พลีตนเพื่อรับใช้ผู้ป่วย--นักบุญคามิลโล เด แลลิส--

วันระลึกถึงนักบุญ 365-6วัน ประวัตินักบุญ และวันฉลองสำคัญของคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
pongsatorn11042
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 25, 2018 2:30 pm
ที่อยู่: 58/135 ซ.5 หมู่บ้าน ซื่อตรง-ลีลาวดี ถ.วัดเกาะ แขวง สายไหม เขต สายไหม กรุงเทพมหานคร 10220

จันทร์ มี.ค. 26, 2018 3:15 pm

รูปภาพ
1.เริ่มต้น
นักบุญคามิลโล เด แลลิส เกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ.1550 ที่เมือง
บุชชีอานีโก(Bucchianico) ในแคว้นอาบรุซโซ(Abruzzo) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในราชอณาจักรเมเปิลส์(Kingdom of Naples) บิดาของท่านชื่อ ร้อยเอก โจวันนี เด แลลลิส มารดาชื่อ นางคามิลลา เด คอมแปลลิส ท่านเป็นเด็กที่มีรูปร่างใหญ่โตแข็งแรงผิดกับเด็กธรรมดาทั่วไป พอโตขึ้นนิสัยของท่านก็เกเร เป็นหัวหน้ากลุ่มนำเพื่อนๆ ก่อความเดือดร้อนต่อชาวบ้าน ชอบเล่นการพนันและหนีการเรียนจนเป็นเดือดร้อนต่อชาวบ้าน เป็นที่หน้าอิดหนาระอาใจของคนทั่วไป แต่แผนของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์แต่ละคนช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนักเพราะหลังจากที่บิดาของท่านถึงแก่กรรม เมื่อปี ค.ศ.1571 ต่อมาท่านได้เข้ารับการรักษาบาดแผลที่ข้อเท้าข้างขวา ซึ่งเกิดจากการเป็นทหารรรับจ้าง ที่โรงพยาบาลซานยาโกโมในกรุงโรม แต่ยังรักษาไม่ทันหายก็ถูกไล่ออกจากโรงพยาบาลเพราะความดื้อรั้นติดเล่นการพนันอย่างเหลือขนาด ท่านจึงตัดสินใจเข้ารับการเป็นทหารอีกครั้ง เมื่อสงครามเลิก ท่านก็หันมาเล่นการพนันอย่างหมดเนื้อหมดตัว ต้องไปขอทานยังชีพ ได้รับความอับอายจนในที่สุด ได้ไปสมัครเป็นคนงานในอารามฤาษีคณะกาปูชิน ที่เมือง มันเฟรดโดเนีย และตัดสินใจเข้าเป็น ฤาษีกาปูชินตามที่ท่านได้บนบานไว้เมื่อตอนประสบพายุกลางทะเล
แก้ไขล่าสุดโดย pongsatorn11042 เมื่อ อังคาร เม.ย. 03, 2018 10:30 pm, แก้ไขไปแล้ว 3 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
pongsatorn11042
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 25, 2018 2:30 pm
ที่อยู่: 58/135 ซ.5 หมู่บ้าน ซื่อตรง-ลีลาวดี ถ.วัดเกาะ แขวง สายไหม เขต สายไหม กรุงเทพมหานคร 10220

จันทร์ มี.ค. 26, 2018 3:24 pm

รูปภาพ
2.รับใช้
วันหนึ่งท่านได้รับมอบหมายให้เดินทางจากเมืองมันเฟรดโดเนียไปยังปราสาทของนักบุญยอห์นเพื่อบรรจุเหล้าองุ่นที่มีคนบริจาคให้ทางอาราม ท่านได้รับข้อคิดเตือนใจสั้นๆ จากอธิการที่นั้น แม้จะเป็นข้อคิดเตือนใจสั้น แต่ก็ทำให้ท่านคิดได้ว่า “พระเจ้าเป็นทุกสิ่ง สิ่งอื่นๆ นั้นไร้ประโยชน์ สิ่งคือสำคัญที่สุดนั้นคือต้องรักษาวิญญาณให้รอด ” และแล้วในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1575 (วันฉลองแม่พระถือศีลชำระ) บนหนทางกลับสู่มันเฟรดโดเนีย ได้กลายเป็นวันแห่งการกลับใจของท่านๆได้ลงจากหลังม้าระหว่างทาง คุกเข่าร่ำไห้บนก้อนหินที่ขรุขระให้กับชีวิตที่ใช้มาอย่างไร้ค่า “พระเจ้าข้า.. ทำไมลูกไม่รู้จักกับพระองค์ให้เร็วกว่านี้ โปรดเถิดพระเจ้าข้า โปรดอภัยบาปหนาให้ผู้นี้ด้วยและโปรดประทานโอกาสให้ลูกได้ทำการใช้โทษบาปอย่างแท้จริงด้วยเถิด” แต่เนื่องจาก บาดแผลที่ขาก็กำเริบมากขึ้น ท่านจึงออกจากการเป็นฤาษีกาปูชิน แลัวก็กลับไปที่โรงพยาบาลซานยาโกโม ที่ๆท่านได้ยอมเป็นเครื่องมือของพระ เป็นเวลา 4 ปี ที่ท่านต้องทนต่อการรักษาบาดแผล ซึ่งท่านได้ใช้เวลานี้เองอุทิศตนรับใช้พี่น้องที่เจ็บป่วยอยู่ บัดนี้โรงพยาบาลได้กลายเป็นบ้านโดยมีผู้ป่วยเปรียบเสมือนพี่น้องในครอบครัวเดียวกันของท่าน

ในที่สุดท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลโรงพยาบาลซานยาโกโม ท่านพยายามทุกวิธีทางที่จะปรนนิบัติผู้เจ็บป่วยด้วยความรักและจริงใจ ให้ความอบอุ่นต่อบรรดาผู้ทุกข์ทรมานที่น่าสงสาร แต่เนื่องจากพนักงานเหล่านั้นเปลี่ยนหน้าอยู่เสมอ และการให้บริการของพวกเขาโดยทั่วไปก็หวังผลประโยชน์มากกว่าที่จะออกจริงใจ เป็นผลที่ทำให้บกพร่องต่อหน้าที่บ่อยๆ หากครั้งใดที่ผู้ป่วยได้รับการทอดทิ้งจากศาสนบริกรในวาระสุดท้ายหรือในขณะที่ต้องทรมานท่านถือว่าเป็นทารุณกรรมที่ร้ายกาจอาจนำความเสื่อมเสียให้แก่คริสต์ศาสนาได้ ท่านพยายามแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้ไว้โดยอาศัยพระเมตตาของพระเจ้า
แก้ไขล่าสุดโดย pongsatorn11042 เมื่อ อังคาร เม.ย. 03, 2018 10:30 pm, แก้ไขไปแล้ว 6 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
pongsatorn11042
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 25, 2018 2:30 pm
ที่อยู่: 58/135 ซ.5 หมู่บ้าน ซื่อตรง-ลีลาวดี ถ.วัดเกาะ แขวง สายไหม เขต สายไหม กรุงเทพมหานคร 10220

จันทร์ มี.ค. 26, 2018 3:32 pm

รูปภาพ
3.จุดเริ่มต้น
ค่ำวันหนึ่ง ในขณะที่ท่านกำลังครุ่นคิดอยู่กับตนเองในโรงพยาบาล รำพึงถึงความลำบาก ท่านก็ฉุนคิดขึ้นมาได้ว่าวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้มีเพียงวิธีการเดียว คือ จะต้องจัดตั้งบุรุษใจศรัทธาขึ้นมา ซึ่งมารับใช้ผู้ป่วยโดยไม่หวังผลประโยชน์เหมือนอย่างพระสงฆ์รับจ้าง แต่เพราะความรักของพระเจ้าเพียงอย่างเดียว โดยเอาใจใส่ผู้ป่วยเยี่ยงมารดาที่มีบุตรคนเดียวของนางที่กำลังเจ็บป่วยอยู่ แล้วก็ควรแยกพวกเขาให้เห็นชัดโดยมีมีกางเขนที่ติดเสื้อผ้าเป็นสำคัญ เมื่อได้แนวความคิดซึ่งน่าจะเรียกว่าเป็นการดลใจจากพระเจ้า ท่านก็ตั้งใจดำเนินการตามความคิดนี้และใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อให้กิจการนี้สำเร็จ จนทำให้ “กลุ่มรับใช้ผู้ป่วย” เล็กๆ นี้เกิดขึ้นได้ เมื่อท่านพบปัญหาต่างๆ ท่านจะได้รับการบรรเทาจากองค์พระเยซูเจ้าบนกางเขนเสมอพระองค์ทรงตรัสกับท่านว่า “อย่าไปกลัวเลยเจ้าผู้ขลาด เดินหน้าต่อไป เราจะช่วยเจ้า และจะอยู่กับเจ้า นี่เป็นกิจกรรมของเรา มิใช่ของเจ้า ”

ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ.1584 ท่านได้รับศีลบรรพชาเป็นพระสงฆ์ และในเดือนกันยายนในปีเดียวกัน ท่านมอบเครื่องแบบเป็นชุดหล่อที่มีกางเขนแดงติดอยู่บนหน้าอกแก่เพื่อนกลุ่มแรกที่อุทิศรับใช้ผู้ป่วย

ในวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ.1568 และพระสันตปาปาเกรโกรีที่ 14 ได้รับรองให้กลุ่มผู้ใช้ผู้ป่วยเป็นคณะนักบวช อย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ.1591 โดยให้ชื่อว่า “คณะนักพรตบรรพชิตผู้รับใช้ผู้ป่วย(the Order Clerics Servants the Sick ) ”

ในเวลาไม่นาน คณะฯ ได้แพร่หลายไป 16 เมืองในอิตาลี ที่ใดก็ตามที่มีความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม โรคติดต่อ ภัยจากสงคราม ท่านและเพื่อนนักบวชจะเร่งรีบไปช่วยเหลือทันที ชีวิตของท่านเรียบง่าย แต่ท้าทายดังวาทะของท่านที่ว่า “ผู้ดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วยด้วยลมหายใจแห่งความรักและความขยัน” ท่านถึงแก่มรณกรรมในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ.1614 ขณะที่มีอายุได้ 64 ปี และได้อุทิศชีวิตรับใช้ผู้ป่วยมาเป็นเวลากว่า 40 ปี พระสันตปาปาเลโอที่ 13 ได้แต่งตั้งท่านให้เป็นองค์นักบุญองค์อุปถัมภ์ของโรงพยาบาลและผู้ป่วยทั้งหลายในปี 1886
แก้ไขล่าสุดโดย pongsatorn11042 เมื่อ อังคาร มี.ค. 27, 2018 2:30 am, แก้ไขไปแล้ว 3 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
pongsatorn11042
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 25, 2018 2:30 pm
ที่อยู่: 58/135 ซ.5 หมู่บ้าน ซื่อตรง-ลีลาวดี ถ.วัดเกาะ แขวง สายไหม เขต สายไหม กรุงเทพมหานคร 10220

จันทร์ มี.ค. 26, 2018 3:38 pm

รูปภาพ
4.ตลอดไป
ตราบจนวันนี้เป็นระยะเวลากว่า 400 ปี หลังจากท่านนักบุญคามิลโลได้ตั้งคณะผู้รับใช้ผู้ป่วยมาขึ้น เราสามารถพบเห็นบรรดานักบวชชองคณะคามิลเลียนได้กว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยด้วย ท่านเหล่านี้ทำงานในโรงพยาบาลบ้านพักผู้สูงอายุ ศูนย์สงเคราะผู้ยากไร้ ศูนย์ช่วยเหลือโรคเอดส์และเอชไอวี ศูนย์อภิบาลผู้ป่วย และสภาบันส่งสริมสุขภาพอนามัยต่างๆ โดยมีจิตตารมณ์ในการ
“ดูแลรับใช้ผู้ป่วย เยี่ยงมารดามีต่อบุตรคนเดียวที่กำลังเจ็บป่วย”
ตอบกลับโพส