บุญราศีผู้อุทิศตนเพื่อพระเป็นเจ้า

วันระลึกถึงนักบุญ 365-6วัน ประวัตินักบุญ และวันฉลองสำคัญของคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Divine Mercy

ศุกร์ ก.ย. 30, 2005 6:51 pm

ประวัติบุญราศี คุณพ่อ นิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง
NICHOLAS BUNKERD KITBAMRUNG


รูปภาพ


"เมื่อเข้าสู่สหัสวรรษปี "ปีติมหาการุญ ค.ศ.2000" มีข่าวดีที่คริสตังชาวไทยรอคอย คือพิธีบันทึกนามบุญราศีแห่งประเทศไทย
คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง อย่างเป็นทางการ ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ.2000"


ย้อนรอยชีวิต - บทเส้นทางแห่งศรัทธา

คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง เกิดวันที่ 31 มกราคม ค.ศ.1895 (พ.ศ.2438) รับศีลล้างบาป ที่วัดนักบุญเปโตร สามพราน ได้รับชื่อนักบุญศีลล้างบาปว่า "เบเนดิกโต" บิดาชื่อ ยอแซฟ โปฉัง มารดาชื่อ อักแนส เที่ยง มีพี่น้อง 5 คน คุณพ่อเป็นบุตรคนแรก เริ่มเรียนที่โรงเรียนประชาบาลนักบุญเปโตร คุณพ่อแฟร์เลย์ เป็นผู้ส่งท่านเข้าบ้านเณรเล็ก บางช้าง (บางนกแขวก)

เมื่อเรียนจบแล้วเป็นครูสอนหนังสือตามวัด จากนั้นไปศึกษาต่อที่บ้านเณรใหญ่ปีนัง ท่านได้รับศีลบวชเป็น พระสงฆ์ที่วัดอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ โดยพระสังฆราชเรอเน แปร์รอส พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นอีก 4 องค์

เมื่อบวชเป็นสงฆ์แล้ว คุณพ่อนิโคลาสได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสของคุณพ่อดือรังต์ ที่บางนกแขวก

1 มกราคม 1929 (พ.ศ.2472) คุณพ่อนิโคลาส รับมอบหมายให้ไปอยู่ประจำพิษณุโลกกับคุณพ่อ มิราแบล คุณพ่อมิราแบล ตัดสินใจสร้างวัดน้อยหลังเดิม และสร้างบ้านพักพระสงฆ์ด้วย คุณพ่อนิโคลาส มีความขยันหมั่นเพียรมาก คุณพ่อมิราแบล จึงตั้งชื่อวัดว่า "วัดนักบุญนิโคลาส" ตามนามพ่อปลัดผู้ร่วมงานของท่าน
เดินทางแพร่ธรรม : ภารกิจเพื่อพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์

ปี 1930 (พ.ศ.2473) คุณพ่อมิราแบล ขึ้นไปบุกเบิกเชียงใหม่และให้คุณพ่อนิโคลาสไปอยู่ที่ลำปางซึ่งได้สร้างวัดน้อยหลังแรกที่ลำปาง
18 มกราคม ค.ศ.1931 (พ.ศ.2474) คุณพ่อนิโคลาสเดินทางมาถึงเชียงใหม่ คุณพ่อทั้งสองได้ช่วยกันสร้างวัดหลังเล็กๆ โดยได้ตั้งชื่อว่า " วัดพระหฤทัย" ท่านยังได้ช่วยกันสร้างโรงเรียนของวัดด้วย คือ "โรงเรียนพระหฤทัย"
ต่อมาสร้างวัดแม่ริม และต่อจากนั้นคุณพ่อทั้งสองได้เดินทางไปประกาศศาสนาบริเวณรอบนอกตัวเมืองและในหมู่บ้านต่างอำเภอ
ระหว่างปี ค.ศ.1933 (พ.ศ.2476) คุณพ่อนิโคลาสได้ไปดูแลวัดบางเชือกหนังเป็นเวลา 3 เดือน แทนคุณพ่อปาสกัล ซึ่งล้มป่วย
ปี ค.ศ.1934 (พ.ศ.2477) คุณพ่อนิโคลาสได้เดินทางไปแพร่ธรรมตามกลุ่มคริสตชนทุกแห่งของภาคเหนือลุถึงเมืองพร้าว, ฝาง ฯลฯ
มีนาคม ค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) คุณพ่อนิโคลาส ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดแม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถึงปี 1938
ในปี ค.ศ.1938 (พ.ศ.2481) คุณพ่อย้ายไปเป็นเจ้าอาวาส วัดนักบุญเทเรซา โนนแก้ว จ.นครราชสีมา นอกจากการเผยแพร่พระวรสารให้คนกลับใจแล้ว ท่านช่วยเหลือชาวบ้านในเรื่องการทำมาหากินโดยเฉพาะคนยากจน โดยไม่เลือกว่าจะเป็นคริสตังหรือคนต่างศาสนา ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุน ด้วยการรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา แล้วนำไปขายให้โรงสีของรัฐบาลเอง เป็นการช่วยชาวนาและช่วยให้วัดมีรายได้อีกทางหนึ่งด้วย
กรณีพิพาทอินโดจีน - ชนวนแห่งการเบียดเบียนศาสนา

ปี ค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นในทวีปยุโรป ในช่วงเวลานั้นประเทศไทยมีการเจรจาตกลงเรื่องพรมแดน กับประเทศอินโดจีนของฝรั่งเศส และยังไม่สามารถตกลงกันได้ การกระทบกระทั่งกันบริเวณชายแดนรุนแรงขึ้น ในที่สุดใช้กำลังรบเข้าตัดสินปัญหาเมื่อปี ค.ศ.1940 (พ.ศ.2484)
แม้ว่าศาสนาคาทอลิกจะเป็นศาสนาสากล มีผู้นับถือเสื่อมใสศรัทธาอยู่ทั่วโลก แต่เมื่อศาสนาคาทอลิกเริ่มแพร่ขยายมาถึงประเทศไทย ธรรมฑูตชาวฝรั่งเศสมีบทบาทมาแต่แรกเริ่ม มีพระสงฆ์ชาวฝรั่งเศสประจำอยู่เกือบทุกวัดทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนชาวไทยทั่วไปที่มิใช่คาทอลิก ที่อยู่หัวเมืองห่างไกลเข้าใจผิด คิดว่าพระศาสนาจักรคาทอลิกเป็น "ศาสนาของพวกฝรั่งเศส" ทำให้เกลียดชังพระสงฆ์คาทอลิก และชาวไทยที่นับถือศาสนาคาทอลิกไปด้วย
ช่วงเวลาที่เกิดกรณีพิพาทอินโดจีนนี้ เป็นช่วงที่ชาวไทยตื่นตัวเรื่องชาตินิยมเป็นอย่างมาก และมีการต่อต้านเบียดเบียนเพื่อล้มล้างศาสนาคาทอลิก เนื่องจากกลัวว่าพวกคริสตังจะพากันเข้าข้างฝรั่งเศส ทางราชการได้สั่งปิดโรงเรียนคาทอลิก พยายามทำให้พวกคริสตังละทิ้งศาสนา บรรดามิสชันนารีชาวฝรั่งเศสต้องเดินทางเข้ามาอยู่ในพระนคร เจ้าอาวาสที่ปกครองวัดต่างๆ ต้องเปลี่ยนเป็นพระสงฆ์ไทยชั่วคราว พระสงฆ์ชาวฝรั่งเศสบางองค์ถูกทำร้ายร่างกาย มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเรียกตัวเองว่า "คณะเลือดไทย" คอยทำการต่อต้านศาสนา ออกใบปลิว จดหมายเวียน ให้คนไทยที่นับถือศาสนาคาทอลิกเปลี่ยนศาสนา และห้ามทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับศาสนาคาทอลิกทั้งสิ้น
12 มกราคม 1941 - ถูกจับกุมโดยปราศจากความผิด

สมัยนั้นพระสงฆ์ไทยเข้าเงียบประจำปี เวลาค่ำของวันจันทร์ หลังวันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม ฝ่ายคุณพ่อนิโคลาสออกจากโนนแก้ว ถึงโคราชวันศุกร์ที่ 10 มกราคม มุ่งจะแวะไปรับคุณพ่อเลโอนาร์ด สิงหนาท ผลสุวรรณ เพื่อเข้ากรุงเทพฯ ให้ทันวันรุ่งขึ้น คือวันเสาร์ที่ 11 มกราคม แต่คุณพ่อนิโคลาสไม่พบ จึงตัดสินใจไป วัดนักบุญยอแซฟ บ้านหัน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในวันที่ 11 มกราคม เพื่อรับคุณพ่ออัมบรอซิโอ เพื่อจะไปด้วยกัน แต่แล้วคุณพ่ออัมบรอซิโอ ก็ไม่อยู่อีก
เย็นวันที่ 11 มกราคม 1941 คุณพ่อนิโคลาส ได้ย่ำระฆังที่วัดบ้านหัน เรียกคริสตังมาภาวนาค่ำตามปกติ ขณะที่กำลังสวดอยู่ พวกสมาชิกคณะเลือดไทยของบ้านหัน พากันมายังวัดนักบุญยอแซฟ บ้านหัน ขณะนั้นคุณพ่อนิโคลาสกำลังก่อสวดบทเร้าวิงวอนแม่พระ และสัตบุรุษก็ตอบรับตามเคยว่า "ช่วยวิงวอนเพื่อข้าพเจ้าทั้งหลายนี้เถิด" การก่อสวดก่อรับสลับกันเช่นนี้ เป็นผลให้สมาชิกเลือดไทย นำไปรายงานแก่นายอำเภอสีคิ้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า คุณพ่อนิโคลาส ก่อสวดให้พวกคริสตังรับเป็นเสียงเดียวกันว่า "ขอให้ฝรั่งเศสชนะไทยนี้เถิด!"
12 มกราคม ค.ศ.1941 - คุณพ่อนิโคลาส ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม พร้อมด้วยหัวหน้าครอบครัวคริสตัง รวม 9 คน

เจ้าหน้าที่คุมตัวนักโทษทั้งหมดไปสีคิ้ว พยายามให้ทิ้งศาสนา การสวบสวนนั้นทางราชการใช้วิธีบังคับให้คริสตังปรักปรำกันเอง และบังคับให้พยานเท็จปรักปรำผู้ที่ถูกจับกุม คุณพ่อนิโคลาสถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏพวกแนวที่ห้า เอาใจช่วยเหลือฝรั่งเศส นักโทษทั้ง 9 คน ถูกจับกุมอยู่ที่โคราชเป็นเวลาประมาณเดือนครึ่ง หลังจากนั้นถูกส่งตัวเข้ากรุงเทพฯ ถูกขังที่ศาลาแดง 9 เดือน จำเลยทั้ง 9 คนถูกจับในข้อหาว่าเป็น "กบฏภายนอกราชอาณาจักร"
วันที่ 15 พฤษภาคม "ศาลพิเศษ" ไม่ให้มีทนายความและตัดสินห้าอุธรณ์

คุณพ่อนิโคลาส ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี เช่นเดียวกันหัวหน้าครอบครัวคริสตังจากบ้านหัน แล้วถูกจำคุกที่ค่ายคุมขังนักโทษ บางขวางแดน 6
พินัยกรรมฉบับสุดท้าย - โปรดศีลล้างบาปและทำให้คนกลับใจ

ตลอดเวลาที่คุณพ่ออยู่ในคุก คุณพ่อได้รับความลำบากมาก ห้องขังสกปรกคับแคบ ไม่มีอากาศถ่ายเท อยู่กันอย่างแออัด แต่ท่านมีความอดทนและคอยให้กำลังใจผู้ต้องขังด้วยกัน นอกจากนี้ท่านยังได้สอนคำสอนให้กับนักโทษทั้งที่เป็นคริสตังและคนต่างศาสนา เมื่อมีคนมาเยี่ยมและนำอาหารมาให้ ท่านได้แบ่งปันให้กับนักโทษคนอื่น ๆ ด้วยความเมตตา การที่ท่านถูกขังอยู่ในห้องขังที่สกปรก ท่านจึงป่วยและถูกนำตัวไปตรวจ ทางเรือนจำแจ้งว่าท่านป่วยเป็นวัณโรค และได้แยกไปขังไว้ในเรือนจำของคนโรคปอด อยู่ร่วมกับนักโทษที่ป่วยเป็นวัณโรค ท่านได้สอนคำสอนและช่วยดูแลนักโทษที่ป่วย ได้โปรดศีลล้างบาปให้แก่นักโทษ โดยเฉพาะคนใกล้ตาย
ที่สุด วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1944 ทางเรือนจำได้มีจดหมายมาแจ้งให้ทราบว่า คุณพ่อนิโคลาส ได้เสียชีวิตแล้วด้วยวัณโรคปอด ก่อนตายคุณพ่อได้ทำพินัยกรรมฉบับหนึ่ง โดยมอบสิ่งของของท่านให้แก่ คุณพ่อเอดรัวด์ และ คุณพ่อเฮนรี ทางเรือนจำได้ส่งพินัยกรรมและสิ่งของนั้นมาให้พระสังฆราชแปร์รอส

พระสังฆราชแปร์รอส ได้เขียนจดหมายถึงเรื่องนี้ว่า "พระสงฆ์พื้นเมือง 5 องค์ของเราถูกจำคุกโดยไม่มีความผิด คุณพ่อนิโคลาสได้ตายในคุก หลังจากต้องจำคุก 3 ปี เขาอยู่ในโรงพยาบาล 9 เดือน เนื่องจากป่วย เขาได้ใช้เวลาเหล่านั้นในการปลอบโยนบรรเทาใจ และสั่งสอนผู้ป่วยคนอื่น เขาได้บอกให้ข้าพเจ้าทราบว่า "ในระหว่างที่เขาอยู่ในคุก เขาได้สอนคำสอนและโปรดศีลล้างบาปให้คนใกล้ตาย 68 คน" ศพของคุณพ่อนิโคลาส ถูกนำไปฝังไว้ที่วัดบางแพรก ซึ่งอยู่ใกล้กับเรือนจำ ภายหลังพระสังฆราชแปร์รอส จึงขออนุญาตขุดศพคุณพ่อมาฝังไว้ที่อุโมงค์วัดอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ
แก้ไขล่าสุดโดย Divine Mercy เมื่อ อาทิตย์ ต.ค. 23, 2005 2:33 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
St.Gerard
โพสต์: 179
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 11, 2005 10:47 am
ที่อยู่: Phrae
ติดต่อ:

เสาร์ ต.ค. 01, 2005 2:07 pm

ขอบคุณมากครับ
Divine Mercy

เสาร์ ต.ค. 08, 2005 12:57 am

เมื่อหลายปีที่แล้วผมเคยไปสวดขอคุณพ่อที่วัดอัสสัมชัญ บางรัก ผมจำได้ว่าสิ่งที่ผมขอผมได้รับการตอบรับจากพระเป็นเจ้า แต่ผมก็ยังไม่มีโอกาสกลับไปขอบคุณคุณพ่อ ผมจึงอยากประกาศเกียรติคุณของคุณพ่อที่ช่วยวิงวอนพระเป็นเจ้าเพื่อสิ่งที่ผมต้องการสำเร็จ

มีพี่น้องท่านใดบ้างครับที่เคยได้รับพระพรโดยสวดขอในนามของคุณพ่อ ช่วยโพสต์ด้วยนะครับ
wisit
โพสต์: 28
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 17, 2010 2:30 pm

อังคาร ก.ย. 13, 2011 8:36 pm

ผมเคยขอพรบุญราศีนิโคลาสบุญเกิด ในการดำเนินชีวิตครับ ท่านช่วยเหลือผมในยามที่ผมมีข้อบกพร่องต่างๆ ท่านเป็นแบบอย่างที่ผมรักมาก ในห้องนอนของผม มีรูปปั้นของท่าน รูปภาพของท่าน มีซีดีชีวประวัติ บทภาวนาขอพระพร บทเพลงเทิดเกียรติ หนังสือเดินรูป14ภาคในรูปแบบชีวิตของท่าน และผมเล่นเปียโนเพลงตามรอยพ่อนิโคลาสทุกวันก่อนที่จะไปเรียนหนังสือ ผมประทับใจและมีความศรัทธาในตัวท่านเป็นพิเศษ ใครมีเรื่องราวของบุญราศีนิโคลาส ช่วยแบ่งปันด้วยนะครับ ขอพระเจ้าอวยพร ...^^
ภาพประจำตัวสมาชิก
garuda
โพสต์: 116
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 12, 2011 11:22 pm

จันทร์ พ.ย. 14, 2011 11:30 pm

ผมเคยแอบเข้าไปดูในโบสถ์ของวัดที่โรงเรียน(แอบสำรวจสถานที่)ก็เห็นรูปคุณพ่อท่านนี้อยู่ และตรงโต๊ะมีสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นอัฐิชิ้นเล็กๆของท่าน เย็บติดอยู่กับผ้าสีแดงอยู่ตัวกรอบที่ใส่ประดับอย่างสวยงามตั้งไว้
ตอบกลับโพส