Saint Francis of Paola
นักบุญ ฟรานซิส แห่ง เปาลา
องค์อุปถัมภ์ : ต่อต้านไฟ, ต่อต้านโรคระบาด, ต่อต้านการเป็นหมัน, นายเรือ, กะลาสี, ชาวเล, เจ้าหน้าที่ทางน้ำ, นักเดินทาง, ช่างเรือ
สิ่งสื่อแทนถึงท่าน : ชายถือกะโหลกและหวาย, ชายล่องไปบนผืนน้ำด้วยเสื้อคลุมของตน, ชายกับคำว่า “Charitas” ลอยอยู่เหนือฝูงชน
บุพการีของท่านเป็นผู้ไร้ผู้สืบสันดานมาเป็นเวลาหลายปีดีดัก แต่จากการบำเพ็ญเพียรภาวนาอย่างเป็นนิตย์ ร่วมกับการวอนขอความช่วยเหลือจากนักบุญฟรานซิส แห่ง อัสซีซี จนสุดท้ายคำภาวนาทูลขอก็บังเกิดเป็นผล ท่านได้มีลูกๆ รวมกัน 3 ชีวิต และท่านฟรานซิส นี่เอง ก็เป็นบุตรคนโตที่สุดใน 3 คน
เมื่อท่านย่างเข้าสู่วัยรุ่น ท่านก็ได้เดินทางออกไปแสวงบุญยังโรม และ อัสซีซี ในประเทศอิตาลี ก่อนจะผันตนไปเป็นฤาษี ใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำใกล้ๆ กับ เปาลา และได้ดึงดูดผู้ติดตามมาได้มากมาย จนกระทั่งถึงปี 1450 ท่านมีศิษย์ผู้ติดตามอย่างมากล้นเหลือจนท่านต้องออกกฎระเบียบให้พวกเค้าถือปฏิบัติตาม และรับซึ่งการรับรองจากทางคริสตจักร และได้เป็นการก่อตั้ง คณะฤาษีแห่งนักบุญฟรานซิส แห่ง อีสซีซี (Hermits of Saint Francis of Assisi) ขึ้นมาเป็นครั้งแรก โดยคณะดังกล่าวก็ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากทางสันตะสำนักในปี 1474 และในปี 1492 คณะดังกล่าวก็ได้เปลี่ยนชื่อไปเป็น คณะ โองการฟรานซิสกันแห่งสงฆ์พรตผู้น้อย (Franciscan Order of Minim Fiars) ซึ่งความหมายของผู้น้อยผู้ต้อยต่ำนี้หมายความว่า พวกท่านเรียกถ่อมพวกตนเองว่าเป็นเพียงส่วนจุลเล็กๆ ในครอบครัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น
ท่านเป็นประกาศก เป็นผู้มีพระพรก่ออัศจรรย์ ครั้งหนึ่งในปี 1464 ท่านต้องการข้ามคูแห่งเมซซิน่า เพื่อไปยังซิซิลี หากแต่นายเรือปฏิเสธที่จะพาท่านไป ท่านจึงใช้เสื้อคลุมของท่านวางลงบนผืนผิวน้ำ ผูกปลายข้างหนึ่งกับไม้เท้าของท่านใช้ต่างแทนหางเสือ ก่อนจะใช้มันล่องข้ามคูไปได้ร่วมกับเพื่อนๆ ของท่าน ซึ่ง ฟรานซ์ ลิสซท์ เอง ก็ได้ประพันธ์บทเพลงจากเหตุแรงบันดาลใจในเหตุอันพึงระลึกถึงครั้งนี้ด้วย
ท่านเป็นผู้พิทักษ์ของผู้ยากไร้ และท่านเองยังมีบทบาทอย่างสูงในเรื่องทางการเมือง และเป็นผู้ช่วยสานสัมพันธ์ สร้างสันติสงบสุขให้เกิดขึ้นระหว่างฝรั่งเศส กับ บริททานี่ โดยอาศัยการแนะนำให้เกิดการอภิเษกขึ้นระหว่างเชื้อพระวงศ์ของทั้งสองประเทศ
ในบรรดานักบุญที่เป็นอริศัตรูกับพวกปีศาจ ตัวท่านเองก็เป็นศัตรูกับปีศาจ เบเลียล เนื่องจากความเรียบง่าย สุภาพถ่อมตน เป็นส่วนกลับตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงกับความเดือดดาล หยิ่งผยองของ เบเลียล