลงมาเกลื่อนกลาดก็เป็นอันตรายต่อเหล่านักผจญ เพลิงเป็นอย่างมาก

หลังจากเพลิงสงบก็พบว่าโบสถ์และวัตถุโบราณล้ำค่าหลายอย่างได้ถูกทำลายย่อยยับ รวมค่าเสียหายประมาณ 6 ล้านดอลล่าร์(กว่า 250ล้านบาท)

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผ้าศักดิ์สิทธิ์ผืนนี้ต้องเผชิญหน้ากับอัคคีภัย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1532 ผ้าห่อพระศพเกือบจะถูกพระเพลิงเผาผลาญเมื่อเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่โบสถ์ เซนท์ ในแซมเบอรี คราวนั้นความร้อนของไฟทำให้หีบเงินหลอมละลายและหยดลงบนผืนผ้า ทำให้เกิดรอยไหม้ดังที่เราเห็นเป็นรูโหว่ตรงรอยพับ

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 7:56 pm
โดย sinner
ใช่ๆ อันนี้เคยดูเหมือนกันนะ แต่ไม่กล้าเล่า เดี๋ยวโดนว่าอีก : xemo017 :

เค้าบอกว่าผ้าโดนไฟไหม้ แล้วเคยซ่อม : xemo026 :

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 29, 2009 7:57 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
(ต่อ)

ปี ค.ศ.1988 ทางวาติกันอนุญาตให้มีการหาอายุของผ้าตราสังเพื่อพิสูจน์ความแท้จริง เรียกว่าโครงการวิจัยผ้าตราสังแห่งตุริน the Shroud of Turin Research Project (STRP) โดยมี เรย์ โรเจอร์ เป็นผู้อำนวยการ นักวิทยาศาสตร์จากออกซ์ฟอร์ด ซูริกซ์ และอริโซนา ก็ได้ร่วมกันนำตัวอย่างผ้ามาพิสูจน์โดยวิธีทดสอบคาร์บอน 14 ผลก็อย่างที่รู้กันคือ ผ้าผืนนั้นมีอายุอยู่ในช่วงราว ค.ศ.1260 -1390 หรืออย่างมากก็แค่ 700 กว่าปีเท่านั้นเอง บรรดาผู้เชี่ยวชาญก็เลยลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าผ้าห่อพระศพแห่งตุริน เป็นของปลอม

นักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่งได้แย้งว่าการทดสอบนั้นน่าจะมีการผิดพลาดเนี่อง จากผ้าผืนนี้มีอายุเก่าแก่มาก ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเป็นพันๆ ปี จึงทำให้มีสิ่งแปลกปลอมเช่นฝุ่นละอองเกาะตามเนื้อผ้าเต็มไปหมด และผ้าผืนนี้ก็ประสบวิบากกรรมเผชิญกับเหตุการ์ณไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ.1532 คราบเขม่าและควันไฟจากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้เกาะจับอยู่บนเนื้อผ้า ทำให้นักวิทยาศาสตร์หาอายุที่แท้จริงของมันไม่พบ

ปี ค.ศ.1993 ดร.ลีออนซิโอ การ์ซา-วาลเดช (Leoncio A. Garza-valdes) กุมารแพทย์จากซานอันโตนิโอ และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านวัตถุสมัยยุคก่อนค้นพบสหรัฐ กับ ศาสตราจารย์สตีเฟ่น เจ แมททิงลี่ย์ (Stephen J. mattingly) ประธานสมาคมจุลวิทยาแห่งสหรัฐสาขาเท็กซัส จึงอุทิศความรู้ความ สามารถของพวกเขามาพิสูจน์เรื่องนี้ให้เห็นดำเห็นแดงกันไป

หลังจากที่ใช้เวลาหลายเดือนทำการตรวจสอบตัวอย่างชิ้นส่วนผ้าห่อพระศพ พวกเขาก็พบว่าจริงๆ แล้ว ตัวอย่างที่ได้มานั้นมีอายุยาวนานกว่าอายุคาร์บอนที่อยู่ในเนื้อผ้า

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า เนื้อผ้าได้ถูกแบคทีเรียและราเกาะติดอยู่บนเนื้อผ้านานนับศตวรรษ แต่ที่การค้นพบครั้งนี้ไม่ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ก็เพราะว่าผู้มีอำนาจในโบสถ์คาธอลิกปฏิเสธ ที่จะให้การรับรองว่าชิ้นส่วนตัวอย่างที่ ดร.ลีออนซิโอ กับ ศาสตราจารย์สตีเฟ่นได้มานั้น เป็นชิ้นส่วนที่นำมาจากผ้าห่อพระศพแห่งตูริน ทั้งที่นักวิทยาศาสตร์ทั้ง 2 ท่านได้รับชิ้นส่วนนี้มาจาก จีโอวานิ ริกกิ ติ นูมานา (Giovanni Riggi diNua) ผู้ที่ได้รับอนุญาติให้ตัดชิ้นส่วนตัวอย่างออกมาจากผ้าห่อพระศพ เพื่อตรวจสอบหาอายุคาร์บอนเมื่อ ปี ค.ศ.1988

******************************

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 10:07 am
โดย กรอกสมบูรณ์
(ต่อ)

ความจริงบางประการของผ้าตราสัง

1. ภาพบนผ้าเห็นได้เพียงด้านเดียวคือด้านหน้า. ด้านหลังไม่มีภาพปรากฏ แต่จะมีเพียงรอยเลือดเท่านั้น เพราะเลือดชุ่มโชกผ่านผ้า.

2. ขณะที่ภาพเป็นเนกาตีฟ แต่รอยเลือดกลับเป็นโพสิตีฟ. ดังนั้นผ้าจึงมีภาพทั้งที่เป็น เนกาตีฟ และ โพสิตีฟ พร้อมกัน.

เมื่อส่องด้วยกล้องไมโครกราฟ ที่ขยายภาพได้หลายเท่า จะเห็นว่าเส้นใยมีความหนา 15 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าเส้นผมของคน.  เส้นใยมีโครงสร้างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ กลายเป็นสีเหลือง.  เส้นใยสีเหลืองนี้เองที่ทำให้เกิดภาพพระเยซูเจ้าขึ้น.  และยังแสดงให้เห็นสิ่งประหลาดอีกอย่าง คือ เส้นใยที่อยู่ถัดไปภายในเส้นด้ายเดียวกันจะไม่เป็นสีเหลือง ด้ายเส้นหนึ่งจะมีเส้นใยประมาณ 20 เส้น.  สีเหลืองจะสลับกันไปภายในเส้นด้ายคือ สีเหลือง, ไม่ใช่สีเหลือง, สีเหลือง, ไม่ใช่สีเหลือง ... และสุดท้าย, สีเหลืองจะพบอยู่ด้านในของผ้าเท่านั้น และมีความลึกเพียงเส้นใยเดียวเท่านั้น.


รูปภาพรูปภาพ

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 10:21 am
โดย กรอกสมบูรณ์
(ต่อ)

Gilbert R. Lavoie เขียนหนังสือชื่อ "Resurrected" ได้สรุปว่า

1. จากเกสร และ ภาพจางๆ ของดอกไม้บนผ้า แสดงว่าผ้ามีแหล่งกำเนิดจากเยรูซาเลมในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี

2. ภาพถ่ายมีลักษณะที่เป็นสามมิติ หรือ คล้ายภาพที่ถ่ายด้วย x-ray

3. เมื่อขยายภาพใหญ่ขึ้น แสดงให้เห็นว่าไม่มีผงสีบนผ้า.   และสีเหลืองที่เป็นภาพนั้น อยู่เฉพาะส่วนเส้นใยตอนบนของเส้นด้ายเท่านั้น.   วิทยาการสมัยใหม่ยังไม่สามารถทำให้เกิดภาพที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้.

4. ภาพนี้มีลักษณะคล้ายกับภาพจากการพิมพ์หนังสือพิมพ์ "ถ้าต้องการให้ภาพมีสีเข้มขึ้น ก็ต้องเพิ่มจุดสีเข้าไปเพิ่มขึ้น"

5. รอยที่คล้ายเลือดนั้นได้ถูกทดสอบทางเคมีแล้วว่าเป็นเลือดและน้ำเหลืองของมนุษย์.

ข้อมูลใหม่ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการหาอายุด้วยคาร์บอน 14 มีความผิดพลาด.   ผ้าตราสังเป็นผ้าห่อพระศพในประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง


Austin H. Bud Mark ได้ศึกษาผ้าตราสังและสรุปว่า

1. บนผ้าปรากฏภาพลักษณะสามมิติของชายที่ถูกตรึงกางเขน

2. รอยเลือดเกิดขึ้นด้วยวิธีการสัมผัสของผ้ากับเลือดที่อยู่บนร่างกาย

3. ภาพไม่ได้เกิดขึ้นด้วยวิธีการสัมผัสของผ้ากับร่างกาย เพราะถ้าหากภาพเกิดขึ้นด้วยการสัมผ้สขณะที่ผ้าห่อพระศพอยู่แล้ว.   ภาพโดยเฉพาะที่ใบหน้าจะขยายออกใหญ่กว่าที่เป็นจริง แต่ภาพนั้นมีลักษณะเหมือนจริงทั้งใบหน้าและร่างกาย เหมือนกับภาพสะท้อนของกระจก.

4. รอยเลือดปรากฏบนผ้าขณะที่ผ้าถูกห่อพระศพอยู่ เป็นการสัมผัสของพระศพกับผ้า

5. ขณะที่ภาพพระเยซูปรากฏบนผ้านั้น ดูเหมือนผ้าจะอยู่ในลักษณะราบเรียบ.   และดูเหมือนว่าผ้าอยู่แยกจากร่างกายในขณะที่ภาพปรากฏขึ้น

6. ขณะที่ภาพปรากฏขึ้นบนผ้า ร่างกายอยู่ในลักษณะตั้งฉากกับพื้นดิน เพราะผมตกลงบนบ่า และใบหน้ามีลักษณะเหมือนคนที่ยืนอยู่ อย่างไรก็ตาม, ร่างกายก็ไม่ได้ยืนบนพื้นดิน เพราะลักษณะของเท้าไม่อยู่ในลักษณะของการเหยียบอยู่บนพื้น

7. ขณะที่เกิดภาพบนผ้า ดูเหมือนว่าร่างกายถูกยกขึ้นจากพื้นดินในลักษณะตั้งตรง และลอยอยู่กลางอากาศ


จบแล้วค่ะ ::024:: ยาวเลยเนอะ

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 1:37 pm
โดย Edwardius
จำไม่ได้แล้วว่าอ่านมาจากไหนนะครับ

แต่ว่า นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ปกติแล้วการเน่าสลายของของเหลวจากร่างกายมนุษย์จะทำให้ผ้าเกิดสีคล้ำ็จริง

แต่กรณีที่มีการเกิดในที่ไร้แสงสว่าง จะทำให้ไม่เกิดปฏิืกริยาบางอย่างที่ทำให้เห็นเป็นรูปภาพอย่างชัดเจนเช่นนี้

แต่กรณีนี้เหมือนกับว่า ในขณะที่กำลังเกิดภาวะเน่าสลายของของเหลว มีแสงสว่างปรากฏขึ้นทำให้่กระบวนการยุติลงฉับพลัน

การยุติลงนี้ทำให้เกิดภาพบนผืนผ้าขึ้น ซึ่งผิดปกติของผ้าห่อศพในที่มืด

น่าจะเป็นไปได้อย่างมากว่า "เกิดแสงสว่างระัดับสูง" ในอุโมงค์ระหว่างกระบวนการดังกล่าว

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 2:52 pm
โดย Andreas
http://www.youtube.com/watch?v=1JU-1EGE ... re=related

นี่เป็นสารคดีความยาวประมาณสิบนาที ที่สนับสนุนว่าผ้าตราสังแห่งตุรินนี้เป็นผืนเดียวกับที่ใช้ห่อพระศพของพระเยซูเจ้า

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 3:17 pm
โดย Ministry Of Men
อื่ม..... เหอะๆๆ

เข้ามาดู
ขอบคุณผู้ให้ข้อมูลทุกท่านครับ

ใจผมว่างเปล่ากับเรื่องนี้...
Andreas เขียน: "Let it be known that any image of Mine or of My Mother is to be honoured, for it represents Us, as My Cross is representing Me. Let it be known that My Holy Shroud is indeed authentic; It is the same that covered Me. "
(Jesus spoke to Vassula of the Shroud in 1987:)

Re: ผ้าตราสังแห่งตูรินเป็นของจริงหรือทำขึ้นครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 30, 2009 10:55 pm
โดย Valkyrie Zero Number
เหมือนเคยอ่านเจอเหมือนกันค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ