Belong to the Truth Jesus Christ

Exorcism
Introduction


การไล่ผีมีมาเกินกว่า 2,000 ปีมาแล้ว อย่างน้อยในสมัยของพระเยซูเจ้า พระองค์เองก็สำแดงการไล่ผีมาหลายต่อหลายครั้ง
พระสันตะปาปาจอห์น ปอล ทรงเล็งเห็นว่าการไล่ผี เป็นเหมือนสงครามระหว่างความดีกับความชั่ว ระหว่างพระเจ้าและผู้อยู่ฝ่ายตรงข้าม



การไล่ผีไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆ โดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกใช้หรือกระทำอย่างไม่เหมาะสม ต้องมีระเบียบข้อบังคับมากมาย และผู้ที่รับการไล่ผีต้องแน่ใจว่าถุกสิงจริงๆ ไม่ใช่มีอาการป่วยทางจิต ความเจ็บไข้ โรคซึมเศร้า หรืออาการที่เกิดจากตัวเอง
อย่างน้อย ก่อนที่ผู้ที่เชื่อว่าถุกผีสิงจะเข้ารับการไล่ผี เขาต้องรับการตรวจสอบจากแพทย์ และจิตแพทย์ให้แน่ใจก่อนว่าอาการที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติทั่วไป

มีคนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าตัวเองถูกผีสิง แต่หลังจากพูดคุยกับจิตแพทย์เพียงครั้งเดียว ก็มีทัศนคติที่ดี และหายจากอาการหดหู่หรืออาการทางจิตก็มี

Overview



เป็นความจริงที่ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ถุกปีศาจสิงจริง ไม่ใช่การรู้สึกไปเอง โรคซึมเศร้า หรืออาการป่วยทางจิต และการไล่ผี หรือพิธีกรรมทาง Exorcist ก็มีไว้ เพื่อขจัดปีศาจที่เข้าสิงคนดังโรคร้ายที่เกาะกิน

เมื่อเราพูดถึงปีศาจแล้ว เราหมายความว่าอย่างไร ?
ปีศาจ เป็นแค่ คอนเซปต์ แนวคิด หรือเปล่า ?

หรือ ปีศาจ ความชั่วร้าย เป้นเพียง "ภาพแห่งการคลาดแคลนคุณงามความดี" อย่างที่หลายคนเข้าใจ
(Privatio Boni - การขาดแคลนซึ่งความดีงาม)

หรือว่าปีศาจ คือ ปีศาจ หมายถึงร่างที่มีตัวตน และ ดำรงอยู่จริง ?

ไม่ว่าปีศาจจะคืออะไร แต่สำหรับศาสนจักรคาทอลิก และบรรดา Exorcist ที่เกี่ยวข้องกับการไล่ผีปีศาจแล้ว
ข้อสรุป คือ ปีศาจ คือสิ่งที่มีตัวตน เป็นพลังงาน จิตของความชั่วร้ายที่มีภัยคุกคามต่อมนุษย์เรา  และแน่นอน สามารถขจัด หรือ รักษาผู้ถุกคุกคามจากพลังความชั่วร้ายนี้ได้




คริสตศาสนิกชนเรารับรู้ว่า ปีศาจ คือ ทูตสวรรค์ที่ชั่วร้าย และถุกขับไล่ออกจากสวรรค์ไปอาศัยในมิติอันต่ำชั้นกว่า ที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย หรือ นรก 
ณ ที่นั่น บรรดาทูตสวรรค์ที่ตกสวรรค์มาชุมนุมกัน กลายสภาพเป็นร่างวิญญาณ หรือจิตอันชั่วร้ายที่เราเรียกกว่า ปีศาจ

ปีศาจไม่มีร่างกาย กายเนื้อ  ปีศาจเป็นวิญญาณที่ชั่วร้ายและแปดเปื้อนด้วยมลทิน ด้วยเหตุนี้เอง การที่ปีศาจจะแสดงอำนาจบนโลกผ่านกายเนื้อแล้ว
ปีศาจต้องอาศัยการเข้าสิงคน เพื่อใช้ร่างกาย หรือ พูดผ่าน ร่างกายเนื้อของมนุษย์เรา  โดยจุดประสงค์หลักของปีศาจในการเข้าสิงคน คือ
แพร่กระจายความเกลียดชังต่อพระเจ้า ต่อความดีงาม และท้าทายพระเจ้า





สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากคนที่ถุกผีสิง คือ จะมีอาการกลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กลัวสัญลักษณ์เครื่องหมายที่แสดงแทนถึงพระเจ้า หรือความดีงาม ไม่กล้าเข้าไปใกล้เขตโบสถ์ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์  และม่ไกล้าเผชิญหน้ากับพระสงฆ์


ขณะที่การไล่ผี หรือ Exorcist ไม่จำเป็นต้องเป็นพิธีกรรมที่มีรูปแบบแผนอย่างเป็นทางการ หรือ กินพิธีกรรมอันยาวนานเสมอไป การไล่ผีจำนวนไม่น้อย อาศัยการสวดภาวนา การสวดเพื่อการปลดปล่อย (Prayer of Liberation) ก็เพียงพอแล้วที่จะขับไล่จิตชั่วร้ายนั้นออกไปได้



หมายเหตุ-จะทะยอยลงทีละภาคครับ แล้วหลังจากผ่านไปหลายๆภาคแล้วจะรวมเป็นกระทู้เดียวทีหลัง เพื่อกระทู้จะไม่ยาวเกินไป



ตอนต่อครับ viewtopic.php?f=2&t=8274

ว้าวน่าสนใจ

แต่เคยคิดนะ ถ้าหากไปหาจิตแพทย์ก่อนแล้วถ้ามันเป็นผีจริงๆ มันอาจสายไปแล้วก็ได้

ผมกลัวกางเขนอะ 

Happy_Win เขียน: ผมกลัวกางเขนอะ 

ผมกลัวตราชั่งน้ำหนักอะ

Gray Cat de St.Tsar NicholasII เขียน:

Happy_Win เขียน: ผมกลัวกางเขนอะ 

ผมกลัวตราชั่งน้ำหนักอะ

เป็นไรกันมากป่าว 2 คน

Batholomew เขียน:

Gray Cat de St.Tsar NicholasII เขียน:

Happy_Win เขียน: ผมกลัวกางเขนอะ 

ผมกลัวตราชั่งน้ำหนักอะ

เป็นไรกันมากป่าว 2 คน

เป็นคนหน้าตาดีครับ

Gray Cat de St.Tsar NicholasII เขียน:

Batholomew เขียน:

Gray Cat de St.Tsar NicholasII เขียน: ผมกลัวตราชั่งน้ำหนักอะ

เป็นไรกันมากป่าว 2 คน

เป็นคนหน้าตาดีครับ

ของใคร ?

รออ่านและอาจช่วยเสริมครับ

ขอเอาไปลงให้บอร์ด BBB(บอร์ดที่ผมโดนลบหลู่ความเชื่ออ่ะ ) ได้มั้ยครับเนี่ย???? คิดว่าเรื่องแบบนี้เขาคงสนใจกันบ้างล่ะมั้ง

ผมคิดว่าถึงจะสนใจแต่ก็คงในทางร้าย

ส่วนเรื่องการลงเนื้อหาต่อ ก็ไม่ต้องกังวลเพราะเราลงกระทู้ใหม่ครับ

Thx

Holy เขียน: ผมคิดว่าถึงจะสนใจแต่ก็คงในทางร้าย

อืม งั้นผมเงียบๆ(กะบอร์ดนั้น)ไว้ดีกว่าเนอะ    ยังไงก็คงพูดไม่เข้าหูพวกเขาอยู่ดีแหละ

มาอยู่กะพี่น้องฝั่ง(บอร์ด)นี้ดีกว่า