+++ศาลมะกันตอกกลับกลุ่มนอกศาสนา ยันโอบามาใช้คำว่า พระเจ้า สาบานตนได้+++
ศาลมะกันตอกกลับกลุ่มนอกศาสนา ยันโอบามาใช้คำว่า พระเจ้า สาบานตนได้
วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2552
ศาลแขวงสหรัฐฯปฏิเสธคำร้องให้ตัดคำว่า"พระเจ้า"จากคำสาบานตนของบารัก โอบาม่า
(16ม.ค.) เรจจี้ วอลตัน ผู้พิพากษาศาลแขวงของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำพิพากษาเมื่อวันพฤหัสบดีปฏิเสธคำร้องของกลุ่มคนที่เชื่อว่าไม่มีพระเจ้าอยู่จริงและผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้า (group of atheists and agnostics ) ที่ต้องการให้ศาลแขวง กดดันให้นายจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลฏีกาสหรัฐฯ ตัดคำว่า" ขอพระเจ้าโปรดประทานพร" (so help me God) ออกจากคำสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายบารัก โอบาม่า ใน 20 มกราคมที่จะถึงนี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นส่วนที่เกินมาจากคำสาบานตนความยาว 35 คำ ที่มีระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ
ผู้พิพากษาวอลตันให้เหตุผลว่าไม่มีอำนาจที่จะสั่งห้ามนายโอบาม่าไม่ให้พูดคำนั้น เพราะเป็นเสรีภาพในการแสดงความเห็น เขาตั้งคำถามว่าเขามีอำนาจอะไรที่จะไปกดดันประธานศาลฏีกาให้ทำเช่นนั้น นอกจากนี้ เขายังได้ปฏิเสธคำร้องขอของกลุ่ม ซึ่งต้องการให้สั่งห้ามไม่ให้บาทหลวงที่นายโอบาม่าเลือกเอง 2 คน คือ บาทหลวงโจเซฟ โลเวอรี่ กับบาทหลวงริค วอเรนซ์ ทำการสวดมนต์ในพิธีสาบานตนครั้งนี้ด้วย
คำสาบานตนในรัฐธรรมนูญระบุว่า" ข้าพเจ้าขอตั้งมั่นปฏิญานว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯโดยเคร่งครัด และจะธำรงรักษา ปกป้องและคุ้มครองรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ อย่างเต็มความสามารถ" แต่หอจดหมายเหตุแห่งชาติระบุว่า จอร์จ วอชิงตัน อดีตประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ เป็นผู้เติมคำว่า" ขอพระเจ้าโปรดประทานพร"ตอนสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 1789 และประธานาธิบดีส่วนใหญ่ก็มักเลือกกล่าวเช่นนั้น รวมทั้งนายโอบาม่า ซึ่งได้แจ้งกับนายโรเบิร์ตสแล้วว่าจะกล่าวคำว่า " ขอพระเจ้าโปรดประทานพร"ด้วย
ก่อนหน้านี้ กลุ่มนี้ซึ่งมีผู้นำเป็นชาวรัฐแคลิฟอร์เนียชื่อไมเคิล นิวโดว เคยแพ้คดีลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งทั้ง 2 ครั้งของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และเคยแพ้คดีในศาลฏีกา หลังฟ้องร้องให้ตัดคำว่า "ภายใต้พระเจ้า" (under God) ออกจากคำสาบานธงในงานพิธีการหลายๆงานด้วย
http://www.komchadluek.net/2009/01/18/x ... _id=332169
วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2552
ศาลแขวงสหรัฐฯปฏิเสธคำร้องให้ตัดคำว่า"พระเจ้า"จากคำสาบานตนของบารัก โอบาม่า
(16ม.ค.) เรจจี้ วอลตัน ผู้พิพากษาศาลแขวงของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำพิพากษาเมื่อวันพฤหัสบดีปฏิเสธคำร้องของกลุ่มคนที่เชื่อว่าไม่มีพระเจ้าอยู่จริงและผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้า (group of atheists and agnostics ) ที่ต้องการให้ศาลแขวง กดดันให้นายจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลฏีกาสหรัฐฯ ตัดคำว่า" ขอพระเจ้าโปรดประทานพร" (so help me God) ออกจากคำสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายบารัก โอบาม่า ใน 20 มกราคมที่จะถึงนี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นส่วนที่เกินมาจากคำสาบานตนความยาว 35 คำ ที่มีระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ
ผู้พิพากษาวอลตันให้เหตุผลว่าไม่มีอำนาจที่จะสั่งห้ามนายโอบาม่าไม่ให้พูดคำนั้น เพราะเป็นเสรีภาพในการแสดงความเห็น เขาตั้งคำถามว่าเขามีอำนาจอะไรที่จะไปกดดันประธานศาลฏีกาให้ทำเช่นนั้น นอกจากนี้ เขายังได้ปฏิเสธคำร้องขอของกลุ่ม ซึ่งต้องการให้สั่งห้ามไม่ให้บาทหลวงที่นายโอบาม่าเลือกเอง 2 คน คือ บาทหลวงโจเซฟ โลเวอรี่ กับบาทหลวงริค วอเรนซ์ ทำการสวดมนต์ในพิธีสาบานตนครั้งนี้ด้วย
คำสาบานตนในรัฐธรรมนูญระบุว่า" ข้าพเจ้าขอตั้งมั่นปฏิญานว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯโดยเคร่งครัด และจะธำรงรักษา ปกป้องและคุ้มครองรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ อย่างเต็มความสามารถ" แต่หอจดหมายเหตุแห่งชาติระบุว่า จอร์จ วอชิงตัน อดีตประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ เป็นผู้เติมคำว่า" ขอพระเจ้าโปรดประทานพร"ตอนสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 1789 และประธานาธิบดีส่วนใหญ่ก็มักเลือกกล่าวเช่นนั้น รวมทั้งนายโอบาม่า ซึ่งได้แจ้งกับนายโรเบิร์ตสแล้วว่าจะกล่าวคำว่า " ขอพระเจ้าโปรดประทานพร"ด้วย
ก่อนหน้านี้ กลุ่มนี้ซึ่งมีผู้นำเป็นชาวรัฐแคลิฟอร์เนียชื่อไมเคิล นิวโดว เคยแพ้คดีลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งทั้ง 2 ครั้งของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และเคยแพ้คดีในศาลฏีกา หลังฟ้องร้องให้ตัดคำว่า "ภายใต้พระเจ้า" (under God) ออกจากคำสาบานธงในงานพิธีการหลายๆงานด้วย
http://www.komchadluek.net/2009/01/18/x ... _id=332169
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 22, 2009 12:20 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
In God We Trust
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา เขามารวบรวมสร้างชาติใหม่ในศตวรรษที่ 17-18 เพราะต้องการเสรีภาพในการนมัสการพระเจ้า เรื่องเศรษฐกิจ
แล้วต่อมาเรื่องอื่นๆ สำหรับโปรเตสแตนต์ ทั่วโลก เพราะมิชชั่นนารี จากสหรัฐฯ เป็นผู้มาเผยแผ่ ข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์
ประวัติศาสตร์คริสตจักรของไทย 100 ปีแรก นับตั้งแต่ ค.ศ.1828-1940 เป็นผลงานของของ อเมริกันเพรสไบทีเรียน
ส่วนคณะอื่นๆ เข้ามาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้ามาแบบไม่รู้เรื่อง ไม่ศึกษาประวัติศาสตร์คริสตจักร ว่าได้ต่อสู้เพื่อให้สามารถ
ประกาศข่าวดีของพระเยซูอย่างไร ถูกเบียดเบียนแค่ไหนมาถึงก็โจมตีคริสตจักรกลุ่มสภาฯ แล้วอวดตัวเองว่าดีกว่า
ไม่เคยศึกษาที่ไปที่มาของพระศาสนจักรคาทอลิก ได้ต่อสู้ถูกกดดัน เบียนเบียนมาอย่างไร มีประวัติศาสตร์ การใช้คำอย่างไร
โปรฯก็ชอบด่าว่าคาทอลิกใช้คำผิด เป็นต้น
คิดว่าแต่ละประเทศ ก็จะมีคนไร้ศาสนา และมากะเกณฑ์ให้คนอื่น ทำแบบตัวด้วย
แล้วต่อมาเรื่องอื่นๆ สำหรับโปรเตสแตนต์ ทั่วโลก เพราะมิชชั่นนารี จากสหรัฐฯ เป็นผู้มาเผยแผ่ ข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์
ประวัติศาสตร์คริสตจักรของไทย 100 ปีแรก นับตั้งแต่ ค.ศ.1828-1940 เป็นผลงานของของ อเมริกันเพรสไบทีเรียน
ส่วนคณะอื่นๆ เข้ามาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้ามาแบบไม่รู้เรื่อง ไม่ศึกษาประวัติศาสตร์คริสตจักร ว่าได้ต่อสู้เพื่อให้สามารถ
ประกาศข่าวดีของพระเยซูอย่างไร ถูกเบียดเบียนแค่ไหนมาถึงก็โจมตีคริสตจักรกลุ่มสภาฯ แล้วอวดตัวเองว่าดีกว่า
ไม่เคยศึกษาที่ไปที่มาของพระศาสนจักรคาทอลิก ได้ต่อสู้ถูกกดดัน เบียนเบียนมาอย่างไร มีประวัติศาสตร์ การใช้คำอย่างไร
โปรฯก็ชอบด่าว่าคาทอลิกใช้คำผิด เป็นต้น
คิดว่าแต่ละประเทศ ก็จะมีคนไร้ศาสนา และมากะเกณฑ์ให้คนอื่น ทำแบบตัวด้วย
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เรื่องแค่นี้ ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตไปได้
Prod Pran เขียน:
ประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา เขามารวบรวมสร้างชาติใหม่ในศตวรรษที่ 17-18 เพราะต้องการเสรีภาพในการนมัสการพระเจ้า เรื่องเศรษฐกิจ
แล้วต่อมาเรื่องอื่นๆ สำหรับโปรเตสแตนต์ ทั่วโลก เพราะมิชชั่นนารี จากสหรัฐฯ เป็นผู้มาเผยแผ่ ข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์
ประวัติศาสตร์คริสตจักรของไทย 100 ปีแรก นับตั้งแต่ ค.ศ.1828-1940 เป็นผลงานของของ อเมริกันเพรสไบทีเรียน
ส่วนคณะอื่นๆ เข้ามาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้ามาแบบไม่รู้เรื่อง ไม่ศึกษาประวัติศาสตร์คริสตจักร ว่าได้ต่อสู้เพื่อให้สามารถ
ประกาศข่าวดีของพระเยซูอย่างไร ถูกเบียดเบียนแค่ไหนมาถึงก็โจมตีคริสตจักรกลุ่มสภาฯ แล้วอวดตัวเองว่าดีกว่า
ไม่เคยศึกษาที่ไปที่มาของพระศาสนจักรคาทอลิก ได้ต่อสู้ถูกกดดัน เบียนเบียนมาอย่างไร มีประวัติศาสตร์ การใช้คำอย่างไร
โปรฯก็ชอบด่าว่าคาทอลิกใช้คำผิด เป็นต้น
คิดว่าแต่ละประเทศ ก็จะมีคนไร้ศาสนา และมากะเกณฑ์ให้คนอื่น ทำแบบตัวด้วย
เห็นด้วยกับพี่พีพี พระศาสนจักรโรมันคาทอลิก และคริสตจักรโปรแตสแตนด์(สายสภาคริสต์จักร นิกายอเมริกันเพรสไบทีเรียน)เราเข้ามาก่อนคณะอื่นๆตั้งนานมากกกก เป็นร้อยๆปี ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านน้ำตา มาตั้งเท่าใด ก็เหมือนกับชาวไร่ชาวนารุ่นแรกสุด ที่ต้องถางป่าถางพง ตั้งรกราก และก่อร่างสร้างตัวจากติดลบ จนมีวันนี้ได้ หากภาษาผู้ชายเขาเรียกว่าเป็นคน "เจ้าถิ่น" ได้อย่างเต็มปาก แต่กลุ่มหลังๆที่เข้ามาใหม่ๆ คำสอนก็ประหลาด สาวกก็รุนแรงดูขาดความรัก แถมด่า " เจ้าถิ่น" ว่าไม่ได้เรื่องอีก ไม่มาอยู่กับกลุ่มเจ้าถิ่นก็ไม่ได้ว่าอะไร สิทธิส่วนบุคคลครับท่าน แต่......บอกว่าคริสตรุ่นบุกเบิกจนเป็นเจ้าถิ่นที่นี้ ห่วย เลว แย่ ความเชื่อตาย อย่างกะตัวพวกเขาเก่งนักแล เจอพวกนี้เบื่อครับพี่พีพี
ขอโทษท่านเว็บมาสเตอร์ที่พูดไม่สุภาพและรุนแรงไปนิดหนึ่งนะครับ แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
ขอพระอวยพรให้นิกายเจ้าถิ่นเดิม สู้ตายครับผม
- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
เจ้าถิ่น เจ้าถิ่น เจ้าถิ่น สู้ๆ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Viridian เขียน:หนูก็ว่างั้น...Batholomew เขียน: เรื่องแค่นี้ ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตไปได้
หนูก็ว่าด้วยคะ..
- billa-bong
- ~@
- โพสต์: 668
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
- ที่อยู่: thailand
ซาตาน นี่มันทำงานเก่งจิงๆ แต่ก็แพ้ 555+
พระเจ้าอวยพรครับบ
พระเจ้าอวยพรครับบ
-
- โพสต์: 363
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 12, 2008 10:21 pm
- ที่อยู่: World
นี่ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง - -"
สเปนไม่เอากางเขน
กระทู้หนึ่งในบอร์ดเลยครับ
ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ - -"
คนเรามีสิทธิ์ที่จะพูด
เนอะ ^^
สเปนไม่เอากางเขน
กระทู้หนึ่งในบอร์ดเลยครับ
ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ - -"
คนเรามีสิทธิ์ที่จะพูด
เนอะ ^^
- ^_^Matthew^_^
- โพสต์: 354
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 10, 2008 2:03 am
- ที่อยู่: 125 ม.7 ถ.ชัยภูมิ-สีคิ้ว ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 36000
- ติดต่อ:
อาจจะถึงยุคสุดท้ายจริงๆเนอะ
ความจริงประเด็นนี้น่าคิดมาก เพราะถ้าลองกลับกันในบ้านเมืองเรา หลายๆครั้งที่ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้ปกครอง กระทำกิจการของศาสนาตน หรือเอ่ยอวยพรในแบบศาสนาของตน เช่นขอคุณพระศรีรัตนไตย บลาๆ เราเองไม่เคยรู้สึกอะไรเลย เราก็เฉยๆและเข้าใจได้ทันทีว่า เขานับถืออะไร เขาย่อมอวยพรตามแบบความเชื่อของเขา เราไม่ตะขิดตะขวง และยอมรับ เพราะอะไร เพราะเราไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรกับศาสนาอื่นๆเหล่านั้น เราเลยเฉยๆและรับได้Batholomew เขียน: เรื่องแค่นี้ ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตไปได้
แต่ผมเองเคยเจอกรณีที่ เจอพวกเกลียดศาสนาเรามาก แล้วผมพูดว่าพระเจ้าอวยพร เขาจะวีนไม่พอใจ ไม่ยอมรับการอวยพร ผมจึงมาคิดได้ว่า ถ้าใครสักคนจะทำเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเขาแค่คิดว่าต่างคนต่างถือไป แต่เพราะเขาต้อง เกลียดคริสต์เกลียดพระเจ้าโคตรๆ และ ต้องการทำลายล้างจริงๆ เขาถึงทำแบบนี้
เพราะลำพังต่อให้คุณไม่เชื่อในอะไร แต่คุณเฉยๆกับสิ่งนั้น แล้วเจอคนพูดถึงสิ่งที่คุณแค่เฉยๆในทางชื่นชม คุณก็ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าคุณรับไม่ได้ เดือดร้อน แปลว่าต้องเกลียดมาก และยิ่งถ้าพยายามห้ามเผยแพร่ ต้องแปลว่าถึงขั้นอยากกำจัด ด้วย
เราจึงควรตระหนักว่า ในปัจจุบันนี้ พวกไม่เชื่อ เขาไม่ได้แค่ ไม่เชื่อเป็นการส่วนตัว กันแล้ว แต่กำลังพยายามทำลายความเชื่อของคนอื่นที่เชื่อด้วย และพยายามเผยแพร่ให้คน ไม่เชื่อ แบบตัวเอง ไม่ใช่แค่ไม่มีศาสนา แต่กลายเป็นพวกมีศาสนาแล้ว ชื่อ ศาสนาเกลียดพระเจ้า และคนเหล่านี้กำลังกระจายกันไปทั่วโลก เผยแพร่อุดมการณืของตนโดยพยายามทำลายศาสนาอื่นเท่าที่สามารถ
2ธส 2:3
อย่าให้ใครหลอกลวงท่านโดยวิธีใดเลย วันนั้นจะยังมาไม่ถึงจนกว่าจะเกิดการกบฏ และมนุษย์ชั่วร้ายจะปรากฏตัวมารับความพินาศ มนุษย์ชั่วร้ายผู้นี้ จะยกย่องตนเองและต่อต้านทุกสิ่งที่มนุษย์นมัสการและเรียกเป็นพระเจ้า เพื่อตนจะได้นั่งในพระวิหารของพระเจ้าและชี้ให้เห็นว่าตนคือพระเจ้า ท่านจำได้หรือไม่ว่า ข้าพเจ้าเคยบอกเรื่องเหล่านี้ให้ฟังแล้วเมื่ออยู่กับท่าน และบัดนี้ท่านก็รู้ว่าอะไรขัดขวาง มนุษย์ชั่วร้ายนี้ไว้จนกว่าเขาจะปรากฏตัวตามเวลาที่กำหนด ความชั่วร้ายกำลังทำงานอยู่แล้ว อย่างซ่อนเร้น และจะปรากฏชัดแจ้งก็ต่อเมื่อผู้ขัดขวางถูกขจัดออกไป แล้วมนุษย์ชั่วร้ายนั้นก็จะปรากฏอย่างเปิดเผย และองค์พระผู้เป็นเจ้า จะทรงทำลายเขาด้วยลมจากพระโอษฐ์ และจะทรงบดขยี้เขาให้สูญไปเดชะการเสด็จมาอันรุ่งเรืองของพระองค์ การมาของมนุษย์ชั่วร้ายจะเกิดขึ้นด้วยฤทธิ์อำนาจของซาตาน ที่แสดงออกเป็นการอัศจรรย์ เป็นเครื่องหมายและเป็นปาฏิหาริย์อันหลอกลวงชนิดต่าง ๆ มนุษย์ชั่วร้ายนี้จะใช้เล่ห์เหลี่ยมชั่วช้าทุกอย่างทำร้ายผู้ที่จะต้องพินาศ เพราะพวกเขาปฏิเสธไม่ยอมรักความจริงที่ทำให้รอดพ้น พระเจ้าจึงทรงส่งพลังความหลงผิดมาให้ เพื่อพวกเขาจะได้เชื่อความเท็จ ดังนั้น ทุกคนที่ไม่ยอมเชื่อความจริง แต่พึงพอใจความชั่วร้ายจะถูกตัดสินลงโทษ
รู้เช่นเห็นชาติพวกที่มีเจตนาเช่นนั้นเลย
มานึก ๆ ไปก็แปลกดี ที่คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะมีศาสนา(อื่น) หรือไม่มี พอได้ยินเรื่องพระคริสต์ผู้ไถ่ บางรายถึงกับแสดงอาการต่อต้านแบบฉับพลันเลย
น่าคิด.....
เป็นหลักฐานดังที่อ.เปาโลพูดไว้ชัดว่ามารมันยังรู้จักพระคริสต์ และมันก็กลัว จึงพยายามปิดหูปิดตา ครอบงำคน
แต่บางคนเป็นมารไปถึงในส่วนลึก หากแก้ไขไม่ได้จะทำอย่างไรดีล่ะ
น่าคิด.....
เป็นหลักฐานดังที่อ.เปาโลพูดไว้ชัดว่ามารมันยังรู้จักพระคริสต์ และมันก็กลัว จึงพยายามปิดหูปิดตา ครอบงำคน
แต่บางคนเป็นมารไปถึงในส่วนลึก หากแก้ไขไม่ได้จะทำอย่างไรดีล่ะ
บางคนแก้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปสนใจครับ ทำตัวเราให้ดีที่สุด เป็นคริสตชนตามน้ำพระทัยของพระฯ ก็พอแล้วDark Knight เขียน: มานึก ๆ ไปก็แปลกดี ที่คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะมีศาสนา(อื่น) หรือไม่มี พอได้ยินเรื่องพระคริสต์ผู้ไถ่ บางรายถึงกับแสดงอาการต่อต้านแบบฉับพลันเลย
น่าคิด.....
เป็นหลักฐานดังที่อ.เปาโลพูดไว้ชัดว่ามารมันยังรู้จักพระคริสต์ และมันก็กลัว จึงพยายามปิดหูปิดตา ครอบงำคน
แต่บางคนเป็นมารไปถึงในส่วนลึก หากแก้ไขไม่ได้จะทำอย่างไรดีล่ะ
เห็นด้วยอย่างแรงครับPry-Kaew เขียน:บางคนแก้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปสนใจครับ ทำตัวเราให้ดีที่สุด เป็นคริสตชนตามน้ำพระทัยของพระฯ ก็พอแล้วDark Knight เขียน: มานึก ๆ ไปก็แปลกดี ที่คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะมีศาสนา(อื่น) หรือไม่มี พอได้ยินเรื่องพระคริสต์ผู้ไถ่ บางรายถึงกับแสดงอาการต่อต้านแบบฉับพลันเลย
น่าคิด.....
เป็นหลักฐานดังที่อ.เปาโลพูดไว้ชัดว่ามารมันยังรู้จักพระคริสต์ และมันก็กลัว จึงพยายามปิดหูปิดตา ครอบงำคน
แต่บางคนเป็นมารไปถึงในส่วนลึก หากแก้ไขไม่ได้จะทำอย่างไรดีล่ะ
อ๊ะ เห็นด้วย...ว ส ว สฺ ต์ เขียน: ถ้าตัดออกก็แสดงว่าศาลฎีกาของอเมริกากระทำการอันขัดต่อเสรีภาพทางความเชื่อในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน