++มิสซาคืออะไรครับ++
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
โปรเตสแตนต์ เรียก นมัสการ ครับ 

-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
มิสซา
มนุษย์ทุกคน จากทุกยุคทุกสมัย ได้ถวายบูชาแด่พระของตน ที่จริงแล้วเขาถือว่า การถวายบูชานี้เป็นกิจกรรมสูงสุดของศาสนา จริงแล้วมีบางครั้งในประวัติศาสตร์ที่พระเป็นเจ้าได้ตรัสล่วงหน้าถึงการถวายบูชาใหม่และเป็นบูชาของมนุษย์ทั่วไป คือการบูชาของพระบุตรของพระองค์เอง
" เราไม่มีความโปรดปรานอันใดในตัวเจ้า พระเจ้าจอมโยธาได้ตรัสไว้ เราจะไม่รับบูชาใด ๆ จากมือของเจ้า เพราะว่าจากดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ตก พระนามของเราจะยิ่งใหญ่ ท่ามกลางนานาชาติและในสถานที่ทุกแห่งเขาจะนำบูชามาถวายแด่พระนามของเรา และเป็นการถวายที่บริสุทธิ์ เพราะพระนามของเรายิ่งใหญ่ท่ามกลางนานาชาติ พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ " ( มลค. 1 : 10 - 11 )
การถวายบูชาใหม่ที่ว่านี้คือ มิสซา ซึ่งเป็นการรื้อฟื้นมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าบนพระแท่นของชาวเรา บนไม้กางเขนที่เขากัลวาริโอ พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่กู้เรา ในบูชามิสซาซึ่งถวายแด่พระเป็นเจ้าทุกวันทั่วโลก พระเยซูเจ้าได้โปรดประทานผลแห่งการกอบกู้แก่เรา การถวายบูชาทั้งหลายในอดีตรวมกันก็ยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะชดเชยบาปของเราได้ มีแต่การถวายบูชามิสซาของพระเยซูเจ้าเท่านันที่นำมาซึ่งความเต็มเปี่ยมแห่งการกอบกู้
" เพราะว่า ถ้าหากว่าเลือดแพะและเลือดวัว และการโปรยเถ้า ของลูกวัวสาวยังทำให้ผู้กระทำผิดได้กลับเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วพระโลหิตของพระเยซูเจ้า ผู้ซึ่งโดยพระประสงค์แต่นิรันดร ที่จะถวายพระองค์เองผู้ไม่มีมลทินแด่พระเป็นเจ้า จะสามารถชำระจิตใจของเรา การงานที่ไม่มีคุณค่า เพื่อเป็นการคารวะแด่พระเป็นเจ้าสักเพียงไร" ( ฮบ. 9 : 13 - 14 )
พูดถึงความจริงที่ยิ่งใหญ่ของการถวายบูชามิสซา นักบุญเปาโลได้ประกาศว่า ท่านมิได้พูดอะไรด้วยตัวท่านเอง แต่ว่าได้เรียนรู้มิสซาคืออะไร จากการไขแสดงของพระเป็นเจ้าเอง
ที่มา http://www.catholic.or.th/tips/little1/tip1.html
มนุษย์ทุกคน จากทุกยุคทุกสมัย ได้ถวายบูชาแด่พระของตน ที่จริงแล้วเขาถือว่า การถวายบูชานี้เป็นกิจกรรมสูงสุดของศาสนา จริงแล้วมีบางครั้งในประวัติศาสตร์ที่พระเป็นเจ้าได้ตรัสล่วงหน้าถึงการถวายบูชาใหม่และเป็นบูชาของมนุษย์ทั่วไป คือการบูชาของพระบุตรของพระองค์เอง
" เราไม่มีความโปรดปรานอันใดในตัวเจ้า พระเจ้าจอมโยธาได้ตรัสไว้ เราจะไม่รับบูชาใด ๆ จากมือของเจ้า เพราะว่าจากดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ตก พระนามของเราจะยิ่งใหญ่ ท่ามกลางนานาชาติและในสถานที่ทุกแห่งเขาจะนำบูชามาถวายแด่พระนามของเรา และเป็นการถวายที่บริสุทธิ์ เพราะพระนามของเรายิ่งใหญ่ท่ามกลางนานาชาติ พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ " ( มลค. 1 : 10 - 11 )
การถวายบูชาใหม่ที่ว่านี้คือ มิสซา ซึ่งเป็นการรื้อฟื้นมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าบนพระแท่นของชาวเรา บนไม้กางเขนที่เขากัลวาริโอ พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่กู้เรา ในบูชามิสซาซึ่งถวายแด่พระเป็นเจ้าทุกวันทั่วโลก พระเยซูเจ้าได้โปรดประทานผลแห่งการกอบกู้แก่เรา การถวายบูชาทั้งหลายในอดีตรวมกันก็ยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะชดเชยบาปของเราได้ มีแต่การถวายบูชามิสซาของพระเยซูเจ้าเท่านันที่นำมาซึ่งความเต็มเปี่ยมแห่งการกอบกู้
" เพราะว่า ถ้าหากว่าเลือดแพะและเลือดวัว และการโปรยเถ้า ของลูกวัวสาวยังทำให้ผู้กระทำผิดได้กลับเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วพระโลหิตของพระเยซูเจ้า ผู้ซึ่งโดยพระประสงค์แต่นิรันดร ที่จะถวายพระองค์เองผู้ไม่มีมลทินแด่พระเป็นเจ้า จะสามารถชำระจิตใจของเรา การงานที่ไม่มีคุณค่า เพื่อเป็นการคารวะแด่พระเป็นเจ้าสักเพียงไร" ( ฮบ. 9 : 13 - 14 )
พูดถึงความจริงที่ยิ่งใหญ่ของการถวายบูชามิสซา นักบุญเปาโลได้ประกาศว่า ท่านมิได้พูดอะไรด้วยตัวท่านเอง แต่ว่าได้เรียนรู้มิสซาคืออะไร จากการไขแสดงของพระเป็นเจ้าเอง
ที่มา http://www.catholic.or.th/tips/little1/tip1.html
ลองอ่านที่นี่ http://www.geocities.com/prakobkit/mass/mass.htm
เอาสองลิ้งที่ให้มาต่อกัน ผมยิ่งเข้าใจว่า มิสซาเป็นการบูชายันต์ บูชายันต์พระคริส ดื่มเลือดพระคริสต์ กินเนื้อและหนังพระคริสต์ สมัยโบราณคงไม่มีพระคริสต์เพราะยังไม่เกิดเลยพยายามหาสิ่งอื่นแทน..ที่คนบูชาคิดว่ามีค่าสูงสูงสุดที่ตนเองครอบครองบูชายันต์แทนพระคริสต์ แบบนั่นหรือเปล่าครับ ผมก็อ่านไบเบิลมีการถวายเครื่องบูชาพระเจ้าด้วยการเผา พอถึงยุคพระคริสต์พระคริสต์ก็ให้เอาขนมปังมาเสก และน้ำหรือเหล้าองุ่นมาเสกเพื่อแทน พระโลหิต และเนื้อหนังของพระองค์ โดยให้ผู้ถือกุญแจศาสนาจักรของพระอง..หรือผู้มีค่าควรสวดอาหารเหล่านี้ให้ แล้วเราก็กินและเราก็ดื่มเลือดและเนื้อหนังพระคริต์ โหทำไปได้??? มนุษย์นีี่่่สุดยอดเลย
แล้วมีอีกลิ้งค์ที่ช่วยเพิ่มใหมครับ ยิ่งอ่านยิ่งโหดร้ายทั้ง2ลิค์

ยน 6:47-69
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ผู้ที่เชื่อในเรา ก็มีชีวิตนิรันดร
เราเป็นปังแห่งชีวิต
บรรพบุรุษของท่านทั้งหลายได้กินมานนาในถิ่นทุรกันดาร
แล้วยังตาย
แต่ปังที่ลงมาจากสวรรค์เป็นอย่างนี้
คือผู้ที่กินปังนี้แล้วจะไม่ตาย
เราเป็นปังทรงชีวิต ที่ลงมาจากสวรรค์
ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป
และปังที่เราจะให้นี้
คือเนื้อของเราเพื่อให้โลกมีชีวิต
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ผู้ที่เชื่อในเรา ก็มีชีวิตนิรันดร
เราเป็นปังแห่งชีวิต
บรรพบุรุษของท่านทั้งหลายได้กินมานนาในถิ่นทุรกันดาร
แล้วยังตาย
แต่ปังที่ลงมาจากสวรรค์เป็นอย่างนี้
คือผู้ที่กินปังนี้แล้วจะไม่ตาย
เราเป็นปังทรงชีวิต ที่ลงมาจากสวรรค์
ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป
และปังที่เราจะให้นี้
คือเนื้อของเราเพื่อให้โลกมีชีวิต
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
ศีลมหาสนิทหมายความว่า
สิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำไว้ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถูกตรึงกับไม้กางเขนเพื่อไถ่โทดให้เรา
พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้กระทำศีลมหาสนิทผู้แรกทรงเสียสละเพื่อเราทรงอยู่กับเรา
พระองค์ทรงบอกว่า นี่เป็นกายของเราเพื่อจะมอบให้ท่าน นี่เป็นแผ่นปัง
และพระองค์ทรงบอกอีกว่า นี่เป็นโลหิตหลั่งเพื่ออภัยบาปให้แก่ท่าน นี่เป็นเหล้าองุ่น
โดยสรุปเเล้ว ศีลมหาสนิทเเปลว่า การใช้ชีวิตเพื่ออยู่ใกล้กับพระเจ้า ตลอดไป..
สุดท้าย พระเจ้าทรงยอมเพื่อไถ่บาปให้กับคนบาปด้วยร่างกายและพระโลหิตของพระองค์เอง
เพราะฉะนั้นรักพระองค์ให้มากๆนะครับ เพื่อนๆ
สิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำไว้ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถูกตรึงกับไม้กางเขนเพื่อไถ่โทดให้เรา
พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้กระทำศีลมหาสนิทผู้แรกทรงเสียสละเพื่อเราทรงอยู่กับเรา
พระองค์ทรงบอกว่า นี่เป็นกายของเราเพื่อจะมอบให้ท่าน นี่เป็นแผ่นปัง
และพระองค์ทรงบอกอีกว่า นี่เป็นโลหิตหลั่งเพื่ออภัยบาปให้แก่ท่าน นี่เป็นเหล้าองุ่น
โดยสรุปเเล้ว ศีลมหาสนิทเเปลว่า การใช้ชีวิตเพื่ออยู่ใกล้กับพระเจ้า ตลอดไป..
สุดท้าย พระเจ้าทรงยอมเพื่อไถ่บาปให้กับคนบาปด้วยร่างกายและพระโลหิตของพระองค์เอง
เพราะฉะนั้นรักพระองค์ให้มากๆนะครับ เพื่อนๆ

เกี่ยวกันด้วยเหรอคะAPaladin เขียน: ขอบคุนมากมายครับ เข้าใจมากขึ้นละ![]()
พระคริสต์รักเรามากมายจริงๆ มิน่าในใบเบิลมีข้อความบางตอนว่าอย่าดื่มเลือดสัตว์ใดเพราะมันจะเปื้อนตัวเรา เรากินเนื้อสัตว์ได้แต่ห้ามดื่มเลือด เพราะพระองคืมีแผนล่วงหน้าให้เรานี่เอง

รบกวนผู้รู้ช่วยแถลงไขหน่อยจ้า

มีบอกว่าห้ามดื่มเลือดของสัตว์ เพราะเลือดคือชีวิตครับ เราดื่มพระโลหิตของพระองค์ คือ เรามีชีวิตของพระองค์ในเราครับBuddy เขียน:เกี่ยวกันด้วยเหรอคะ ::029::APaladin เขียน: ขอบคุนมากมายครับ เข้าใจมากขึ้นละ![]()
พระคริสต์รักเรามากมายจริงๆ มิน่าในใบเบิลมีข้อความบางตอนว่าอย่าดื่มเลือดสัตว์ใดเพราะมันจะเปื้อนตัวเรา เรากินเนื้อสัตว์ได้แต่ห้ามดื่มเลือด เพราะพระองคืมีแผนล่วงหน้าให้เรานี่เอง
รบกวนผู้รู้ช่วยแถลงไขหน่อยจ้า![]()
อืมใช่ครับเคยอ่านเจอแบบที่คุณHolyว่า ของผมจำได้ไม่หมดอาจมีเพี้ยนๆไปบ้างHoly เขียน:มีบอกว่าห้ามดื่มเลือดของสัตว์ เพราะเลือดคือชีวิตครับ เราดื่มพระโลหิตของพระองค์ คือ เรามีชีวิตของพระองค์ในเราครับBuddy เขียน:เกี่ยวกันด้วยเหรอคะ ::029::APaladin เขียน: ขอบคุนมากมายครับ เข้าใจมากขึ้นละ![]()
พระคริสต์รักเรามากมายจริงๆ มิน่าในใบเบิลมีข้อความบางตอนว่าอย่าดื่มเลือดสัตว์ใดเพราะมันจะเปื้อนตัวเรา เรากินเนื้อสัตว์ได้แต่ห้ามดื่มเลือด เพราะพระองคืมีแผนล่วงหน้าให้เรานี่เอง
รบกวนผู้รู้ช่วยแถลงไขหน่อยจ้า![]()