คุณหญิงจารุวรรณ...
I don't know much what's going on. But I just found her interview from www.manager.co.th and I think it's a good example. She's Christian and this is how she deals in her crisis. She still insists the rightiousness and still let God lead her life..
...... ดิฉันแทรกตรงนี้เลยนะคะ แต่บังเอิญเป็นคริสเตียนเท่านั้นเอง แต่สามีเป็นพุทธ ครอบครัวเป็นพุทธ ดิฉันเชื่อมั่นอย่างมากเลย เมื่อตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ ทุกครั้งนะคะดิฉันหาใครไม่ได้ แล้วไม่กล้าระบายให้แฟนฟัง เพราะกลัวเขาเป็นห่วง ก็จะถามพระเจ้าว่ามี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นนี่ แล้วปกติก็เป็นคนกลัวมากอยู่แล้วนะคะ เพราะมีความรู้สึกว่าพระเจ้าดูอยู่ สิ่งที่เราทำอย่างนึกว่าไม่รู้นะ บางทีจะทำอะไรไม่ดียังนึกถึงว่าไม่ได้ ยังถอยกลับ เป็นคนกลัวอยู่แล้ว
ตอนนี้มันก็มีว่าเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น พอดิฉันเปิดพระคัมภีร์อ่าน ดิฉันหยุดเลยค่ะ รู้สึกว่าทุกอย่างอยู่ในสายตาของพระเจ้า พระเจ้านำทางตลอด แล้วก็เชื่อมากนะคะในเรื่องกฎแห่งกรรม หรือวิถีทางแห่งความดี ดิฉันไม่ใช่คนดีนักหรอก ท่านผู้ชม ดิฉันก็เป็นคนร้ายกาจมาก คือไม่ยอมใคร เถียงไม่เว้น ไม่ใช่ดีหรอกค่ะ แต่ว่าสิ่งที่ดิฉันทำนี่คิดว่ายุติธรรมที่สุด เพราะแม้กระทั่งมาขอคะแนนดิฉันยังต้องบอกว่า แล้วทำให้ครูต้องให้เธอ แล้วเพื่อนๆเธอทำไมถึงไม่ได้ อะไรอย่างนี้นะคะ ก็ไม่ได้ค่ะ ไม่ยอมหรอก
แม้กระทั่งลูกๆก็ไม่ได้ บอกว่าไปทำมาซิ ทำไมต้องเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้เธออะไรอย่างนี้นะคะ เวลาที่เราได้พบอะไรอย่างนี้นะคะ บ่อยครั้งที่ดิฉันต้องบอกว่า พระเจ้า ขออภัยโทษให้เขาด้วย ถ้าเขาไม่รู้ตัวสิ่งที่เขาทำ แล้วเขาก็ยังคิดว่าเขาทำถูกอยู่ แต่ในชีวิตตรวจสอบได้เห็นนะคะว่า อะไรที่มันไม่ดีนี่ แล้วเจ้าตัวเขาลำพองใจว่าถูกแล้ว ทำได้ ไม่มีใครทำอะไรได้ .............
From http://www.manager.co.th/Politics/ViewN ... 500&Page=2
...... ดิฉันแทรกตรงนี้เลยนะคะ แต่บังเอิญเป็นคริสเตียนเท่านั้นเอง แต่สามีเป็นพุทธ ครอบครัวเป็นพุทธ ดิฉันเชื่อมั่นอย่างมากเลย เมื่อตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ ทุกครั้งนะคะดิฉันหาใครไม่ได้ แล้วไม่กล้าระบายให้แฟนฟัง เพราะกลัวเขาเป็นห่วง ก็จะถามพระเจ้าว่ามี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นนี่ แล้วปกติก็เป็นคนกลัวมากอยู่แล้วนะคะ เพราะมีความรู้สึกว่าพระเจ้าดูอยู่ สิ่งที่เราทำอย่างนึกว่าไม่รู้นะ บางทีจะทำอะไรไม่ดียังนึกถึงว่าไม่ได้ ยังถอยกลับ เป็นคนกลัวอยู่แล้ว
ตอนนี้มันก็มีว่าเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น พอดิฉันเปิดพระคัมภีร์อ่าน ดิฉันหยุดเลยค่ะ รู้สึกว่าทุกอย่างอยู่ในสายตาของพระเจ้า พระเจ้านำทางตลอด แล้วก็เชื่อมากนะคะในเรื่องกฎแห่งกรรม หรือวิถีทางแห่งความดี ดิฉันไม่ใช่คนดีนักหรอก ท่านผู้ชม ดิฉันก็เป็นคนร้ายกาจมาก คือไม่ยอมใคร เถียงไม่เว้น ไม่ใช่ดีหรอกค่ะ แต่ว่าสิ่งที่ดิฉันทำนี่คิดว่ายุติธรรมที่สุด เพราะแม้กระทั่งมาขอคะแนนดิฉันยังต้องบอกว่า แล้วทำให้ครูต้องให้เธอ แล้วเพื่อนๆเธอทำไมถึงไม่ได้ อะไรอย่างนี้นะคะ ก็ไม่ได้ค่ะ ไม่ยอมหรอก
แม้กระทั่งลูกๆก็ไม่ได้ บอกว่าไปทำมาซิ ทำไมต้องเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้เธออะไรอย่างนี้นะคะ เวลาที่เราได้พบอะไรอย่างนี้นะคะ บ่อยครั้งที่ดิฉันต้องบอกว่า พระเจ้า ขออภัยโทษให้เขาด้วย ถ้าเขาไม่รู้ตัวสิ่งที่เขาทำ แล้วเขาก็ยังคิดว่าเขาทำถูกอยู่ แต่ในชีวิตตรวจสอบได้เห็นนะคะว่า อะไรที่มันไม่ดีนี่ แล้วเจ้าตัวเขาลำพองใจว่าถูกแล้ว ทำได้ ไม่มีใครทำอะไรได้ .............
From http://www.manager.co.th/Politics/ViewN ... 500&Page=2
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
พระเมตตาของพระเจ้า ปรีชาญาณ ความรัก ของพระองค์แผ่ไปถึงทุกคนบนโลกไม่ว่าดีเลวรวยจนขนาดไหนพระก็ยัคงรักเท่าเทียมกันทุกคน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พระองค์ทรงอยู่กับเราเสมอครับ
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอ พี่-น้อง อธิษฐาน ภาวนาให้คุณหญิงต่อไปค่ะ
มีผู้ใหญ่คริสเตียนที่ฉันรักและเคารพท่านหนึ่ง เธอดำรงตำแหน่งหน้าที่การงานสูง ท่านประสบกับ อุปสรรค ในการปฏิบัติงาน มีปัญหาซับซ้อนมากมายที่ต้องต่อสู้เพื่อดำรงความยุติธรรมและชอบธรรมเพื่อสังคม เมื่อเร็วๆนี้เราได้คุยโทรศัพท์กันหลายครั้ง ท่านยืนยันพระสัญญาของพระเจ้า ที่ตรัสผ่านพระคัมภีร์ พร้อมกับอ่านให้ฟังเป็นตอนๆ และอธิบายถึงความเข้าใจตามที่พระจิตเจ้าทรงสอนท่าน
...มีครั้งหนึ่งขณะคุยโทรศัพท์กัน ท่านถามฉันว่า
มีผู้ใหญ่คริสเตียนที่ฉันรักและเคารพท่านหนึ่ง เธอดำรงตำแหน่งหน้าที่การงานสูง ท่านประสบกับ อุปสรรค ในการปฏิบัติงาน มีปัญหาซับซ้อนมากมายที่ต้องต่อสู้เพื่อดำรงความยุติธรรมและชอบธรรมเพื่อสังคม เมื่อเร็วๆนี้เราได้คุยโทรศัพท์กันหลายครั้ง ท่านยืนยันพระสัญญาของพระเจ้า ที่ตรัสผ่านพระคัมภีร์ พร้อมกับอ่านให้ฟังเป็นตอนๆ และอธิบายถึงความเข้าใจตามที่พระจิตเจ้าทรงสอนท่าน
...มีครั้งหนึ่งขณะคุยโทรศัพท์กัน ท่านถามฉันว่า
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
นิยายชีวิต.. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา
โดย สกุณา ประยูรศุข
ในหน้าที่การงาน "คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา" เป็นไม้บรรทัดเหล็ก ยืนหยัดต่อสู้ เอาจริงเอาจังจนดูเหมือนเป็นคนแข็ง ทระนงไม่ยอมใคร
แต่ในชีวิตจริงกลับเป็นคนอ่อนหวาน ชอบความโรแมนติค...
คุณหญิงจารุวรรณ เป็นลูกสาวคนโตจากครอบครัวคนจีนย่านสำเพ็ง มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน เป็นนักเรียนนอกจากมิชิแกน สเตท เป็นตั่วเจ้ของน้องๆ ที่ต้องมา "ขั่งเต้" ในวันตรุษจีน เพราะพ่อ-แม่เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่
ทุกวันนี้เธอมีชีวิตครอบครัวอบอุ่นกับสามีคนจีนแต้จิ๋วและลูกๆ 3 คน
ท่ามกลางมรสุมแย่งเก้าอี้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่โหมกระหน่ำในเวลานี้ คุณหญิงบอกว่า...
"..Riches I seek not nor men empty place"
ความร่ำรวยฉันไม่เสาะแสวงหา ไม่แม้แต่คำสรรเสริญอันว่างเปล่าของมนุษย์ แต่สิ่งที่เสาะแสวงหาคือความรอดในพระเจ้า..
**********************************
กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำไมถึงเป็นแบบนี้ทั้งที่ทำหน้าที่ด้วยดี?
เมื่อสามปีก่อนรัฐบาลไม่ทันตั้งหลักว่าตำแหน่งนี้มันมีอิทธิฤทธิ์อย่างไร พอเราเข้ามาทำงานเห็นความไม่ชอบมาพากลก็เลยออกมาเปรี้ยงๆๆๆ...ทั้งเรื่องหนองงูเห่า ซื้อที่ดินของ ธ.ก.ส.หรือเรื่องต้นกล้ายางพารา
อย่างเรื่องทุจริตต้นกล้ายาง โทรศัพท์ไปถามเลยว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า คนๆ นั้นบอกไม่เกี่ยวๆ เป็นเรื่องของอธิบดี ดิฉันก็บอกถ้างั้นจะลุยแล้วนะ...
เรื่องต้นกล้ายางทุจริตเห็นชัดเจนมาก ใช้เงินตั้ง 1,400 ล้าน ซื้อกล้า 90 ล้านต้น แต่พอไปเช็คราคาอย่างเก่งก็ต้นละ 8 บาท แต่เขาซื้อ 16 บาท ราคาแพงกว่าเท่าตัว และที่สำคัญมีซื้อลมด้วย บอกมี 90 ล้านต้นแต่ที่จริงส่งแค่ 20 ล้านเอง เป็นเรื่องหดหู่มาก หากินกับเกษตรกรยากจน คิดดูเขากู้เงิน ธ.ก.ส.มาซื้อ 6 ปี ปลูกเกือบตาย น้ำยางไม่มี ฆ่าเขาไหม?
เรื่องนี้ตรวจสอบไม่ยาก ในสัญญาจ้างมีต่อท้ายว่าแปลงที่จะมาประกวดราคาได้จะต้องเป็นแปลงที่จดทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร เราก็ไปเก็บมาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ว่าจังหวัดเธอมีแปลงที่จดทะเบียนตามท้ายสัญญานี้ที่ไหนบ้าง แต่ละแปลงมีประสิทธิภาพเพาะได้กี่ต้น เอามารวมกันก็จะรู้จำนวนที่แท้จริงว่ามันได้ 90 ล้านต้นหรือไม่
...มันทำให้เห็นสัจธรรมชีวิต ที่เกิดกับเรามันเป็นใบสั่ง ตอนแรกเขายังตั้งหลักไม่ทัน แต่ตอนนี้ต้องเอาดิฉันออก เพราะเห็นว่าฤทธิ์เดชชักเยอะ
จบจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน?
ค่ะ...มัธยมเรียนที่เตรียมอุดมศึกษา ระหว่างนั้นได้ทุนเป็นนักเรียนเอเอฟเอส รุ่นที่ 1 ไปอยู่ไฮสคูลที่สหรัฐอเมริกา พอกลับมาก็สอบเอ็นทรานซ์พอดี ติดที่คณะบัญชี จุฬาฯ เรียนจบเป็นที่ 1 ของรุ่น เข้าทำงานก็ไปสอบชิงทุน ก.พ. ในความต้องการของ สตง.
เลือกไปมิชิแกน เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่งที่สุดทางด้านบัญชีและตรวจสอบ และอาจารย์ที่เก่งๆ อยู่ที่มิชิแกน สเตท แต่พอเรียนแล้วรู้สึกว่าเลือกผิด เพราะสาหัสสากรรจ์มาก ยากที่สุด ทรหดที่สุด ยังไม่มีคนไทยคนไหนจบดอกเตอร์จากที่นี่ได้เลย ดิฉันควรจะเป็นคนแรกเพราะเรียนไปตั้งเยอะแล้ว แต่เกิดอุบัติเหตุรักเสียก่อน..(หัวเราะเสียงดัง)
พอกลับมาเมืองไทยต้องทำงานใช้ทุน เริ่มระดับซี 4 ที่ สตง.สมัยนั้นคนรู้ภาษาอังกฤษมีน้อย ดิฉันเป็นนักเรียนนอกมาก็ถูกส่งไปตรวจโครงการใหญ่ๆ อย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.) ตอนนั้นหนักมากเป็นรัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ที่สุดและใช้ภาษาอังกฤษทั้งนั้น แล้วไปตรวจที่การปิโตรเลียม ตอนนั้นยังเป็นสามทหารอยู่ซึ่งบัญชีเละเทะมาก และมาเฟียที่สุด ถูกส่งไปตรวจหน่วยงานทหาร เช่น องค์การแก้ว องค์การ
แบตเตอรี่ ต้องเข้าไปเคลียร์ใหม่หมด
โดย สกุณา ประยูรศุข
ในหน้าที่การงาน "คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา" เป็นไม้บรรทัดเหล็ก ยืนหยัดต่อสู้ เอาจริงเอาจังจนดูเหมือนเป็นคนแข็ง ทระนงไม่ยอมใคร
แต่ในชีวิตจริงกลับเป็นคนอ่อนหวาน ชอบความโรแมนติค...
คุณหญิงจารุวรรณ เป็นลูกสาวคนโตจากครอบครัวคนจีนย่านสำเพ็ง มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน เป็นนักเรียนนอกจากมิชิแกน สเตท เป็นตั่วเจ้ของน้องๆ ที่ต้องมา "ขั่งเต้" ในวันตรุษจีน เพราะพ่อ-แม่เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่
ทุกวันนี้เธอมีชีวิตครอบครัวอบอุ่นกับสามีคนจีนแต้จิ๋วและลูกๆ 3 คน
ท่ามกลางมรสุมแย่งเก้าอี้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่โหมกระหน่ำในเวลานี้ คุณหญิงบอกว่า...
"..Riches I seek not nor men empty place"
ความร่ำรวยฉันไม่เสาะแสวงหา ไม่แม้แต่คำสรรเสริญอันว่างเปล่าของมนุษย์ แต่สิ่งที่เสาะแสวงหาคือความรอดในพระเจ้า..
**********************************
กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำไมถึงเป็นแบบนี้ทั้งที่ทำหน้าที่ด้วยดี?
เมื่อสามปีก่อนรัฐบาลไม่ทันตั้งหลักว่าตำแหน่งนี้มันมีอิทธิฤทธิ์อย่างไร พอเราเข้ามาทำงานเห็นความไม่ชอบมาพากลก็เลยออกมาเปรี้ยงๆๆๆ...ทั้งเรื่องหนองงูเห่า ซื้อที่ดินของ ธ.ก.ส.หรือเรื่องต้นกล้ายางพารา
อย่างเรื่องทุจริตต้นกล้ายาง โทรศัพท์ไปถามเลยว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า คนๆ นั้นบอกไม่เกี่ยวๆ เป็นเรื่องของอธิบดี ดิฉันก็บอกถ้างั้นจะลุยแล้วนะ...
เรื่องต้นกล้ายางทุจริตเห็นชัดเจนมาก ใช้เงินตั้ง 1,400 ล้าน ซื้อกล้า 90 ล้านต้น แต่พอไปเช็คราคาอย่างเก่งก็ต้นละ 8 บาท แต่เขาซื้อ 16 บาท ราคาแพงกว่าเท่าตัว และที่สำคัญมีซื้อลมด้วย บอกมี 90 ล้านต้นแต่ที่จริงส่งแค่ 20 ล้านเอง เป็นเรื่องหดหู่มาก หากินกับเกษตรกรยากจน คิดดูเขากู้เงิน ธ.ก.ส.มาซื้อ 6 ปี ปลูกเกือบตาย น้ำยางไม่มี ฆ่าเขาไหม?
เรื่องนี้ตรวจสอบไม่ยาก ในสัญญาจ้างมีต่อท้ายว่าแปลงที่จะมาประกวดราคาได้จะต้องเป็นแปลงที่จดทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร เราก็ไปเก็บมาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ว่าจังหวัดเธอมีแปลงที่จดทะเบียนตามท้ายสัญญานี้ที่ไหนบ้าง แต่ละแปลงมีประสิทธิภาพเพาะได้กี่ต้น เอามารวมกันก็จะรู้จำนวนที่แท้จริงว่ามันได้ 90 ล้านต้นหรือไม่
...มันทำให้เห็นสัจธรรมชีวิต ที่เกิดกับเรามันเป็นใบสั่ง ตอนแรกเขายังตั้งหลักไม่ทัน แต่ตอนนี้ต้องเอาดิฉันออก เพราะเห็นว่าฤทธิ์เดชชักเยอะ
จบจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน?
ค่ะ...มัธยมเรียนที่เตรียมอุดมศึกษา ระหว่างนั้นได้ทุนเป็นนักเรียนเอเอฟเอส รุ่นที่ 1 ไปอยู่ไฮสคูลที่สหรัฐอเมริกา พอกลับมาก็สอบเอ็นทรานซ์พอดี ติดที่คณะบัญชี จุฬาฯ เรียนจบเป็นที่ 1 ของรุ่น เข้าทำงานก็ไปสอบชิงทุน ก.พ. ในความต้องการของ สตง.
เลือกไปมิชิแกน เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่งที่สุดทางด้านบัญชีและตรวจสอบ และอาจารย์ที่เก่งๆ อยู่ที่มิชิแกน สเตท แต่พอเรียนแล้วรู้สึกว่าเลือกผิด เพราะสาหัสสากรรจ์มาก ยากที่สุด ทรหดที่สุด ยังไม่มีคนไทยคนไหนจบดอกเตอร์จากที่นี่ได้เลย ดิฉันควรจะเป็นคนแรกเพราะเรียนไปตั้งเยอะแล้ว แต่เกิดอุบัติเหตุรักเสียก่อน..(หัวเราะเสียงดัง)
พอกลับมาเมืองไทยต้องทำงานใช้ทุน เริ่มระดับซี 4 ที่ สตง.สมัยนั้นคนรู้ภาษาอังกฤษมีน้อย ดิฉันเป็นนักเรียนนอกมาก็ถูกส่งไปตรวจโครงการใหญ่ๆ อย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.) ตอนนั้นหนักมากเป็นรัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ที่สุดและใช้ภาษาอังกฤษทั้งนั้น แล้วไปตรวจที่การปิโตรเลียม ตอนนั้นยังเป็นสามทหารอยู่ซึ่งบัญชีเละเทะมาก และมาเฟียที่สุด ถูกส่งไปตรวจหน่วยงานทหาร เช่น องค์การแก้ว องค์การ
แบตเตอรี่ ต้องเข้าไปเคลียร์ใหม่หมด
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
กลับมาจากเมืองนอกแรกๆเป็นอย่างไร?
มาทำงานได้เงินเดือน สมัยนั้นเงินเดือนปริญญาโท 1,500 บาท เองนะ เราก็ซื้อรถฟอร์ด เอสคอต สีแสดมาขับฉุยฉายใส่มินิสเกิ้ต...ตั้งชื่อรถว่า "เบบี้ปริ๊นเซส" สมัยนั้นผู้หญิงขับรถน้อยมาก เราก็ขับฉุยฉายไปมา ขับไปสอนพิเศษ พอจอดปั๊บอาจารย์หนุ่มๆ ก็มองเหลียวหลัง เพราะใส่มินิสเกิ้ตแล้วผมยาวถึงเอว เท่เป็นบ้า ฮือ...ก็คิดนะแต่ก่อนเราก็ไม่เลว...(หัวเราะเสียงดังอีก)
...ตอนนั้นมีแฟนเป็นตำรวจ แต่พ่อบอกว่าแต่งงานกับตำรวจจะน้ำตาเช็ดหัวเข่า ตำรวจมีเมียน้อยแน่นอน สุดท้ายมาเจอคนปัจจุบันนี้ เขาใช้วิธีพาพ่อแม่ไปเที่ยวเมืองจีน กลับมาพ่อบอกคนนี้ดี...(หัวเราะ) เลยแต่งงานกันแล้วก็มาทำธุรกิจของเราเอง ก็อยู่กันมาจนถึงทุกวันนี้
เป็นอาจารย์สอนพิเศษด้วย?
เป็นตั้งแต่กลับมาจากนอกใหม่ๆ ชอบสอนหนังสืออาจเป็นเพราะเกิดวันพฤหัสบดี วิชาที่สอนโดยมากเกี่ยวกับตรวจสอบ หลักการบัญชี และบังเอิญเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตด้วยเขาเลยให้มาสอนวิชาเฉพาะคือวิชาสอบบัญชีโดยตรง
...ที่มาทำงานด้านการตรวจสอบ...เป็นเพราะต้องใช้ทุนคืน ความจริงอยากเรียนหมอมากกว่า คือ ทระนงว่าตัวเองเรียนเก่ง สอบได้ที่ 1 มีรางวัลที่ไหนก็ไปกวาดอยู่เรื่อยเลยคิดว่าน่าจะเรียนแพทย์ เผอิญว่าตอนที่ได้ทุนเอเอฟเอสไปอยู่อเมริกาหนึ่งปีกลับมาแล้วไม่ได้เรียน เขามีสอบเอ็นทรานซ์พอดี เลยไม่ติดแพทย์ไปติดบัญชี จุฬาฯ แทน มาทุกวันนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกัน ได้ดูแลบ้านเมือง ได้ดูแลการใช้จ่ายของประเทศ
ทำอย่างไรถึงรู้ว่าเรื่องที่ตรวจสอบอยู่นั้นมีทุจริต?
ในตำราไม่มีบอกหรอกนะ แต่พออ่านปุ๊บรู้เลยว่ามันต้องอย่างนี้ๆ มันใช้ประสบการณ์ อย่างเช็ค
ถ้าเขียนออกมาสมมุติจ่ายให้กับคนเป็นเจ้าหนี้โดยตรง ต้องขีดคร่อมเฉพาะและเขียนชื่อคนๆ นั้น ถ้ามีแบบนี้หนแรกเขาบอกว่าลืมก็โอเคได้ แต่หนที่สองไม่ควรจะลืม
หรือดูจากสเปคทีโออาร์ เขาเสนอมาเห็นเลย อย่างเวลานี้เห็นอยู่อันในสัญญางานใหญ่งานหนึ่ง ในตัวสัญญาตัวนี้ให้ผู้รับเหมาไปกู้เงินมาเอง แต่มีอยู่ข้อหนึ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน คนไม่อ่านจะไม่เห็น หรือใครไม่สังเกตจะไม่รู้ เขียนบอกว่าเป็นค่าธรรมเนียมเงินกู้...พันกว่าล้านบาท ค่าธรรมเนียมอะไร จ่ายเรื่องอะไร...
แสดงว่าต้องอ่านละเอียดมาก
ใช่ๆ เลยตาบวมไง เพราะต้องอ่านมาก กลับบ้านก็ชอบนอนอ่านหนังสือพิมพ์อีก อ่านทุกฉบับ
เหมือนมีซิกเซ้นส์
มี เปิดอ่านปั๊บ...ก็ใช่...ใช่เลย สัญญาซื้อจะจ่ายให้ 200 ล้าน 200 ล้านนี่แหละคือคอมมิชชั่นที่เขาได้ไป อย่างเราทำเกือบตายจะได้ไหมนี่ 10 ล้าน
เป็นหนอนหนังสือมาแต่เด็ก
โอ้ย...เป็นคนติดนิยายอย่างแรง พ่อให้เงินไปโรงเรียนจะเก็บ กินนิดเดียว แต่จะเก็บไว้ถึงเวลาไปสนามหลวงซื้อนิยายเก่าๆ มาอ่าน นั่งสามล้อถีบกลับบ้านหนังสือเต็มคันรถ พ่อยืนถมึงทึงอยู่หน้าบ้าน ชอบอ่านมากกระทั่งไม่ยอมนอน
วันไปรับสายสะพายคุณหญิงเจอทมยันตี บอกว่าติดตามงานมานานมาก เขาก็ลองภูมิว่าจริงหรือเปล่า ถามเรื่องไหน ก็บอกว่าเรื่องค่าของคน ฝ้ายแกมแพร เล่าให้เขาฟังเป็นฉากๆ
ชอบกฤษณา อโศกสิน ประทับใจมากๆ คือเรื่อง "ก่อนตะวันตกดิน" เป็นเรื่องเกี่ยวกับวงราชการ นางเอกเป็นคนตรง มีน้าเป็นผู้หญิงไฮโซ สามีจะเป็นอธิบดีกรมหนึ่งเทียบคล้ายๆ กรมทางหลวง แล้วมีการคอร์รัปชั่น นางเอกคนนี้รับไม่ได้ แล้วอธิบดีคนนี้มีคนสนิทเป็นพระเอก นางเอกก็ไปหลงรักมาก แต่พระเอกซึมซับการคอร์รัปชั่นมา นางเอกรับไม่ได้ สุดท้ายยอมตัดใจจาก ทำนองนี้
ใกล้เคียงกับเรื่องตัวเอง
(หัวเราะ)...ไม่ได้คิดขนาดนั้น แต่นิยายจบได้สวยมาก เรื่องมันใกล้เคียงความจริงในสังคมไทยมากเลย
...เอ้อ มีอีกเรื่องของสุภาว์ เทวกุล ชื่อเรื่อง "รสริน" อยากให้เอามาทำละครมากก..กก.. รสรินเป็นชื่อนางเอก เป็นคนสวยเชื่อมั่นในตัวเอง จบอักษรศาสตร์ จุฬาฯ พระเอกเรื่องนี้เป็นคนหล่อมาก เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นสมัยสงครามญี่ปุ่น นางเอกมีบ้านไม้เก่าๆ ช่วงสงครามก็ยากจนเพราะของทุกอย่างแพง นางเอกมีพ่อเป็นเจ้าคุณก็จริง แต่ไปมีเมียน้อย พระเอกอยู่ข้างบ้านนางเอก ชอบมานอนเล่นใต้ต้นชมพู่ รักกันมาตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งพระเอกได้ดิบได้ดีไปเรียนญี่ปุ่น ไปได้เมียคนญี่ปุ่น นางเอกก็เสียใจบอกว่าพระเอกตระบัดสัตย์ พอพระเอกเรียนจบกลับมา นางเอกไปได้กับพ่อค้าคนหนึ่ง แต่เป็นพ่อค้ามีคุณธรรมมาก รวยขึ้นมาด้วยการขายของให้ญี่ปุ่น เป็นคนรักชาติบ้านเมือง เป็นคนไม่หล่อ
สุดท้ายนางเอกต้องเลือกระหว่างคนหล่อกับพ่อค้าหน้าตาน่าเกลียด นางเอกตัดสินใจเลือกพ่อค้า ต่อมาพระเอกไปลงสมัคร ส.ส.ในนิยายเขาเล่าถึงวิธีการหาเสียง คืนหมาหอน พระเอกไปกินลาบเลือดเพื่อให้เข้ากับชาวบ้าน เหมือนสมัยนี้เปี๊ยบเลย อยากให้เอามาสร้างหนังมาก เวลานางเอกพูดอะไรออกมามันพูดถึงศีลธรรมในใจเขา
ในโลกวัตถุนิยมจริยธรรมคนเราแย่ลง?
สมัยก่อนที่ดิฉันเรียนหนังสือเขาจะมีวิชาศีลธรรมและหน้าที่พลเมือง อยากให้เอาวิชาพวกนี้กลับมาสอนอีก สอนตั้งแต่เด็กชั้นประถมเลย เพราะวิชานี้สอนว่าหน้าที่พลเมืองที่ดีต้องปฏิบัติอย่างไร ธงชาติมีความหมายว่าอย่างไร อย่างนี้เป็นต้น
และหลักสูตรสมัยก่อนมีบทอาขยาน นักเรียนทุกคนต้องท่อง มันเป็นภาษาที่สวยงาม และฝังเข้าไปในจิตใจของคนท่องคนอ่าน ยังจำได้อย่างมีบทหนึ่ง "อันนกกาอาศัยซึ่งปีกหาง ไปสู่ทางที่ประสงค์ตรงดังหมาย รู้หลบหลีกปีกป้องประคองกาย..." นี่สอนให้รู้ว่าต้องปรับตัวเป็น จะไปถึงที่หมายต้องหลบหลีกปีกป้อง ไม่ใช่ซื่อไม่รู้เรื่อง หรือไปเอากับเขาด้วย
เหมื่อนเรื่องของคุณหญิงเลย
(หัวเราะ) ดิฉันหลบมาเยอะแล้ว หลบจนหลบไม่ไหว ตอนนี้ก็ได้แต่สอนคนรุ่นใหม่ อย่างเมื่อไม่นานไปสอนเด็กวิศวะจบใหม่ บอกว่าคุณอย่าร่วมมือกับเขา คุณร่วมมือกับเขาพวกนั้นลอยหมด แต่คุณเซ็นชื่อในแบบ คุณโดน แต่จะหลบได้อย่างไรก็เล่าให้เขาฟัง
หรืออย่างบทนี้ "ตั้งเอ๋ยตั้งไข่ จะตั้งไยไข่กลมก็ล้มสิ้น ถึงว่าไข่ล้มก็ต้มกิน ไข่ตกดินก็อดหมดฝีมือ ตั้งใจเรานี้จะดีกว่า อุตส่าห์อ่านเขียนเรียนหนังสือ..." นี่อย่างนี้มันสอนคน อยากให้เอากลับมาสอนอีก
และอีกบท "...แสนสงสารนันทาที่น่ารัก...นันทาเป็นชื่อแม่ไก่อยู่มาวันหนึ่งวิ่งออกไปถูกรถทับตาย เด็กหญิงเจ้าของจึงนั่งร้องไห้สงสารแม่ไก่ อันนี้สอนให้คนเรามีจิตใจอ่อนโยน สอนให้รักคนอื่นเหมือนรักตัวเอง ทุกวันนี้เรียนอะไรกันก็ไม่รู้ ยังงงๆ อยู่เลย
เจอมรสุมแบบนี้จัดการกับปัญหาอย่างไร?
ดิฉันไม่ใช่คนบ้าศาสนา แต่ทุกอาทิตย์ขอ 1 ชั่วโมงอยู่กับพระเจ้า ดิฉันเป็นคริสต์ แต่สามีเป็นพุทธ หนึ่งชั่วโมงนี้จะไปโบสถ์ที่วัฒนา ไปนมัสการพระเจ้า ไปร้องเพลง เพลงค่อนข้างไพเราะ เป็นเพลงหวานๆ เหมือนโมสาร์ท ไม่เหมือนของคาทอลิก
มีอยู่เพลงชอบมาก ตอนหนึ่งของเพลงบอกว่า "..Riches I seek not nor men empty place"
เวลาที่เกิดทุกข์ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ ไม่รู้จะไปหาใคร ก็เข้าไปในห้อง บอกพระเจ้าทำไมเป็นอย่างนี้ เราไม่ได้ทำบาปทำกรรมอะไร เราพยายามเป็นคนดี แล้วก็เปิดอ่านไบเบิลซึ่งในคัมภีร์เล่มใหญ่ๆ นั้นจะมีเล่มเล็กๆ อยู่หลายเล่ม พอเปิดปั๊บไปเจอหนังสือชื่อ "เสฟันยา" ปกติก็ไม่ค่อยชอบอ่านคัมภีร์ ไม่เคยรู้เลยว่าในโลกนี้มีหนังสือเล่มนี้ด้วย แต่เมื่อเปิดอ่าน โอ้...พระเจ้ากำลังคุยอยู่กับเราแท้ๆ เนื้อหามันตรงกับทุกสิ่งที่เรากำลังประสบอยู่ พระเจ้ากำลังปลอบใจเรา
เห็นว่าเก็บของเตรียมย้ายออกแล้ว?
ไม่ ยังทิ้งระเกะระกะอยู่ แต่อย่างว่าเรามีเวลาก็เก็บหน่อย ไม่ได้เก็บเพื่อจะย้าย เป็นข่าวปล่อย เพราะเขาเอาเราออกไม่ได้ก็ปล่อยข่าว
อะไรทำให้ยืนหยัดอยู่แบบนี้ไม่ยอมถอย
ไม่ใช่ว่าอยากอยู่นะ ตำแหน่งก็ไม่ยึดติด แต่ความคิดคือต้องการรักษามาตรฐานความถูกต้องเอาไว้ เอาเราออกได้ถ้าเราผิด แต่นี่เราไม่ผิด และไม่ใช่ว่าฉันน้อยใจขอลาออก ไม่ใช่ดิฉันแน่ ดิฉันเป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินคนแรกในรัฐธรรมนูญตามกฎหมายประเทศไทย ต่อไปวันหลังถ้าเกิดอะไรขึ้นมานิดๆ หน่อยๆ แล้วต้องลาออก ก็ทำแบบอย่างที่ไม่ดีไว้
มี"บิ๊ก"หนุนหลัง
ไม่มี แต่มีผู้ใหญ่ที่ดีๆ ให้คำปรึกษาในเรื่องของกฎหมาย...
ทั้งหมดก็แล้วแต่น้ำพระทัยท่าน ท่านจะโปรดอย่างไรดิฉันรับได้ทุกอย่าง
และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดิฉันไม่กลัวด้วย เพราะเราไม่เคยทุจริต ครอบครัวดิฉันไม่เคยทุจริต
http://www.matichon.co.th/matichon/mati ... 2005/05/29
มาทำงานได้เงินเดือน สมัยนั้นเงินเดือนปริญญาโท 1,500 บาท เองนะ เราก็ซื้อรถฟอร์ด เอสคอต สีแสดมาขับฉุยฉายใส่มินิสเกิ้ต...ตั้งชื่อรถว่า "เบบี้ปริ๊นเซส" สมัยนั้นผู้หญิงขับรถน้อยมาก เราก็ขับฉุยฉายไปมา ขับไปสอนพิเศษ พอจอดปั๊บอาจารย์หนุ่มๆ ก็มองเหลียวหลัง เพราะใส่มินิสเกิ้ตแล้วผมยาวถึงเอว เท่เป็นบ้า ฮือ...ก็คิดนะแต่ก่อนเราก็ไม่เลว...(หัวเราะเสียงดังอีก)
...ตอนนั้นมีแฟนเป็นตำรวจ แต่พ่อบอกว่าแต่งงานกับตำรวจจะน้ำตาเช็ดหัวเข่า ตำรวจมีเมียน้อยแน่นอน สุดท้ายมาเจอคนปัจจุบันนี้ เขาใช้วิธีพาพ่อแม่ไปเที่ยวเมืองจีน กลับมาพ่อบอกคนนี้ดี...(หัวเราะ) เลยแต่งงานกันแล้วก็มาทำธุรกิจของเราเอง ก็อยู่กันมาจนถึงทุกวันนี้
เป็นอาจารย์สอนพิเศษด้วย?
เป็นตั้งแต่กลับมาจากนอกใหม่ๆ ชอบสอนหนังสืออาจเป็นเพราะเกิดวันพฤหัสบดี วิชาที่สอนโดยมากเกี่ยวกับตรวจสอบ หลักการบัญชี และบังเอิญเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตด้วยเขาเลยให้มาสอนวิชาเฉพาะคือวิชาสอบบัญชีโดยตรง
...ที่มาทำงานด้านการตรวจสอบ...เป็นเพราะต้องใช้ทุนคืน ความจริงอยากเรียนหมอมากกว่า คือ ทระนงว่าตัวเองเรียนเก่ง สอบได้ที่ 1 มีรางวัลที่ไหนก็ไปกวาดอยู่เรื่อยเลยคิดว่าน่าจะเรียนแพทย์ เผอิญว่าตอนที่ได้ทุนเอเอฟเอสไปอยู่อเมริกาหนึ่งปีกลับมาแล้วไม่ได้เรียน เขามีสอบเอ็นทรานซ์พอดี เลยไม่ติดแพทย์ไปติดบัญชี จุฬาฯ แทน มาทุกวันนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกัน ได้ดูแลบ้านเมือง ได้ดูแลการใช้จ่ายของประเทศ
ทำอย่างไรถึงรู้ว่าเรื่องที่ตรวจสอบอยู่นั้นมีทุจริต?
ในตำราไม่มีบอกหรอกนะ แต่พออ่านปุ๊บรู้เลยว่ามันต้องอย่างนี้ๆ มันใช้ประสบการณ์ อย่างเช็ค
ถ้าเขียนออกมาสมมุติจ่ายให้กับคนเป็นเจ้าหนี้โดยตรง ต้องขีดคร่อมเฉพาะและเขียนชื่อคนๆ นั้น ถ้ามีแบบนี้หนแรกเขาบอกว่าลืมก็โอเคได้ แต่หนที่สองไม่ควรจะลืม
หรือดูจากสเปคทีโออาร์ เขาเสนอมาเห็นเลย อย่างเวลานี้เห็นอยู่อันในสัญญางานใหญ่งานหนึ่ง ในตัวสัญญาตัวนี้ให้ผู้รับเหมาไปกู้เงินมาเอง แต่มีอยู่ข้อหนึ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน คนไม่อ่านจะไม่เห็น หรือใครไม่สังเกตจะไม่รู้ เขียนบอกว่าเป็นค่าธรรมเนียมเงินกู้...พันกว่าล้านบาท ค่าธรรมเนียมอะไร จ่ายเรื่องอะไร...
แสดงว่าต้องอ่านละเอียดมาก
ใช่ๆ เลยตาบวมไง เพราะต้องอ่านมาก กลับบ้านก็ชอบนอนอ่านหนังสือพิมพ์อีก อ่านทุกฉบับ
เหมือนมีซิกเซ้นส์
มี เปิดอ่านปั๊บ...ก็ใช่...ใช่เลย สัญญาซื้อจะจ่ายให้ 200 ล้าน 200 ล้านนี่แหละคือคอมมิชชั่นที่เขาได้ไป อย่างเราทำเกือบตายจะได้ไหมนี่ 10 ล้าน
เป็นหนอนหนังสือมาแต่เด็ก
โอ้ย...เป็นคนติดนิยายอย่างแรง พ่อให้เงินไปโรงเรียนจะเก็บ กินนิดเดียว แต่จะเก็บไว้ถึงเวลาไปสนามหลวงซื้อนิยายเก่าๆ มาอ่าน นั่งสามล้อถีบกลับบ้านหนังสือเต็มคันรถ พ่อยืนถมึงทึงอยู่หน้าบ้าน ชอบอ่านมากกระทั่งไม่ยอมนอน
วันไปรับสายสะพายคุณหญิงเจอทมยันตี บอกว่าติดตามงานมานานมาก เขาก็ลองภูมิว่าจริงหรือเปล่า ถามเรื่องไหน ก็บอกว่าเรื่องค่าของคน ฝ้ายแกมแพร เล่าให้เขาฟังเป็นฉากๆ
ชอบกฤษณา อโศกสิน ประทับใจมากๆ คือเรื่อง "ก่อนตะวันตกดิน" เป็นเรื่องเกี่ยวกับวงราชการ นางเอกเป็นคนตรง มีน้าเป็นผู้หญิงไฮโซ สามีจะเป็นอธิบดีกรมหนึ่งเทียบคล้ายๆ กรมทางหลวง แล้วมีการคอร์รัปชั่น นางเอกคนนี้รับไม่ได้ แล้วอธิบดีคนนี้มีคนสนิทเป็นพระเอก นางเอกก็ไปหลงรักมาก แต่พระเอกซึมซับการคอร์รัปชั่นมา นางเอกรับไม่ได้ สุดท้ายยอมตัดใจจาก ทำนองนี้
ใกล้เคียงกับเรื่องตัวเอง
(หัวเราะ)...ไม่ได้คิดขนาดนั้น แต่นิยายจบได้สวยมาก เรื่องมันใกล้เคียงความจริงในสังคมไทยมากเลย
...เอ้อ มีอีกเรื่องของสุภาว์ เทวกุล ชื่อเรื่อง "รสริน" อยากให้เอามาทำละครมากก..กก.. รสรินเป็นชื่อนางเอก เป็นคนสวยเชื่อมั่นในตัวเอง จบอักษรศาสตร์ จุฬาฯ พระเอกเรื่องนี้เป็นคนหล่อมาก เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นสมัยสงครามญี่ปุ่น นางเอกมีบ้านไม้เก่าๆ ช่วงสงครามก็ยากจนเพราะของทุกอย่างแพง นางเอกมีพ่อเป็นเจ้าคุณก็จริง แต่ไปมีเมียน้อย พระเอกอยู่ข้างบ้านนางเอก ชอบมานอนเล่นใต้ต้นชมพู่ รักกันมาตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งพระเอกได้ดิบได้ดีไปเรียนญี่ปุ่น ไปได้เมียคนญี่ปุ่น นางเอกก็เสียใจบอกว่าพระเอกตระบัดสัตย์ พอพระเอกเรียนจบกลับมา นางเอกไปได้กับพ่อค้าคนหนึ่ง แต่เป็นพ่อค้ามีคุณธรรมมาก รวยขึ้นมาด้วยการขายของให้ญี่ปุ่น เป็นคนรักชาติบ้านเมือง เป็นคนไม่หล่อ
สุดท้ายนางเอกต้องเลือกระหว่างคนหล่อกับพ่อค้าหน้าตาน่าเกลียด นางเอกตัดสินใจเลือกพ่อค้า ต่อมาพระเอกไปลงสมัคร ส.ส.ในนิยายเขาเล่าถึงวิธีการหาเสียง คืนหมาหอน พระเอกไปกินลาบเลือดเพื่อให้เข้ากับชาวบ้าน เหมือนสมัยนี้เปี๊ยบเลย อยากให้เอามาสร้างหนังมาก เวลานางเอกพูดอะไรออกมามันพูดถึงศีลธรรมในใจเขา
ในโลกวัตถุนิยมจริยธรรมคนเราแย่ลง?
สมัยก่อนที่ดิฉันเรียนหนังสือเขาจะมีวิชาศีลธรรมและหน้าที่พลเมือง อยากให้เอาวิชาพวกนี้กลับมาสอนอีก สอนตั้งแต่เด็กชั้นประถมเลย เพราะวิชานี้สอนว่าหน้าที่พลเมืองที่ดีต้องปฏิบัติอย่างไร ธงชาติมีความหมายว่าอย่างไร อย่างนี้เป็นต้น
และหลักสูตรสมัยก่อนมีบทอาขยาน นักเรียนทุกคนต้องท่อง มันเป็นภาษาที่สวยงาม และฝังเข้าไปในจิตใจของคนท่องคนอ่าน ยังจำได้อย่างมีบทหนึ่ง "อันนกกาอาศัยซึ่งปีกหาง ไปสู่ทางที่ประสงค์ตรงดังหมาย รู้หลบหลีกปีกป้องประคองกาย..." นี่สอนให้รู้ว่าต้องปรับตัวเป็น จะไปถึงที่หมายต้องหลบหลีกปีกป้อง ไม่ใช่ซื่อไม่รู้เรื่อง หรือไปเอากับเขาด้วย
เหมื่อนเรื่องของคุณหญิงเลย
(หัวเราะ) ดิฉันหลบมาเยอะแล้ว หลบจนหลบไม่ไหว ตอนนี้ก็ได้แต่สอนคนรุ่นใหม่ อย่างเมื่อไม่นานไปสอนเด็กวิศวะจบใหม่ บอกว่าคุณอย่าร่วมมือกับเขา คุณร่วมมือกับเขาพวกนั้นลอยหมด แต่คุณเซ็นชื่อในแบบ คุณโดน แต่จะหลบได้อย่างไรก็เล่าให้เขาฟัง
หรืออย่างบทนี้ "ตั้งเอ๋ยตั้งไข่ จะตั้งไยไข่กลมก็ล้มสิ้น ถึงว่าไข่ล้มก็ต้มกิน ไข่ตกดินก็อดหมดฝีมือ ตั้งใจเรานี้จะดีกว่า อุตส่าห์อ่านเขียนเรียนหนังสือ..." นี่อย่างนี้มันสอนคน อยากให้เอากลับมาสอนอีก
และอีกบท "...แสนสงสารนันทาที่น่ารัก...นันทาเป็นชื่อแม่ไก่อยู่มาวันหนึ่งวิ่งออกไปถูกรถทับตาย เด็กหญิงเจ้าของจึงนั่งร้องไห้สงสารแม่ไก่ อันนี้สอนให้คนเรามีจิตใจอ่อนโยน สอนให้รักคนอื่นเหมือนรักตัวเอง ทุกวันนี้เรียนอะไรกันก็ไม่รู้ ยังงงๆ อยู่เลย
เจอมรสุมแบบนี้จัดการกับปัญหาอย่างไร?
ดิฉันไม่ใช่คนบ้าศาสนา แต่ทุกอาทิตย์ขอ 1 ชั่วโมงอยู่กับพระเจ้า ดิฉันเป็นคริสต์ แต่สามีเป็นพุทธ หนึ่งชั่วโมงนี้จะไปโบสถ์ที่วัฒนา ไปนมัสการพระเจ้า ไปร้องเพลง เพลงค่อนข้างไพเราะ เป็นเพลงหวานๆ เหมือนโมสาร์ท ไม่เหมือนของคาทอลิก
มีอยู่เพลงชอบมาก ตอนหนึ่งของเพลงบอกว่า "..Riches I seek not nor men empty place"
เวลาที่เกิดทุกข์ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ ไม่รู้จะไปหาใคร ก็เข้าไปในห้อง บอกพระเจ้าทำไมเป็นอย่างนี้ เราไม่ได้ทำบาปทำกรรมอะไร เราพยายามเป็นคนดี แล้วก็เปิดอ่านไบเบิลซึ่งในคัมภีร์เล่มใหญ่ๆ นั้นจะมีเล่มเล็กๆ อยู่หลายเล่ม พอเปิดปั๊บไปเจอหนังสือชื่อ "เสฟันยา" ปกติก็ไม่ค่อยชอบอ่านคัมภีร์ ไม่เคยรู้เลยว่าในโลกนี้มีหนังสือเล่มนี้ด้วย แต่เมื่อเปิดอ่าน โอ้...พระเจ้ากำลังคุยอยู่กับเราแท้ๆ เนื้อหามันตรงกับทุกสิ่งที่เรากำลังประสบอยู่ พระเจ้ากำลังปลอบใจเรา
เห็นว่าเก็บของเตรียมย้ายออกแล้ว?
ไม่ ยังทิ้งระเกะระกะอยู่ แต่อย่างว่าเรามีเวลาก็เก็บหน่อย ไม่ได้เก็บเพื่อจะย้าย เป็นข่าวปล่อย เพราะเขาเอาเราออกไม่ได้ก็ปล่อยข่าว
อะไรทำให้ยืนหยัดอยู่แบบนี้ไม่ยอมถอย
ไม่ใช่ว่าอยากอยู่นะ ตำแหน่งก็ไม่ยึดติด แต่ความคิดคือต้องการรักษามาตรฐานความถูกต้องเอาไว้ เอาเราออกได้ถ้าเราผิด แต่นี่เราไม่ผิด และไม่ใช่ว่าฉันน้อยใจขอลาออก ไม่ใช่ดิฉันแน่ ดิฉันเป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินคนแรกในรัฐธรรมนูญตามกฎหมายประเทศไทย ต่อไปวันหลังถ้าเกิดอะไรขึ้นมานิดๆ หน่อยๆ แล้วต้องลาออก ก็ทำแบบอย่างที่ไม่ดีไว้
มี"บิ๊ก"หนุนหลัง
ไม่มี แต่มีผู้ใหญ่ที่ดีๆ ให้คำปรึกษาในเรื่องของกฎหมาย...
ทั้งหมดก็แล้วแต่น้ำพระทัยท่าน ท่านจะโปรดอย่างไรดิฉันรับได้ทุกอย่าง
และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดิฉันไม่กลัวด้วย เพราะเราไม่เคยทุจริต ครอบครัวดิฉันไม่เคยทุจริต
http://www.matichon.co.th/matichon/mati ... 2005/05/29
I didn't know that she's Christin at that time when I saw her on TV in Jor Jai show last year. I liked her from the moment. I like that she's a straightforward woman.. She never fear anything but she's so joyful and lively. I was impressed at her from then.
ThanksK. PP for the info ka.. :)
ThanksK. PP for the info ka.. :)
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ค่ะ ขอคุณ บัดดี้ ช่วยอธิษฐานวิงวอนพระเจ้าให้ท่านต่อไป พระเจ้านี่แหละ คือ บิ้ก ที่หนุนหลังตัวจริงค่ะBuddy เขียน: I didn't know that she's Christin at that time when I saw her on TV in Jor Jai show last year. I liked her from the moment. I like that she's a straightforward woman.. She never fear anything but she's so joyful and lively. I was impressed at her from then.
ThanksK. PP for the info ka.. :)
คุณหญิงสู้ๆค่ะ
*no1
*no1
- King Zadin
- โพสต์: 419
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 3:53 am
- ติดต่อ:
ขอพระเป็นเจ้า และพระแม่มารีย์ ทรงเป็นแสงสว่างและกำลังให้ท่านสู้กับการผจญนี้ไปได้ ของทรงเปิดตาและใจผู้ที่หลงผิด สังคมปัจจุบันนี้เลวร้ายจริงๆ คนดีอยู่ยาก
- fizzy vippie
- โพสต์: 371
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 26, 2005 10:58 am
เรื่องมันคือว่า มีกลุ่ม สว. ที่ไม่ชอบความซือตรงของคุณหญิงฯ
นำเรื่องทูลเกล้าในหลวงว่า คุณหญิงฯ ไม่ดีไม่ซื่อสัตย์
ไม่เหมาะกับการจะเป็นผู้ว่า สตง. และได้พยายามเสนอชื่อบุคคลอื่น
ซึ่งคิดว่าน่าจะเอื้อประโยชน์ แก่พวกตนได้มากกว่าขึ้นไปแทนที่
ในหลวงท่านได้รับเรื่องตั้งแต่เดือน มิย. แล้ว
แต่พระองค์ไม่ทรงตอบรับฎีกาใดๆกับฉบับนั้นเลย
จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 3 เดือน กลุ่มคนเหล่านั้นก็ได้รู้สึกว่า
ในหลวงท่านไม่เห็นด้วยกันฎีกาฉบับนั้นและท่านทรงโปรด
ที่จะให้คุณหญิงฯ เข้ารับตำแหน่งดังกล่าวมากกว่าคนอื่นๆ
กลุ่มคนเหล่านั้นก็เลยไปขอพระราชทานเอาฎีกานั้นกลับคืนมาไง
สรุป ....
เพราะคุณหญิงจารุวรรณเชื่อมั่นในน้ำพระทัยของพระเจ้า
พระองค์จึงประทานเกียรติให้ท่านแม้แต่ในทางโลก
ซึ่งเหล่าคนที่ประสงค์ร้ายก็ยังทำอะไรท่านไม่ได้เลยสักนิด
นำเรื่องทูลเกล้าในหลวงว่า คุณหญิงฯ ไม่ดีไม่ซื่อสัตย์
ไม่เหมาะกับการจะเป็นผู้ว่า สตง. และได้พยายามเสนอชื่อบุคคลอื่น
ซึ่งคิดว่าน่าจะเอื้อประโยชน์ แก่พวกตนได้มากกว่าขึ้นไปแทนที่
ในหลวงท่านได้รับเรื่องตั้งแต่เดือน มิย. แล้ว
แต่พระองค์ไม่ทรงตอบรับฎีกาใดๆกับฉบับนั้นเลย
จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 3 เดือน กลุ่มคนเหล่านั้นก็ได้รู้สึกว่า
ในหลวงท่านไม่เห็นด้วยกันฎีกาฉบับนั้นและท่านทรงโปรด
ที่จะให้คุณหญิงฯ เข้ารับตำแหน่งดังกล่าวมากกว่าคนอื่นๆ
กลุ่มคนเหล่านั้นก็เลยไปขอพระราชทานเอาฎีกานั้นกลับคืนมาไง
สรุป ....
เพราะคุณหญิงจารุวรรณเชื่อมั่นในน้ำพระทัยของพระเจ้า
พระองค์จึงประทานเกียรติให้ท่านแม้แต่ในทางโลก
ซึ่งเหล่าคนที่ประสงค์ร้ายก็ยังทำอะไรท่านไม่ได้เลยสักนิด
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ย้ำ "ในหลวง" ไม่ใช่ "ตรายาง"
"เสนาะ" จี้ "สุชน" รับผิดชอบ
รู้ทั้งรู้ว่าไม่ถูกต้อง-ยังทูลเกล้าฯ
"ทักษิณ" รับโทร.หาคุณหญิง
"เสนาะ" จี้ "สุชน" รับผิดชอบ
รู้ทั้งรู้ว่าไม่ถูกต้อง-ยังทูลเกล้าฯ
"ทักษิณ" รับโทร.หาคุณหญิง
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 10:56 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ย้อนเวลาท้าพิสูจน์ใครโกหก
เหตุรื้อห้องทำงาน "คุณหญิง"
ไม่มี "สื่อ" ตามที่คตง.อ้างถึง
แฉ "รวีพร" คนสั่งการตัวจริง
ท้าพิสูจน์ลำดับเวลา
เหตุรื้อห้องทำงาน "คุณหญิง"
ไม่มี "สื่อ" ตามที่คตง.อ้างถึง
แฉ "รวีพร" คนสั่งการตัวจริง
ท้าพิสูจน์ลำดับเวลา
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 11:07 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เตือน "คตง." อย่าเหิม
ระวังเจอข้อหาละเมิด
สันติภาพขู่เช็คประวัติ
ระวังเจอข้อหาละเมิด
สันติภาพขู่เช็คประวัติ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
คตง.โยนบาปนักข่าวตัวเร่งเชื้อ
อยากดูห้องทำงานคุณหญิงเอง
พาไปดู-เข้าไม่ได้-เลยต้องงัด
อยากดูห้องทำงานคุณหญิงเอง
พาไปดู-เข้าไม่ได้-เลยต้องงัด
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
"คตง." สุดเหิม-ไม่สนใจใคร
ชี้ถ้าไม่โปรดเกล้าฯ "วิสุทธิ์"
คุณหญิงก็ไม่ได้กลับ "สตง."
ย้ำต้องยึดห้องทำงานคืนหลวง
ชี้ถ้าไม่โปรดเกล้าฯ "วิสุทธิ์"
คุณหญิงก็ไม่ได้กลับ "สตง."
ย้ำต้องยึดห้องทำงานคืนหลวง
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอบคุณพี่โจอนาคอนด้าที่ชม พอดี หนูเป็นหัวคะแนนให้พี่เม่ย ลงเลือกตั้ง สมัยหน้าฮะJoseph เขียน:
:o น้องเจี๊ยบรู้เรื่องการเมืองเยอะจัง ทำไมอะไรๆ ก็น่ารักไปหมด จี๊บๆ
Update Krab
แนะส.ว.กลืนน้ำลายตัวเอง
ให้การรับรอง "จารุวรรณ"
หวั่นการเมืองถึง "ทางตัน"
กลัวประชาชนเดินบนถนน
( 30 September 2005 17:28 )
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ยังฮะ ตอนนี้ผู้มีอำนาจ กำลังเล่นเกมกันอยู่ฮะBuddy เขียน: So, is she back to work now?
ขอภาวนาให้คุณหญิงต่อไป ........เป็นผู้หญิงแกร่งแห่งปีเจงๆ ???
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ป้าหญิงของหนูสู้ไม่ถอย
"จารุวรรณ" ยืนหยัดสู้ไม่ถอย
ยึดพระราชอำนาจ-ไม่สนคตง.
"ครูหยุย" หนุนประชุมศุกร์นี้
ฝ่ายกม.สุชน-ยันไม่เข้าเกณฑ์
04 October 2005 15:04
"จารุวรรณ" ยืนหยัดสู้ไม่ถอย
ยึดพระราชอำนาจ-ไม่สนคตง.
"ครูหยุย" หนุนประชุมศุกร์นี้
ฝ่ายกม.สุชน-ยันไม่เข้าเกณฑ์
04 October 2005 15:04
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอให้เรามาถวายการขอบคุณพระเจ้า ด้วยกันเถอะ
พระองค์ ผู้ทรงสัตย์ซื่อ ไม่ปล่อยให้ลูกรักของพระองค์ทรงอ้างว้าง
ตอนนี้ น้ำตาแห่งความทุกข์ระทม กลายเป็นน้ำตาแห่งความชื่นชมยินดี
พระเจ้าข้า สรรเสริญ พระนามของพระองค์ เป็นนิจ
กลัวเรื่องมันจะบานปลายนำไปสู่ความร้ายแรงอยู่เนี่ย 4 กุมภา นี้veevy2006 เขียน: เราต้องไปประท้วงคุณทักษิณ ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549 บ่ายโมงตรง ณ.ลานพระบรมรูปทรงม้า คนโกงกินต้องถูกกำจัด
ท่าทางจะหนักแน่ และเรื่องจะต้องยืดเยื้อ ชัวร์Nihil เขียน:กลัวเรื่องมันจะบานปลายนำไปสู่ความร้ายแรงอยู่เนี่ย 4 กุมภา นี้veevy2006 เขียน: เราต้องไปประท้วงคุณทักษิณ ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549 บ่ายโมงตรง ณ.ลานพระบรมรูปทรงม้า คนโกงกินต้องถูกกำจัด