Belong to the Truth Jesus Christ

นักบุญที่ฉลอง วันที่ 26 มิถุนายน



Saint Anthelm
นักบุญ แอนเทล์ม



ท่านเกิดมาในครอบครัวชนชั้นสูง หากแต่ท่านกลับต้องพัวพันกับความวุ่นวายทางการเมือง สุดท้ายลงเอยด้วยการแสวงหาซึ่งตำแหน่งและอำนาจทางศาสนจักร เพื่อเพิ่มพูนอำนาจและบทบาททางการปกครอง มากเสียกว่า ซึ่งช่องทางและความสามารถที่จะรับใช้ แต่ในคราวที่ท่านดำเนินเดินทางไปที่คาร์ทูเซี่ยนส์ ที่พอร์เทส นี่เอง ทำให้ทัศนคติของท่านเริ่มเปลี่ยนแปลงไป และทำให้ท่านโหยหา ถูกดึงเข้าสู่ชีวิตแบบถือสมถะ แบบอยู่อารามถือพรตแทน ยามเมื่อท่านอายุได้ 30 ปี ท่านก็ได้สละกรรมสิทธิ์ในสำนักงานของท่าน และเกษียณตนเอง มุ่งหน้าสู่อารามคาร์ทูเซี่ยนส์แทน และในเวลาเพียง 2 ปี ท่านก็สามารถขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นอธิการนักพรตของอารามได้ ทางอารามเองก็เจริญรุ่งเรือง มีจำนวนสมาชิกและบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย


หลายปีหลังจากนั้น ท่านก็เกษียณตนเองออกมาถือชีวิตอย่างสันโดษอยู่ที่ปอร์เตซ และในเวลาไม่กี่เดือน ท่านก็ถูกร้องขอให้ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการพรตของชุมชนที่นั่น 2 ปีหลังจากนั้นท่านก็เกษียณตัวเองอีก และเดินทางไปที่ กรันเด ชาร์เทรยูซ หากแต่ถูกเรียกตัวไปเป็นผู้ไกล่เกลี่ยปัญหาสังฆเภทระหว่างกษัตริย์เฮนรี่ ที่ 2 และ โทมัส เอ เบคเค็ท แห่งอังกฤษ ท่านเป็นที่รักของชุมชนชาวเมืองมากๆ จนถึงขนาดที่ว่า เมืองแห่งนั้นถึงกับถูกรู้จักอย่างย่อๆ ในนามเมือง แอนเทล์โมโพลิซ เลยทีเดียว

นักบุญ เภลาโย่ Pelayo

มรณสักขีชาวสเปนที่ถูกจับเป็นตัวประกันและไม่ได้รับการช่วยเหลือ 925

องค์อุปถัมภ์ของผู้ถูกทอดทิ้ง

ในอดีต เมื่อชาวมัวร์ได้บุกรุกประเทศสเปนและยึดเมือง Cordoba พวกมันได้จับนักบวชที่ประจำอยู่ที่เมืองนั้นเป็นตัวประกัน ชาวบ้านคริสตชนได้ขอร้องให้พวกมันยึดเวลาออกไปเพื่อจะไปหาเงินค่าไถ่ และได้ให้ท่านนักบุญเภลาโย่ ซึ่งในขณะนั้นมีอายุแค่สิบขวบ ไปเป็นตัวประกัน พวกชาวมัวร์นั้นตกลง ท่านนักบุญเภลาโย่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในคุกถึง สามปี จนกระทั่ง หัวหน้ากลุ่มแขกมัวร์ นามว่า อับดุล ราร์มา ได้เห็นท่าน จึงได้ยื่นข้อเสนอให้อิสรภาพแก่ท่านนักบุญโดยแลกกับการที่ท่านนักบุญต้องเลิกนับถือศาสนาคริสต์ แน่นอนว่าท่านนักบุญได้ปฎิเสธ ท่านจึงจับแขวนโดยถูกผูกที่ข้อมือของท่านและถูกขว้านเอาเครื่องในออกจากร่างกายท่าน ท่านจึงเป็นนักบุญในสวรรค์