นักบุญที่ฉลอง วันที่ 26 พฤษภาคม
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 25, 2010 3:46 pm
นักบุญที่ฉลอง วันที่ 26 พฤษภาคม
Saint Philip Neri
นักบุญ ฟิลิป เนริ
ท่านมาจากครอบครัวอันยากไร้ โดยบิดาของท่านทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ทะเบียน ท่านฟิลิปถูกสั่งสอนมาอย่างดีจากทางนักบวชโดมินิกัน วันหนึ่งท่านได้รับนิมิตเรียกร้องให้ท่านออกไปแพร่ธรรมในโรม ทำให้ท่านตัดสินใจแยกตัวออกจากครอบครัว และเดินทางไปที่โรม ที่นั่นท่านได้รู้จักกับ กาเลอ็อตโต้ คัซเซีย และได้ทำหน้าที่เป็นติวเตอร์สอนบุตรชายทั้งสองของเขา และในเวลาเดียวกัน ท่านก็คอยศึกษาปรัชญาและเทวศาสตร์ไปในตัวด้วย ซึ่งเมื่อท่านเรียนรู้ทุกอย่างหมดแล้ว ท่านก็ขายตำราที่มีทิ้ง และนำเงินที่ได้ไปช่วยเหลือคนยากจนแทน
ภายหลังท่านออกเดินทางคอยช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ก่อนจะออกแสวงบุญและก่อตั้งสังคมชุมชนที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ทุกคนเท่าเทียมกันขึ้นมา ครั้งหนึ่งระหว่างท่านสวดภาวนาอยู่ ท่านก็ได้รับนิมิต เห็นลูกไฟทรงกลม ลอยเข้ามาในอกของท่าน พร้อมกับความปิติยินดีเร่าร้อนที่พุ่งพล่านออกมาจากหัวใจของท่าน ดังนี้เอง ท่านจึงก่อตั้งคณะแห่งพระตรีเอกภาพสูงสุดขึ้นมา (Confraternity of the Most Holy Trinity) พร้อมกับการออกเทศนาสั่งสอนที่ช่วยให้เกิดมีผู้กลับใจเกิดขึ้นได้มากมาย ภายหลังท่านหมายจะเกษียณตัวออกจากภาระหน้าที่เยี่ยงฤาษีนี้ หากแต่ได้รับนิมิตมาอีกว่าท่านมีหน้าที่ที่ต้องทำในโรม ถึงแม้ตัวท่านจะออกไปทำงานมิชชั่นนารีในอินเดีย แต่นิมิตก็ยังคงเน้นย้ำให้ท่านอยู่ในโรม
ในปี 1551 ท่านดำรงตำแหน่งถือสมณภาพอย่างสัมบูรณ์ ท่านคอยฟังแก้บาปเป็นชั่วโมง และท่านได้รับพระพรให้สามารถหยั่งรู้บาปของผู้ที่มีสารภาพ ก่อนที่พวกเขาและเธอจะสารภาพออกมาเสียอีก และนอกจากนี้ ท่านยังได้รับพระพรให้เห็นภาพนิมิตที่เกี่ยวกับการสารภาพบาปอีกด้วย
พระสันตะปาปา เกรเกอรี่ ที่ 14 พยายามแต่งตั้งท่านเป็นพระคาร์ดินัล แต่ท่านปฏิเสธ และในปี 1575 ท่านก็ได้ก่อตั้ง ชุมนุมแห่งภาวนาสถาน (Congregation of the Oratory) ขึ้นมา ในช่วงชีวิตภายหลังของท่านประสบถูกรุมเร้าด้วยโรคร้าย และต้องอาศัยความบรรเทาจากการสวดภาวนาเป็นสำคัญ
Saint Philip Neri
นักบุญ ฟิลิป เนริ
ท่านมาจากครอบครัวอันยากไร้ โดยบิดาของท่านทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ทะเบียน ท่านฟิลิปถูกสั่งสอนมาอย่างดีจากทางนักบวชโดมินิกัน วันหนึ่งท่านได้รับนิมิตเรียกร้องให้ท่านออกไปแพร่ธรรมในโรม ทำให้ท่านตัดสินใจแยกตัวออกจากครอบครัว และเดินทางไปที่โรม ที่นั่นท่านได้รู้จักกับ กาเลอ็อตโต้ คัซเซีย และได้ทำหน้าที่เป็นติวเตอร์สอนบุตรชายทั้งสองของเขา และในเวลาเดียวกัน ท่านก็คอยศึกษาปรัชญาและเทวศาสตร์ไปในตัวด้วย ซึ่งเมื่อท่านเรียนรู้ทุกอย่างหมดแล้ว ท่านก็ขายตำราที่มีทิ้ง และนำเงินที่ได้ไปช่วยเหลือคนยากจนแทน
ภายหลังท่านออกเดินทางคอยช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ก่อนจะออกแสวงบุญและก่อตั้งสังคมชุมชนที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ทุกคนเท่าเทียมกันขึ้นมา ครั้งหนึ่งระหว่างท่านสวดภาวนาอยู่ ท่านก็ได้รับนิมิต เห็นลูกไฟทรงกลม ลอยเข้ามาในอกของท่าน พร้อมกับความปิติยินดีเร่าร้อนที่พุ่งพล่านออกมาจากหัวใจของท่าน ดังนี้เอง ท่านจึงก่อตั้งคณะแห่งพระตรีเอกภาพสูงสุดขึ้นมา (Confraternity of the Most Holy Trinity) พร้อมกับการออกเทศนาสั่งสอนที่ช่วยให้เกิดมีผู้กลับใจเกิดขึ้นได้มากมาย ภายหลังท่านหมายจะเกษียณตัวออกจากภาระหน้าที่เยี่ยงฤาษีนี้ หากแต่ได้รับนิมิตมาอีกว่าท่านมีหน้าที่ที่ต้องทำในโรม ถึงแม้ตัวท่านจะออกไปทำงานมิชชั่นนารีในอินเดีย แต่นิมิตก็ยังคงเน้นย้ำให้ท่านอยู่ในโรม
ในปี 1551 ท่านดำรงตำแหน่งถือสมณภาพอย่างสัมบูรณ์ ท่านคอยฟังแก้บาปเป็นชั่วโมง และท่านได้รับพระพรให้สามารถหยั่งรู้บาปของผู้ที่มีสารภาพ ก่อนที่พวกเขาและเธอจะสารภาพออกมาเสียอีก และนอกจากนี้ ท่านยังได้รับพระพรให้เห็นภาพนิมิตที่เกี่ยวกับการสารภาพบาปอีกด้วย
พระสันตะปาปา เกรเกอรี่ ที่ 14 พยายามแต่งตั้งท่านเป็นพระคาร์ดินัล แต่ท่านปฏิเสธ และในปี 1575 ท่านก็ได้ก่อตั้ง ชุมนุมแห่งภาวนาสถาน (Congregation of the Oratory) ขึ้นมา ในช่วงชีวิตภายหลังของท่านประสบถูกรุมเร้าด้วยโรคร้าย และต้องอาศัยความบรรเทาจากการสวดภาวนาเป็นสำคัญ
