ช่วยทีครับผมเป็นโรควิตกกังวล

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nicolas.Not
โพสต์: 306
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 30, 2007 1:47 pm
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 1:18 pm

ตอนนี้ผมเป็นโรควิตกกังวลมากๆเลยครับ กลัวตัวเองจะเป็นโรคนั้นโรคนี้ ทั้งๆที่ไม่ตรวจมาแล้วก็ปกติดีนะครับ อยากขอครับแนะนำจากพี่น้องคริสตชนด้วยกันว่าผมควรทำไงดี ช่วยสวดเผื่อผมด้วยนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Aion
โพสต์: 16
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 18, 2008 3:40 pm

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 1:23 pm

ขอให้สวดภาวนาด้วยจิตใจร้อนรน แล้วถ้าเกิดเป็นโรคขึ้นมาจริงๆ ก็ให้พยายามรักษาให้หายด้วยความเชื่อ และการซื่อสัตย์ต่อตนเองในการรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์นะขอรับ -- แต่ถ้ายังปกติดีอยู่ แล้วไปวิตกกังวล  สุดท้ายจากปกติก็จะกลายเป็นโรคเครียดแล้วมีโรคอื่นๆตามมา เพราะวิตกไปเอง --เฮ้อ อย่าวิตกไปเลยนะ เป็นกำลังใจและสวดให้นะ
warlock
โพสต์: 642
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 3:37 am

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 2:39 pm

= อย่าไปวิตกมันครับ=  ง่ายนิดเดียว
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 2:54 pm

warlock เขียน: = อย่าไปวิตกมันครับ=   ง่ายนิดเดียว
เหมาะสมและชอบยิ่งนัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
~KaThaRoS~
โพสต์: 792
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 3:41 pm

jihun7 เขียน: ตอนนี้ผมเป็นโรควิตกกังวลมากๆเลยครับ กลัวตัวเองจะเป็นโรคนั้นโรคนี้ ทั้งๆที่ไม่ตรวจมาแล้วก็ปกติดีนะครับ อยากขอครับแนะนำจากพี่น้องคริสตชนด้วยกันว่าผมควรทำไงดี ช่วยสวดเผื่อผมด้วยนะครับ
อย่าเครียดค่ะ  ทำใจให้สงบ เราต้องมีสติค่ะ
ไปตรวจมาแล้วไม่เป็อะไรก็ดีแล้ว อย่าวิตกกังวลไปเลยค่ะ เด๋วจิตใจเรากังวลจะทำให้ร่างกายเจ็บป่วยไปด้วย หรือที่เค้าเรียกว่าฮิสทีเรีย อะไรประมานนั้น
ลองสงบสติอารมณ์แล้วก็คุยกะพระดูจะทำให้เราเย็นมากขึ้นนะค่ะ เวลาเครียดก็หาอะไรที่รีแลกซ์ทำ
ฟังเพลง เล่นดนตรี เล่นกีฬา ดูหนัง หรือกิจกรรมอะไรที่เราชอบ จะได้ไม่เกิดอาการวิตกกังวลขึ้น
หรือถ้ายังไม่หายแนะนำปรึกษาจิตแพทย์ค่ะ หรือปรึกษานู๋รี่ก็ได้นะ  : emo045 :
ไม่มีอะไรทำร้ายเราได้..นอกจากตัวเราเองนะค่ะ..ยิ้มแล้วก้สุ้ๆค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย ~KaThaRoS~ เมื่อ จันทร์ มี.ค. 03, 2008 7:29 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Aion
โพสต์: 16
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 18, 2008 3:40 pm

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 7:17 pm

กินช็อคโกแลตช่วยได้เปล่า (หรือว่าจะช่วยทำให้เบาหวานเพิ่ม) เอิ๊กๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~KaThaRoS~
โพสต์: 792
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 7:43 pm

Aion เขียน: กินช็อคโกแลตช่วยได้เปล่า (หรือว่าจะช่วยทำให้เบาหวานเพิ่ม) เอิ๊กๆ
ในช็อคโกแลตจะมีสารคล้ายสารแห่ความสุขค่ะ การทานช็อคโกแลตมันสุขได้แค่ชั่วคราว หมดทานหมดก็ทุกข์ต่อแล้ว คล้ายะกะสุราแหละ
พอส่งเมาก้ทุกข์ต่อ แล้วอะไรล่ะที่จะ ทำให้เรามีความสุขตลอดเวลา
คนเรามีความสุขจากไหน ก็จากการกระตุ้น path way reward ในสมองส่วนกลางที่จะหลั่งDopramine ออกมาให้เรามีความสุข
ความสุขก็มาจากการที่เราได้รับการตอบสนองควารพึงพอใจ จึงมีความสุข
ฉะนั้นเราก็ต้องสร้างสิ่งนั้นขึ้นมาเองให้ได้
วิธีง่ายๆเลยนะค่ะ คือเราต้องมองโลกในแก่ดี มีความมั่นคงทางจิตใจ
โลกเรามี2ด้าน อยู่ที่เราเลือกจะมอง มองให้มันดี มันก็ดี
มองให้มันร้าย มันก็จบ...
แล้วคุณเลือกที่จะมองโลกแบบไหนล่ะค่ะ..........
**ปล. จะช่วยสวดให้ จขกท อาการ axiety เกิดได้กับทุกคนค่ะ อย่าเครียดๆ สู้ๆ
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 9:05 pm

"จงวางใจในพระเจ้า"

สั้น! ง่าย! และได้ผล! :angel:
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 10:27 pm

jihun7 เขียน: ตอนนี้ผมเป็นโรควิตกกังวลมากๆเลยครับ กลัวตัวเองจะเป็นโรคนั้นโรคนี้ ทั้งๆที่ไม่ตรวจมาแล้วก็ปกติดีนะครับ อยากขอครับแนะนำจากพี่น้องคริสตชนด้วยกันว่าผมควรทำไงดี ช่วยสวดเผื่อผมด้วยนะครับ
1.เลิกกังวล/ อย่าหมกมุ่น กับเรื่องที่คุณวิตก

2.วางใจพระเจ้า/ วางใจหมอ เพราะตรวจแล้วว่าไม่เป็นอะไร

3.ภาวนาให้คนอื่นๆ และเรื่องต่างๆ ( การให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ )

4. ทำตามข้อ 1-3 รับรองได้ผล

ขอพระเจ้าทรงอวยพรคร้าบ :cheesy:
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร มี.ค. 04, 2008 4:48 pm

โรคนี้ต้องใช้เวลาครับ

กว่าบางคนจะเลิกกลัวความมืดได้ก็ต้องรู้จักความมืดเสียก่อนว่าหมายถึงอะไร

กว่าบางคนจะเลิกกลัวสัปรด มะพร้าว กลัวลูกโป่ง กลัวขนหน้าแข้ง หรือกลัวในสิ่งที่ไม่เห็นจะต้องน่ากลัวก็ต้องเลิกเป็นดาราก่อน หรือไม่ก็ต้องเลิกอยู่ต่อหน้าสาธารณชนก่อน

กว่าบางคนจะเลิกกังวลได้ ก็ต้องรู้จักความกังวลก่อนว่ามันคืออะไร

ถามพระเยซูเจ้าสิ ว่าตอนที่พระองค์อยู่ในสวนเกสมานีพระองค์กังวลอะไร พระองค์กลัว พระองค์ถามพระว่ายังไง สุดท้ายพระองค์ก็มอบพระองค์ไว้กับพระไม่ใช่เหรอ

ไม่สบายแล้วไง ไม่สบายแล้วทำให้เรารู้สึกว่าเราโดนพระลงโทษหรือ ไม่ใช่นา อย่าเข้าใจอย่างนั้นเชียว

"อย่าสาลวนจนเกินเหตุ"
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

เสาร์ มี.ค. 08, 2008 8:03 pm

แนะนำให้คิดใหม่ว่า

ความสุขของคุณอยู่ที่ไหนระหว่าง "เป็นไปตามสิ่งที่เราปรารถนา" กับ "เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า" โดยระลึกเสมอว่าพระองค์มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเราเสมอ พระองค์ไม่เคยมอบแมงป่องให้ลูกในขณะที่ลูกขอปลา


ดังนั้นต่อให้คุณป่วยนั่นก็คือแผนการ์ณของพระองค์ ขอให้เพียงคุณวางใจในพระองค์  ผมรับรองว่าคุณจะพบสันติสุข  สันติสุขมากกว่าไม่ป่วยด้วยซ้ำ  แต่ถ้าคุณสบายดีก็ขอบพระคุณพระเป็นเจ้า แต่ไม่ว่าอย่างไรสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณทุกอย่างนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณแน่นอนครับ  ::013::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nicolas.Not
โพสต์: 306
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 30, 2007 1:47 pm
ติดต่อ:

อังคาร มี.ค. 11, 2008 10:57 am

ขอบคุณจริงๆครับ ผมไม่รู้จะตอบแทนความมีน้ำใจยังไงนอกจากคำขอบคุณ ตอนนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างแล้วครับ ผมจะพยามทำใจให้สงบ ถ้าอาการเครียดมันโผ่ลเมื่อไรผมก็จะสวดวันทามารีอาไล่มัน ขอบคุณทุกคนครับ
mapisit
โพสต์: 107
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ย. 19, 2007 9:49 pm
ที่อยู่: ปากปล่องเหวแห่งไฟ
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 10:51 pm

ใจเย็นๆ และลองทบทวนดูว่า อะไรที่ทำให้เรากังวล

เรามาสามารถจัดการมันได้หรือไม่  ถ้าจัดการได้ก็ดีครับ

แต่ถ้าจัดการไม่ได้ ความวิตก จะทำให้เกิดความหดหู่ และจะทำให้ท้อแท้ หมดอาลัยตายอยาก

ลองเรียบเรียงความคิดแบบใจเย็นๆ โดยหาเวลาให้ตัวเอง ค่อยๆดูว่าตอนนี้เราเป็นอย่างไร

สบายใจ หรือไม่อย่างไร ไม่งั้นก็เขียนลงกระดาษครับว่าตอนนี้เราคิดอะไรอยู่

เขียนแล้วเก็บเอาไว้ สักสี่ห้าวันค่อยมาอ่าน แล้วปรับตัวจากที่อ่านมา แล้วก็เขียนลงไปอีก ทำซ้ำๆกันนะครับ

ผมเคยทำแบบนี้ แล้วสบายใจ เลยเอามาแนะนำ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 12:23 am

วางใจในพระค่ะ  สวดพระเมตตาเยอะๆนะคะ  โดยเฉพาะบทภาวนาเวลาบ่ายสามที่บอกว่า 
"พระเจ้าข้า  ลูกวางใจในพระองค์"

เมื่อเรากังวลเมื่อไหร่  ขอให้มอบความวางใจทั้งหมดให้กับพระ  ...  ยากนะ  แต่ต้องลองทำ  แล้วจะเห็นผลค่ะ  ::001::
Elizabeth
โพสต์: 87
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 21, 2008 2:49 am
ที่อยู่: เชียงใหม่

ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 2:21 am

ทำจิตใจให้สบายปล่อยวาง คิดในด้านpositiveไว้ก่อนแต่ถ้าพลาดพลั้งมา ขอให้ถือว่านี่แหละคือสิ่งที่พระเจ้าท่านกำลังทดสอบเราอยู่ทำให้เราแกร่งขึ้นไงคะ.......ยิ่งถ้าจิตเราป่วยแล้วก็จะยิ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพกายให้แย่ลงนะคะ
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 6:12 am

ยิ้มครับ...
พยายามมองอะไรในด้านบวก แม้จะนึกแย้งว่า "หลอกตัวเองนี่หว่า"
ก็ยังดีกว่าคิดแต่ด้านลบ

สู้ๆ นะครับ
ลี วูจิน
โพสต์: 331
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 4:57 pm
ที่อยู่: Thailand
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 22, 2008 8:50 pm

สวดภาวนาครับ
ปิยะ สมรศาสตร์

พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 12:34 am

: emo036 : ขอตอบคุณ Nicolas ดังนี้นะครับ: จากอาการที่คุณเล่ามาผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นอาการของโรค Phobic disorder หรือโรคกลัวนะครับ ความจริงโรคกลัวต่างจากโรควิตกกังวล แต่ในปัจจุบันเราจัดไว้ในกลุ่มของโรควิตกกังวล ( anxiety disorders ) ผู้ป่วยจะมีอาการวิตกสารพัดเรื่อง โรคกลัวมี 3 ประเภทคือ 1. Specific phobia  เช่นกลัวสัตว์ต่างๆ    2.Agoraphobia เป็นอาการของการกลัวสถานการณ์หลายๆที่ร่วมกัน เช่นตลาดหรือที่ๆมีคนเยอะๆ  3. Social  phobia คืออาการกลัวเวลาถูกจ้องมอง แต่สำหรับคุณนิโคลาส ผมเห็นว่าน่าจะเป็นอาการของโรควิตกกังวล ( anxiety disorders ที่เข้ามามีส่วนร่วมด้วย
             วิธีบำบัด หากใช้วิธีทางฝึกสมาธิและใช้หลักธรรมะของทุกศาสนาแล้วไม่บังเกิดผล ผมขอแนะให้ใช้ยารับประทานเข้าช่วยจะได้ผลแน่นอนกว่า โดยจะเป็นยาในกลุ่มของ selective serotonin reuptake inhibitors เช่นยา Paroxetine ( seroxat ) เม้ดละ 20 มกวันละครั้งก่อนนอน ควรรักษาอย่างน้อย 6 เดือน ลองปรึกษาแพทย์ดูอีกครั้งนะครับ ขอให้โชคดีหายไวๆนะครับ
From  ปิยะ สมรศาสตร์
ภาพประจำตัวสมาชิก
(⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
โพสต์: 892
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 9:58 am

ถ้าเราวิตกกังวลอะไร ลองบอกกับพระองค์สิคะ พระท่านช่วยได้จริงๆนะ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ธ.ค. 19, 2008 10:14 am

วางใจพระครับ ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nicolas.Not
โพสต์: 306
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 30, 2007 1:47 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ธ.ค. 28, 2008 9:11 pm

พี่น้องครับ ขอบคุณมากๆที่ช่วยกันแนะนำเข้ามาครับ ตอนนี้ผมเกือบหายแล้ว ประมาณ 95 เปอร์เซนต์แล้วครับ ขอบคุณพระมากๆ อาจเป็นเพราะผมวางใจในพระมากขึ้นด้วย เลยทำให้หายเร็ว ไม่กลัวที่จะตาย ถ้าใครมีปัญหาเกี่ยวกับความเครียดหรือวิตกกังวลก็คุยกันได้นะครับ ถึงถ้าเป็นมากกว่า 6 เดือนก็รีบๆเข้ามาคุยนะครับ มันรักษาได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nura
โพสต์: 177
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 18, 2008 2:48 am

จันทร์ ธ.ค. 29, 2008 2:08 pm

ยินดีด้วยนะคะ
tan
โพสต์: 390
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 13, 2008 8:47 pm
ติดต่อ:

จันทร์ ธ.ค. 29, 2008 2:48 pm

ดีใจด้วยนะคัฟ นิโคลาส  ดีใจจริงๆๆที่นายดีขึ้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ ธ.ค. 29, 2008 3:45 pm

ยินดีด้วยนะคะ อีกแค่ 5 %
สู้ ๆ ค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nicolas.Not
โพสต์: 306
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 30, 2007 1:47 pm
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 30, 2008 3:20 pm

http://jihun7.webs.com/

ไม่ได้หลอกนะครับ แต่ได้เงินจิงๆ ยังไงลองเข้าไปอ่านดูนะ ไม่มีไวรัสหรอก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Maya
โพสต์: 21
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 25, 2008 5:53 pm

ศุกร์ ม.ค. 02, 2009 1:23 am

เราก็เคยเป็นค่ะ
แถมเคยเป็นโรคจิตด้วย
หูแว่ว เห็นภาพหลอนเนื่องจากอาการเครียดจัด
ทำร้ายตัวเอง สารพัดจะบรรยาย จนไม่มีเพื่อนอยากจะคบเลยล่ะค่ะ
แต่ตอนนี้หายแล้วค่ะ
จะเหลือก็แต่แค่ชอบคิดมากแหละค่ะ
เราหายจากความทรมาณนี้ด้วยการสวดภาวนา
และกำลังใจจากคนรักค่ะ นอกจากครอบครัวแล้วก็มีเค้าเนี่ยล่ะค่ะที่ไม่รังเกียจเรา

ยินดีด้วยนะคะ อีกนิดเดียวก็จะหาย 100% แล้ว >w< ไฟต์โตะ!!
tan
โพสต์: 390
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 13, 2008 8:47 pm
ติดต่อ:

พุธ ม.ค. 14, 2009 1:25 am

Maya เขียน: เราก็เคยเป็นค่ะ
แถมเคยเป็นโรคจิตด้วย
หูแว่ว เห็นภาพหลอนเนื่องจากอาการเครียดจัด
ทำร้ายตัวเอง สารพัดจะบรรยาย จนไม่มีเพื่อนอยากจะคบเลยล่ะค่ะ
แต่ตอนนี้หายแล้วค่ะ
จะเหลือก็แต่แค่ชอบคิดมากแหละค่ะ
เราหายจากความทรมาณนี้ด้วยการสวดภาวนา
และกำลังใจจากคนรักค่ะ นอกจากครอบครัวแล้วก็มีเค้าเนี่ยล่ะค่ะที่ไม่รังเกียจเรา

ยินดีด้วยนะคะ อีกนิดเดียวก็จะหาย 100% แล้ว >w< ไฟต์โตะ!!
เอ้จากคนรักเหรอครับ แล้วนายนิโคลาสนี้มีคนรักรึยังครับ สงสัยจัง

ตอบกลับโพส