Belong to the Truth Jesus Christ

เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการทักถาม และถกเถียงกัน ในเรื่องการประกาศแบบป้ายเหลือง และเรื่องใบปลิว(ที่ถูกมองว่า)ประกาศอาณาจักรนรกมากกว่าจะพูดถึงอาณาจักรสวรรค์

ตลอดจนความเหมาะสมของท่าทีและพฤติกรรมดังกล่าว

เดชะบุญ(หรือบาปไม่ทราบ) ผมได้นัดพบคนรู้จัก เห้นเขากำลังอ่านการ์ตูนเล่มจิ๋วอยู่ก่อนที่เขาจะโยนมันทิ้งข้างตัวอย่างไม่แยแส หลังจากเขากลับไป ผมก็ไปเจอ ว่า....



โดยอัตโนมัติ ผมทราบได้ทันทีว่านี่คือใบปลิวการ์ตูนที่ว่า เน้นนรก ซะเหลือเกิน

อย่ากระนั้นเลย เราลองมาดุกันว่า มันเขียนอะไรไว้บ้าง

หน้าที่1



เพียงหน้าแรก ผมก็พบความน่าสลดหดหู่ เพราะนอกจากภาพศาลเจ้า ยังมีภาพของสุเหร่า และวัดที่หน้าตาดูเป็นวัดคาทอลิค ที่เขาเอามาประกอบเพื่อบอกเป็นนัยว่า "พระเจ้าไม่อยู่ที่นี่"

ผมมานั่งคิดสมมุติว่าผมเป็นคนนับถือเทพจีน เจอประโยคนี้ไปผมคงตอบทันที่ว่า "เออเดะ ศาลเจ้าอั๊วไม่ได้สร้างให้พระเจ้าลื้อแต่แรกแล้ว อีจะมาอยู่ล่ายยางงายวะ" แต่สิ่งที่ผมในฐานะคาทอลิคสงสัยจริงๆคือ คนวาดการ์ตูนนี้ ใช้อะไรคิดในการวาดหน้านี้ออกมา และอดที่จะคิดไม่ได้ว่า คำว่า "พระองค์ไม่ทรงสถิตย์ในสิ่งก่อสร้างของมนุษย์" นั้น เวลาอ่านและพูดเฉยๆ คงไม่มีใครรู้สึกอะไรเลย แต่พอจงใจใช้ภาพประกอบแบบนี้ มันรู้สึกถึงการดูถูกและเบียนเบียดศาสนาขึ้นมาทันที

หน้าที่2



หน้านี้ผมรู้สึกว่า ยังดีที่เขาไม่ใส่รูปพระพุทธรูปลงไปแต่เลี่ยงไปใส่ภาพเทวดาไทยแทน แล้วก็มีภาพเทพอะไรซักอย่างใส่เสื้อกล้ามเหมือน ยักษ์+เห้งเจีย+นักวิ่งทีมชาติ+นักยิมนาสติกลีลาใหม่ กับสิงโตหินที่มันมีหน้าที่แค่ประดับหน้าศลเจ้าไม่มีใครบ้าไปไหว้มัน แต่ที่เลวจริงๆ เห็นจะเป็นภาพพระมารดามารีย์อุ้มพระกุมารเยซู ที่เขาจงใจวาดอย่างชัดเจนไม่เลี่ยง เรียกว่าด่ากันตรงๆ จึงรู้สึกว่า ยังดีที่รู้จักเกรงใจศาสนาอื่น แต่ถีบหน้าคาทอลิคตรงๆไปเลยไม่ต้องเกรงใจ และเป็นที่แน่ชัดว่า เขาใส่ความว่า รวมภาพศักดิ์สิทธิ์ในพระศาสนจักร เป็นเรื่องการนมัสการรูปเคารพ

จาก2หน้าที่ผ่านมา เน้นจิกกัดคาทอลิคยิ่งกว่าศาสนาอื่นขนาดนี้ คงอยากจะบอกว่า ถ้าจะมาเป็นคริสต์อย่าเผลอไปเข้าคาทอลิคนะเฟ้ย ต้องมาที่คริสตจักรชั้นเท่านั้น

หน้า3 4 5







เอาล่ะครับโลกนี้มันช่างเลวร้าย และชาวจีนไหว้เจ้าโดนกัดอย่างชัดเจนขึ้น

หน้า 6



ผมถึงกะอึ้ง นี่เวลาเรากลับคืนชีพ มันจะดูเป็นซอมบี้ผีลืมหลุมแบบนี้เหรอ แต่ละคนทำหน้าเหมือนเมายาบ้ามากกว่าจะเป็นภาพของ "สันติสุข" ผมเฝ้าถามตัวเองว่า คนต่างศาสนาจะคิดอย่างไรกับการสอนว่าคนเราจะผุดออกจากหลุมแบบนี้ เราคงจำฉากพระเยซูกลับคืนชีพในหนังคุณภาพ the Passion of the Christ ได้ ที่ทำภาพการกลับคืนชีพของพระเยซูได้สวยงามมาก ผมอนุมานว่า ผู้วาดคงวาดมันขึ้นก่อนมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องเยี่ยมดังกล่าว

เอาเถอะผมเริ่มรู้แล้วว่าคนวาดนี้ไม่ได้เป็น พวกตีความพระคัมภีร์ในแบบของตัวเอง แต่เป็นพวกที่ ตีความพระคัมภีร์ตามตัวอักษรในสไตล์ของตัวเอง จริงๆ

หน้าที่ 7



นรกชัดๆ

ผมว่าคำบรรยายนี้สั้นและกระชับกับภาพที่เห็นจริงๆ

ส่วนภาพแรกที่มีหญิงทำหน้าสิ้นหวัง แทนที่จะมีความหวังเมื่ออยู่ต่อหน้าพระเจ้าก็ช่างน่าหดหู่จริงๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมนับมาได้เกินครึ่งเล่ม มีทั้งบรรยากาศของการด่า ประนาม หยามเหยียด และหดหู่ (มีหน้า3เบาสุด) ก่อนจะมาพีคที่สุดที่ภาพ "นรกชัดๆ"

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วสมมุติเราเป็นคนต่างศาสนาเราคง ได้สารต่างๆที่ผู้วาดตั้งใจสื่อดังนี้
-แกมันชั่ว
-ศาสนาแกก็ชั่ว
-ยิ่งแกมีความศรัทธาในศาสนาของแก(ที่แกคิดว่าสอนให้ทำดี) แกยิ่งชั่ว
-พระเจ้าจะพิพากษาแก
-แกจะตกนรกเพราะพระเจ้าของชั้นจะลงโทษแกแน่นนอน

หน้าที่ 8



แล้วอารมณ์ของเราก็ถูกตีกลับไปอีกทางทันที ภาพอันสวยงามของพระมารดามารีย์อุ้มพระกุมารเยซู เอ๊ะ... ระวังนะเดี๋ยวคนเขาจะสับสนกับภาพด่าคาทอลิคช่วงแรกๆว่ามันคืออันเดียวกันไหม เอาเถอะ คนเห็นภาพนรกอาจตกใจจนลืมไปแล้วก็ได้

มาต่อกันอย่างรวบรัดที่ประวัติพระเยซู33ปี แบบ4ช่องจบ

และที่น่ายินดี เราพบคำว่า "รัก" คำแรกแล้วที่หน้านี้

มาถึงตรงนี้แล้ว คุณคิดว่า คนต่างศาสนาจะเชื่อแบบง่ายๆตามคำบอกประโยคเดียวของการ์ตูนเลยไหมว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า แล้วเขาจะคิดว่า พระเจ้ารักเขาไหมครับ เพราะที่ผ่านมามีแต่บอกว่า จะลงโทษกับด่าว่ากรูเลวสารพัด แล้วที่สำคัญประวัติแบบ4ช่องจบนี้ คิดว่าคนอ่านจะรู้สึกไหมครับว่า

พระเยซูน่าเชื่อถือหรือมีความดีตรงไหน

แต่เอาเถอะน่า หน้ากระดาษมีน้อย การบอกให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาเลวและต้องตกนรกนั้นสำคัญและต้องเน้นมากกว่า


หน้าที่ 9 หน้าสุดท้ายแล้วคร่าบ



ผมล่ะงงกับวิธีพูดของเขาจริงๆ กำลังเล่าอยู่ดีๆว่าพระเยซูกลับคืนชีพ ก็เขียนต่อยัดเยียดทันทีว่าพระเยซูคือผู้เดียวที่ช่วยให้รอด อือม์ วิธีสื่อสารของเขานี่มีเอกลักษณ์จริงๆ

เดี๋ยวนะ.. อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคนที่ไม่เคยรู้จักพระองค์เลย เขาจะเชื่อไหมว่าทรงกลับคืนชีพจริง หรือทรงช่วยให้รอดยังไง

อันนี้เรียกได้ว่า ยัดเยียดความเชื่อ มากกว่าติดกางเขนในที่สาธารณะไหม

แต่เอ๊ะ.........

อีกแล้ว........ ภาพ นรกชัดๆ

และประโยคนี้ที่สื่อความแบบตามตัวอัษรได้น่ากลัวมาก

พระเยซูคือผู้ถือกุญแจนรก

ถือกุญแจแห่งความตาย

ถึงตรงนี้แล้วผมอยากจะถามคนวาดว่า

จะให้พระเยซูดูน่ากลัวกันไปถึงไหน

ผมรู้จักแต่พระเยซูผู้น่ารัก ผู้มาบังเกิดอย่างน่ารักในคืนคริสต์มาส เพื่อช่วยให้รอด

ยน 12:47
ผู้ใดได้ยินวาจาของเรา แล้วไม่ปฏิบัติตาม
เราไม่ตัดสินลงโทษเขา
เพราะเราไม่ได้มาเพื่อตัดสินลงโทษโลก
แต่มาเพื่อช่วยโลกให้รอดพ้น


แต่พวกคุณกำลังบอกทุกคนว่าคนที่มาเกิดนี้ คือผู้พิพากษา ผู้ลงโทษ และ ผู้ถือกุญแจนรก และปิดท้ายด้วยรูปนรก

นรกชัดๆ

*หมายเหตุคำนี้แค่บรรยายลักษณะของภาพหน้าสุดท้าย ไม่ได้เป็นคำอุทาน หรือบ่นอะไร

ปกหลัง



โอเคครับ คงเชื่อหรอกนะครับว่าไม่ได้จะชักจูงให้เปลี่ยนศาสนา ก็เล่นด่าศาสนาเดิมเขาซะเยินขนาดนั้นแล้วเขาคงเชื่อแหละครับ

ถึงเวลานี้ ผมอยากจะบอกว่า

รู้ไหมครับว่าคนคิด คนวาด และคนพิมพ์แจกนี้เป็นใคร

ใครก็ได้ช่วยหยุดเขาที

ก่อนที่พระเยซูจะดูแย่ไปกว่านี้

คุณจะด่าแม่พระ หรือด่าคาทอลิคผมยังพอทน แต่การใส่ร้ายว่าพระเยซูของผมจอมโหด และเป็นเจ้านรกแบบนี้ ผมไม่อาจยอมรับได้ครับ

ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันให้เห็นนะคะ  ไม่เคยเห็นใบปลิวแบบนี้มาก่อน
ดูน่ากลัว มากกว่าน่าเชื่อถีอ 
น่าต่อต้าน มากกว่าเกิดศรัทธา
และคงยากที่ทำให้เกิดความสมานฉันท์

เห็นด้วยกับคุณ Holy ค่ะ ว่าน่าจะหยุดเผยแพร่โดยใช้เอกสารที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นนี้
คนพิมพ์น่าจะพิจารณาปรับปรุงเนื้อหานะคะ

ไม่ได้ดูน่ากลัวธรรมดานะคะ  ดูสับสนด้วย ตกลงพระเยซูเจ้าเป็นใครกันแน่

และก็อยากรู้เหมือนกันนะคะว่า มีใครเขียนไปขอหนังสือพระคริสต์มั้ย  บางที ไม่แน่นะ อาจจะมีเขียนไปขอเยอะก็ได้  ลองเขียนไปขอมั้ยคะ คิดว่า เค้าน่าจะให้รายละเอียดอะไรเพิ่มนะคะ อย่างน้อยก็คือ รู้ว่า ใครเป็นคนเผยแพร่

อืม...ปีที่แล้วก็เห็น  เล่มนี้เลย....
จริง ๆ เคยเห็นอีกเล่มด้วย... น่าเกลียดพอ ๆ กัน
ปีนี้ก็ยังอุตส่าห์มาเห็นอีก

ไม่เลิก ไม่เปลี่ยน ไม่แก้


อืมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

โอมม่าอยากเห็นเรื่องแบบนี้เลยอ่าครับ


พระเจ้าของเราน่ารักมากกว่านี้


โอมเคยโดนสอนมาตลอดว่าการที่จะทำอะไรนั้น


เราต้องทำโดยถวายเกียรติ์แก่พระเจ้าเสมอ


โอมม่ารู้ว่าเป็นคริสตจักรไหน


แต่โอมขอโทดแทนพี่น้องคริสเตียนนะครับ ถ้าสิ่งนี้มาจากคนที่เรียกตัวเองว่าคริสเตียนแต่ในนาม และใช้คำว่าคริตจักร


ขอให้พระเจ้าให้อภัยเค้า และขอให้รักษาจิตใตและการกระทำที่ผิดพลาดไปของเค้า


ขอให้พระเจ้าทำลายความคิดที่มาจากมารซาตานและที่ไม่ได้มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์


ขออธิษฐานในนามของพระเยซูอันเป็นที่รักของลูก อาเมน

โอมหาเจอมาจาก thaipost.net อ่าครับ ซึ่งที่อยู่ตรงกัน น่าจะมาจากที่นี้แหละครับ

ลองอ่านดูแล้วจะรู้ว่าผลกระทบมากมายแค่ไหน ขอให้ทุกคนอธิษฐานให้เรื่องนี้ยุติกันนะครับ

โอมไม่อยากเห็นพระเจ้าของเราร้องไห้แล้ว




13 ธันวาคม 2547    กองบรรณาธิการ

"พลังชีวิต 2" ยึดแยกหลัก กทม. ถือป้าย เปิดเทป แจกคำสอน หวังให้คนกรุงเชื่อพระเยซู โดยผู้สนใจติดต่อกลับทางไปรษณีย์ จะได้หนังสือ "พระคริสต์" 298 หน้าฟรี

เจ้าหน้าที่เผยใกล้คริสต์มาสต้องรีบเผยแผ่ ส่วนค่าใช้จ่ายต่างชาติจัดให้  รูปแบบเหมือน "พลังชีวิต"  แตกต่างที่หน่วยงาน  ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า  ที่บริเวณแยกไฟแดงย่านการจราจรหนาแน่นใน กทม. อาทิ  สี่แยกปทุมวัน ราชประสงค์ พญาไท งามวงศ์วาน พระราม 4 บางกะปิ มีกลุ่มชายหญิง  ประมาณ  5-6 คน แต่งตัวด้วยเสื้อผ้ามิดชิด ใส่หมวก พร้อมกับผ้าปิดปาก ถือป้ายและเปิดเทป  เชิญชวนประชาชนที่สัญจร ให้เชื่อใน "พระเจ้า" พร้อมกับแจกเอกสารต่างๆ ที่ถอดความจากพระคัมภีร์ไบเบิล

ที่แยกพระราม 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. กลุ่มคนดังกล่าวกระจายตัวอยู่รอบ  ตามเกาะกลางถนน  ฟุตบาท  ถือป้ายรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีเหลือง ตัวหนังสือสีดำ ขนาด 2.5 x 2.5 ฟุต มีใจความไม่ซ้ำกัน อาทิ "คนบาปจงระวังพระเจ้า"  "พระเยซูคือทางสัจจะแห่งชีวิต"  "พระเยซูเป็นทางรอดบาป  จงกลับใจจากบาป" จากนั้นเข้าไปสอบถามข้อมูล คน ที่ยื่นบริเวณ ใต้สะพานลอยข้ามแยกพระราม 4 เป็นผู้ชายชาวญี่ปุ่น พูดภาษาไทยได้  พร้อมกล่าวว่า  "ขอให้เชื่อออย่างเดี่ยวโดยไม่ต้องทำอะไร ไม่เสียเงิน พร้อมกับให้หนังสือ  "ข่าวประเสริฐ" (พระวจนะและคำพยากรณ์ของพระเยซูคริสต์) พร้อมกับหนังสือเล่มเล็ก ถ้อยคำจากพระเยซู พระคริสธรรมคัมภีร์ ชายญี่ปุ่นคนเดิมยังระบุว่า ถ้าเชื่อให้ติดต่อมาที่ตู้ ป.ณ. 258 คลองจั่น กทม. 10240 แล้วจะส่งหนังสือ "พระคริสต์" 298 หน้า ให้ฟรี

ผู้สื่อข่าวรายงาน ชาวญี่ปุ่นคนดังกล่าวพยายามเลี่ยงให้สัมภาษณ์ พร้อมบ่ายเบี่ยงต่อคำถามต่างๆ และดันผู้สื่อข่าวให้ออกจากบริเวณนั้น  โดยพูดเพียงว่า "ขอให้เชื่อพระเจ้า พระเจ้าช่วยท่านได้"  ขณะเดียวกัน  ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามคนกลุ่มเดิม แต่แยกไปยื่นบริเวณ 3 แยกคลองเตย ซึ่งเป็นผู้ชายญี่ปุ่นเช่นกัน แต่ครั้งนี้ผู้สื่อข่าวไม่ได้เปิดเผยตัวได้ข้อมูลว่า    การดำเนินการดังกล่าวทำด้วยความสมัครใจ    ไม่มีชื่อกลุ่ม  ไม่มีใครจ้างให้ทำ ส่วนงบประมาณที่นำมาทำหนังสือนั้น  มาจากการลงขันของพวกเราที่อาศัยรวมกันที่บ้านบางกะปิ  ทั้งนี้ งานในแต่ละวันคือ จะแจกหนังสือ "ข่าวประเสริฐ" และถ้อยคำจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ให้กับผู้ที่สัญจรไปมา ถ้ามีผู้ใดเชื่อให้ติดต่อตามที่อยู่ดังกล่าว

เมื่อถามว่าการดำเนินการดังกล่าว  เกี่ยวข้องกับ "พลังชีวิต" ที่โปรโมตอย่างหนักตามสื่อต่างๆ หรือไม่  ชายญี่ปุ่นคนเดิมบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง  แต่ยึดคำสอนและจุดประสงค์เช่นเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเบอร์โทรศัพท์ โดยระบุว่าตนสนใจจะร่วมเข้ากลุ่ม แต่ยังไม่กล้า ต้องการทราบข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่านี้  ชายคนเดิมระบุว่าให้โทรศัพท์ไปที่หมายเลข 0-2374-5313

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าว  เป็นที่ตั้งขององค์การไบเบิลกิฟท์ลีค เลขที่ 12 ซ.สวนสน 3 ถ.สุขาภิบาล 3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงติดต่อถามข้อเท็จจริง  ซึ่งปลายสายเป็นผู้หญิง แต่ขอสงวนนาม กล่าวว่า เป็นการรวมตัวของกลุ่มคริสเตียนทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่นับถือในองค์พระเยซู  รวมกลุ่มทำกิจกรรมด้วยความสมัครใจ ไม่มีเงินเดือน  ทั้งนี้ ช่วงนี้ใกล้เทศกาลคริสต์มาส (วันสมภพของพระเยซู)  จึงกระจายกลุ่มส่วนมากเป็นชาวญี่ปุ่นไปตามทั่วกรุงเทพฯ  เพื่อไปเผยแพร่ศาสนา ส่วนงบประมาณในการดำเนินงานต่างๆ ได้รับจากต่างประเทศในรูปแบบเดียวกับ "พลังชีวิต"  แต่ต่างกันที่หน่วยงาน ส่วนจำนวนเงินและประเทศไหนนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้

ด้านพระครูพิศาลธรรมพาที หรือ พยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า  อย่าไปกลัว  อย่าไปตื่นเต้น กับพลังต่างๆ ที่มองไม่เห็น ขอให้ยึดในหลักคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาเอาไว้  เพราะสิ่งต่างๆ ที่จะทำให้เราประสบผลสำเร็จนั้น  ขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละคน  ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ถามว่าคนที่ประสบความสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่มันขึ้นอยู่ที่สมองและ 2 แรงของคนคนนั้นต่างหาก.

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าว  เป็นที่ตั้งขององค์การไบเบิลกิฟท์ลีค เลขที่ 12 ซ.สวนสน 3 ถ.สุขาภิบาล 3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงติดต่อถามข้อเท็จจริง  ซึ่งปลายสายเป็นผู้หญิง แต่ขอสงวนนาม กล่าวว่า เป็นการรวมตัวของกลุ่มคริสเตียนทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่นับถือในองค์พระเยซู  รวมกลุ่มทำกิจกรรมด้วยความสมัครใจ ไม่มีเงินเดือน  ทั้งนี้ ช่วงนี้ใกล้เทศกาลคริสต์มาส (วันสมภพของพระเยซู)  จึงกระจายกลุ่มส่วนมากเป็นชาวญี่ปุ่นไปตามทั่วกรุงเทพฯ  เพื่อไปเผยแพร่ศาสนา ส่วนงบประมาณในการดำเนินงานต่างๆ ได้รับจากต่างประเทศในรูปแบบเดียวกับ "พลังชีวิต"  แต่ต่างกันที่หน่วยงาน ส่วนจำนวนเงินและประเทศไหนนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้

ดูลึกลับจัง 

เข้าไปคุยแล้วเขาจะยอมเข้าใจไหม...

ดูจากคำพูดของพระพยอมแล้ว ท่านคงรู้สึกได้ว่า ใบปลิวนี้ ข่มขู่ให้กลัว จึงเตือนว่า อย่าไปกลัว

และผมคิดว่าทุกคนที่อ่านคงรู้สึกได้เหมือนกันว่า ผู้เขียนมีเจตนาให้เกิดความกลัว......

กลัวพระเยซูจะลงโทษ  : xemo023 :

ขอนำเนื้อเพลงนี้ มาลงที่นี่ เพื่อเน้นย้ำความเป็น สวรรค์ และความใจดี ของพระเยซูคริสต์ครับ 


เชิญฟังเพลงได้ตามลิงค์ครับ
http://my.opera.com/phandungz/blog/show.dml/1886212

เป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกตรงข้ามกับการ์ตูนนี้ครับ



เพลง สวรรค์ชาวดิน
อัลบั้ม : โอ้ศีลมหาสนิท
ผลงาน ส.ดำเนินสะดวก
เรียบเรียงดนตรี  Lazarus
ขับร้อง คุณพรทิพย์ แพร่ศิริพุฒิพงศ์




 
1. น้ำทิพย์รินหลั่ง สู่ฝั่งกาลิลี
เมื่อพระคริสต์ผู้ทรงใจดีมี ความรักเมตตา
เมื่อท่านสอนทุกตอนท่านยังย้ำว่า
ให้เรารักกรุณา ต่อชาวประชาทั่วแดน

2. น้ำทิพย์รินหลั่ง สู่ยังชาวประชา
เมื่อพระคริสต์ทวีปัง และปลามาเลี้ยงทุกคน
และบัดนี้ฉันมีอาหารสุขล้น
กินได้แม้นคนร่ำรวยและจน ช่วยพ้นภัยพาล

3. ความหิวใดก็คลายหายสิ้น
เมื่อได้ดื่มกินธารทิพย์จากแหล่งสวรรค์
พระวาจา พระกายาของจอมราชัน
ประทานมาทุกทุกวัน นี่แหละสวรรค์ชาวดิน

พระเจ้าน่ารักเสมอครับ

มาแขวะแม่เราอีก

มันน่านัก 

สมัยเปนโปรฯ เจอแบบนี้ก้อสะดุดครับ

เราไปแขวะแม่เค้าทำไม?

+L.O.V.E-->>JeSuS+ เขียน:

โอมม่าอยากเห็นเรื่องแบบนี้เลยอ่าครับ


พระเจ้าของเราน่ารักมากกว่านี้


โอมเคยโดนสอนมาตลอดว่าการที่จะทำอะไรนั้น


เราต้องทำโดยถวายเกียรติ์แก่พระเจ้าเสมอ


โอมม่ารู้ว่าเป็นคริสตจักรไหน


แต่โอมขอโทดแทนพี่น้องคริสตังนะครับ ถ้าสิ่งนี้มาจากคนที่เรียกตัวเองว่าคริสเตียนแต่ในนาม และใช้คำว่าคริตจักร


ขอให้พระเจ้าให้อภัยเค้า และขอให้รักษาจิตใตและการกระทำที่ผิดพลาดไปของเค้า


ขอให้พระเจ้าทำลายความคิดที่มาจากมารซาตานและที่ไม่ได้มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์


ขออธิษฐานในนามของพระเยซูอันเป็นที่รักของลูก อาเมน

สุภาพอย่างนี้สิครับ

ลูกพระตัวจริง

ช่วงนี้เห็น แจกหนังสือเทือกนี้ + ป้ายเหลืองๆ ตามสี่แยก แถว สุขุมวิท อโศก คลองเตยเกือบทุกวัน

ไม่งามๆ เห็นแล้ว เครียด

เห็นแล้ว ของจริงผ่านจอ...

ไม่วิจารณ์ดีกว่า

แต่เรื่อง เอารูปแม่พระอุ้มพระบุตร ไปใส่ตอนเรื่องรูปเคารพนี่... เหอๆ  เค้าประกาศความเชื่อชัดเจนจริงๆ

จำเริญๆ สงบจิตสงบใจบ้างนะ พี่น้อง

ประกาศแบบ.......นี้ ...... คนจะยำเกรง หรือ เกลียด หนอ จำเริญๆ

น่าแปลกคือ ทำไมส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่น คลุมหน้า คลุมตา ปีที่แล้วก็แบบเดียวกันเลย แต่ลองไปเช๊คกับทางสภาคริสตจักร และ สหกิจ(ลูเธอร์แรน) กลับไม่รู้เรื่องและไม่มีนโยบายในการแจกใบปลิวลักษณะเช่นนี้ แล้ว เขาเป็นใครกัน?

คับ ผมเคยเจอน้ิองคริสเตียนนะน้องเขาสุภาพมากๆ และพยายามเข้าใจความแตกต่างของนิกาย และเริ่มเข้าใจในคาทอลิกขึ้นทุกวัน
ไม่เห็น......เลย  เขาผิดทางอะคับ ผมขอบอกว่า ผมเซ็งกับใบปลิวนี้มาก เขาขาดความเข้าใจ พระนะกว้างขวางนะ โจมตีมารดาพระเจ้า
ระวังนะพี่น้อง  ถ่อมตัวบ้างก็ดี  อาแมน

ใบปลิวแบบนี้เห็นเกลื่อนตามแถวตามสะพานลอย ศูนย์การค้า เยอะแยะไปหมด

การที่เขาเอาข้อความในพระคัมภีร์ คือ พระวจนะของพระเจ้า มาเผยแพร่มันก็ดีอยู่หรอก

แต่..... ช่างวาดภาพประกอบมาได้อย่างไม่รู้จักกาลเทศะหรืออะไรเอาซะเลย
(ที่สำคัญ ถึงผมเป็นคริสเตียน แต่เห็นรูปพระแม่หรือสร้อยกางเขนก็ถือว่าไว้ระลึกถึงสตรีชาวคริสต์ที่ดีเด่นและแม่ของพระเยซูนะ ไม่ได้นึกถึงขนาดให้จุดธูปบูชาแทนพระเจ้าหรือพระแม่ตัวจริงสักหน่อย)

คือ ผมมองว่าวิธีการสื่อสารของเขามันออกแนว ชวนทะเลาะ มากกว่า เผยแพร่

แถมเล่าเรื่องพระเยซูมาได้สั้นมาก สั้นจนชนิดที่ว่า "คนอื่นที่ได้อ่านเขาจะรู้ไหม ว่าพระผู้ช่วยของเราเป็นใครแน่ มีดีอย่างไรก่อนจะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาป"
แล้วมาตัดตอนเข้าการพิพากษา แบบว่า.... ตกลงจะให้คนที่อ่านขึ้นสวรรค์หรือลงนรกเอาให้แน่

พระเยซูของเราไม่ได้โหดร้ายแบบว่าพิพากษารวบรัดตัดตอนเหมือนตำรวจบางนายในยุคกวาดล้างยาเสพติดหรอกนะครับ

ทำตัวประกาศเผยแพร่พระวจนะในพระคัมภีร์ซะเหมือนจะดิบดี แต่เขาลืมประกาศสิ่งสำคัญยิ่งที่สุดอันเป็น Theme หลักสำคัญที่ไม่ได้มีไว้แค่ประกอบเรื่องแต่อย่างใด นั่นก็คือ

"ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่พระเจ้ามีให้กับมนุษย์ทุกคนนั่นเอง"

อนึ่ง อยากให้พี่ ๆ น้อง ๆ ในบอร์ดนี้เข้าใจด้วยนะครับว่า คริสเตียนไม่ได้เป็นแบบคนทำใบปลิวนี้ทุกคน

ก็ดูวิธีประกาศของมันสิ งามหน้างามตาไหมนั่น

อนึ่ง ขอโทษนะครับ แต่ได้อ่านคำพูดของพระพยอมแล้วรู้สึกเหมือนโจมตีชาวคริสต์กับพระเจ้าของเราขึ้นมาตะหงิด ๆ

Pegasus เขียน: การที่เขาเอาข้อความในพระคัมภีร์ คือ พระวจนะของพระเจ้า มาเผยแพร่มันก็ดีอยู่หรอก

แต่..... ช่างวาดภาพประกอบมาได้อย่างไม่รู้จักกาลเทศะหรืออะไรเอาซะเลย
(ที่สำคัญ ถึงผมเป็นคริสเตียน แต่เห็นรูปพระแม่หรือสร้อยกางเขนก็ถือว่าไว้ระลึกถึงสตรีชาวคริสต์ที่ดีเด่นและแม่ของพระเยซูนะ ไม่ได้นึกถึงขนาดให้จุดธูปบูชาแทนพระเจ้าหรือพระแม่ตัวจริงสักหน่อย)

คือ ผมมองว่าวิธีการสื่อสารของเขามันออกแนว ชวนทะเลาะ มากกว่า เผยแพร่

แถมเล่าเรื่องพระเยซูมาได้สั้นมาก สั้นจนชนิดที่ว่า "คนอื่นที่ได้อ่านเขาจะรู้ไหม ว่าพระผู้ช่วยของเราเป็นใครแน่ มีดีอย่างไรก่อนจะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาป"
แล้วมาตัดตอนเข้าการพิพากษา แบบว่า.... ตกลงจะให้คนที่อ่านขึ้นสวรรค์หรือลงนรกเอาให้แน่

พระเยซูของเราไม่ได้โหดร้ายแบบว่าพิพากษารวบรัดตัดตอนเหมือนตำรวจบางนายในยุคกวาดล้างยาเสพติดหรอกนะครับ

ทำตัวประกาศเผยแพร่พระวจนะในพระคัมภีร์ซะเหมือนจะดิบดี แต่เขาลืมประกาศสิ่งสำคัญยิ่งที่สุดอันเป็น Theme หลักสำคัญที่ไม่ได้มีไว้แค่ประกอบเรื่องแต่อย่างใด นั่นก็คือ

"ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่พระเจ้ามีให้กับมนุษย์ทุกคนนั่นเอง"

อนึ่ง อยากให้พี่ ๆ น้อง ๆ ในบอร์ดนี้เข้าใจด้วยนะครับว่า คริสเตียนไม่ได้เป็นแบบคนทำใบปลิวนี้ทุกคน

เห็นด้วยครับ


ขอโทดษแทนคนเรียกตัวเองว่าคริสเตียนพวกนี้ด้วยครับ


พระเจ้าอวยพรนะครับ

รูปแบบเหมือน trailer หนังอ่ะครับ

ตัดเอาจุดขาย จุดตื่นเต้น จุด peak ของหนังมาย่อๆ ไว้

แต่พอคนดูไปดูจริงแล้วไม่เป็นอย่างที่คิด เค้าอาจเซ็งจนไม่เอาอีกก็ได้

บางทีหนังดีนะครับ แต่โฆษณาเกินความจริง มันก็เป็นการฆ่าตัวตายได้

เทียบกับเรื่องนี้ ผมมองว่า

เค้าบอกว่า แค่เชื่อ เชื่อเท่าันั้น

จริงอยู่ครับ ความเชื่อสำคัญมากสำหรับเรา แต่...

น.เปาโลบอกไว้ในจดหมายหลายฉบับมากว่า ความเชื่อทำให้เกิดการกระทำ และความเชื่อบวกการกระทำนำไปสู่ความรอด

ถ้าคนที่ไม่รู้จักพระเจ้ามาถึงจุดที่เขาคิดว่า เขา "เชื่อ" ในพระเจ้า แล้วมีแต่สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเขา

ความคาดหวัง (expectation) นี่แหละครับที่จะทำให้ความเชื่อในพระคริสต์หายไป

บางทีเราอาจต้องกลับมามองวิธีการที่เราใช้มาตั้งแต่มีเครื่องพิมพ์ออกมาสู่โลกแล้วหละครับว่า เราหลงประเด็นอะไรไปหรือเปล่า

ผมเคยได้หลายปีก่อน จำได้ว่าลายเส้นเดียวกันเลย แต่สิ่งที่อยู่ในภาพและเนื้อเรื่องต่างกัน และตอนนั้น นอกจากรูปแม่พระแล้ว ยังมีรูปพระพุทธรูปด้วย

+L.O.V.E-->>JeSuS+ เขียน:
อย่าไปกลัว  อย่าไปตื่นเต้น กับพลังต่างๆ ที่มองไม่เห็น

ถามว่าคนที่ประสบความสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่มันขึ้นอยู่ที่สมองและ 2 แรงของคนคนนั้นต่างหาก.

ขออ้างอิง หน่อยนะครับ  พลังต่างๆที่มองไม่เห็นเอ่อ แล้วพวกที่ บน กับพระพุทธรูปต่างๆ อันนี้เขาเรียกว่า พลังที่มองเห็นหรือเปล่าครับ

ความรู้สึกเหมือนโจมตีว่าเรางมงาย ยังไงไม่รู้  หรือว่ารักษ์คิดเองคนเดียว

Rakkypoko! เขียน:

+L.O.V.E-->>JeSuS+ เขียน:
อย่าไปกลัว  อย่าไปตื่นเต้น กับพลังต่างๆ ที่มองไม่เห็น

ถามว่าคนที่ประสบความสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่มันขึ้นอยู่ที่สมองและ 2 แรงของคนคนนั้นต่างหาก.

ขออ้างอิง หน่อยนะครับ  พลังต่างๆที่มองไม่เห็นเอ่อ แล้วพวกที่ บน กับพระพุทธรูปต่างๆ อันนี้เขาเรียกว่า พลังที่มองเห็นหรือเปล่าครับ

ความรู้สึกเหมือนโจมตีว่าเรางมงาย ยังไงไม่รู้  หรือว่ารักษ์คิดเองคนเดียว

ไปโทษท่านไม่ได้หรอกครับ เพราะผมคิดว่าคนพุทธที่รักศาสนาของเขา ถ้าได้อ่านใบปลิวนรกนี้ คงรู้สึกโดนหยามความเชื่อของตน และอยากจะด่ากลับมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่นี่ท่านเป็นผู้ใหญ่ ยั้งได้ระดับนี้นับว่าเก่งแล้ว