ทำความรู้จักนักบุญใหม่ 2016 (ชุดที่ 1)

วันระลึกถึงนักบุญ 365-6วัน ประวัตินักบุญ และวันฉลองสำคัญของคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 05, 2016 8:18 pm

รูปภาพ
ในวันนี้(5 มิถุนายน) สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสก็ได้ทรงประกอบพิธีมิสซาสถาปนานักบุญใหม่สองท่าน(จากที่ทรงรับรองไปแล้วปีนี้เกือบๆสิบท่าน-ผู้เขียนจะทยอยเอามาลงในชื่อ ทำความรู้จักนักบุญใหม่ 2016 ชุดต่อๆไป) นั่นคือบุญราศีสตานิสลาฟ ปัปซ์ซินสกี พระสงฆ์ชาวโปแลนด์และ บุญราศีมารีอา เอลิซาเบตตา ฮัซเซ็ลบลอด ภคินีชาวสวีเดน

ดังนั้นเองในโอกาสอันดีที่เราได้มีนักบุญองค์ใหม่สององค์ในวันนี้ เราจึงควรมาทำความรู้จักกับท่านทั้งสองไปพร้อมๆกันเลย
รูปภาพ
ภาพพิธีสถาปนา
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 05, 2016 8:30 pm

รูปภาพ
1.บุญราศีสตานิสลาฟ ปัปซ์ซินสกี

พระสงฆ์ชาวโปแลนด์ เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ.1631 มีนามเดิมว่า ยัง ปัปซ์ซินสกี ในวัยเยาว์แม้จะเป็นคนเรียนไม่เก่ง ท่านก็ขยันหมั่นเพียรจนสามารถเรียนได้จนจบมหาวิทยาลัย ระหว่างนั้นครอบครัวของท่านก็ได้จัดหญิงสาวให้ท่าน แต่ท่านก็ปฏิเสธ เพราะท่านปรารถนาจะถวายชีวิตแด่พระเป็นเจ้า ดังนั้นในปี ค.ศ.1654 ท่านจึงได้สมัครเข้าคณะเปียริสต์ และได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ด้วยนาม คุณพ่อสตานิสลาฟ แห่ง พระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ ในปี ค.ศ. 1661 นับเป็นสมาชิกคณะชาวโปแลนด์คนแรก

หลังจากนั้นท่านก็เป็นที่โด่งดังมากในหมู่ปัญญาชนในวอร์ซอ ท่านได้รับเชิญไปเทศน์ตามวัดต่างๆ แต่ในคณะท่านก็มีปัญหากับอธิการคณะ เพราะท่านปรารถนาจะรื้อฟื้นความร้อนรนตามเดิมของคณะ มันเป็นคืนมืดสำหรับท่าน สิ่งที่ท่านทำได้คือการรำพึงถึงพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้า
จนที่สุดท่านก็ไม่อาจพบสันติแท้จริงท่ามกลางความแตกแยกระหว่างผู้สนับสนุนท่านและต่อต้านท่านได้ ท่านจึงตัดสินใจขอลาออกจากคณะในปี ค.ศ.1670 อันเป็นปีเดียวกับที่ท่านได้ทำ ‘สัญญาเลือด’ กับแม่พระ อันเป็นการประกาศว่าท่านยอมตายเสมอเพื่อเกียรติของพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล
รูปภาพ
สถานที่เกิดของท่าน
“ผมได้ถวายและอุทิศแด่พระเจ้า พระบิดานิรันดร พระบุตร พระจิต เฉกเช่นเดียวกับพระชนนีพระเจ้า พรหมจารีย์มารีย์เสมอ ผู้ทรงครรภ์โดยปราศจากบาป ทั้งหัวใจของผม วิญญาณของผม ร่างกายของผม ทั้งละทิ้งทุกสิ่งที่ไม่มีอะไรแน่สำหรับตัวผมเอง เพื่อที่ว่านับแต่นี้ไปผมจะเป็นทาสรับใช้ของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์และพระนางมารีย์พรหมจารียิ่ง เพราะฉะนั้น ผมขอปฏิญาณตนว่าจะรับใช้พวกเขาอย่างแข็งขันในความเป็นพรหมจรรย์ไปตราบชีวิตจะหาไม่ ในหมู่พระสงฆ์ผู้อุทิศตนต่อแม่พระแห่งการปฏิสนธินิรมล ซึ่งอาศัยพระหรรษทานของพระเจ้าผมหวังจะได้ตั้งขึ้น” ท่านกล่าวต่อคุณพ่ออธิการก่อนจากไป

หลังจากนั้นท่านจึงค่อยๆก่อร่างคณะขึ้นตามความฝันของท่าน โดยมีเป้าหมายการตั้งคณะขึ้นเพื่อเผยแพร่ความศรัทธาเป็นพิเศษต่อแม่พระ และให้ความช่วยเหลือบรรดาวิญญาณผู้น่าสงสารในแดนชำระ โดยเฉพาะวิญญาณที่สิ้นใจในสงครามและภัยพิบัติ ภายใต้กฎ‘คุณธรรมสิบประการของพระนางมารีย์’
รูปภาพ
ท่านได้นำบรรดาบุตรชายในคณะของท่านลงสนามอภิบาลโดยเฉพาะงานช่วยเหลือพระสงฆ์พื้นเมืองในการฟังแก้บาป การสอนคำสอน การเทศน์สอนบรรดาสัตบุรุษ โดยเฉพาะบรรดาสัตบุรุษที่ห่างวัด

ที่สุดหลังจากฟันฝ่าความยากลำบากต่างๆ จนหลายครั้งท่านก็ถึงกับสงสัยว่าท่านถูกไหม ‘คณะคุณพ่อมาเรียนแห่งการปฏิสนธินิรมลของพระนางพรหมจารียิ่งมารีย์’ ในปี ค.ศ.1701 ธรรมนูญของคณะก็ได้รับการอนุมัติ ท่านจึงได้ปฏิญาณตนตลอดชีพ ทำให้คณะของท่านนับเป็นคณะพื้นเมืองแรกของโปแลนด์
รูปภาพ
ภาพพิธีสถาปนาท่านเป็นบุญราศี
ท่านสิ้นใจอย่างสงบในวันที่ 17 กันยายน ค.ศ.1701 ขณะอายุได้ 70 ปี สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงสถาปนาท่านเป็นบุญราศี เมื่อวันที่ 16 กันยายน ค.ศ.2007
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 05, 2016 8:38 pm

รูปภาพ
2.บุญราศีมารีอา เอลิซาเบตตา ฮัซเซ็ลบลอด

ท่านเป็นซิสเตอร์ชาวสวีเดนผู้เป็นรู้จักกันว่า ‘บริยิตที่สอง’ เกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ.1870 ที่ประเทศสวีเดนในครอบครัวโปรแตสแตนท์นิกายลูเธอร์ลัน ภายหลังเมื่อโตท่านจึงได้ไปทำงานเป็นพยาบาลที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ณ ที่นั่นท่านได้สัมผัสความเชื่อคาทอลิกจากบรรดาคนแก่ที่ท่านดูแล กระทั้งที่สุดในปี ค.ศ.1902 ท่านจึงได้รับศีลล้างบาป หลังจากนั้นท่านจึงเดินทางไปแสวงบุญที่กรุงโรมและบ้านของนักบุญบริยิตที่ประเทศสวีเดน ช่วงนั้นเองท่านได้พบกระแสเรียกให้ทำงานเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชน

ก่อนจะกลับมาที่ประอเมริกาสั้นๆ แล้วจึงกลับไปยังอิตาลี ที่นั่นท่านได้ตัดสินใจขออนุญาตเข้าคณะบริยิตที่หายไปจากกรุงโรมในปี ค.ศ.1906 และได้เริ่มงานนำคณะบริยิตกับมาสู่กรุงโรม แต่ก็ได้รับแต่ความเย็นชาจากอารามบริยิตที่ต่างๆ แต่ที่สุดท่านก็สามารถฟันฝ่าจนนำคณะบริยิตกลับมาสู่กรุงโรมได้สำเร็จ
รูปภาพ
ท่านสอนว่า “ครอบครัวนักบวชของพวกเราจะต้องสร้างตามแบบแบบฉบับของนาร์ซาเร็ธ คือ สวดภาวนา ทำงาน เสียสละ หัวใจของมนุษย์จะสามารถหวังอะไรได้มากกว่านี้อีก” คณะบริยิตรูปแบบใหม่ที่ได้รับนามว่า ‘คณะพระผู้ไถ่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งแห่งนักบุญบรียิต’ ภายใต้การนำของท่านเน้นให้สมาชิกเจริญชีวิตสนิทกับพระ มีความรักต่อพระศาสนจักรและองค์สันตะบิดร และสวดภาวนาเพื่อฝูงแกะและบรรดาชุมพาบาล และให้ความช่วยเหลือแก่บรรดาผู้ยากไร้โดยไม่แบ่งศาสนา

“พวกเราจะต้องบำรุงไว้ซึ่งความรักที่ยิ่งใหญ่เพื่อพระเจ้าและเพื่อนบ้านของพวกเรา ความรักที่มั่นคง ความรักที่ร้อนรน ความรักที่ลุกร้อนอันห่างไกลความบกพร่องต่างๆ ความรักที่อดทนอย่างอ่อนโยนต่อกิจการแห่งความอดทนหรือคำอันขมขื่น ความรักที่ให้ความเลินเล่อหรือการกระทำที่ละเลยผ่านไปโดยไม่ต้องคิด ความรักที่พร้อมมอบตนเองเพื่อทำกิจการเมตตา”
รูปภาพ
ท่านยังสอนอีกว่า “สำหรับดิฉันแล้ว ทางกางเขนเป็นสิ่งงดงามที่สุดของทุกๆคน เพราะบนทางนี้เอง ดิฉันจึงได้พบและรู้จักกับองค์พระผู้เป็นเจ้าและองค์พระผู้ไถ่ของดิฉัน” ท่านสิ้นใจอย่างสงบในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1957 ขณะอายุได้ 86 ปี สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ทรงสถาปนาท่านเป็นบุญราศีในวันที่ 9 เมษายน ค.ศ.2000
ตอบกลับโพส