ถามงับ เรื่องการอธิษฐานขอบางอย่าง
ขอไปเถอะค่ะ
พระเจ้าเป็นพระเจ้าเเห่งความเมตตา
เเต่หากไม่เป็นไปตามนั้น โปรดอดทนรอสิ่งที่ดีกว่าตามเเผนการของพระองค์เจ้าค่ะ
พระเจ้าเป็นพระเจ้าเเห่งความเมตตา
เเต่หากไม่เป็นไปตามนั้น โปรดอดทนรอสิ่งที่ดีกว่าตามเเผนการของพระองค์เจ้าค่ะ
พี่ขอกล้วยไม้ แคทลียา พี่ก็ได้มา 6 ต้นราคาแค่ต้นละร้อยห้าสิบบาท แล้วพี่ก็ขอกล้วยไม้แวนด้าพี่ได้มาต้นใหญ่มากที่งานเกษตรเขาขายต้นละ 700 แต่พี่ได้มาแค่ 2 ต้น 300 บาท เหอ เจอเจ้าที่เขาเพาะเองหลังบ้าน
ส่วนไฮแดรนเยียพี่ไม่ได้ขอแต่อยากได้มากๆ เพราะดูรูปวิวที่วัดญี่ปุ่น ทางรถไฟญี่ปุ่น ภูเขาไฟฟูจิ อยากได้มากแล้วก็เจอเมื่อกลางปีที่แล้ว ทุกวันนี้มันออกดอกดกมากแตกหน่อมากมาย อาทิตย์นี่้ดอกต้องหลายช่อแม่พี่บอกดีติดใจสองวันที่แล้วเลยไปซื้อกระถางเล็กไปให้พี่สาวปลูกที่บ้านใหม่บ้าง สวนต้นไฮแดรนเยียที่พี่ปลูกสูงกว่าครึ่งเมตรแล้วเพราะปลูกมาตั้งแต่ปีที่แล้วสองต้น พี่ฝันอยากเลี้ยงปลาคาร์ปมานานแต่มันไม่มีที่จะเลี้ยงและแล้วเมื่ออาทิตย์ี่แล้วเขาเอาลูกปลาคาร์ปมาตั้งขายหน้าบ้านพี่ถุึงละ 10 บาท พี่เห็นถูกดีแล้วคิดว่าฝันเป็นจริงแล้วเลยซื้อมาสามถุง แต่พี่ไม่เลี้ยงรวมกับปลาในตู้ไม้น้ำตู้นั้นมันสำหรับพวกปลาเล็กอย่างปลานีออน ปลาแบล็คแฟนท่อม ปลาคาร์ปพี่เลี้ยงในตุ่ม ก็สวยอีกแบบหนึ่ง ดีใจมากๆ สิ่งที่พี่ปรารนาพี่ก็ได้มาเกือบครบ แต่ยังขาดอยู่คือที่เลี้ยงที่ใหญ่กว่านี้
เมื่อคืนพี่นั่งคิดเรื่องเจ้าปีศาจแมมมอน mammon แล้วก็ปีศาจอีกหลายตัวค้นหาข้อมูลในเน็ต ที่พี่ค้นหาเพราะพี่รู้สึกไม่ดีคือพี่ตอนนี้คิดว่าจะทำงานหาเงิน พี่ถามใจตัวเองว่าพี่โลบหรือเปล่า นั่งคิดอยู่นานพี่ใจจริงก็อยากได้เงินถึงทุกวันนี้พี่ไม่ได้ทำงานก็เถอะ ถามว่าเอาเงินไปทำอะไร แล้วอะไรคือความสุขในชีวิตพี่ก็ตอบได้แบบไม่ต้องโลเลเลยคือ ดอกไม้ แล้วเมื่อคืนก็ถามใจตัวเองว่า ถ้าเกิดมีคนเอาทองคำมาใ้ห้พี่หีบหนึ่งหรือเงินหลายแสนล้านบาทบอกพี่ว่าให้เลิกปลูกดอกไม้ แล้วห้ามเลี้ยงปลาตลอกชีวิตพี่จะยอกไหม ความรู้สึกพี่รีบตอบทันทีว่าเอาเงินทองคุณไปให้พ้นเพราะพี่ยอมตายดีกว่าที่จะไม่ปลูกดอกไม้และเลี้ยงปลา เงินแสนล้านไม่สามารถทำให้พี่หยุดการปลูกดอกไม้กับเลี้ยงปลาได้พี่รับรองยืนยันได้เลย เพราะพี่ต้องการเงินไปก็เพื่อจะไปปลูกต้นไม้เลี้ยงปลานี้คือความฝันในชีวิตพี่ ถ้ามีเงินแต่ไม่มีปลาไม่มีต้นไม้เงินมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพียงแค่พอกินเท่านั้นพอแล้ว แต่บางคนเขาศรัทธาพระเขารักพระมากกว่าเงินทองเขารักพระมากกว่าต้นไม้ก็ได้ แต่พี่กลับรักต้นไม้มากเพราะเป็นสิ่งที่พี่ชอบตั้งแต่พี่จำความได้ตั้งแต่พี่รู้ภาษาจนกระทั่งโต ต้นไม้ต้นหนึ่งที่พี่เลี้ยงเป็นของรักของหวงพี่เลย รักมันมากๆ พี่คิดว่าพี่จะทำงานหาเงินมาทำบ่อปลาคาร์ปกับทำสวนดอกไม้
เมื่อคืนพี่ก็นั่งคิดมากเกี่ยวกับ mammon ที่คิดเพราะพรุ่งนี้เช้าพี่ก็ต้องเดินทางไปอบรมหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้พี่จะทำงานแล้ว พี่รู้สึกตื่นเต้นดีใจแต่ก็กลัว กลัวจะล้มแหลว กลัวว่างานของโลกจะกลายเป็น mammon matmon ถ้าได้งานทำแต่ต้องเป็น ปีศาจเมมมอน พี่รู้สึกกลัวว่าพระเจ้าจะไม่อวยพรให้พี่ทำงานเหมือนคนปกติ มันยังรู้สึกปรับปรัม
ยังไงก็สวดให้พี่ด้วยสามรถทำงานได้ไม่ได้กลับมาอยู่บ้านเฉยๆ อีกพี่ไม่อยากเป็นอย่างนี้ อยากมีอนาคต
ปล.ลงท้ายว่า นิยามความสำเร็จในความหมายของพี่ไม่ใช่หมายถึงคนมีเงินเยอะ แต่หมายถึงคนที่ทำในสิ่งที่ต้นเองรักได้สำเร็จ
ส่วนไฮแดรนเยียพี่ไม่ได้ขอแต่อยากได้มากๆ เพราะดูรูปวิวที่วัดญี่ปุ่น ทางรถไฟญี่ปุ่น ภูเขาไฟฟูจิ อยากได้มากแล้วก็เจอเมื่อกลางปีที่แล้ว ทุกวันนี้มันออกดอกดกมากแตกหน่อมากมาย อาทิตย์นี่้ดอกต้องหลายช่อแม่พี่บอกดีติดใจสองวันที่แล้วเลยไปซื้อกระถางเล็กไปให้พี่สาวปลูกที่บ้านใหม่บ้าง สวนต้นไฮแดรนเยียที่พี่ปลูกสูงกว่าครึ่งเมตรแล้วเพราะปลูกมาตั้งแต่ปีที่แล้วสองต้น พี่ฝันอยากเลี้ยงปลาคาร์ปมานานแต่มันไม่มีที่จะเลี้ยงและแล้วเมื่ออาทิตย์ี่แล้วเขาเอาลูกปลาคาร์ปมาตั้งขายหน้าบ้านพี่ถุึงละ 10 บาท พี่เห็นถูกดีแล้วคิดว่าฝันเป็นจริงแล้วเลยซื้อมาสามถุง แต่พี่ไม่เลี้ยงรวมกับปลาในตู้ไม้น้ำตู้นั้นมันสำหรับพวกปลาเล็กอย่างปลานีออน ปลาแบล็คแฟนท่อม ปลาคาร์ปพี่เลี้ยงในตุ่ม ก็สวยอีกแบบหนึ่ง ดีใจมากๆ สิ่งที่พี่ปรารนาพี่ก็ได้มาเกือบครบ แต่ยังขาดอยู่คือที่เลี้ยงที่ใหญ่กว่านี้
เมื่อคืนพี่นั่งคิดเรื่องเจ้าปีศาจแมมมอน mammon แล้วก็ปีศาจอีกหลายตัวค้นหาข้อมูลในเน็ต ที่พี่ค้นหาเพราะพี่รู้สึกไม่ดีคือพี่ตอนนี้คิดว่าจะทำงานหาเงิน พี่ถามใจตัวเองว่าพี่โลบหรือเปล่า นั่งคิดอยู่นานพี่ใจจริงก็อยากได้เงินถึงทุกวันนี้พี่ไม่ได้ทำงานก็เถอะ ถามว่าเอาเงินไปทำอะไร แล้วอะไรคือความสุขในชีวิตพี่ก็ตอบได้แบบไม่ต้องโลเลเลยคือ ดอกไม้ แล้วเมื่อคืนก็ถามใจตัวเองว่า ถ้าเกิดมีคนเอาทองคำมาใ้ห้พี่หีบหนึ่งหรือเงินหลายแสนล้านบาทบอกพี่ว่าให้เลิกปลูกดอกไม้ แล้วห้ามเลี้ยงปลาตลอกชีวิตพี่จะยอกไหม ความรู้สึกพี่รีบตอบทันทีว่าเอาเงินทองคุณไปให้พ้นเพราะพี่ยอมตายดีกว่าที่จะไม่ปลูกดอกไม้และเลี้ยงปลา เงินแสนล้านไม่สามารถทำให้พี่หยุดการปลูกดอกไม้กับเลี้ยงปลาได้พี่รับรองยืนยันได้เลย เพราะพี่ต้องการเงินไปก็เพื่อจะไปปลูกต้นไม้เลี้ยงปลานี้คือความฝันในชีวิตพี่ ถ้ามีเงินแต่ไม่มีปลาไม่มีต้นไม้เงินมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพียงแค่พอกินเท่านั้นพอแล้ว แต่บางคนเขาศรัทธาพระเขารักพระมากกว่าเงินทองเขารักพระมากกว่าต้นไม้ก็ได้ แต่พี่กลับรักต้นไม้มากเพราะเป็นสิ่งที่พี่ชอบตั้งแต่พี่จำความได้ตั้งแต่พี่รู้ภาษาจนกระทั่งโต ต้นไม้ต้นหนึ่งที่พี่เลี้ยงเป็นของรักของหวงพี่เลย รักมันมากๆ พี่คิดว่าพี่จะทำงานหาเงินมาทำบ่อปลาคาร์ปกับทำสวนดอกไม้
เมื่อคืนพี่ก็นั่งคิดมากเกี่ยวกับ mammon ที่คิดเพราะพรุ่งนี้เช้าพี่ก็ต้องเดินทางไปอบรมหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้พี่จะทำงานแล้ว พี่รู้สึกตื่นเต้นดีใจแต่ก็กลัว กลัวจะล้มแหลว กลัวว่างานของโลกจะกลายเป็น mammon matmon ถ้าได้งานทำแต่ต้องเป็น ปีศาจเมมมอน พี่รู้สึกกลัวว่าพระเจ้าจะไม่อวยพรให้พี่ทำงานเหมือนคนปกติ มันยังรู้สึกปรับปรัม
ยังไงก็สวดให้พี่ด้วยสามรถทำงานได้ไม่ได้กลับมาอยู่บ้านเฉยๆ อีกพี่ไม่อยากเป็นอย่างนี้ อยากมีอนาคต
ปล.ลงท้ายว่า นิยามความสำเร็จในความหมายของพี่ไม่ใช่หมายถึงคนมีเงินเยอะ แต่หมายถึงคนที่ทำในสิ่งที่ต้นเองรักได้สำเร็จ
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อังคาร มี.ค. 31, 2009 8:59 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขอเลยจ้า ได้ไม่ได้ ขึ้นกับน้ำพระทัยพระ การขอ การเปิดเผยความต้องการของเรา เป็นการเปิดใจเรากับพระ จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระ
เราขอพระ ไม่ใช่เพราะว่า พระเป็นแหล่งใ่ห้เราขอได้ แต่เราขอ เพื่อที่เราจะบอกว่า ลูกไว้ใจว่า พระองค์คือทุกสิ่งทุกอย่าง ลูกไม่มีใครนอกจากพระองค์ ความต้องการของลูก แม้เล็กน้อยที่สุด ก็ไม่มีใครให้ได้ นอกจากพระองค์
พระอวยพรจ้า
เราขอพระ ไม่ใช่เพราะว่า พระเป็นแหล่งใ่ห้เราขอได้ แต่เราขอ เพื่อที่เราจะบอกว่า ลูกไว้ใจว่า พระองค์คือทุกสิ่งทุกอย่าง ลูกไม่มีใครนอกจากพระองค์ ความต้องการของลูก แม้เล็กน้อยที่สุด ก็ไม่มีใครให้ได้ นอกจากพระองค์
พระอวยพรจ้า
เอาเรื่องนี้ไปอ่านดู
คำตอบของพระเจ้า
กาลครั้งหนึ่งนานมาละ ...... มีเด็กหญิงคนหนึ่ง เฝ้าฝันมาตลอดว่า หล่อนอยากได้ตุ๊กตาบาร์บี้ซักตัว แค่ตัวเดียวเท่านั้นเอง ...
และแล้ววันเกิดหล่อนก็ใกล้เข้ามาถึง หล่อนเฝ้าสวดมนต์ อ้อนวอนขอต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า
" ลูกไม่ขออะไรอื่นที่มีค่ามากหรือมีราคาแพง แต่ลูกขอแค่ตุ๊กตาบาร์บี้ แค่ตัวเดียวเป็นของขวัญวันเกิดของลูก"
แต่แล้ววันเกิดหล่อนก็ผ่านไป โดยที่ไม่มีตุ๊กตาบาร์บี้ซักตัวเป็นของขวัญวันเกิด
เด็กหญิงไม่ละความพยายาม และความตั้งใจที่มี
วันคริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้ว เด็กหญิงบอกกับตัวเอง
แล้วหล่อนก็เริ่มขอพรจากพระเจ้าอีกครั้ง
หล่อนขอว่า "ครั้งนี้ลูกยังขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าเหมือนเดิม
ลูกขอแค่ตุ๊กตาบาร์บี้เป็นของขวัญวันคริสต์มาส
ลูกยอมแลกของขวัญทุกอย่างที่ลูกได้มา
เพี่ยงเพื่อขอให้ลูกได้ในสิ่งที่ลูกต้องการแค่นั้นเอง"
คริสต์มาสก็ผ่านไปอีกแล้ว ไร้ซึ่งคำขอของเด็กหญิง แล้วหล่อนก็ตั้งตารอวันวาเลนไทน์ที่จะมาถึง ใกล้เข้ามาแล้ว
แล้วหล่อนก็เริ่มขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าอีกครั้ง แล้วครั้งนี้ก็เหมือนเดิม
แต่ตลอดเวลาที่หล่อนเฝ้าขอพรนั้น
พี่ชายของหล่อนรับรู้กับการขอของหล่อนด้วยทุกครั้ง
แล้วครั้งนี้หล่อนก็เริ่มขอว่า "พราะผู้เป็นเจ้า เจ้าขา ลูกไม่ขออะไรอื่นเป็นของขวัญจากท่าน แต่ลูกขอเพียงตุกตาบาร์บี้เท่านั้น เหมือนทุกครั้งที่ลูกขอ
ลูกพร้อมที่จะแลกของขวัญตลอดทั้งปีที่ลูกจะได้รับ กับตุ๊กตาบาร์บี้"
แต่แล้ววันวาเลนไทน์ก็ผ่านไป....โดยไม่มีตุ๊กตาบาร์บี้เป็นของขวัญสำหรับเด็กหญิงเลย
แล้วหล่อนจึงตั้งใจว่า หล่อนจะขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าทุกวันจนกว่าท่านจะตอบรับคำขอของหล่อน
แล้วพี่ชายของหล่อนที่รับรู้กับการกระทำของน้องสาวมาโดยตลอด
จึงเดินเข้ามาบอกเด็กหญิงว่า " หยุดซะเถอะ พระเจ้าท่านมีงานที่ต้องทำมากมาย ท่านไม่ตอบรับคำขอของเธอหรอก"
เด็กหญิง หันมาตอบพี่ชายทั้งน้ำตาว่า " ตอบซิ ทำไมท่านจะไม่ตอบละ พระองค์ตอบเราว่า ไม่ ไงละ "
...........................................................
เห็นไหมละ ว่า พระผู้เป็นเจ้าตอบคำร้องขอของเราทุกคน เพียงแต่คำตอบนั้นมันจะตรงใจ หรือเป็นไปตามที่ใจเราต้องการหรือไม่เท่านั้นเอง
เราคงต้องเป็นคนหาคำตอบ และหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเองซะแล้วละ
.................................
ทำสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด ทำในสไตล์ของเรา
ข้อมูลจาก http://www.saranair.com/
คำตอบของพระเจ้า
กาลครั้งหนึ่งนานมาละ ...... มีเด็กหญิงคนหนึ่ง เฝ้าฝันมาตลอดว่า หล่อนอยากได้ตุ๊กตาบาร์บี้ซักตัว แค่ตัวเดียวเท่านั้นเอง ...
และแล้ววันเกิดหล่อนก็ใกล้เข้ามาถึง หล่อนเฝ้าสวดมนต์ อ้อนวอนขอต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า
" ลูกไม่ขออะไรอื่นที่มีค่ามากหรือมีราคาแพง แต่ลูกขอแค่ตุ๊กตาบาร์บี้ แค่ตัวเดียวเป็นของขวัญวันเกิดของลูก"
แต่แล้ววันเกิดหล่อนก็ผ่านไป โดยที่ไม่มีตุ๊กตาบาร์บี้ซักตัวเป็นของขวัญวันเกิด
เด็กหญิงไม่ละความพยายาม และความตั้งใจที่มี
วันคริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้ว เด็กหญิงบอกกับตัวเอง
แล้วหล่อนก็เริ่มขอพรจากพระเจ้าอีกครั้ง
หล่อนขอว่า "ครั้งนี้ลูกยังขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าเหมือนเดิม
ลูกขอแค่ตุ๊กตาบาร์บี้เป็นของขวัญวันคริสต์มาส
ลูกยอมแลกของขวัญทุกอย่างที่ลูกได้มา
เพี่ยงเพื่อขอให้ลูกได้ในสิ่งที่ลูกต้องการแค่นั้นเอง"
คริสต์มาสก็ผ่านไปอีกแล้ว ไร้ซึ่งคำขอของเด็กหญิง แล้วหล่อนก็ตั้งตารอวันวาเลนไทน์ที่จะมาถึง ใกล้เข้ามาแล้ว
แล้วหล่อนก็เริ่มขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าอีกครั้ง แล้วครั้งนี้ก็เหมือนเดิม
แต่ตลอดเวลาที่หล่อนเฝ้าขอพรนั้น
พี่ชายของหล่อนรับรู้กับการขอของหล่อนด้วยทุกครั้ง
แล้วครั้งนี้หล่อนก็เริ่มขอว่า "พราะผู้เป็นเจ้า เจ้าขา ลูกไม่ขออะไรอื่นเป็นของขวัญจากท่าน แต่ลูกขอเพียงตุกตาบาร์บี้เท่านั้น เหมือนทุกครั้งที่ลูกขอ
ลูกพร้อมที่จะแลกของขวัญตลอดทั้งปีที่ลูกจะได้รับ กับตุ๊กตาบาร์บี้"
แต่แล้ววันวาเลนไทน์ก็ผ่านไป....โดยไม่มีตุ๊กตาบาร์บี้เป็นของขวัญสำหรับเด็กหญิงเลย
แล้วหล่อนจึงตั้งใจว่า หล่อนจะขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าทุกวันจนกว่าท่านจะตอบรับคำขอของหล่อน
แล้วพี่ชายของหล่อนที่รับรู้กับการกระทำของน้องสาวมาโดยตลอด
จึงเดินเข้ามาบอกเด็กหญิงว่า " หยุดซะเถอะ พระเจ้าท่านมีงานที่ต้องทำมากมาย ท่านไม่ตอบรับคำขอของเธอหรอก"
เด็กหญิง หันมาตอบพี่ชายทั้งน้ำตาว่า " ตอบซิ ทำไมท่านจะไม่ตอบละ พระองค์ตอบเราว่า ไม่ ไงละ "
...........................................................
เห็นไหมละ ว่า พระผู้เป็นเจ้าตอบคำร้องขอของเราทุกคน เพียงแต่คำตอบนั้นมันจะตรงใจ หรือเป็นไปตามที่ใจเราต้องการหรือไม่เท่านั้นเอง
เราคงต้องเป็นคนหาคำตอบ และหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเองซะแล้วละ
.................................
ทำสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด ทำในสไตล์ของเรา
ข้อมูลจาก http://www.saranair.com/
-
- โพสต์: 111
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 31, 2009 7:53 am
- ที่อยู่: วันจันทร์-เสาร์ อยูใกล้วัดอัสสัมชัญ
ขอได้แหละครับ พระองค์ทราบสิ่งที่เรา จำเป็น-ต้องการ อยู่แล้ว
และหากสิ่งที่วอนขอ เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ด้วย ยิ่งดีใหญ่จ้า
ปล. อธิษฐานแล้ว ลงมือกระทำให้สอดคล้องกับสิ่งที่ขอด้วยจะดีมาก
และหากสิ่งที่วอนขอ เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ด้วย ยิ่งดีใหญ่จ้า
ปล. อธิษฐานแล้ว ลงมือกระทำให้สอดคล้องกับสิ่งที่ขอด้วยจะดีมาก
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอเถอะครับ ก่อนที่เราจะขอ พระองค์ทรงทราบอยู่แล้วว่าเราจะขออะไร
แต่พระองค์ทรงประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกของพระองค์เสมอนะครับ
แต่พระองค์ทรงประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกของพระองค์เสมอนะครับ
เรื่องสวดอะไรก็สวดได้สวดขอไปเถอะอย่างน้อยก็ทำให้เราสนิทกับพระเจ้าตามที่น้องส้มว่า
ส่วนพี่เมื่อคืนที่เอาเรื่องส่วนตัวพี่มาแจมแต่ไม่เิปิดเผยรายละเอียดเพราะเมื่อคืนคิดเป็นกังวลนิดหน่อยถ้าจะตั้งกระทูั้ก็ไม่อยากเป็นจุดเ่ด่นเกินไปเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว ที่จริงพี่ไม่ได้ทำงานอะไรแล้วก็ยังไม่ได้งานอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ วันนี้พี่ไปเรียนอบรมเพาะเห็ดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อบรมหนึ่งสัปดาห์ไปตั้งแต่เช้ากลับเย็นทุกวัน พี่จ่ายเงินลงทะเบียนไปตั้งแต่ต้นเดือน แล้วก็พึ่งไปเรียนนี้แหละ อันที่จริงแม่พี่ไม่เห็นด้วยเพราะเนื่องจากบ้านเราไม่มีที่เพาะเห็ดแม่บอกพี่ว่าถ้าอยากเพาะเห็ดต้องไปแถวชนบท หรือไม่ก็ที่ดินพี่แต่ที่ดินพี่มันไม่มีบ้านก็ถ้าจะเพาะที่นั่นก็ต้องไปปลูกกระต๊อบอยู่เอา มันเป็นอะไรที่ยากมากๆ กับงานใหม่ที่พี่กำลังคิดจะริเริม แล้วหม้อนึ่งเห็ดไม่ใช่ถูกๆ อันหนึ่งก็ราคาสองหมื่นเก้้าพันบาท ถ้าไม่มีหม้อนึ่งก็ทำไม่ได้ แล้วแม่พี่ก็บ่นว่าพี่จะขอเงินอีกแล้วต้อง 3 หมื่น น้องชายพี่พึ่งออาจาก รพ.ไปผ่าตัดไส้ติ่งหมดไป 7 หมื่น แต่น้องชายพี่มีประกันจ่ายให้แค่ 4 หมื่น ที่เหลือแม่ก็ต้องจ่ายให้แทน ที่แพงเพราะนอน รพ.เอกชน ก็ทำให้พี่หนักใจว่าถ้าแม่จ่ายเงินซื้อมาแล้วพี่เกิดทำไม่ได้เพราะ 1.ไมมีที่ดิน 2.ไม่มีตลาด เท่ากับเอาเงินแม่เสียไปฟรีๆ อีก 3 หมื่น พี่ไม่สบายใจ
ทำไมพี่ถึงคิดเรียนเพาะเห็ด สาเหตุว่าเดิมทีพวกงานเกษตรพี่ไม่เคยคิดว่าจะมาทำเป็นอาชีพหรือหากินแม้แต่น้อย พี่คิดว่าอยากมีที่ดินปลูกสวนดอกไม้ แล้วก็เลี้ยงปลาคาร์ป เป็นงานอดิเรก ที่ดินพี่มีแต่ว่ามันมีแต่ที่ดินเปล่าๆ มันทำไม่ได้ส่วนบ้านที่พี่อยู่มันก็ไม่มีที่ดินทีีพอจะปลูกได้ แต่น้องเท็นเคยแนะนำพี่ว่าไหนๆ พี่ก็รักดอกไม้แล้วก็น่าจะทำเป็นอาชีพเลย พี่ก็เห็นด้วยกับน้องเท็น แต่ว่าพวกดอกไม้ปลูกไปใครจะซื้อ พวกกลัวยไม้ตะกูลหวายถึงเพาะไปก็ราคาไม่กี่ตัง ตะกูลแคทลียาที่พี่ปลูกอยู่ถ้าทำเป็นอาชีพรายได้ดีแต่ต้องเป็นตลาดต่างประเทศเพราะราคามันสูงขายชาวบ้านคงไม่มีใครซื้อ พี่นั่งคิดอยู่หลายวันหลังจากที่น้องเท็นแนะนำพี่เห็นว่าดีไงเพราะพี่รักอยู่แล้ว ไหนๆ ก็คิดจะทำสวนดอกไม้แล้วก็ทำให้มันได้เงินเสียเลย เพราะยังไงถึงไม่ได้เิงินก็ต้องทำเนื่องจากใจรัก แต่คนเราจะ่ว่างงานอย่างนี้ไม่ได้ แล้วพี่ก็ไปเห็นห้องไฮห้าของน้องปังปอนด์เขาเก็บแต่รูปดอกไม้พี่เข้าไปชม แล้วเขาก็เก็บรูปเห็ดด้วยทำให้พี่นึกได้ว่านอกจากดอกไม้แล้วเห็ดก็เป็นอีกชนิดหนึ่งที่พี่ชอบรองลงมาแต่ไม่สู้ดอกไม้ แต่ถ้าทำก็จะมีคนซื้อเยอะกว่าเพราะใครๆ ก็ิกิน พี่ก็เลยตัดสินใจค้นหาข้อมูลในเน็ตเกี่ยวกับการเพาะเห็ดแล้วก็เจอมหาวิทยาลัยเกษตรรับสมัครก็เลยโทรไปสอบถามแล้วเขาบอกว่าให้สมัครวันที่ 2 กุมภาพันธุ์ 2552 แล้วก็เข้าเรียนวันที่ 31 มีนาคม 2552 พี่ก็ไปสมัครลงทะเบียนเรียน วันนี้ก็ได้ไปเรียนแล้วก็ลงมือทำไปแล้วด้วย แต่ที่พี่เป็นกังวัลก็กลัวว่าเรียนแล้วก็ไม่อาจจะทำได้จริงๆ ทั้งตลาดที่จะติดต่อ ทั้งที่ดินที่จะเพาะปลูก ก็เป็นเรื่องหนักใจ ก็เลยให้สวดให้
แม่พี่กับพ่อพี่ไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่ขัดเรื่องเรียนเพราะเรียนแม่พี่บอกว่าเรียนไปก็ไม่เสียหายแต่อยากให้เรียนซ่อมคอมพิวเตอร์ด้วยเพราะเห็นพี่ถนัดเรื่องคอมพิวเตอร์แต่พี่ก็ไม่ได้ติดสินใจคิดไปเรียน แม่พี่บอกว่าอยากให้พี่เปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ตึกแถวเราก็มีห้องหนึ่งว่างๆ ให้พี่ไปเรียนมาแล้วมาเปิด แต่ใจจริงพี่ไม่อยากเปิดร้านซ่อมคอมฯ หรือเป็นช่างคอมฯ คิดว่าเห็ดน่าจะเป็นหนทางที่ดีแต่ก็กลัวปัญหาอย่างที่บอกื วันนี้ไปถามอาจารย์เกี่ยวกับตลาด อ.ก็ไม่ยอมบอก
เมื่อคืนพูดแบบไม่ได้เปิดเผยแต่คิดไปเปิดเผยก็ดีมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร
ส่วนพี่เมื่อคืนที่เอาเรื่องส่วนตัวพี่มาแจมแต่ไม่เิปิดเผยรายละเอียดเพราะเมื่อคืนคิดเป็นกังวลนิดหน่อยถ้าจะตั้งกระทูั้ก็ไม่อยากเป็นจุดเ่ด่นเกินไปเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว ที่จริงพี่ไม่ได้ทำงานอะไรแล้วก็ยังไม่ได้งานอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ วันนี้พี่ไปเรียนอบรมเพาะเห็ดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อบรมหนึ่งสัปดาห์ไปตั้งแต่เช้ากลับเย็นทุกวัน พี่จ่ายเงินลงทะเบียนไปตั้งแต่ต้นเดือน แล้วก็พึ่งไปเรียนนี้แหละ อันที่จริงแม่พี่ไม่เห็นด้วยเพราะเนื่องจากบ้านเราไม่มีที่เพาะเห็ดแม่บอกพี่ว่าถ้าอยากเพาะเห็ดต้องไปแถวชนบท หรือไม่ก็ที่ดินพี่แต่ที่ดินพี่มันไม่มีบ้านก็ถ้าจะเพาะที่นั่นก็ต้องไปปลูกกระต๊อบอยู่เอา มันเป็นอะไรที่ยากมากๆ กับงานใหม่ที่พี่กำลังคิดจะริเริม แล้วหม้อนึ่งเห็ดไม่ใช่ถูกๆ อันหนึ่งก็ราคาสองหมื่นเก้้าพันบาท ถ้าไม่มีหม้อนึ่งก็ทำไม่ได้ แล้วแม่พี่ก็บ่นว่าพี่จะขอเงินอีกแล้วต้อง 3 หมื่น น้องชายพี่พึ่งออาจาก รพ.ไปผ่าตัดไส้ติ่งหมดไป 7 หมื่น แต่น้องชายพี่มีประกันจ่ายให้แค่ 4 หมื่น ที่เหลือแม่ก็ต้องจ่ายให้แทน ที่แพงเพราะนอน รพ.เอกชน ก็ทำให้พี่หนักใจว่าถ้าแม่จ่ายเงินซื้อมาแล้วพี่เกิดทำไม่ได้เพราะ 1.ไมมีที่ดิน 2.ไม่มีตลาด เท่ากับเอาเงินแม่เสียไปฟรีๆ อีก 3 หมื่น พี่ไม่สบายใจ
ทำไมพี่ถึงคิดเรียนเพาะเห็ด สาเหตุว่าเดิมทีพวกงานเกษตรพี่ไม่เคยคิดว่าจะมาทำเป็นอาชีพหรือหากินแม้แต่น้อย พี่คิดว่าอยากมีที่ดินปลูกสวนดอกไม้ แล้วก็เลี้ยงปลาคาร์ป เป็นงานอดิเรก ที่ดินพี่มีแต่ว่ามันมีแต่ที่ดินเปล่าๆ มันทำไม่ได้ส่วนบ้านที่พี่อยู่มันก็ไม่มีที่ดินทีีพอจะปลูกได้ แต่น้องเท็นเคยแนะนำพี่ว่าไหนๆ พี่ก็รักดอกไม้แล้วก็น่าจะทำเป็นอาชีพเลย พี่ก็เห็นด้วยกับน้องเท็น แต่ว่าพวกดอกไม้ปลูกไปใครจะซื้อ พวกกลัวยไม้ตะกูลหวายถึงเพาะไปก็ราคาไม่กี่ตัง ตะกูลแคทลียาที่พี่ปลูกอยู่ถ้าทำเป็นอาชีพรายได้ดีแต่ต้องเป็นตลาดต่างประเทศเพราะราคามันสูงขายชาวบ้านคงไม่มีใครซื้อ พี่นั่งคิดอยู่หลายวันหลังจากที่น้องเท็นแนะนำพี่เห็นว่าดีไงเพราะพี่รักอยู่แล้ว ไหนๆ ก็คิดจะทำสวนดอกไม้แล้วก็ทำให้มันได้เงินเสียเลย เพราะยังไงถึงไม่ได้เิงินก็ต้องทำเนื่องจากใจรัก แต่คนเราจะ่ว่างงานอย่างนี้ไม่ได้ แล้วพี่ก็ไปเห็นห้องไฮห้าของน้องปังปอนด์เขาเก็บแต่รูปดอกไม้พี่เข้าไปชม แล้วเขาก็เก็บรูปเห็ดด้วยทำให้พี่นึกได้ว่านอกจากดอกไม้แล้วเห็ดก็เป็นอีกชนิดหนึ่งที่พี่ชอบรองลงมาแต่ไม่สู้ดอกไม้ แต่ถ้าทำก็จะมีคนซื้อเยอะกว่าเพราะใครๆ ก็ิกิน พี่ก็เลยตัดสินใจค้นหาข้อมูลในเน็ตเกี่ยวกับการเพาะเห็ดแล้วก็เจอมหาวิทยาลัยเกษตรรับสมัครก็เลยโทรไปสอบถามแล้วเขาบอกว่าให้สมัครวันที่ 2 กุมภาพันธุ์ 2552 แล้วก็เข้าเรียนวันที่ 31 มีนาคม 2552 พี่ก็ไปสมัครลงทะเบียนเรียน วันนี้ก็ได้ไปเรียนแล้วก็ลงมือทำไปแล้วด้วย แต่ที่พี่เป็นกังวัลก็กลัวว่าเรียนแล้วก็ไม่อาจจะทำได้จริงๆ ทั้งตลาดที่จะติดต่อ ทั้งที่ดินที่จะเพาะปลูก ก็เป็นเรื่องหนักใจ ก็เลยให้สวดให้
แม่พี่กับพ่อพี่ไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่ขัดเรื่องเรียนเพราะเรียนแม่พี่บอกว่าเรียนไปก็ไม่เสียหายแต่อยากให้เรียนซ่อมคอมพิวเตอร์ด้วยเพราะเห็นพี่ถนัดเรื่องคอมพิวเตอร์แต่พี่ก็ไม่ได้ติดสินใจคิดไปเรียน แม่พี่บอกว่าอยากให้พี่เปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ตึกแถวเราก็มีห้องหนึ่งว่างๆ ให้พี่ไปเรียนมาแล้วมาเปิด แต่ใจจริงพี่ไม่อยากเปิดร้านซ่อมคอมฯ หรือเป็นช่างคอมฯ คิดว่าเห็ดน่าจะเป็นหนทางที่ดีแต่ก็กลัวปัญหาอย่างที่บอกื วันนี้ไปถามอาจารย์เกี่ยวกับตลาด อ.ก็ไม่ยอมบอก
เมื่อคืนพูดแบบไม่ได้เปิดเผยแต่คิดไปเปิดเผยก็ดีมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อังคาร มี.ค. 31, 2009 10:59 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
วันนี้พี่ไปอบรม อ.ให้ทำเห็ดฟ้างบนพื่้นซีเมนฝึกภาคสนาม ที่จริงเห็ดฟางไม่ต้องใช้หม้อนึ่งเหมือนเห็ดหอม เห็ดหูหนู เห็ดนางฟ้า แต่สามารถชื่อเชื่อที่เขาเพาะเนื้อเยื่อแล้วมาใส่ได้เลย (เมื่อวานพี่ก็เรียนเพาะเนื้อเยื่อใส่ขวด วันนี้หัดลงแปลงปลุก) แล้วก็สามารถเพาะบนพื้นคอนกรีตได้อีกด้วย ด้วยการเอาผ้าพลาสติกปู วันนี้พี่ก็เลยยืนคิดว่า ถ้าเพาะเห็ดฟางบนพื้นคอนกรีตได้บ้านพี่ตอนนี้ก็ไม่น่ามีปัญหาถ้าอะไร พี่กลับมาถึงบ้านพี่ก็เดินไปดูพื่นที่บ้านพี่ตรงนั้นคำนวนดูจำขนาดแปลงเพาะเห็ดที่ อ. สอนมาวันนี้เทียบกับพื่นที่บริเวณนั้นดูสามารถเพาะได้ร้อยกว่าแปลงแบบสบายๆ แล้วแปลงหนึ่งเก็บได้เยอะมากสามารถนำส่งแม่ค้าในตลาดได้เจ้าหนึ่งสบายๆ แล้วร้อยกว่าแปลงนี้มันไม่ใช่น้อยนะเยอะมาหาศาลเลยครับ คิดดูแบบนี้ก็น่าเล่นครับ อ.สอนวันนี้แล้วเมื่อตอนกลางวันพี่ก็เล่าให้ อ.ฟัง อ.บอกทำได แต่ถ้ามีปัญหาคือพื่นบ้านพี่มันไม่เอียง พื่่นคอนกรีตเพาะได้แต่ต้องเอียงเพือให้น้ำมันไหลออกไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาเชื่อแบททีเรียตกค้าง ถ้าทำได้ก็ไม่ต้องไปเสียเงิน 3 หมื่นเพื่อซื้อหม้อนึ่งเห็ด แล้วก็ไม่ต้องไปใช้เนื้อที่ที่อื่นที่บ้านเราชาวกรุงก็ทำได้ เพราะที่ตรงนั้้นว่างๆ เป็นตะไคร่หมดไม่มีคนเข้าไปเป็นคอนกรีตล้วนๆ มีแต่น้ำเขียวๆ ขังเดินก็ลื่นแล้วข้างๆ ก็มีต้นโบ้ยเซียที่แม่พี่ปลูกไว้เรียงเป็นแถวออกดอกสวยงามเต็มไปหมดฤดูฝนจะมีแมลงปอบินมาเกาะเหนือน้ำ แล้วตรงที่น้ำขังพี่นี่แหละที่พี่กังวลเชื่อแบททีเรีย ถ้าทำก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ คิดไปก็น่าลองทำเหมือนกัน แต่ยังเหลือเวลาอบรมอีกหลายวันยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกเห็ดชนิดไหนก็ต้องดูไปก่อน เพื่อมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าตัวนี้ แต่เวลานี้ในใจคิดว่าถ้าทำเห็นฟางได้ก็น่าทำไปก่อนให้เรามีงานทำไปก่อนแล้วมีเงินก็ค่อยเก็บเงินซื้อหม้อนึ่งด้วยตัวเองไม่ต้องขอเงินแม่ พี่คิดตอนนี้นะ แต่ก็ไม่แน่ถ้ามีช่องทางอะไรมากกว่านี้ก็จะหาช่องทางอื่น เมื่อตอนเช้าคิดว่าถ้าซื้อหม้อนึ่งมาแล้วเพราะแต่เนื้อเยื่อเห็ดฟางขายอย่างใดไม่ต้องทำแปลงก็น่าจะทำได้แต่ปัญหามันอยู่ที่ตลาดแล้วทุนก็แพงเสี่ยงมากไป กับอีกวิธีหนึ่งก็ดังที่บอกน่าจะเป็นช่องทางได้ง่ายกว่า แต่ อ.บอกว่าพื้นซีเมนต้องเอียงให้น้ำไหลลงเพื่อไม่ให้แบททีเรียตกค้าง แต่ซีเมนบ้านพี่มันมีน้ำขัง ถ้าทำจริงก็ต้องหาวิธีแก้เอา แต่ที่แน่ๆ ยังไงก็ต้องหาอะไรทำไปก่อน ยังไงก็สวดให้พี่มีงานทำ
รู้สึกมันอยู่ในหัวข้อคนอื่นมากไปหรือจะย้ายไปตั้งกระทู้ใหม่ดี
รู้สึกมันอยู่ในหัวข้อคนอื่นมากไปหรือจะย้ายไปตั้งกระทู้ใหม่ดี
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 02, 2009 12:28 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขอบคุณครับ ค่อยมีกำลังใจหน่อยที่ชมว่าเป็นประโยชน์เพราะลบๆ ตอบๆ อยู่หลายรอบเหมือนกันกลัวมันจะนอกเรื่อง
เท่าที่พี่ไปอบรมจนจบหลักสูตรเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ไปดูงานถึงจังหวัดอ่างทอง ไปสองแห่งคือจ.นนทบุรี กับ จ.อ่านทองไปรถบัสใหญ่ติดแอร์สองคัน พากลุ่มคณะชาวอบรมเพาะเห็ด ม.เกษตร ไปดูงานกันแถมยังเลี้ยงอาหารกลางวันอยู่ในนั้นเสร็จก็คิดว่าคุ้มครับ พี่จ่ายค่าอบรมแ่ค่ 1900 บาท แต่อบรมหนึ่งอาทิตย์แล้วก็แถมยังได้ชมสถานที่จริง ได้ใบประกาศจากสถาบัญ
ที่นี้ก็มาถึงช่วงที่ว่าจะตัดสินใจ พี่ไปดูเขาเพาะเห็ดฟางกองเตี้ยที่สถานที่จริง เห็ดฟางกองเตี้ยน่าสนใจอย่างมากเพาะก็ไม่อยากแล้วทางฟาร์มก็มีอุปกรณ์จำหน่ายครบเพราะฟาร์มเห็ดฟางกองเตียและผลิตเชื้อขายอยู่ในจังหวัดนนทบุรีซึ่งเป็นฟาร์มเห็ดที่ใหญ่และครบวงจร อยู่ในจังหวัดนนทบุรีเหมือน ถนนรัตนาธิเบศร์ซื่อเป็นถนนที่ออกซอยหลังบ้านพี่ จากถนนรัตนาธิเบศร์ข้ามสะพานพระนั่งกล้าตรงไปอย่างเดียวแล้วเลี้ยวซ้ายแล้วขึ้นสะพานไปสามสะพานก็ถึงแล้ว ซึ่งก็สามารถไปซื้ออุปกรณ์ได้ ตอนแรกไปดูงานก็ิคิดว่าบ้านเราทำได้อย่างที่เคยบอกไว้ว่าเพาะเห็ดฟางกองเตี้ยได้ แล้วพี่ก็นั่งคุยกับเจ้าของฟาร์มเห็ดเขาบอกว่าถ้าไม่มีที่ก็เพาะในถุงปุ๋ยก็ขึ้นหรือในแข่งก็ได้ อ.ผู้หญิงก็บอกก่อนว่านี้เหมือนกันตอนพี่บอกเขาว่าจะเพาะ อ.บอกว่าถ้าไม่มีที่เพาะในถุงปุ๋ยได้ แต่สมองตอนนั้นพี่ก็คิดขึ้นมาได้อีกแง้หนึ่งการเพาะเห็ดฟางเยอะๆ โดยที่ยังไม่ได้ลองฝืมือก่อนมันก็เสื่ยงอย่างมากแต่ก็ไม่เท่าไรเพาะทุนมันไม่มากเสียก็ซื้อใหม่คิดว่าเป็นบทเรียนเรื่องนั้นเรื่องเล็กแต่ที่น่ากลัวว่านั้นคือ 1. เอาเข้าตัวเมืองไม่ได้ผิดกฏหมายถ้าเขาตรวจเจอเขาจับ 2. ถ้าเอากองฟางไว้ในบ้านจำนานมากมีสิทธิ์เสียบ้านได้ถ้าใครเอาเชื้อเพลิงมาทิ้งลงตรงนั้นไฟไหม้บ้านตัวเองได้ เท่ากับหาเรื่องเอากองฟางมาสุมเผาบ้านตัุวเอง จึงสรุปได้ว่าโครงการเห็ดฟางกองเตียที่คิดจะปลูกในเมืองทำไม่ได้ต้องยกเลิก ด้วยปัจจัยอย่างที่บอกมันเสี่ยงเกินไป
ดังนั้นจึงหันมาคิดที่เห็นถุง กับเห็ดขอน เห็ดขอนก็คือการเอาขาดไม้มาเจอะให้เป็นรูแล้วเอาเชื้อเห็ดใส่ลงปิดจุก ไปพี่ก็ได้เรียนแล้วก็หัดทำมาเรียบร้อยแล้วสมารถทำได้ แต่ปัญหาก็ค็คือต้องขนขอนไม้แล้วเป็นไม้มะม่วงดีที่สุดเข้ามาซึ่งก็ยุ้งยากไปอีก พี่ก็เลยมองมาที่เห็ดถุง เห็ดถุงใหม่ๆ สามารถซื้อถุงมาเิปิดดอกได้เลยแต่ว่าต้องมีโรงเรือนที่รักษาอุณหภูมิและป้องกันเชื้อ แต่ถ้าโรงเรือนไม่มีพี่ก็คิดว่าใช้ห้องน้ำไปก่อนได้ แล้วห้องน้ำที่บ้านมีสามห้อง มีอยู่ห้องหนึ่งปิดตายไม่ได้ใช้ ห้องนั้นเนื้อที่่ประมาณ 3 คูณ 2 เมตรครั่งภายในปูกระเบื่องสวยอย่างดีสมัยก่อนมีลูกจ้างหลายคน ทุกวันนี้ใช้แค่สองห้องห้องนั้นปิดตายเป็นแค่ห้องอาบน้ำอย่างเดียวกับอ่างล้างหน้าไม่มีโถส่วมเพราะใช้แค่อาบน้ำเท่านั้น ถ้ามีโถส้วมเมื่อไรพี่ไม่เอาแน่เพราะพี่เกียดอย่างมากที่เอาของกินไว้ในนั้น พี่ก็คิดว่าจะลองจากเห็ดถุงโดยซื้อเป็นก้อนๆ มาจัดชั้้นเปิดในห้องนั้นดูก่อน แล้วก็จะลองเห็ดฟางในถุงปุ๋ยด้วยแต่แบบไม่เยอะเอาไม่กี่ถุงก่อน สรุปเอาทุกเห็ดเลยลองดู ตอนนี้ที่ซื้อเชื้อมาก็เห็นหูหนู เห็ดภูฐาน ส่วนเห็น ยานางิ พี่ขอเชื่อมาจาท อ.ที่เรียน เพาะลงขี้เลื่อยแล้วหนึ่งถุง แล้วก็ซื้อขี้เลื่อยเปล่าที่นึ่งแล้วมาเพิ่มกำลังจะเพาะลงถุงอยู่ ถ้าเชื่อเจริญเต็มถุงก็จะเอาไปตั้งในห้องนั้้นเพื่อเปิดดอก ยังไม่รู้เลยว่าจะสำเร็จประการใดก็ต้องเริ่มต้นจากเล็กๆ น้อยๆ ไปก่อนค่อยๆ ขาย ค่อยๆ ลองหาตลาดดูจากเล็กๆ ไปก่อนแล้วกัน ถ้ามันทำได้ค่อยซื้อมาลงเพิ่มแล้วค่อยๆ ขยาย แต่ยังไงพี่ก็ต้องทำม้นแน่เพราะพี่เป็นคนรักเดียวใจเดียว รักแล้วก็ต้องรีบลงมือทำแล้วจะต้องทำให้มันผ่านให้ได้ ยังไงก็สวดแล้วก็เป็นกำลังใจให้พี่ด้วยแล้วกัน
เท่าที่พี่ไปอบรมจนจบหลักสูตรเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ไปดูงานถึงจังหวัดอ่างทอง ไปสองแห่งคือจ.นนทบุรี กับ จ.อ่านทองไปรถบัสใหญ่ติดแอร์สองคัน พากลุ่มคณะชาวอบรมเพาะเห็ด ม.เกษตร ไปดูงานกันแถมยังเลี้ยงอาหารกลางวันอยู่ในนั้นเสร็จก็คิดว่าคุ้มครับ พี่จ่ายค่าอบรมแ่ค่ 1900 บาท แต่อบรมหนึ่งอาทิตย์แล้วก็แถมยังได้ชมสถานที่จริง ได้ใบประกาศจากสถาบัญ
ที่นี้ก็มาถึงช่วงที่ว่าจะตัดสินใจ พี่ไปดูเขาเพาะเห็ดฟางกองเตี้ยที่สถานที่จริง เห็ดฟางกองเตี้ยน่าสนใจอย่างมากเพาะก็ไม่อยากแล้วทางฟาร์มก็มีอุปกรณ์จำหน่ายครบเพราะฟาร์มเห็ดฟางกองเตียและผลิตเชื้อขายอยู่ในจังหวัดนนทบุรีซึ่งเป็นฟาร์มเห็ดที่ใหญ่และครบวงจร อยู่ในจังหวัดนนทบุรีเหมือน ถนนรัตนาธิเบศร์ซื่อเป็นถนนที่ออกซอยหลังบ้านพี่ จากถนนรัตนาธิเบศร์ข้ามสะพานพระนั่งกล้าตรงไปอย่างเดียวแล้วเลี้ยวซ้ายแล้วขึ้นสะพานไปสามสะพานก็ถึงแล้ว ซึ่งก็สามารถไปซื้ออุปกรณ์ได้ ตอนแรกไปดูงานก็ิคิดว่าบ้านเราทำได้อย่างที่เคยบอกไว้ว่าเพาะเห็ดฟางกองเตี้ยได้ แล้วพี่ก็นั่งคุยกับเจ้าของฟาร์มเห็ดเขาบอกว่าถ้าไม่มีที่ก็เพาะในถุงปุ๋ยก็ขึ้นหรือในแข่งก็ได้ อ.ผู้หญิงก็บอกก่อนว่านี้เหมือนกันตอนพี่บอกเขาว่าจะเพาะ อ.บอกว่าถ้าไม่มีที่เพาะในถุงปุ๋ยได้ แต่สมองตอนนั้นพี่ก็คิดขึ้นมาได้อีกแง้หนึ่งการเพาะเห็ดฟางเยอะๆ โดยที่ยังไม่ได้ลองฝืมือก่อนมันก็เสื่ยงอย่างมากแต่ก็ไม่เท่าไรเพาะทุนมันไม่มากเสียก็ซื้อใหม่คิดว่าเป็นบทเรียนเรื่องนั้นเรื่องเล็กแต่ที่น่ากลัวว่านั้นคือ 1. เอาเข้าตัวเมืองไม่ได้ผิดกฏหมายถ้าเขาตรวจเจอเขาจับ 2. ถ้าเอากองฟางไว้ในบ้านจำนานมากมีสิทธิ์เสียบ้านได้ถ้าใครเอาเชื้อเพลิงมาทิ้งลงตรงนั้นไฟไหม้บ้านตัวเองได้ เท่ากับหาเรื่องเอากองฟางมาสุมเผาบ้านตัุวเอง จึงสรุปได้ว่าโครงการเห็ดฟางกองเตียที่คิดจะปลูกในเมืองทำไม่ได้ต้องยกเลิก ด้วยปัจจัยอย่างที่บอกมันเสี่ยงเกินไป
ดังนั้นจึงหันมาคิดที่เห็นถุง กับเห็ดขอน เห็ดขอนก็คือการเอาขาดไม้มาเจอะให้เป็นรูแล้วเอาเชื้อเห็ดใส่ลงปิดจุก ไปพี่ก็ได้เรียนแล้วก็หัดทำมาเรียบร้อยแล้วสมารถทำได้ แต่ปัญหาก็ค็คือต้องขนขอนไม้แล้วเป็นไม้มะม่วงดีที่สุดเข้ามาซึ่งก็ยุ้งยากไปอีก พี่ก็เลยมองมาที่เห็ดถุง เห็ดถุงใหม่ๆ สามารถซื้อถุงมาเิปิดดอกได้เลยแต่ว่าต้องมีโรงเรือนที่รักษาอุณหภูมิและป้องกันเชื้อ แต่ถ้าโรงเรือนไม่มีพี่ก็คิดว่าใช้ห้องน้ำไปก่อนได้ แล้วห้องน้ำที่บ้านมีสามห้อง มีอยู่ห้องหนึ่งปิดตายไม่ได้ใช้ ห้องนั้นเนื้อที่่ประมาณ 3 คูณ 2 เมตรครั่งภายในปูกระเบื่องสวยอย่างดีสมัยก่อนมีลูกจ้างหลายคน ทุกวันนี้ใช้แค่สองห้องห้องนั้นปิดตายเป็นแค่ห้องอาบน้ำอย่างเดียวกับอ่างล้างหน้าไม่มีโถส่วมเพราะใช้แค่อาบน้ำเท่านั้น ถ้ามีโถส้วมเมื่อไรพี่ไม่เอาแน่เพราะพี่เกียดอย่างมากที่เอาของกินไว้ในนั้น พี่ก็คิดว่าจะลองจากเห็ดถุงโดยซื้อเป็นก้อนๆ มาจัดชั้้นเปิดในห้องนั้นดูก่อน แล้วก็จะลองเห็ดฟางในถุงปุ๋ยด้วยแต่แบบไม่เยอะเอาไม่กี่ถุงก่อน สรุปเอาทุกเห็ดเลยลองดู ตอนนี้ที่ซื้อเชื้อมาก็เห็นหูหนู เห็ดภูฐาน ส่วนเห็น ยานางิ พี่ขอเชื่อมาจาท อ.ที่เรียน เพาะลงขี้เลื่อยแล้วหนึ่งถุง แล้วก็ซื้อขี้เลื่อยเปล่าที่นึ่งแล้วมาเพิ่มกำลังจะเพาะลงถุงอยู่ ถ้าเชื่อเจริญเต็มถุงก็จะเอาไปตั้งในห้องนั้้นเพื่อเปิดดอก ยังไม่รู้เลยว่าจะสำเร็จประการใดก็ต้องเริ่มต้นจากเล็กๆ น้อยๆ ไปก่อนค่อยๆ ขาย ค่อยๆ ลองหาตลาดดูจากเล็กๆ ไปก่อนแล้วกัน ถ้ามันทำได้ค่อยซื้อมาลงเพิ่มแล้วค่อยๆ ขยาย แต่ยังไงพี่ก็ต้องทำม้นแน่เพราะพี่เป็นคนรักเดียวใจเดียว รักแล้วก็ต้องรีบลงมือทำแล้วจะต้องทำให้มันผ่านให้ได้ ยังไงก็สวดแล้วก็เป็นกำลังใจให้พี่ด้วยแล้วกัน
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ เม.ย. 06, 2009 12:12 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
"จงมอบงานของเจ้าไว้กับพระเจ้า และแผนงานของเจ้าจะได้รับการสถาปนาไว้" (สุภาษิต 6:3)
"ถ้าท่านอธิษฐานด้วยความเชื่อ ท่านก็จะได้รับทุกอย่างตามที่อธิษฐานขอ" (มัทธิว 21:22)
"พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า" (ยรม 29:11)
วางใจในวิถีทางของพระองค์นะค๊ะ เพราะพระองค์ตรัสไว้ว่า ..วิถีทางของเราสูงกว่าเจ้า
แล้วถ้าสิ่งที่เราอธิษฐานขอเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าล่ะก็.. ยังไงเราก็ต้องได้ค่ะ ^^
สุดท้ายนี้.. มีคำพยานหนุนใจมาฝากค่ะ (ยาวหน่อยนะค๊ะ แต่ว่าดีมากๆเลย)
ผมชื่ออิ๊กคิวครับ เป็นนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เอกภาษาเกาหลีครับ .ขอบคุณพระเจ้าสำหรับความรัก และ ความยิ่งใหญ่ที่ทรงเมตตาสำแดงแก่ผมอย่างมากมาย. เมื่อตอนผมกำลังจบ ม.6 พี่จูน ซึ่งตอนนี้กำลังศึกษาต่อที่เกาหลี ส่งเอกสารเกี่ยวกับเรื่องทุนเรียนฟรีของรัฐบาลเกาหลีมา และ อยากให้ผมสมัคร และ อธิษฐานขอพระเจ้าให้ได้ไป แต่ตอนนั้น ผมอดอาหาร และวิ่งเต้นเรื่องทุน ไม่มีสันติสุขเลยครับ มันไม่เป็นพรเลย เพราะว่าอีก 3 วันจะหมดเขตการรับสมัครแล้ว ผมทำไปครึ่งหนึ่ง แล้วร้องให้..."ไม่ไปก็ได้" ...ก็เลยเลิกทำใบสมัครต่อ ในใบสมัครนั้น ต้องสอบโทเฟิล และต้องมีคะแนน 550 ขึ้นไป เขียนใบสมัครภาษาอังกฤษ เขียนเรียงความ แนะนำตัว 2 หน้า เขียนวัตถุประสงค์การไปเรียน แผนการเรียน และ จะนำกลับมาใช้ในประเทศไทยอย่างไร มันยากมากสำหรับผม ผมเลยอดอาหารกับพระเจ้า และตื้อพระองค์ตลอดที่เรียนปี1 ว่าอยากไปใจจะขาดแล้ว ทั้งอดอาหาร ทั้งจดจ่ออยู่ที่หน้าคอม เพื่อดูว่าเขาจะประกาศรับสมัครวันไหนอีก
แต่ระหว่างที่เรียนปี1 เพื่อรอคำตอบจากพระเจ้าไปด้วย พระเจ้าก็สอนผมอย่างมากมาย ผมไปร่วมนมัสการที่คริสตจักรร่มเย็น ปัตตานี ผู้นำเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งไว้จริงๆครับ ท่านไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย มีความเชื่อมาก และมีของประทานเพื่อคริสตจักรของพระเจ้ามากมายเลยทีเดียวครับ แต่เกิดอะไรกับผมก็ไม่รู้ ผมเกิดอารมณ์ไม่อยากรับใช้ขึ้นมาซะงั้น รู้สึกว่ามันเป็น ..."ภาระ"... แค่เรียนก็จะตายอยู่แล้ว ไหนจะกิจกรรมของน้องปีหนึ่งอีกมากมาย ไม่เอาล่ะ ขอบาย กับการรับใช้ เวลาใครบอกใหช่วยนำเพลง ผมก็จะตอบว่า "เดี๋ยวผมไปอธิษฐานดูก่อนดีกว่าครับ ผมรู้สึกว่าผมไม่พร้อม" แล้ว พอเขามาถามอีก ก็บอกว่า "ไม่ล่ะครับ" "ไม่ว่าง" "ไม่อยากทำ " หรือไม่ก็อ้างว่า
"ถ้าท่านอธิษฐานด้วยความเชื่อ ท่านก็จะได้รับทุกอย่างตามที่อธิษฐานขอ" (มัทธิว 21:22)
"พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า" (ยรม 29:11)
วางใจในวิถีทางของพระองค์นะค๊ะ เพราะพระองค์ตรัสไว้ว่า ..วิถีทางของเราสูงกว่าเจ้า
แล้วถ้าสิ่งที่เราอธิษฐานขอเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าล่ะก็.. ยังไงเราก็ต้องได้ค่ะ ^^
สุดท้ายนี้.. มีคำพยานหนุนใจมาฝากค่ะ (ยาวหน่อยนะค๊ะ แต่ว่าดีมากๆเลย)
ผมชื่ออิ๊กคิวครับ เป็นนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เอกภาษาเกาหลีครับ .ขอบคุณพระเจ้าสำหรับความรัก และ ความยิ่งใหญ่ที่ทรงเมตตาสำแดงแก่ผมอย่างมากมาย. เมื่อตอนผมกำลังจบ ม.6 พี่จูน ซึ่งตอนนี้กำลังศึกษาต่อที่เกาหลี ส่งเอกสารเกี่ยวกับเรื่องทุนเรียนฟรีของรัฐบาลเกาหลีมา และ อยากให้ผมสมัคร และ อธิษฐานขอพระเจ้าให้ได้ไป แต่ตอนนั้น ผมอดอาหาร และวิ่งเต้นเรื่องทุน ไม่มีสันติสุขเลยครับ มันไม่เป็นพรเลย เพราะว่าอีก 3 วันจะหมดเขตการรับสมัครแล้ว ผมทำไปครึ่งหนึ่ง แล้วร้องให้..."ไม่ไปก็ได้" ...ก็เลยเลิกทำใบสมัครต่อ ในใบสมัครนั้น ต้องสอบโทเฟิล และต้องมีคะแนน 550 ขึ้นไป เขียนใบสมัครภาษาอังกฤษ เขียนเรียงความ แนะนำตัว 2 หน้า เขียนวัตถุประสงค์การไปเรียน แผนการเรียน และ จะนำกลับมาใช้ในประเทศไทยอย่างไร มันยากมากสำหรับผม ผมเลยอดอาหารกับพระเจ้า และตื้อพระองค์ตลอดที่เรียนปี1 ว่าอยากไปใจจะขาดแล้ว ทั้งอดอาหาร ทั้งจดจ่ออยู่ที่หน้าคอม เพื่อดูว่าเขาจะประกาศรับสมัครวันไหนอีก
แต่ระหว่างที่เรียนปี1 เพื่อรอคำตอบจากพระเจ้าไปด้วย พระเจ้าก็สอนผมอย่างมากมาย ผมไปร่วมนมัสการที่คริสตจักรร่มเย็น ปัตตานี ผู้นำเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งไว้จริงๆครับ ท่านไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย มีความเชื่อมาก และมีของประทานเพื่อคริสตจักรของพระเจ้ามากมายเลยทีเดียวครับ แต่เกิดอะไรกับผมก็ไม่รู้ ผมเกิดอารมณ์ไม่อยากรับใช้ขึ้นมาซะงั้น รู้สึกว่ามันเป็น ..."ภาระ"... แค่เรียนก็จะตายอยู่แล้ว ไหนจะกิจกรรมของน้องปีหนึ่งอีกมากมาย ไม่เอาล่ะ ขอบาย กับการรับใช้ เวลาใครบอกใหช่วยนำเพลง ผมก็จะตอบว่า "เดี๋ยวผมไปอธิษฐานดูก่อนดีกว่าครับ ผมรู้สึกว่าผมไม่พร้อม" แล้ว พอเขามาถามอีก ก็บอกว่า "ไม่ล่ะครับ" "ไม่ว่าง" "ไม่อยากทำ " หรือไม่ก็อ้างว่า
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณพระเจ้าครับ หนุนใจได้ดีมากครับ
-
- โพสต์: 202
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:23 pm
- ที่อยู่: 1506/504 ซ.7/ม.สราลี เทพารักษ์ สป. // อาสนวิหาอัสสัมชัญ
- ติดต่อ:
โอ้! เราเองก้อกำลังมีคำถามงี้เหมือนกัน
แต่เราว่าน่าจะขอดูก่อนนะ อย่างน้อยก็บอกพระ ปรึกษาพระ
จะได้ไม่ได้ อีกรื่อง แต่เราว่าวางใจให้พระองค์ทรงนำแหละดีสุด และเราจะได้สิ่งที่ดีที่สุดจ้ะ ^^
แต่เราว่าน่าจะขอดูก่อนนะ อย่างน้อยก็บอกพระ ปรึกษาพระ
จะได้ไม่ได้ อีกรื่อง แต่เราว่าวางใจให้พระองค์ทรงนำแหละดีสุด และเราจะได้สิ่งที่ดีที่สุดจ้ะ ^^
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
อ่านคำหนุนใจแล้วรุ้สึกดีมากครับ