เมดจูกอเรจ์ : ความลับถูกเขียนไว้บนแผ่นหนัง
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 07, 2009 12:33 am
เมดจูกอเรจ์ : ความลับถูกเขียนไว้บนแผ่นหนัง

"ความลับสองข้อแรกจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นเพื่อเตือนโลก เป็นการพิสูจน์ให้โลกยอมรับถึงการประจักษ์มาของแม่พระที่เมดจูกอเรจ์และยืนยันความจริงของคำพูดของผู้เห็นแม่พระ. ความลับข้อที่สามจะเป็นการปรากฏมาของเครื่องหมายที่ไม่สามารถทำลายได้ซึ่งจะทำให้วิญญาณหลายดวงกลับใจ. ความลับข้ออื่นๆอาจจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่ซึ่งกระตุ้นเตือนโลกและเป็นการเชื้อเชิญให้คนจำนวนมากกลับใจแต่ไม่ต้องกลัวสิ่งใด"
เรื่องที่ทำให้เรารู้สึกประหลาดใจและสนใจเกี่ยวกับการประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์ประการหนึ่งก็คือ“สาส์นความลับ” ซึ่งผู้ที่เห็นแม่พระแต่ละคนได้รับจากแม่พระ แต่สำหรับ มีร์ยานา ดราจิซวิค ซอลโด หนึ่งในผู้ที่เห็นแม่พระนั้น เธอยังได้รับแผ่นหนังลึกลับที่มีสาส์นเขียนไว้ด้วย.

มีร์ยานา เป็นผู้เห็นแม่พระคนแรกที่ได้รับสาส์นความลับจากแม่พระครบ 10 ข้อ เธอถูกสัมภาษณ์โดย Jan Connell ทนายที่มีชื่อเสียงและคำสัมภาษณ์ได้ลงพิมพ์ในหนังสือชื่อ Visions of the Children
แจนถามเธอว่า เธอจดจำความลับทั้งหมดได้อย่างไร
“สาส์นถูกบันทึกเอาไว้ค่ะ” มีรยานาตอบ
“ถูกบันทึกเอาไว้ด้วยลายมือของเธอเองหรือ?” ทนายถาม
“ไม่ใช่ค่ะ”
“ถูกบันทึกโดยแม่พระหรือ?”
“ดิฉันได้รับแผ่นหนังที่มีสาส์นความลับถูกเขียนอยู่ในนั้น จากแม่พระค่ะ”
มีรยานากล่าวว่า ในตอนนั้น, เธอเก็บแผ่นหนังไว้ที่ห้องนอนของเธอในบ้านของครอบครัวที่ ซาราเจโว (แหล่งข่าวจากผู้ใกล้ชิดมีรยานาบอกว่า เวลานี้แผ่นหนังมาอยู่ที่เมดจูกอเรจ์แล้ว)
ทนายถามเธอต่อว่า “ถ้าฉันดูที่แผ่นหนังแล้ว ฉันจะได้เห็นอะไร?”
“แต่ละคนที่มองดูแผ่นหนังจะเห็นบางสิ่งที่แตกต่างกันค่ะ” มีรยานาตอบ
ทนายถาม “ความลับทั้งสิบข้อถูกเขียนไว้บนแผ่นหนังหรือ?”
“ใช่ค่ะ”
“หมายความว่าเธอไม่จำเป็นต้องจดจำความลับก็ได้. เพราะเธอสามารถเปิดแผ่นหนังและอ่านใช่ไหม?”
“ฉันจำความลับได้ทั้งหมดค่ะ โดยไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นหนังช่วยเลย” มีรยานาตอบ (ขณะนี้เธออายุ 43 ปีแล้ว)
[hr]
ในวันคริสต์มาสปี 1982 เป็นวันที่คริสตชนทั่วโลกพากันยินดีและเป็นเวลาแห่งความสุข. แต่สำหรับมีรยานา ดราจิวิค, เป็นวันที่ชีวิตของเธอมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง เพราะมันเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะเห็นแม่พระประจักษ์แก่เธอทุกวัน. เวลาผ่านไปหนึ่งปีครึ่งแล้วภายหลังจากที่เธอได้เห็น" สตรีที่สวยงามที่สุด"เท่าที่เธอเคยเห็นมาได้ปรากฎแก่เธอเป็นครั้งแรก. และแล้วเธอก็ต้องเผชิญกับความจริงอันแสนเจ็บปวด. นั่นคือพระมารดาจะไม่ทรงปรากฏแก่เธอทุกวันเหมือนเช่นเคย. มีรยานาเป็นผู้เห็นแม่พระคนแรกในจำนวน 6 คนที่ต้องรับประสพการณ์นี้. เธอเศร้าเสียใจจนสุดบรรยายนานถึงหนึ่งเดือน. เธอมองหาที่สงบเงียบที่เธอจะอยู่ได้เพียงลำพังเพื่อที่จะได้ร่ำไห้ด้วยความขมขื่น. อย่างไรก็ตามในวันสุดท้ายนี้เอง, แม่พระทรงประจักษ์มานาน 45 นาที, และมีบางสิ่งบางอย่างซึ่งไม่ธรรมดาเกิดขึ้น. แม่พระได้ทรงมอบสาส์นความลับข้อที่สิบแก่มีรยานา. และยังได้มอบ "วัตถุ" อย่างหนึ่ง ให้แก่เธอด้วย ทำให้ผู้สนใจและติดตามเหตุการณ์นี้มีความประหลาดใจอย่างยิ่ง. วัตถุนี้ก็คือสิ่งที่เราได้พูดถึงนั่นเอง.
วัตถุที่ไม่สามารถทำลายได้
วัตถุลีกลับนี้มีขนาดโดยประมาณเท่ากระดาษ A4 , มาจากสวรรค์ . ไม่ทราบว่าทำด้วยอะไร. แต่มีรยานาบอกว่ามันทำให้เธอคิดถึงแผ่นหนัง. มันมีสีขาวและมีคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดา. มันสามารถพับได้แต่ "ไม่สามารถฉีกหรือทำลายได้ด้วยวิธีใดๆก็ตาม" มีรยานายิ้มให้พลางบอกว่า ความลับสิบข้อที่แม่พระทรงมอบให้นั้นถูกเขียนไว้ในนั้น แต่มีเฉพาะเธอคนเดียวเท่านั้นที่จะมองเห็นและอ่านข้อความที่เขียนไว้ได้. คนอื่นไม่สามารถมองเห็นและอ่านได้ถึงแม้เขาจะถือมันไว้ในมือ มีหลายครั้งที่เราขอร้องให้มีรยานานำวัตถุ(แผ่นหนัง) ออกมาแสดงให้เราดู,แม้ว่าจะดูเพียงห่างๆก็ได้. แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ. เธอบอกว่า,เธอเคยนำออกมาให้เพื่อนและญาติลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งได้ดูพร้อมกัน. ต่อมา,แม่พระทรงเตือนเธอไม่ให้นำไปให้ใครดูอีก.
มีรยานาเล่าว่า "เวลานั้นดิฉันอยู่ที่ซาราเจโว คนที่ดูคนหนึ่งเห็นข้อความเหมือนการขอร้องวิงวอนจากใครคนหนึ่ง ส่วนอีกคนหนึ่งกลับเห็นเป็นบทภาวนาข้าแต่พระบิดา. พวกเขาเห็นสิ่งที่แตกต่างกันในเวลาเดียวกัน มันประหลาดมาก. ฉันนำแผ่นหนังติดตัวเสมอและซ่อนเอาไว้เพราะกลัวว่าขโมยจะมาขโมยไป"
แต่เรื่องน่าสนใจก็คือ เมื่อเวลาที่เหตุการณ์ตามสาส์นความลับจะเกิดขึ้นเป็นจริงมาถึง, ข้อความในแผ่นหนังจะถูกนำไปให้แก่คุณพ่อ Fr. Petar Ljubicic, พระสงฆ์ชาวโครเอเชียนซึ่งมีรยานาเป็นผู้เลือก ,และท่านจะสามารถมองเห็นและอ่านข้อความนั้นได้

คุณพ่อ Petar Ljubicic จะประกาศความลับสองข้อแรกต่อสาธารณชนเป็นการล่วงหน้าหลายวันก่อนเกิดเหตุการณ์จะเกิดขึ้น (ปัจจุบันนี้ท่านอยู่ที่เยอรมันนี)
ความลับสองข้อแรกจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเตือนโลกและจะเกิดขึ้นที่เมดจูกอเรจ์ (ตามที่คุณพ่อแปแตร์บอก และท่านยังบอกว่าสถานการณ์ของโลกเวลานี้ดูเหมือนจะเข้าใกล้ความลับข้อแรกแล้ว)

มีรยานาบอกกับทนายคอนเนลในหนังสือ Visions of the Children ว่า “ความลับสองข้อแรกจะเป็นการเตือนโลก เหตุการณ์จะเกิดขึ้นก่อนที่เครื่องหมายที่สามารถมองเห็นได้จะประทานมาให้แก่มนุษยชาติ. เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดในช่วงชีวิตของฉัน (มีรยานา) สิบวันก่อนเกิดเหตุการณ์ตามความลับข้อแรกและข้อสองฉันจะบอกคุณพ่อแปแตร์ทราบ”
“ความลับข้อแรกจะเป็นการทำลายอำนาจของซาตานและนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มันเกรี้ยวกราดมากและพยายามอย่างหนักในเวลานี้” เธอพูดต่อ
สิ่งที่น่าประหลาดอีกประการหนึ่งซึ่งมีร์ยานาได้บอกไว้ในหนังสือ Visions of the Children คือ
มีรยานาพูดว่า มีสามสิ่งที่ซาตานมันไม่รู้
+ พระบิดานิรันดรจะทรงส่งพระนางมารีย์, สตรีแห่งพระธรรมวิวรณ์พร้อมด้วยประชากรของพระองค์ มาคอยเตือน, ให้กำลังใจ แก่ประชาชนตลอดทุกศตวรรษ และในช่วงเวลานี้ซึ่งเป็นระยะเวลาแห่งความมืดมิดอันยิ่งใหญ่
+ พระบิดานิรันดรจะทรงหลั่งพระหรรษทานจำนวนมากมายแก่โลก ดังที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
+ พระบิดานิรันดรจะทรงส่งวิญญาณเลือกสรรมา พวก เขาจะซื่อสัตย์ต่อพระองค์เสมอไม่ว่าซาตานจะโจมตีหรือล่อลวงอย่างไรก็ตาม

เมื่อถูกถามว่าสาส์นความลับนั้นเกี่ยวข้องกับภาวะล่มสลายทางเศรษฐกิจของโลกใช่ไหม มีรยานาตอบว่า “ฉันไม่มีความเข้าใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย” เช่นเดียวกับผู้เห็นแม่พระคนอื่นๆ,เธอย้ำเตือนถึงความสำคัญของ “การสังเกตดูเครื่องหมายแห่งกาลเวลาในยุคสมัยของเรา” แต่ไม่ใช่เพื่อทำให้เรากลัว “ความลับจะเปิดเผยออกมาในช่วงชีวิตของฉัน ฉันคงบอกอะไรมากไม่ได้. โปรดบอกประชาชนเถอะว่า อย่าไปเพ่งความสนใจในเรื่องของอนาคต. ชีวิตประจำวันของเรา เรามีเพียงแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น วันพรุ่งนี้จะไม่เป็นภัยอันตรายสำหรับผู้ที่วางใจในพระเจ้า”
http://uk.geocities.com/devoutlife2008/parchment.html
http://ingodscompany2.blogspot.com/2008 ... hment.html

"ความลับสองข้อแรกจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นเพื่อเตือนโลก เป็นการพิสูจน์ให้โลกยอมรับถึงการประจักษ์มาของแม่พระที่เมดจูกอเรจ์และยืนยันความจริงของคำพูดของผู้เห็นแม่พระ. ความลับข้อที่สามจะเป็นการปรากฏมาของเครื่องหมายที่ไม่สามารถทำลายได้ซึ่งจะทำให้วิญญาณหลายดวงกลับใจ. ความลับข้ออื่นๆอาจจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่ซึ่งกระตุ้นเตือนโลกและเป็นการเชื้อเชิญให้คนจำนวนมากกลับใจแต่ไม่ต้องกลัวสิ่งใด"
เรื่องที่ทำให้เรารู้สึกประหลาดใจและสนใจเกี่ยวกับการประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์ประการหนึ่งก็คือ“สาส์นความลับ” ซึ่งผู้ที่เห็นแม่พระแต่ละคนได้รับจากแม่พระ แต่สำหรับ มีร์ยานา ดราจิซวิค ซอลโด หนึ่งในผู้ที่เห็นแม่พระนั้น เธอยังได้รับแผ่นหนังลึกลับที่มีสาส์นเขียนไว้ด้วย.

มีร์ยานา เป็นผู้เห็นแม่พระคนแรกที่ได้รับสาส์นความลับจากแม่พระครบ 10 ข้อ เธอถูกสัมภาษณ์โดย Jan Connell ทนายที่มีชื่อเสียงและคำสัมภาษณ์ได้ลงพิมพ์ในหนังสือชื่อ Visions of the Children
แจนถามเธอว่า เธอจดจำความลับทั้งหมดได้อย่างไร
“สาส์นถูกบันทึกเอาไว้ค่ะ” มีรยานาตอบ
“ถูกบันทึกเอาไว้ด้วยลายมือของเธอเองหรือ?” ทนายถาม
“ไม่ใช่ค่ะ”
“ถูกบันทึกโดยแม่พระหรือ?”
“ดิฉันได้รับแผ่นหนังที่มีสาส์นความลับถูกเขียนอยู่ในนั้น จากแม่พระค่ะ”
มีรยานากล่าวว่า ในตอนนั้น, เธอเก็บแผ่นหนังไว้ที่ห้องนอนของเธอในบ้านของครอบครัวที่ ซาราเจโว (แหล่งข่าวจากผู้ใกล้ชิดมีรยานาบอกว่า เวลานี้แผ่นหนังมาอยู่ที่เมดจูกอเรจ์แล้ว)
ทนายถามเธอต่อว่า “ถ้าฉันดูที่แผ่นหนังแล้ว ฉันจะได้เห็นอะไร?”
“แต่ละคนที่มองดูแผ่นหนังจะเห็นบางสิ่งที่แตกต่างกันค่ะ” มีรยานาตอบ
ทนายถาม “ความลับทั้งสิบข้อถูกเขียนไว้บนแผ่นหนังหรือ?”
“ใช่ค่ะ”
“หมายความว่าเธอไม่จำเป็นต้องจดจำความลับก็ได้. เพราะเธอสามารถเปิดแผ่นหนังและอ่านใช่ไหม?”
“ฉันจำความลับได้ทั้งหมดค่ะ โดยไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นหนังช่วยเลย” มีรยานาตอบ (ขณะนี้เธออายุ 43 ปีแล้ว)
[hr]
ในวันคริสต์มาสปี 1982 เป็นวันที่คริสตชนทั่วโลกพากันยินดีและเป็นเวลาแห่งความสุข. แต่สำหรับมีรยานา ดราจิวิค, เป็นวันที่ชีวิตของเธอมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง เพราะมันเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะเห็นแม่พระประจักษ์แก่เธอทุกวัน. เวลาผ่านไปหนึ่งปีครึ่งแล้วภายหลังจากที่เธอได้เห็น" สตรีที่สวยงามที่สุด"เท่าที่เธอเคยเห็นมาได้ปรากฎแก่เธอเป็นครั้งแรก. และแล้วเธอก็ต้องเผชิญกับความจริงอันแสนเจ็บปวด. นั่นคือพระมารดาจะไม่ทรงปรากฏแก่เธอทุกวันเหมือนเช่นเคย. มีรยานาเป็นผู้เห็นแม่พระคนแรกในจำนวน 6 คนที่ต้องรับประสพการณ์นี้. เธอเศร้าเสียใจจนสุดบรรยายนานถึงหนึ่งเดือน. เธอมองหาที่สงบเงียบที่เธอจะอยู่ได้เพียงลำพังเพื่อที่จะได้ร่ำไห้ด้วยความขมขื่น. อย่างไรก็ตามในวันสุดท้ายนี้เอง, แม่พระทรงประจักษ์มานาน 45 นาที, และมีบางสิ่งบางอย่างซึ่งไม่ธรรมดาเกิดขึ้น. แม่พระได้ทรงมอบสาส์นความลับข้อที่สิบแก่มีรยานา. และยังได้มอบ "วัตถุ" อย่างหนึ่ง ให้แก่เธอด้วย ทำให้ผู้สนใจและติดตามเหตุการณ์นี้มีความประหลาดใจอย่างยิ่ง. วัตถุนี้ก็คือสิ่งที่เราได้พูดถึงนั่นเอง.
วัตถุที่ไม่สามารถทำลายได้
วัตถุลีกลับนี้มีขนาดโดยประมาณเท่ากระดาษ A4 , มาจากสวรรค์ . ไม่ทราบว่าทำด้วยอะไร. แต่มีรยานาบอกว่ามันทำให้เธอคิดถึงแผ่นหนัง. มันมีสีขาวและมีคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดา. มันสามารถพับได้แต่ "ไม่สามารถฉีกหรือทำลายได้ด้วยวิธีใดๆก็ตาม" มีรยานายิ้มให้พลางบอกว่า ความลับสิบข้อที่แม่พระทรงมอบให้นั้นถูกเขียนไว้ในนั้น แต่มีเฉพาะเธอคนเดียวเท่านั้นที่จะมองเห็นและอ่านข้อความที่เขียนไว้ได้. คนอื่นไม่สามารถมองเห็นและอ่านได้ถึงแม้เขาจะถือมันไว้ในมือ มีหลายครั้งที่เราขอร้องให้มีรยานานำวัตถุ(แผ่นหนัง) ออกมาแสดงให้เราดู,แม้ว่าจะดูเพียงห่างๆก็ได้. แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ. เธอบอกว่า,เธอเคยนำออกมาให้เพื่อนและญาติลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งได้ดูพร้อมกัน. ต่อมา,แม่พระทรงเตือนเธอไม่ให้นำไปให้ใครดูอีก.
มีรยานาเล่าว่า "เวลานั้นดิฉันอยู่ที่ซาราเจโว คนที่ดูคนหนึ่งเห็นข้อความเหมือนการขอร้องวิงวอนจากใครคนหนึ่ง ส่วนอีกคนหนึ่งกลับเห็นเป็นบทภาวนาข้าแต่พระบิดา. พวกเขาเห็นสิ่งที่แตกต่างกันในเวลาเดียวกัน มันประหลาดมาก. ฉันนำแผ่นหนังติดตัวเสมอและซ่อนเอาไว้เพราะกลัวว่าขโมยจะมาขโมยไป"
แต่เรื่องน่าสนใจก็คือ เมื่อเวลาที่เหตุการณ์ตามสาส์นความลับจะเกิดขึ้นเป็นจริงมาถึง, ข้อความในแผ่นหนังจะถูกนำไปให้แก่คุณพ่อ Fr. Petar Ljubicic, พระสงฆ์ชาวโครเอเชียนซึ่งมีรยานาเป็นผู้เลือก ,และท่านจะสามารถมองเห็นและอ่านข้อความนั้นได้

คุณพ่อ Petar Ljubicic จะประกาศความลับสองข้อแรกต่อสาธารณชนเป็นการล่วงหน้าหลายวันก่อนเกิดเหตุการณ์จะเกิดขึ้น (ปัจจุบันนี้ท่านอยู่ที่เยอรมันนี)
ความลับสองข้อแรกจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเตือนโลกและจะเกิดขึ้นที่เมดจูกอเรจ์ (ตามที่คุณพ่อแปแตร์บอก และท่านยังบอกว่าสถานการณ์ของโลกเวลานี้ดูเหมือนจะเข้าใกล้ความลับข้อแรกแล้ว)

มีรยานาบอกกับทนายคอนเนลในหนังสือ Visions of the Children ว่า “ความลับสองข้อแรกจะเป็นการเตือนโลก เหตุการณ์จะเกิดขึ้นก่อนที่เครื่องหมายที่สามารถมองเห็นได้จะประทานมาให้แก่มนุษยชาติ. เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดในช่วงชีวิตของฉัน (มีรยานา) สิบวันก่อนเกิดเหตุการณ์ตามความลับข้อแรกและข้อสองฉันจะบอกคุณพ่อแปแตร์ทราบ”
“ความลับข้อแรกจะเป็นการทำลายอำนาจของซาตานและนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มันเกรี้ยวกราดมากและพยายามอย่างหนักในเวลานี้” เธอพูดต่อ
สิ่งที่น่าประหลาดอีกประการหนึ่งซึ่งมีร์ยานาได้บอกไว้ในหนังสือ Visions of the Children คือ
มีรยานาพูดว่า มีสามสิ่งที่ซาตานมันไม่รู้
+ พระบิดานิรันดรจะทรงส่งพระนางมารีย์, สตรีแห่งพระธรรมวิวรณ์พร้อมด้วยประชากรของพระองค์ มาคอยเตือน, ให้กำลังใจ แก่ประชาชนตลอดทุกศตวรรษ และในช่วงเวลานี้ซึ่งเป็นระยะเวลาแห่งความมืดมิดอันยิ่งใหญ่
+ พระบิดานิรันดรจะทรงหลั่งพระหรรษทานจำนวนมากมายแก่โลก ดังที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
+ พระบิดานิรันดรจะทรงส่งวิญญาณเลือกสรรมา พวก เขาจะซื่อสัตย์ต่อพระองค์เสมอไม่ว่าซาตานจะโจมตีหรือล่อลวงอย่างไรก็ตาม

เมื่อถูกถามว่าสาส์นความลับนั้นเกี่ยวข้องกับภาวะล่มสลายทางเศรษฐกิจของโลกใช่ไหม มีรยานาตอบว่า “ฉันไม่มีความเข้าใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย” เช่นเดียวกับผู้เห็นแม่พระคนอื่นๆ,เธอย้ำเตือนถึงความสำคัญของ “การสังเกตดูเครื่องหมายแห่งกาลเวลาในยุคสมัยของเรา” แต่ไม่ใช่เพื่อทำให้เรากลัว “ความลับจะเปิดเผยออกมาในช่วงชีวิตของฉัน ฉันคงบอกอะไรมากไม่ได้. โปรดบอกประชาชนเถอะว่า อย่าไปเพ่งความสนใจในเรื่องของอนาคต. ชีวิตประจำวันของเรา เรามีเพียงแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น วันพรุ่งนี้จะไม่เป็นภัยอันตรายสำหรับผู้ที่วางใจในพระเจ้า”
http://uk.geocities.com/devoutlife2008/parchment.html
http://ingodscompany2.blogspot.com/2008 ... hment.html