ยังเลือกนักบุญไม่ได้เลยครับ ช่วยหน่อย
ผมเรียนคำสอนที่วัดเซเวียร์ อนุสาวรีย์ฯ จนจวนจะรับศีลล้างบาป วันที่ 3 เม.ย นี้แล้ว ยังเลือกนักบุญไม่ได้เลยครับ
อ.ธีรพงษ์ เอาประวัตินักบุญมาให้ผมอ่านแล้ว ผมก็ยังเลือกไม่ได้อีก ก็เลยขออาจารย์ อ่านประวัตินักบุญอีกเล่มนึง เป็นเล่มใหม่ ..
อาทิตย์หน้าคงได้อ่าน แต่กลัวเลือกนักบุญยังไม่ได้ ผมเกิด 15 ก.ค. ปีกระต่าย ครับ หรือว่าจะเลือกนักบุญ เซ้น นิโครัส ตามชื่อผม
มีใครพอมีไอเดียแนะนำผมบ้างครับ ขอคุณเพื่อนๆทุกคน ขอพระเจ้าอวยพรครับ.
อ.ธีรพงษ์ เอาประวัตินักบุญมาให้ผมอ่านแล้ว ผมก็ยังเลือกไม่ได้อีก ก็เลยขออาจารย์ อ่านประวัตินักบุญอีกเล่มนึง เป็นเล่มใหม่ ..
อาทิตย์หน้าคงได้อ่าน แต่กลัวเลือกนักบุญยังไม่ได้ ผมเกิด 15 ก.ค. ปีกระต่าย ครับ หรือว่าจะเลือกนักบุญ เซ้น นิโครัส ตามชื่อผม
มีใครพอมีไอเดียแนะนำผมบ้างครับ ขอคุณเพื่อนๆทุกคน ขอพระเจ้าอวยพรครับ.
ลองอ่านประวัติแล้วประทับใจนักบุญท่านไหนล่ะคะ ลองถามใจตัวเองดู
หรืออยากได้นักบุญท่านไหนที่มีฤทธิ์กุศลส่งเสริมหรือเป็นกำลังใจให้เรา
ถามตัวเองว่าชอบเรื่องปรีชาญาณ, ความเมตตา, การรักษา, ความบริสุทธิ์...ฯลฯ
ก็ลองเลือกนักบุญแนวๆ ที่เราชอบค่ะ
ขอพระอวยพรนะคะ
หรืออยากได้นักบุญท่านไหนที่มีฤทธิ์กุศลส่งเสริมหรือเป็นกำลังใจให้เรา
ถามตัวเองว่าชอบเรื่องปรีชาญาณ, ความเมตตา, การรักษา, ความบริสุทธิ์...ฯลฯ
ก็ลองเลือกนักบุญแนวๆ ที่เราชอบค่ะ
ขอพระอวยพรนะคะ
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
นำเสนอ "นักบุญยอแซฟ ที่พึ่งในทุกกรณี" ค่ะ ::022::
ท่านเป็นบิดาเลี้ยงของพระเยซู ขอท่านให้มาเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ซะเลย ::026::
องค์อุปถัมภ์ พระศาสนจักสากล, บิดา, ช่างไม้, กรรมกร, คนที่จวนจะสิ้นใจ, และ ความเสมอภาคในสังคม
ฉลองวันที่ 19 มีนาคมและ 1 พฤษภาคม
Joseph ทุกสิ่งที่เราทราบเกี่ยวกับพระภัสดาของพระนางมารีอา และพระบิดาเลี้ยงของพระเยซูเจ้ามาจากพระคัมภีร์ เรารู้ท่านเป็นช่างไม้และกรรมกร ชาวนาซาเรทที่ไม่เลื่อมใสพูดถึงพระเยซูเจ้า: "นี่ไม่ใช่ลูกช่างไม้หรือ?" (มธ. 13:55) ท่านไม่ร่ำรวย เพราะเมื่อท่านพาพระเยซูเจ้าไปพระวิหาร เพื่อรับศีลตัดและพระนางมารีอาไปทำพิธีชำระให้สะอาดบริสุทธิ์ ท่านถวายเครื่องบูชาแด่พระเป็นเจ้าเป็นนกพิราบสองตัว อนุญาตสำหรับคนจนที่ไม่มีเงินซื้อลูกแกะ (ลก. 2:24)
ถึงแม้งานของท่านต้องใช้แรงกายและรายได้พอประทังชีวิตวันต่อวัน นักบุญยอเซฟมีเชื้อสายของดาวิดกษัตริย์ของอิสราเอล (มธ 1:1-16 และ ลก 3:23-38) เมื่อเทวดามาบอกท่านถึงพระเยซูเจ้าและทักทายท่านว่า: "บุตรของดาวิด" ซึ่งเป็นพระนามที่ใช้เรียกพระเยซูเจ้าด้วย
เรารู้นักบุญยอเซฟเป็นคนที่มีใจเมตตา กรุณาและห่วงใยความทุกข์สุขของผู้อื่น เมื่อท่านพบว่าพระนางมารีอาตั้งครรภ์หลังจากทั้งสองได้หมั้นกัน ท่านรู้แก่ใจเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของท่าน ในเวลานั้นท่านยังไม่ทราบเลยว่า พระนางมารีอาอุ้มท้องพระบุตรของพระเป็นเจ้า ท่านได้วางแผนหย่าขาดกับพระนางตามกฎหมายอย่างเงียบๆ แต่ท่านเป็นห่วงถึงความทุกข์ยากและความปลอดภัยของพระนาง ท่านได้รู้ว่าหญิงที่ถูกกล่าวหามีชู้ โทษประหารชีวิตโดยการทุ่มด้วยก้อนหิน ดังนั้นท่านได้ตัดสินใจหย่ากับพระนางอย่างเงียบๆ เพราะท่านไม่ต้องการทำให้พระนางอับอายขายหน้า หรือได้รับการทารุณกรรมที่โหดร้าย (มธ 1:19-25)
เรารู้นักบุญยอเซฟเป็นคนที่มีความ เชื่อมั่นคง และนบนอบพระเป็นเจ้า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่พระองค์ทรงขอร้องให้ท่านทำ โดยไม่รู้ว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร เมื่อเทวดามาหานักบุญยอเซฟในความฝัน และบอกท่านความจริงถึงเด็กที่อยู่ในท้องของพระนางมารีอา ทันทีโดยไม่มีข้อสงสัยหรือกลัวคนนินทา นักบุญยอเซฟรับพระนางมารีอาเป็นภรรยา
เมื่อเทวดามาหาท่านอีกครั้งเพื่อ บอกว่าครอบครัวของท่านตกอยู่ในอันตราย ทันทีท่านทิ้งทุกสิ่งที่ท่านเป็นเจ้าของ ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง และหลบหนีไปอยู่ต่างแดนพร้อมด้วยภรรยาและลูก ท่านรออยู่ที่อียิปต์ โดยไม่มีคำถาม จนกระทั่งเทวดามาบอกท่านว่าปลอดภัยแล้วกลับบ้านได้ (มธ 2:13-23)
เรารู้นักบุญยอเซฟรักพระเยซูเจ้า ท่านห่วงใยความปลอดภัยของพระองค์ ผู้ซึ่งอยู่ในความดูแลของท่าน ท่านไม่เพียงทิ้งบ้านเพื่อพิทักษ์รักษาพระเยซูเจ้า แต่ท่านกลับมาตั้งหลักแหล่งในเมืองนาซาเรธที่ซึ่งไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะกลัวพระองค์ถูกปลงพระชนม์ เมื่อพระเยซูเจ้าอยู่ในพระวิหาร นักบุญยอเซฟกับพระนางมารีอา ได้ค้นหาพระองค์ด้วยความวิตกกังวลอย่างใหญ่หลวง เป็นเวลาสามวัน (ลก 2:48) เรารู้ด้วยว่านักบุญยอเซฟรักพระเยซูเจ้าเหมือนลูกของตัวเอง เพราะชาวนาซาเรธพูดถึงพระเยซูเจ้าซ้ำไปซ้ำมาว่า "นี่ไม่ใช่ลูกยอเซฟหรือ?" (ลก 4:22)
เรารู้นักบุญยอเซฟเคารพรักพระเป็นเจ้า ท่านนบนอบพระบัญญัติของพระองค์ในการแก้ไขสถานการณ์ของพระนางมารีอา และในการไปกรุงเยรูซาเลม เพื่อพระเยซูเจ้าจะได้รับศีลตัด และพระนางมารีอาจะได้รับการชำระให้สะอาดบริสุทธิ์หลังคลอดบุตร เราทราบว่าท่านได้พาครอบครัวไปกรุงเยรูซาเลมทุกปีเพื่อฉลองปัสกา ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ต้องทำงานตลอดเวลา
เนื่องจากนักบุญยอเซฟไม่เคยปรากฏตัว ให้เห็นในชีวิตแพร่ธรรมของพระเยซูเจ้า การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ หรือการกลับเป็นขึ้นมาของพระองค์ นักประวัติศาสตร์หลายคนเห็นพ้องกันว่า นักบุญยอเซฟได้สิ้นใจก่อนที่พระเยซูเจ้าออกเทศนา
นักบุญยอเซฟเป็นองค์อุปถัมภ์คนที่จวน จะสิ้นใจ สมมุติท่านหมดลมหายใจก่อนพระเยซูเจ้าออกเทศนา ท่านต้องสิ้นใจในอ้อมแขนของพระเยซูเจ้า และของพระนางมารีอาอย่างแน่นอนที่สุด ซึ่งเป็นความปรารถนาของเราทุกคนเมื่อลาจากโลกนี้
นักบุญยอเซฟอุปถัมภ์พระศาสนจักสากล บิดา ช่างไม้ กรรมกร คนที่จวนจะสิ้นใจ และความเสมอภาคในสังคม
เราฉลองนักบุญยอเซฟปีละสองครั้ง วันที่ ๑๙ มีนาคมฉลองนักบุญยอเซฟ พระภัสดาของพระนางพรหมจารีมารีอา และวันที่ ๑ พฤษภาคมฉลองนักบุญยอเซฟ กรรมกร
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอยากรู้ เกี่ยวกับนักบุญยอเซฟ ท่านเกิดที่ไหน เมื่อไหร่ และใช้ชีวิตอย่างไร ท่านตายเมื่อไหร่และอย่างไร แต่พระคัมภีร์ได้ให้เราความรู้อันหนึ่งที่สำคัญมาก: "ท่านคือผู้ทรงธรรม" (มธ 1:18)
ให้เราภาวนา นักบุญยอเซฟ ผู้ทรงธรรมและองค์อุปถัมภ์พระศาสนจักรสากล โปรดเฝ้าพิทักษ์พระศาสนจักรของเรา เหมือนอย่างที่ท่านเฝ้าพิทักษ์พระเยซูคริสตเจ้า กรุณาช่วยปกป้อง คุ้มครอง รักษา และชี้ทางให้พระศาสนจักร เหมือนอย่างที่ท่านเอาใจใส่ทนุถนอมลูกเลี้ยงของท่าน อาแมน
บทสวดขอนักบุญยอเซฟให้ตายในศีลในพระพรของพระเป็นเจ้า
นักบุญยอเซฟ ผู้เปี่ยมด้วยพระสิริมงคล ข้าพเจ้าอ้อนวอนท่านเป็นองค์อุปถัมภ์พิเศษของข้าพเจ้าในชีวิตนี้ และในเวลาใกล้ตาย กรุณาขอพระเป็นเจ้าประทานแก่ข้าพเจ้าจิตภาวนาที่ร้อนรน ข้าพเจ้าจะได้รับใช้พระองค์อย่างศรัทธา กรุณาช่วยข้าพเจ้าละทิ้งบาปทุกชนิด ข้าพเจ้าจะได้ดำรงชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์ กรุณาขอพระเป็นเจ้าอย่าให้ข้าพเจ้าสิ้นใจโดยไม่รู้ตัว
ท่านเป็นบิดาเลี้ยงของพระเยซู ขอท่านให้มาเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ซะเลย ::026::
องค์อุปถัมภ์ พระศาสนจักสากล, บิดา, ช่างไม้, กรรมกร, คนที่จวนจะสิ้นใจ, และ ความเสมอภาคในสังคม
ฉลองวันที่ 19 มีนาคมและ 1 พฤษภาคม
Joseph ทุกสิ่งที่เราทราบเกี่ยวกับพระภัสดาของพระนางมารีอา และพระบิดาเลี้ยงของพระเยซูเจ้ามาจากพระคัมภีร์ เรารู้ท่านเป็นช่างไม้และกรรมกร ชาวนาซาเรทที่ไม่เลื่อมใสพูดถึงพระเยซูเจ้า: "นี่ไม่ใช่ลูกช่างไม้หรือ?" (มธ. 13:55) ท่านไม่ร่ำรวย เพราะเมื่อท่านพาพระเยซูเจ้าไปพระวิหาร เพื่อรับศีลตัดและพระนางมารีอาไปทำพิธีชำระให้สะอาดบริสุทธิ์ ท่านถวายเครื่องบูชาแด่พระเป็นเจ้าเป็นนกพิราบสองตัว อนุญาตสำหรับคนจนที่ไม่มีเงินซื้อลูกแกะ (ลก. 2:24)
ถึงแม้งานของท่านต้องใช้แรงกายและรายได้พอประทังชีวิตวันต่อวัน นักบุญยอเซฟมีเชื้อสายของดาวิดกษัตริย์ของอิสราเอล (มธ 1:1-16 และ ลก 3:23-38) เมื่อเทวดามาบอกท่านถึงพระเยซูเจ้าและทักทายท่านว่า: "บุตรของดาวิด" ซึ่งเป็นพระนามที่ใช้เรียกพระเยซูเจ้าด้วย
เรารู้นักบุญยอเซฟเป็นคนที่มีใจเมตตา กรุณาและห่วงใยความทุกข์สุขของผู้อื่น เมื่อท่านพบว่าพระนางมารีอาตั้งครรภ์หลังจากทั้งสองได้หมั้นกัน ท่านรู้แก่ใจเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของท่าน ในเวลานั้นท่านยังไม่ทราบเลยว่า พระนางมารีอาอุ้มท้องพระบุตรของพระเป็นเจ้า ท่านได้วางแผนหย่าขาดกับพระนางตามกฎหมายอย่างเงียบๆ แต่ท่านเป็นห่วงถึงความทุกข์ยากและความปลอดภัยของพระนาง ท่านได้รู้ว่าหญิงที่ถูกกล่าวหามีชู้ โทษประหารชีวิตโดยการทุ่มด้วยก้อนหิน ดังนั้นท่านได้ตัดสินใจหย่ากับพระนางอย่างเงียบๆ เพราะท่านไม่ต้องการทำให้พระนางอับอายขายหน้า หรือได้รับการทารุณกรรมที่โหดร้าย (มธ 1:19-25)
เรารู้นักบุญยอเซฟเป็นคนที่มีความ เชื่อมั่นคง และนบนอบพระเป็นเจ้า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่พระองค์ทรงขอร้องให้ท่านทำ โดยไม่รู้ว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร เมื่อเทวดามาหานักบุญยอเซฟในความฝัน และบอกท่านความจริงถึงเด็กที่อยู่ในท้องของพระนางมารีอา ทันทีโดยไม่มีข้อสงสัยหรือกลัวคนนินทา นักบุญยอเซฟรับพระนางมารีอาเป็นภรรยา
เมื่อเทวดามาหาท่านอีกครั้งเพื่อ บอกว่าครอบครัวของท่านตกอยู่ในอันตราย ทันทีท่านทิ้งทุกสิ่งที่ท่านเป็นเจ้าของ ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง และหลบหนีไปอยู่ต่างแดนพร้อมด้วยภรรยาและลูก ท่านรออยู่ที่อียิปต์ โดยไม่มีคำถาม จนกระทั่งเทวดามาบอกท่านว่าปลอดภัยแล้วกลับบ้านได้ (มธ 2:13-23)
เรารู้นักบุญยอเซฟรักพระเยซูเจ้า ท่านห่วงใยความปลอดภัยของพระองค์ ผู้ซึ่งอยู่ในความดูแลของท่าน ท่านไม่เพียงทิ้งบ้านเพื่อพิทักษ์รักษาพระเยซูเจ้า แต่ท่านกลับมาตั้งหลักแหล่งในเมืองนาซาเรธที่ซึ่งไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะกลัวพระองค์ถูกปลงพระชนม์ เมื่อพระเยซูเจ้าอยู่ในพระวิหาร นักบุญยอเซฟกับพระนางมารีอา ได้ค้นหาพระองค์ด้วยความวิตกกังวลอย่างใหญ่หลวง เป็นเวลาสามวัน (ลก 2:48) เรารู้ด้วยว่านักบุญยอเซฟรักพระเยซูเจ้าเหมือนลูกของตัวเอง เพราะชาวนาซาเรธพูดถึงพระเยซูเจ้าซ้ำไปซ้ำมาว่า "นี่ไม่ใช่ลูกยอเซฟหรือ?" (ลก 4:22)
เรารู้นักบุญยอเซฟเคารพรักพระเป็นเจ้า ท่านนบนอบพระบัญญัติของพระองค์ในการแก้ไขสถานการณ์ของพระนางมารีอา และในการไปกรุงเยรูซาเลม เพื่อพระเยซูเจ้าจะได้รับศีลตัด และพระนางมารีอาจะได้รับการชำระให้สะอาดบริสุทธิ์หลังคลอดบุตร เราทราบว่าท่านได้พาครอบครัวไปกรุงเยรูซาเลมทุกปีเพื่อฉลองปัสกา ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ต้องทำงานตลอดเวลา
เนื่องจากนักบุญยอเซฟไม่เคยปรากฏตัว ให้เห็นในชีวิตแพร่ธรรมของพระเยซูเจ้า การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ หรือการกลับเป็นขึ้นมาของพระองค์ นักประวัติศาสตร์หลายคนเห็นพ้องกันว่า นักบุญยอเซฟได้สิ้นใจก่อนที่พระเยซูเจ้าออกเทศนา
นักบุญยอเซฟเป็นองค์อุปถัมภ์คนที่จวน จะสิ้นใจ สมมุติท่านหมดลมหายใจก่อนพระเยซูเจ้าออกเทศนา ท่านต้องสิ้นใจในอ้อมแขนของพระเยซูเจ้า และของพระนางมารีอาอย่างแน่นอนที่สุด ซึ่งเป็นความปรารถนาของเราทุกคนเมื่อลาจากโลกนี้
นักบุญยอเซฟอุปถัมภ์พระศาสนจักสากล บิดา ช่างไม้ กรรมกร คนที่จวนจะสิ้นใจ และความเสมอภาคในสังคม
เราฉลองนักบุญยอเซฟปีละสองครั้ง วันที่ ๑๙ มีนาคมฉลองนักบุญยอเซฟ พระภัสดาของพระนางพรหมจารีมารีอา และวันที่ ๑ พฤษภาคมฉลองนักบุญยอเซฟ กรรมกร
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอยากรู้ เกี่ยวกับนักบุญยอเซฟ ท่านเกิดที่ไหน เมื่อไหร่ และใช้ชีวิตอย่างไร ท่านตายเมื่อไหร่และอย่างไร แต่พระคัมภีร์ได้ให้เราความรู้อันหนึ่งที่สำคัญมาก: "ท่านคือผู้ทรงธรรม" (มธ 1:18)
ให้เราภาวนา นักบุญยอเซฟ ผู้ทรงธรรมและองค์อุปถัมภ์พระศาสนจักรสากล โปรดเฝ้าพิทักษ์พระศาสนจักรของเรา เหมือนอย่างที่ท่านเฝ้าพิทักษ์พระเยซูคริสตเจ้า กรุณาช่วยปกป้อง คุ้มครอง รักษา และชี้ทางให้พระศาสนจักร เหมือนอย่างที่ท่านเอาใจใส่ทนุถนอมลูกเลี้ยงของท่าน อาแมน
บทสวดขอนักบุญยอเซฟให้ตายในศีลในพระพรของพระเป็นเจ้า
นักบุญยอเซฟ ผู้เปี่ยมด้วยพระสิริมงคล ข้าพเจ้าอ้อนวอนท่านเป็นองค์อุปถัมภ์พิเศษของข้าพเจ้าในชีวิตนี้ และในเวลาใกล้ตาย กรุณาขอพระเป็นเจ้าประทานแก่ข้าพเจ้าจิตภาวนาที่ร้อนรน ข้าพเจ้าจะได้รับใช้พระองค์อย่างศรัทธา กรุณาช่วยข้าพเจ้าละทิ้งบาปทุกชนิด ข้าพเจ้าจะได้ดำรงชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์ กรุณาขอพระเป็นเจ้าอย่าให้ข้าพเจ้าสิ้นใจโดยไม่รู้ตัว
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ม.ค. 25, 2010 12:02 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- antoinetty*
- โพสต์: 451
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 04, 2007 9:39 pm
ผลิตผลจากเซเวียร์ : )
แนะนำนักบุญอิกญาซีโอแห่งโลโยลาครับ
ผู้ก่อตั้งคณะเยซูอิต
และเป็นอาจารย์ของนักบุญฟรังซิส เซเวียร์
ลองอ่านประวัติดูนะครับ
>
อิกญาซีโอ เกิดในตระกูลขุนนางผู้มั่งคั่งและมีชื่อเสียงของสเปน
เป็นอัศวินที่มุทะลุดุดันและชอบผจญภัย ท่านได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบในการล้อมเมืองปัมโปลนา
ในระหว่างที่กำลังพักรักษาตัวอยู่นั้น เนื่องจากว่าหาอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องอัศวินซึ่งตัวเองชอบนักชอบหนาไม่ได้
ท่านจึงได้ค้นพบพระเยซูเจ้าในการอ่านหนังสือพระวรสารและในประวัตินักบุญ
ดังนี้ท่านจึงต้องการที่จะอุทิศตนเองแด่พระคริสตเจ้าในพระศาสนจักร
ท่านได้ไปที่อารามฤาษีที่มองแซร์รัท ได้ใช้เวลาในการรำพึงภาวนาทำกิจใช้โทษบาปและได้เริ่มความศรัทธาภักดีแบบใหม่
เป็นต้นโดยการอ่านหนังสือ “จำลองแบบพระคริสต์” ในถ้ำแห่งหนึ่งที่เมืองมานเรซา
ณ ที่นี่เองที่ท่านได้มีประสบการณ์แห่งชีวิตของการเพ่งฌาน
ท่านจึงได้เริ่มวางรากฐานให้กับหนังสือที่มีชื่อเสียงของท่านคือ “การฝึกฝนชีวิตภายใน” หรือ “การเข้าเงียบ”
ท่านได้ไปศึกษาวิชาปรัชญาและเทววิทยาที่กรุงปารีส และที่กรุงปารีสนี่เองที่ท่านได้ตั้งคณะนักบวช “เยซูอิต” ขึ้นเมื่อปี 1534
และชื่อของคณะได้รับการรับรองหลังการบวชเป็นพระสงฆ์ของท่านและพรรคพวกอีก 7 คน ซึ่งคนหนึ่งในนี้คือ นักบุญฟรังซิส เซเวียร์ นั่นเอง
ปี 1537 ท่านได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์ที่เมืองเวนิสในประเทศอิตาลี
ต่อมาท่านได้ตั้งหลักแหล่งที่กรุงโรม ได้มอบคณะของท่านซึ่งเปรียบเสมือนหน่วยรบ
ตามพระประสงค์ของพระสันตะปาปาซึ่งแล้วแต่ว่าพระองค์จะทรงใช้ให้ทำอะไร
แต่เป็นต้นสำหรับป้องกันความเชื่อ การปฏิรูปการปรับปรุงพระศาสนจักรและหน่วยงานแพร่ธรรม
งานแพร่ธรรมของนักบุญ อิกญาซีโอ และผู้ร่วมงานของท่านนั้นมีมากมายและกินขอบเขตกว้างขวางมาก
ท่านได้ให้นักบวชของท่านทำการศึกษาทั้งทางด้านเทววิทยาและด้านมนุษยศาสตร์เป็นอย่างดี และให้รอบรู้จริงๆ
เพื่อจะได้สามารถเป็นตัวแทนของพระศาสนจักรในวงการทางวิชาความรู้และในวงการ ความคิดของสมัยใหม่ในทุกๆแขนง
คณะของท่านได้มีอาจารย์และผู้ให้การอบรมสั่งสอนที่ชำนิชำนาญอยู่มาก
เราทราบดีว่านักบุญ อิกญาซีโอ เป็นผู้ที่ประกอบด้วยจิตตารมณ์อันลึกซึ้งของการเสียสละอุทิศตนเองจริงๆ ในการรับใช้
ด้านการทำงาน “เพื่อพระเกียรติมงคลอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า” (“Ad Majorem Dei Gloriam”) ในพระศาสนจักร
ในหนังสือ “บันทึกประจำวันชีวิตภายใน” ของท่านนั้นได้เปิดเผยให้เห็นว่าท่านได้เป็นผู้ที่มีมนุษยธรรมอันสูงส่ง
และประสบการณ์ทางเพ่งฌานเรื่องพระตรีเอกภาพ นอกนั้นท่านยังเป็นผู้ที่มีความรักเมตตาและความศรัทธาอย่างแรงกล้า
ชีวิตในแบบของนักบุญ อิกญาซีโอ ถือว่าเป็นแบบที่มีพระเยซูเจ้าทรงเป็นศูนย์กลาง
และท่านเองได้พยายามที่จะสร้างชีวิตภายในแบบนี้ในบรรดาคริสตชนด้วย
โดยพยายามยึดเอาพระเยซูเจ้าในประวัติศาสตร์เป็นแม่แบบ
ตัวท่านเองได้พยายามเลียนแบบพระองค์ด้วยการรำพึงและการเลียนแบบพระเยซูเจ้านี้ เป็นแบบใหม่ซึ่งภายหลังนักบวชหลายคณะได้นำเอาไปใช้
รวมทั้งกลุ่มแพร่ธรรมและกลุ่มชีวิตภายในอื่นๆด้วย
ในพระศาสนจักร ทุกๆคนได้รับการเรียกให้ไปสู่ชีวิตคริสตชนขั้นสมบูรณ์แบบ และความรักความเมตตาขั้นครบครัน
โดยการเจริญชีวิตที่เป็นแบบมนุษย์ยิ่งขึ้น ทำตัวให้ละม้ายคล้ายกับพระเยซูเจ้าในการนบนอบเชื่อต่อพระบิดา
อุทิศตนเพื่อพระเกียรติมงคลของพระเจ้า และในการให้บริการแก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย (เทียบ LG 40)
คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1.ให้เราได้กระทำกิจการทุกอย่างของเราเพื่อพระเกียรติมงคลของพระเจ้า
2.ให้เราพยายามทำงานอย่างเต็มที่เพื่อความศักดิ์สิทธิ์และตัวเราเอง
3.ข้าแต่พระเยซูเจ้าโปรดช่วยเราให้สามารถเลียนแบบพระองค์ในการอุทิศตนเพื่องานของพระบิดา
แนะนำนักบุญอิกญาซีโอแห่งโลโยลาครับ
ผู้ก่อตั้งคณะเยซูอิต
และเป็นอาจารย์ของนักบุญฟรังซิส เซเวียร์
ลองอ่านประวัติดูนะครับ
>
อิกญาซีโอ เกิดในตระกูลขุนนางผู้มั่งคั่งและมีชื่อเสียงของสเปน
เป็นอัศวินที่มุทะลุดุดันและชอบผจญภัย ท่านได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบในการล้อมเมืองปัมโปลนา
ในระหว่างที่กำลังพักรักษาตัวอยู่นั้น เนื่องจากว่าหาอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องอัศวินซึ่งตัวเองชอบนักชอบหนาไม่ได้
ท่านจึงได้ค้นพบพระเยซูเจ้าในการอ่านหนังสือพระวรสารและในประวัตินักบุญ
ดังนี้ท่านจึงต้องการที่จะอุทิศตนเองแด่พระคริสตเจ้าในพระศาสนจักร
ท่านได้ไปที่อารามฤาษีที่มองแซร์รัท ได้ใช้เวลาในการรำพึงภาวนาทำกิจใช้โทษบาปและได้เริ่มความศรัทธาภักดีแบบใหม่
เป็นต้นโดยการอ่านหนังสือ “จำลองแบบพระคริสต์” ในถ้ำแห่งหนึ่งที่เมืองมานเรซา
ณ ที่นี่เองที่ท่านได้มีประสบการณ์แห่งชีวิตของการเพ่งฌาน
ท่านจึงได้เริ่มวางรากฐานให้กับหนังสือที่มีชื่อเสียงของท่านคือ “การฝึกฝนชีวิตภายใน” หรือ “การเข้าเงียบ”
ท่านได้ไปศึกษาวิชาปรัชญาและเทววิทยาที่กรุงปารีส และที่กรุงปารีสนี่เองที่ท่านได้ตั้งคณะนักบวช “เยซูอิต” ขึ้นเมื่อปี 1534
และชื่อของคณะได้รับการรับรองหลังการบวชเป็นพระสงฆ์ของท่านและพรรคพวกอีก 7 คน ซึ่งคนหนึ่งในนี้คือ นักบุญฟรังซิส เซเวียร์ นั่นเอง
ปี 1537 ท่านได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์ที่เมืองเวนิสในประเทศอิตาลี
ต่อมาท่านได้ตั้งหลักแหล่งที่กรุงโรม ได้มอบคณะของท่านซึ่งเปรียบเสมือนหน่วยรบ
ตามพระประสงค์ของพระสันตะปาปาซึ่งแล้วแต่ว่าพระองค์จะทรงใช้ให้ทำอะไร
แต่เป็นต้นสำหรับป้องกันความเชื่อ การปฏิรูปการปรับปรุงพระศาสนจักรและหน่วยงานแพร่ธรรม
งานแพร่ธรรมของนักบุญ อิกญาซีโอ และผู้ร่วมงานของท่านนั้นมีมากมายและกินขอบเขตกว้างขวางมาก
ท่านได้ให้นักบวชของท่านทำการศึกษาทั้งทางด้านเทววิทยาและด้านมนุษยศาสตร์เป็นอย่างดี และให้รอบรู้จริงๆ
เพื่อจะได้สามารถเป็นตัวแทนของพระศาสนจักรในวงการทางวิชาความรู้และในวงการ ความคิดของสมัยใหม่ในทุกๆแขนง
คณะของท่านได้มีอาจารย์และผู้ให้การอบรมสั่งสอนที่ชำนิชำนาญอยู่มาก
เราทราบดีว่านักบุญ อิกญาซีโอ เป็นผู้ที่ประกอบด้วยจิตตารมณ์อันลึกซึ้งของการเสียสละอุทิศตนเองจริงๆ ในการรับใช้
ด้านการทำงาน “เพื่อพระเกียรติมงคลอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า” (“Ad Majorem Dei Gloriam”) ในพระศาสนจักร
ในหนังสือ “บันทึกประจำวันชีวิตภายใน” ของท่านนั้นได้เปิดเผยให้เห็นว่าท่านได้เป็นผู้ที่มีมนุษยธรรมอันสูงส่ง
และประสบการณ์ทางเพ่งฌานเรื่องพระตรีเอกภาพ นอกนั้นท่านยังเป็นผู้ที่มีความรักเมตตาและความศรัทธาอย่างแรงกล้า
ชีวิตในแบบของนักบุญ อิกญาซีโอ ถือว่าเป็นแบบที่มีพระเยซูเจ้าทรงเป็นศูนย์กลาง
และท่านเองได้พยายามที่จะสร้างชีวิตภายในแบบนี้ในบรรดาคริสตชนด้วย
โดยพยายามยึดเอาพระเยซูเจ้าในประวัติศาสตร์เป็นแม่แบบ
ตัวท่านเองได้พยายามเลียนแบบพระองค์ด้วยการรำพึงและการเลียนแบบพระเยซูเจ้านี้ เป็นแบบใหม่ซึ่งภายหลังนักบวชหลายคณะได้นำเอาไปใช้
รวมทั้งกลุ่มแพร่ธรรมและกลุ่มชีวิตภายในอื่นๆด้วย
ในพระศาสนจักร ทุกๆคนได้รับการเรียกให้ไปสู่ชีวิตคริสตชนขั้นสมบูรณ์แบบ และความรักความเมตตาขั้นครบครัน
โดยการเจริญชีวิตที่เป็นแบบมนุษย์ยิ่งขึ้น ทำตัวให้ละม้ายคล้ายกับพระเยซูเจ้าในการนบนอบเชื่อต่อพระบิดา
อุทิศตนเพื่อพระเกียรติมงคลของพระเจ้า และในการให้บริการแก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย (เทียบ LG 40)
คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1.ให้เราได้กระทำกิจการทุกอย่างของเราเพื่อพระเกียรติมงคลของพระเจ้า
2.ให้เราพยายามทำงานอย่างเต็มที่เพื่อความศักดิ์สิทธิ์และตัวเราเอง
3.ข้าแต่พระเยซูเจ้าโปรดช่วยเราให้สามารถเลียนแบบพระองค์ในการอุทิศตนเพื่องานของพระบิดา
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ม.ค. 25, 2010 12:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- antoinetty*
- โพสต์: 451
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 04, 2007 9:39 pm
นักบุญตามวันเกิด (วันที่ 15 กรกฎาคม) ก็น่าสนใจนะครับ
นักบุญบอแนแวนตูรา (นักปราชญ์ของพระศาสนจักร)
>
ยอวันนีดี ฟีดันซา เกิดที่เมืองบาโญเรจีโอ (วีแตร์โบ) เมื่อปี 1221
เวลาเป็นเด็ก ท่านได้ล้มเจ็บลง แต่นักบุญฟรังซิส อัสซีซี ได้ช่วยรักษาให้หาย ทั้งได้อุทานว่า “โอ บอนา แวนตูรา”
และคำอุทานของนักบุญฟรังซิสนี้ได้กลายมาเป็นชื่อของท่านในเวลาต่อมา
และท่านก็ได้เป็น “บอนา แวนตูรา” หรือผู้นำโชคให้พระศาสนจักรจริงๆเสียด้วย
ท่านได้เข้าเป็นนักบวชคณะฟรังซิสกัน ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาปรัชญาและเทววิทยาที่กรุงปารีส
และได้เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่นั่นหลายปี ต่อมาได้รับเลือกให้เป็นอธิการใหญ่ของคณะ
ซึ่งท่านก็ได้จัดระเบียบการปกครองคณะด้วยความชาญฉลาดยิ่ง จนท่านได้รับการขนานนามว่าเป็น
“ผู้ตั้งคณะและบิดาคนที่สอง” ซึ่งพูดกันตามจริงแล้วนักบุญฟรังซิสไม่ได้ทิ้งอะไรที่เป็นธรรมนูญการปกครองคณะเอาไว้ให้เลย
เพื่อให้ท่านได้อยู่ใกล้ๆกรุงโรม พระสันตะปาปาจึงทรงแต่งตั้งให้ท่านเป็นพระสังฆราชของเมืองอัลบาโน
และให้เป็นพระคาร์ดินัลด้วย โดยท่านได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่ตระเตรียมการประชุมสภาสังคายนาแห่ง เมืองลีอองส์ (ในประเทศฝรั่งเศส) ครั้งที่ 2
เพื่อเอกภาพของพระศาสนจักรลาตินและพระศาสนจักรกรีก
เทววิทยาของนักบุญ บอนาเวนตูรา เป็นการดำเนินตามรอยความคิดของนักบุญ ออกัสติน
แต่มีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางซึ่งได้ช่วยให้เทววิทยาของตะวันออกสามารถเข้าใจท่านได้ดีขึ้น
พระสังคายนาได้เปิดประชุมในวันที่ 7 พฤษภาคม 1274 และในวันที่ 28 มิถุนายน
ก็ได้บรรลุถึงข้อตกลงสำหรับเอกภาพของพระศาสนจักร (แต่เป็นที่น่าเสียดาย เพราะต่อมาข้อตกลงนี้ได้ถูกทำลายเสีย)
นักบุญ บอนาแวนตูรา ได้สิ้นใจในวันที่ 15 กรกฎาคม โดยมีพระสันตะปาปาเกรโกรีที่ 10 เฝ้าดูท่านอยู่ขณะที่ท่านกำลังสิ้นใจ
และไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น นักบุญโทมัสซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของท่านก็ได้ล่วงหน้าจากท่านไปก่อนแล้ว
นักบุญ บอนาแวนตูรา เป็นคนที่ทำงานจริงจัง ทั้งเก่งในการปกครอง ท่านเป็นคนที่ลงมือปฏิบัติจริงๆ
แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นคนชอบคิดด้วย ท่านเป็นคนที่มีอารมณ์มั่นคงและเป็นคนที่น่ารัก เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ท่านได้แลเห็นว่าศิลปะ วิทยาศาสตร์ ปรัชญา เทววิทยา และประวัติศาสตร์นั้นไปด้วยกันได้
นานๆครั้งเราจึงสามารถพบในบุคคลเดียวกันที่วิทยาศาสตร์และความเชื่อไปด้วย กันได้ดีถึงเพียงนี้
นักบุญ บอนาแวนตูรา เป็นนักเพ่งฌาณที่ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่ง ดังนั้นจึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ท่านจะได้รับเกียรติว่าเป็น “นักปราชญ์ชั้นเซราฟิม”
คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1.ให้เราได้ตั้งเป้าหมายในกิจการทุกอย่างของเรา ให้เป็นไปเพื่อพระเกียรติมงคลของพระบิดาโดยอาศัยพระคริสตเจ้า
2.ก่อนอื่นขอให้เราได้เป็นเพื่อนมนุษย์แบบคริสตชนกับทุกๆคน
3.ข้าแต่พระคริสตเจ้า โปรดประทานความรู้และความเชื่อให้แก่ทุกๆคนด้วยเถิด
4.ขอให้เราได้สวดและทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่ออกภาพของคริสตชนทุกคน
นักบุญบอแนแวนตูรา (นักปราชญ์ของพระศาสนจักร)
>
ยอวันนีดี ฟีดันซา เกิดที่เมืองบาโญเรจีโอ (วีแตร์โบ) เมื่อปี 1221
เวลาเป็นเด็ก ท่านได้ล้มเจ็บลง แต่นักบุญฟรังซิส อัสซีซี ได้ช่วยรักษาให้หาย ทั้งได้อุทานว่า “โอ บอนา แวนตูรา”
และคำอุทานของนักบุญฟรังซิสนี้ได้กลายมาเป็นชื่อของท่านในเวลาต่อมา
และท่านก็ได้เป็น “บอนา แวนตูรา” หรือผู้นำโชคให้พระศาสนจักรจริงๆเสียด้วย
ท่านได้เข้าเป็นนักบวชคณะฟรังซิสกัน ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาปรัชญาและเทววิทยาที่กรุงปารีส
และได้เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่นั่นหลายปี ต่อมาได้รับเลือกให้เป็นอธิการใหญ่ของคณะ
ซึ่งท่านก็ได้จัดระเบียบการปกครองคณะด้วยความชาญฉลาดยิ่ง จนท่านได้รับการขนานนามว่าเป็น
“ผู้ตั้งคณะและบิดาคนที่สอง” ซึ่งพูดกันตามจริงแล้วนักบุญฟรังซิสไม่ได้ทิ้งอะไรที่เป็นธรรมนูญการปกครองคณะเอาไว้ให้เลย
เพื่อให้ท่านได้อยู่ใกล้ๆกรุงโรม พระสันตะปาปาจึงทรงแต่งตั้งให้ท่านเป็นพระสังฆราชของเมืองอัลบาโน
และให้เป็นพระคาร์ดินัลด้วย โดยท่านได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่ตระเตรียมการประชุมสภาสังคายนาแห่ง เมืองลีอองส์ (ในประเทศฝรั่งเศส) ครั้งที่ 2
เพื่อเอกภาพของพระศาสนจักรลาตินและพระศาสนจักรกรีก
เทววิทยาของนักบุญ บอนาเวนตูรา เป็นการดำเนินตามรอยความคิดของนักบุญ ออกัสติน
แต่มีพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางซึ่งได้ช่วยให้เทววิทยาของตะวันออกสามารถเข้าใจท่านได้ดีขึ้น
พระสังคายนาได้เปิดประชุมในวันที่ 7 พฤษภาคม 1274 และในวันที่ 28 มิถุนายน
ก็ได้บรรลุถึงข้อตกลงสำหรับเอกภาพของพระศาสนจักร (แต่เป็นที่น่าเสียดาย เพราะต่อมาข้อตกลงนี้ได้ถูกทำลายเสีย)
นักบุญ บอนาแวนตูรา ได้สิ้นใจในวันที่ 15 กรกฎาคม โดยมีพระสันตะปาปาเกรโกรีที่ 10 เฝ้าดูท่านอยู่ขณะที่ท่านกำลังสิ้นใจ
และไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น นักบุญโทมัสซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของท่านก็ได้ล่วงหน้าจากท่านไปก่อนแล้ว
นักบุญ บอนาแวนตูรา เป็นคนที่ทำงานจริงจัง ทั้งเก่งในการปกครอง ท่านเป็นคนที่ลงมือปฏิบัติจริงๆ
แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นคนชอบคิดด้วย ท่านเป็นคนที่มีอารมณ์มั่นคงและเป็นคนที่น่ารัก เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ท่านได้แลเห็นว่าศิลปะ วิทยาศาสตร์ ปรัชญา เทววิทยา และประวัติศาสตร์นั้นไปด้วยกันได้
นานๆครั้งเราจึงสามารถพบในบุคคลเดียวกันที่วิทยาศาสตร์และความเชื่อไปด้วย กันได้ดีถึงเพียงนี้
นักบุญ บอนาแวนตูรา เป็นนักเพ่งฌาณที่ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่ง ดังนั้นจึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ท่านจะได้รับเกียรติว่าเป็น “นักปราชญ์ชั้นเซราฟิม”
คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1.ให้เราได้ตั้งเป้าหมายในกิจการทุกอย่างของเรา ให้เป็นไปเพื่อพระเกียรติมงคลของพระบิดาโดยอาศัยพระคริสตเจ้า
2.ก่อนอื่นขอให้เราได้เป็นเพื่อนมนุษย์แบบคริสตชนกับทุกๆคน
3.ข้าแต่พระคริสตเจ้า โปรดประทานความรู้และความเชื่อให้แก่ทุกๆคนด้วยเถิด
4.ขอให้เราได้สวดและทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่ออกภาพของคริสตชนทุกคน
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
แล้วพี่ได้ พ่อทูนหัวยังอ่ะคับ: p
-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
ก็ ตั้งตาม พ่อทูนหัวเลย ดิคับ
ส่วนมากคริสตังนอน ทำเช่นนี้...
ไม่ก็ เอา นักบุญใหม่ๆ เลย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น เวียดนามอ่าคับ
เพราะ ท่าน พึ่งเป็ฯ นักบุญ ลูกหลานท่านคงน้อย
ท่าน ไฟแรง แน่ ๆ ๆ 555+
แนะนำ คิมเตก๊อง.. อะไรซักอย่าง ง
เปาโล ดุงลัก ... ชื่อเอเชีย มีเสน่ห์ 555+
ส่วนมากคริสตังนอน ทำเช่นนี้...
ไม่ก็ เอา นักบุญใหม่ๆ เลย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น เวียดนามอ่าคับ
เพราะ ท่าน พึ่งเป็ฯ นักบุญ ลูกหลานท่านคงน้อย
ท่าน ไฟแรง แน่ ๆ ๆ 555+
แนะนำ คิมเตก๊อง.. อะไรซักอย่าง ง
เปาโล ดุงลัก ... ชื่อเอเชีย มีเสน่ห์ 555+
- antoinetty*
- โพสต์: 451
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 04, 2007 9:39 pm
ไม่จำเป็นครับMa~Ri~A เขียน: ปกติเวลารับศีลล้างบาป เค้าใช้นักบุญตามพ่อ/แม่ทูนหัว มะใช่หรอคะ (หรือไม่ใช่.??.)
อันนั้นเป็นธรรมเนียมสมัยก่อน
เพราะสมัยก่อนที่ข่าวสารไม่แพร่หลายเร็วขนาดนี้
ก็รู้จักนักบุญอยู่ไม่กี่ท่านครับผม
เวลาจะตั้ง ก็เลยตั้งง่ายๆ ตามพ่อแม่ทูนหัวครับ
แต่ปัจจุบัน รู้จักนักบุญกันหลากหลายมากขึ้น
คริสตังนอนก็แล้วแต่พ่อแม่จะตั้งให้
หรือถ้าเป็นคริสตังยืน ก็แล้วแต่ตัวเองจะเลือกครับผม
- †ผู้แบกพระคริสต์
- โพสต์: 71
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ธ.ค. 05, 2009 2:19 pm
- ที่อยู่: Bangkok,Thailand
+กราบสวัสดีพี่น้องทุกท่าน..santa เขียน: ผมเรียนคำสอนที่วัดเซเวียร์ อนุสาวรีย์ฯ จนจวนจะรับศีลล้างบาป วันที่ 3 เม.ย นี้แล้ว ยังเลือกนักบุญไม่ได้เลยครับ
อ.ธีรพงษ์ เอาประวัตินักบุญมาให้ผมอ่านแล้ว ผมก็ยังเลือกไม่ได้อีก ก็เลยขออาจารย์ อ่านประวัตินักบุญอีกเล่มนึง เป็นเล่มใหม่ ..
อาทิตย์หน้าคงได้อ่าน แต่กลัวเลือกนักบุญยังไม่ได้ ผมเกิด 15 ก.ค. ปีกระต่าย ครับ หรือว่าจะเลือกนักบุญ เซ้น นิโครัส ตามชื่อผม
มีใครพอมีไอเดียแนะนำผมบ้างครับ ขอคุณเพื่อนๆทุกคน ขอพระเจ้าอวยพรครับ.
ข้าพเจ้าขออณุญาตเสนอแนะตามทัศนะของข้าพเจ้า..
ขอให้"ระลึก"ไว้เสมอว่า นามนักบุญ หรือศาสนนาม ที่เราจะเลือกนั้น..
จะติดตัวเราไปตลอดชีวิต..ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนได้ในอนาคต..
เพราะนามนั้น..เป็น"นามใหม่"สำหรับเรียกบุคคลที่"เกิดใหม่ในพระคริสตเยซู"
+ไม่ใช่เป็นแค่นามที่ไพเราะ,นามที่คล้องจองกับชื่อ-สกุล หรือนามที่"ฮิท-ฮอท-แปลกประลาด-หายาก"เท่านั้น..
+แต่ยังเป็นนามที่จะกำหนดความเป็นไปของชีวิต นับตั้งแต่"เกิดใหม่ในพระคริสต์(รับศีลล้างบาป)"จนตายจากโลกนี้ไป..
+และยังเป็นนามที่มีความหมาย เป็นสิ่งที่กำหนด กุศโลบายประจำตัว
เพราะชื่อทุกชื่อนั้นล้วนมีความหมาย มีความเป็นมงคล ศักดิ์สิทธิ์ในตัวมันเองอยู่แล้ว..
..ท่านต้องทำตัวให้เป็นไปตามชื่อนั้น หรือกุสโลบายของเจ้าของชื่อนั้นจริงๆ..
เช่น อับราฮัม แปลว่า บิดาของชนทั้งหลาย - ท่านก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
โมเสส แปลว่า ผู้ถูกฉุดขึ้นมาหรือผู้รอดจากน้ำ ท่านก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ(รอดตายในตอนเกิด รอดตายในตอนออกจากอียิปต์ รอดตายในทะเลทราย ฯลฯ)
เยซู แปลว่า ผู้ช่วยให้รอด ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ยอห์น/เยโฮฮานัน แปลว่า ความกรุณาของพระเป็นเจ้า ก็เป็นเช่นนั้นจริง(เทศสอนเตรียมใจกับการมาของพระผู้ไถ่-ย.บับติส. บันทึกประกาศพระวาจาให้คนรุ่นหลัง-ย.ผู้นิพน เหล่านี้ก็ถือเป็นพระกรุณาของพระมิใช่หรือ..)
เหล่านี้คือชีอและความหมายและการกระทำที่ทำให้ความหมายนั้นเป็นจริงที่สุด..
นี่เป็นเพียงนักบุญที่อยู่ในช่วงต้นๆของพระศาสนจักร..ที่มีความหมายเฉพาะตามชื่อที่แน่นอน..
ส่วนนักบุญที่ถูกสถาปนามาในยุกหลังๆนั้น "เราเอา หลักปัฏิบัติ การกระทำ ของนักบุญท่านนั้นเป็นแบบอย่างในชีวิต"หาได้เอาตามความหมายชื่อท่านไม่..
เช่น น.ฟรังซิส ชื่อท่านแปลว่า ชาวแฟร๊งซ์หรือฝรั่งเศส เราก็มิได้ปัฏิบัติตัวให้เป็นเหมือนชาวฝรั่งเศส..
แต่เราปัฏิบัติตัวตาม หลักปฏิบัต การกระทำ วิสัยทัศ ของท่านแทน..
เช่น. น.ฟรังซิส เดอ ซาลส์ ท่านเป็นนักปราชญ์ เป็นองค์อุปถัมภ์ของนักหนังสือพิมพ์และนักเขียนคาทอลิก(อ่านดูในประวัตินักบุญฯ)
เหล่านี้เป็นแค่ทัศนะของข้าพเจ้าในเบื้องต้น..
เห็นท่านใดเป็นฮีโร่ เห็นท่านใดที่อยากเอาเป็นแบบอย่าง อุดมการณ์ของท่านไหนโดนใจ..
ก็จงตัดสินใจเลือกท่านนั้นเถิด..แล้วก็จง"พยายาม"ปัฏิบัติตนให้เป็นไปตาม ฮีโรคนนั้น แบบอย่างคนนั้น และอุดมการณ์นั้นๆ ไปจนกว่าจะสิ้นลมเถิด..
+ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นแค่ทัศนะของข้าพเจ้าผู้ต่ำต้อย ผิดพลาด หรือขัดตาของพี่น้องท่านใดก็ขออภัยไว่ ณ ที่นี้ด้วย..
กราบลา..
ขอพระเป็นเจ้าทรงอำนวยพรท่าน..
ขอสันติสุขจงอยู่ในตัวพี่น้องทั้งหลายเถิด..
อาเมน
มากรี๊ดดดดดดดดด คุณ Christophorus Uriel ค่ะ ชอบๆๆๆ คำอธิบาย...แจ่มมมม
ข้างล่างนี่ไม่เกี่ยวอ่ะนะ แต่อยากพรีเซนต์นักบุญตัวเองอ่า... นิสสสนึงนะ
Prayer to St.Clare.
God of Mercy, You inpired St.Clare with The Love of poverty.
By the help of Her prayers. May we follow Christ in poverty of spirit
and come to the joyful vision of your glory in The Kingdom of Heaven.
We ask this through our Lord Jesus Christ, Your Son, Who lives
and reings with you and The Holy Spirit, One God, Forever and ever,
Amen.
ข้างล่างนี่ไม่เกี่ยวอ่ะนะ แต่อยากพรีเซนต์นักบุญตัวเองอ่า... นิสสสนึงนะ
Prayer to St.Clare.
God of Mercy, You inpired St.Clare with The Love of poverty.
By the help of Her prayers. May we follow Christ in poverty of spirit
and come to the joyful vision of your glory in The Kingdom of Heaven.
We ask this through our Lord Jesus Christ, Your Son, Who lives
and reings with you and The Holy Spirit, One God, Forever and ever,
Amen.
-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
นักบุญ แคร์ ก็ ดี อิอิ คาร่า หุหุ
คู่กะ น. ฟรังซิส อัสซีซี ใช่เป่า???
คู่กะ น. ฟรังซิส อัสซีซี ใช่เป่า???
-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
โห อยากดู แต่ กัว เบื่อ ...
หุึหุ
แต่น่าจะสนุก อิอิ
หุึหุ
แต่น่าจะสนุก อิอิ
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
มีคาแอลคับ >_<
-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
มี คาแอล...
มี อะไรอ๋อ คาแอล...
55555555555555*
มี อะไรอ๋อ คาแอล...
55555555555555*
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
^
^
^
แป๊กโคตรๆ
^
^
แป๊กโคตรๆ
-
- โพสต์: 201
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2007 9:10 am
แต่ของเราก็ตั้งตามพ่อทูลหัว เพราะตอนนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องไร ครูก็เลยให้เราเอานักบุญตามพ่อทูลหัวเลย ณ ปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้เจอพ่อทูลหัวอีกเลย