Belong to the Truth Jesus Christ

ลอเรนโซ รูอิซ เกิดราวปี ค.ศ.1600 ในบีนอนโด หรือ ย่านไชน่าทาวน์ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ บิดาของท่านเป็นชาวจีน ส่วนมารดาของท่านเป็นชาวฟิลิปปินส์ แต่ทั้งสองก็เป็นคริสตัง ดังนั้นท่านจึงได้เรียนทั้งภาษาจีนและภาษาตากาล็อกจากทั้งสอง ซึ่งเลี้ยงดูท่านจนพอโตพอช่วยมิสซาได้ ท่านก็ได้ไปเป็นเด็กช่วยมิสซา ที่อารามคณะโดมินิกันในบีนอนโด ขณะเดียวก็ได้รับการศึกษาจากคุณพ่อโดมินิกันที่นั่น ก่อนหลายปีถัดมาท่านจะกลายเป็นผู้คัดลอกเอกสารต่างด้วยอักษรวิจตร หรือ “นักเขียนอักษรวิจิตร” มืออาชีพเพราะลายมือที่สวย

นอกจากนั้นแล้วท่านยังเป็นสมาชิกกลุ่มสายประคำศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของคณะโดมินิกันและได้สมรสกับสตรีพื้นเมืองชื่อ โรซารีโอ ก่อนจะมีบุตรและธิดาร่วมกับเธออย่างละหนึ่งคน ครอบครัวเล็กๆของท่านอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและความเชื่อมากระทั้งในปี ค.ศ.1636 ขณะท่านทำงานเป็นเสมียนของวัดบีนอนโด ชีวิตของท่านก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อท่านก็ถูกกล่าวหาฆ่าชาวสเปนตาย และถูกตามล่าอย่างหนัก ดังนั้นอาศัยความช่วยเหลือจากบรรดาคุณพ่อโดมินิกันและคุณพ่อโยวันนี ยาโก ท่านก็ออกเดินทาง ในวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ.1636 พร้อมเรือเดินทางของคุณพ่อโดมินิกันสามองค์ที่กำลังเดินทางไปญี่ปุ่นซึ่งระอุไปด้วยการเบียดเบียนคริสตชนพร้อมพระสงฆ์และฆราวาสชาวญี่ปุ่นสองคน จนมาเรือมาเทียบจอดที่โอกินาวา เพื่อให้ท่านสามารถเดินทางตอนไปยังไต้หวัน แต่ด้วยความกลัวชาวสเปน ท่านจึงขอลงไปพร้อมบรรดาธรรมทูตเหล่านั้น “ผมตัดสินใจจะอยู่กับคุณพ่อครับ เพราะชาวสเปนจะแขวนคอผมที่นั่น” ท่านกล่าว

และโดยเร็ววันท่านและคณะก็ถูกจับและถูกขังเป็นระยะเวลาหนึ่งปี ณ ที่นั่นท่านและคณะถูกทรมานชนิดไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดใดๆได้ อาทิพวกเขาจับท่านและคณะเอาน้ำกรอกปากจนเต็ม ก่อนจะบังคับให้นอนลงแล้วเอาไม้กระดานยาววางพาดทีท้อง ท้ายสุดยามก็จะเหยียบปลายกระดานเพื่อบังคบให้น้ำที่กรอกลงไปพุ่งออกมาจากทั้งทางปาก ทางหูและทางจมูก
การทรมานแสนสาหัสจนท่านคิดที่จะละทิ้งความเชื่อของท่านเพื่อแลกกับอิสรภาพ ครั้งหนึ่งท่านจึงถามล่ามว่า “ผมอยากจะรู้ ถ้าการไม่ดื้อ พวกเขาจะไว้ชีวิตผมไหม” แต่ล่ามเพียงตอบท่านแบบปัดๆ แต่ในเวลาต่อมาท่านก็รู้สึกได้ว่าความเชื่อของท่านเติบโตและเข็มแข็งขึ้น ท่านกล้าขึ้น ในทุกๆเวลาไม่ว่าเวลาถูกซักถาม กระทั้งในวันที่ 27 กันยายน ค.ศ.1637 ท่านและคณะก็ถูกพาไปยังเนินนางาซากิ และถูกประหารชีวิตด้วยวิธีที่เรียกว่า “ซีรุชิ”

วิธีการนี้คือการเอานักโทษห้อยหัวลงในหลุม โดยมีกระดานมีรูขนาดพอดีเอวที่จะนำก้อนหินมาวางเพื่อถ่วงน้ำหนัก ท่านและคณะถูกมัดอยู่เช่นนี้อย่างทุกข์ทรมาน กระทั้งล่วงวันที่สามของการทรมานคือในวันที่ 29 กันยายน ค.ศ.1637 ที่สุดท่านก็ถึงแก่มรณกรรมตามแบบฉบับมรณสักขี จากการสูญเสียเลือดและขาดอากาศหายใจ เพื่อประกาศยืนยันถึงพระคริสตเจ้า ร่างไร้วิญญาณของท่านถูกเผา ส่วนอัฐิก็ถูกโปรยลงในทะเล
“ผมเป็นคริสตังและบริสุทธิ์ใจที่จะยอบรับความตายเพื่อพระสวามีเจ้า หากแม้นผมมีพันชีวิต พันชีวิตนั้นผมก็จะถวายแด่พระองค์ทั้งสิ้น” ท่านกล่าวขณะใกล้สิ้นใจเต็มที หลังจากนั้นเรื่องราวของท่านก็ได้รับการเปิดกระบวนการขอแต่งตั้ง และที่สุดในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1981 สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ก็ทรงสถาปนาท่านเป็นบุญราศี ระหว่างการเสด็จเยือนประเทศฟิลิปปินส์ อันนับเป็นพิธีสถาปนาบุญราศีครั้งแรกถูกจัดขึ้นนอกวาติกัน

กระทั้งมีอัศจรรย์ผ่านคำเสอนวิงวอนของท่าน ดังนั้นในวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ.1987 ท่านก็ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นนักบุญชาวฟิลิปปินส์องค์แรก พร้อมเพื่อมรณสักขี

http://www.americancatholic.org/Feature ... px?id=1146
http://saints.sqpn.com/saint-lorenzo-ruiz-of-manila/
http://en.wikipedia.org/wiki/Lorenzo_Ruiz

....หนุนใจดีมาก เป็นเมล็ดพันธ์ุแห่งความเชื่อ ตัวอย่างความรักมั่นคง
ต่อพระองค์ยอมตายเป็นมรณะสักขี ของท่านนักบุญ ลอเรนโซ รูอิส
ขอท่านนักบุญภาวนาให้กับคริตชน ที่ถูกเบียดเบียน ในทวีปอัฟริกา
ในตะวันออกกลาง ในประเทศมุสลิม ในประเทศคอมมูนนิส จีน เวียตนาม
อินเดีย ปากีสถาน ให้คริสตชนที่นั่น เข้มแข็ง ยืนหยัดต่อพระองค์ด้วยชีวิต
ดัง นักบุญมรณะสักขีทั้งหลาย และให้คริสตชนทั่วโลกมีความรัก ศรัทธา
ซื่อสัตย์ต่อพระองค์จนกว่าชีวิตจะหาไม่....