รู้สึกอึดอัดใจ ที่มีคริสเตียนมาบอกว่า คาทอลิกคือพวกคนบาป ไม่กลับใจ
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
^
^
อาจจะพูดว่า คริสเตียนจำนวนมาก ได้ข้อมูลที่ไม่ update ใช้ข้อมูลเก่าๆ สมัยที่เพิ่งปฏิรูปกันมา
และไม่มีโอกาส ได้ข้อมูลจริง เพราะการจะได้ข้อมูลจริงต้องมีการพบปะ คบหา และศึกษากัน
ตอนนี้เราทำคริสตศาสนสัมพันธ์ ก็ดีขึ้นมาก พี่เอง ก็ได้พยายามสอน/อธิบายเรื่อยมาค่ะ
ดังนั้นการที่จะให้เข้าใจกัน ต้องมีการเสวนากันบ่อยๆ ค่ะ
^
อาจจะพูดว่า คริสเตียนจำนวนมาก ได้ข้อมูลที่ไม่ update ใช้ข้อมูลเก่าๆ สมัยที่เพิ่งปฏิรูปกันมา
และไม่มีโอกาส ได้ข้อมูลจริง เพราะการจะได้ข้อมูลจริงต้องมีการพบปะ คบหา และศึกษากัน
ตอนนี้เราทำคริสตศาสนสัมพันธ์ ก็ดีขึ้นมาก พี่เอง ก็ได้พยายามสอน/อธิบายเรื่อยมาค่ะ
ดังนั้นการที่จะให้เข้าใจกัน ต้องมีการเสวนากันบ่อยๆ ค่ะ
อ๋อค่ะ งั้นเดี๋ยวไปดูในหน้าสารบาญในพระคัมภีร์อีกทีค่ะJeab Agape เขียน:ครับผมMminnano เขียน: ขอบคุณค่ะคุณ Jeab Agape ได้ความรู้ดีมากเลยค่ะ : emo045 :
พี่อยากรู้รายชื่อหนังสือ ดูจากรายชื่อหนังสือ จากสารบาญ ในพระคัมภีร์ได้เลย ที่เขียนว่า "หนังสือพระคัมภีร์และอักษรย่อ"
ภาคพันธสัญญาเดิม
เริ่มเล่มแรก 1.ปฐมกาล ปฐก
สุดท้าย 46.มาลาคี มลค
แล้วจะดูยังไงว่าอันไหนของคาทอลิก อันไหนของโปรฯคะ เพราะที่มี มีเล่มใหญ่มาก 1 เล่ม และเล่มเล็กๆ ที่เขียนว่าคริสตธรรมคัมภีร์เล่มสีน้ำเงินบ้าง ดำบ้างอ่ะค่ะ จริงๆ ถ้าต่างกันก็อยากจะศึกษาของทุกนิกายเลย จะได้เข้าใจข้อความที่แตกต่างกันอ่ะค่ะJeanne d'Arc เขียน:แต่แปลไม่เหมือนกันครับMminnano เขียน: อ้ออออ แล้วขอถามเพื่อนๆนิดหนึ่งค่ะ เท่าที่ทราบมา ทุกนิกายใช้พระคัมภีร์เหมือนกันใช่ไหมคะ
เหมือนกับว่าของเขาแปลมาจาก King James
แต่ของคาทอลิคแปลตรง
???
ผมไม่มั่นใจนะครับ
แต่สำนวนของคาทอลิคดูไม่ค่อยแปลกหูเหมือนของโปรฯ
(⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙) เขียน: ส่วนตัวก็เคยเจอนะค่ะ ก็ได้พูดอภิปรายเลยแหละกับคริสเตียน เค้าก็ชอบว่าคาธิลิคเรื่องเก่าๆเรื่องใบสารภาพบาป
เคยถามเค้านะค่ะเกี่ยวกับเรื่องแม่พระ ที่พระเยซูตรัสในขณะที่อยู่บนไม้กางเขนว่า "สตรีเอ๋ยนี่แน่ะลูกของท่าน"และตรัสแก่ศิษย์นั้นว่า "นี่แน่ะ แม่ของเจ้า
พอให้เค้าอธิบาย ก็ยังไม่เคลียเท่าไหร่ โดยส่วนตัวยิ่งเป็นพวกเข้าใจอะไรยาก พอเข้าใจอะไรไปแล้ว ก็จะไม่ทิ้งความเข้าใจนั้นไปอีก
และเค้าก็เคยว่าเตือนเราเรื่อง แม่พระและนักบุญนี่แหละ แต่เตือนเรื่องอะไรไม่รู้จำไม่ได้
"แม่ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกหรือ? แม่ไม่ได้เป็นแม่ของเจ้าหรอกหรือ?"
เค้าชอบบอกว่า เรานับถือพระไ่ม่เหมือนเค้า แล้วก็พูดแต่ว่า คาทอลิก ไม่กลับใจ ไม่กลับใจ แห่ะๆๆๆ นอกนั้นเค้าก็ไม่พูดมากกว่านี้ หรือพูดมาก็เป็นหลักๆที่คาทอลิกก็มีอยู่แล้ว แต่เค้าก็พูดประมาณว่า ไม่มีหรอก มีแต่ของเค้าอ่ะค่ะ แห่ะๆๆๆ
ดีจังเลยค่ะ จะได้เข้าใจกัน รวมกันเป็นหนึ่งเดียว แล้วก็ช่วยกันออกหว่านแหจับมนุษย์แทนปลากัน แต่ถ้าเป็นอยู่อย่างนี้ เสียเวลามาว่ากันทำไมก็ไม่ทราบ แถมทำเราเสียความรู้สึกอีกต่างหากProd Pran เขียน: ^
^
อาจจะพูดว่า คริสเตียนจำนวนมาก ได้ข้อมูลที่ไม่ update ใช้ข้อมูลเก่าๆ สมัยที่เพิ่งปฏิรูปกันมา
และไม่มีโอกาส ได้ข้อมูลจริง เพราะการจะได้ข้อมูลจริงต้องมีการพบปะ คบหา และศึกษากัน
ตอนนี้เราทำคริสตศาสนสัมพันธ์ ก็ดีขึ้นมาก พี่เอง ก็ได้พยายามสอน/อธิบายเรื่อยมาค่ะ
ดังนั้นการที่จะให้เข้าใจกัน ต้องมีการเสวนากันบ่อยๆ ค่ะ
ที่แย่กว่านั้น ตอนนี้ เริ่มมาประมาณว่าเราเรื่องอื่นๆ แบบประมาณว่า จินตนาการแล้วก็มาบอกว่าเราเป็นงั้นเป็นงี้ แล้วก็พูดแรงๆ กับเรามากๆเลยค่ะ อย่างเช่น ฟังอันนี้ซิ แล้วก็ links ธรรมะของพุทธมาให้ แล้วก็บอกว่าจะได้ไม่ฟุ้งซ่านร้องเรียกแต่หาสามีชาวบ้าน แล้วสักพักมาอีก เอารูปเราไปแต่ง แล้วก็มาบอกเราว่าเอารูปนี้ไปลงเว็บหาคู่สิ รับรองหนุ่มๆจีบตรึม ไม่ใช่แค่นั้นlinks เพลงรักคนมีเจ้าของมาให้ แล้วก็บอกว่า เพลงนี้คงถูกใจคุณ แต่ระวังอย่าให้เค้าจับได้นะ เราก็อ่าๆๆๆ อารายเนี่ย รู้สึกแย่อย่างแรง เราไม่เคยไปเรียกร้องสามีใคร ไม่เคยชอบคนมีเจ้าของ และก็ไม่ได้คิดเรื่องคู่อะไรเล้ย เพราะทุกวันนี้ อยู่กับคุณแ่ม่ คุณแม่ป่วยบ่อย ต้องคอยดูแลท่านตลอด และก็ไม่ได้คิดเรื่องมีคู่แล้ว แต่เค้าก็มาโพสต์ลง fb ของเรา ตอนแรกเราก็ไม่เห็น เพื่อนๆเราเข้าก็เข้ามางงๆกัน ก็เลยโทรบอกเรา เราเองก็งงเหมือนกัน ตอนนี้เริ่มทนเค้าไม่ไหวจริงๆแล้วอ่ะค่ะ รู้สึกแย่มากๆๆๆๆๆ
ดังนั้น รบกวนขอคำภาวนาให้เราด้วยนะคะ ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอให้สิ่งต่างๆผ่านพ้นไปได้สักที ตอนนี้ไม่อยากคบแล้วคนนี้ เริ่มรู้สึกแย่มากๆค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงกับเค้าแล้ว
ดังนั้น รบกวนขอคำภาวนาให้เราด้วยนะคะ ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอให้สิ่งต่างๆผ่านพ้นไปได้สักที ตอนนี้ไม่อยากคบแล้วคนนี้ เริ่มรู้สึกแย่มากๆค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงกับเค้าแล้ว
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
ของโปรฯ เองก็มีหลายสำนวนแปลค่ะ มีทั้งแปลจากภาษาเดิม และแปลจากภาษาอื่นๆ เช่น อังกฤษJeanne d'Arc เขียน: แต่แปลไม่เหมือนกันครับ
เหมือนกับว่าของเขาแปลมาจาก King James
แต่ของคาทอลิคแปลตรง
???
ผมไม่มั่นใจนะครับ
แต่สำนวนของคาทอลิคดูไม่ค่อยแปลกหูเหมือนของโปรฯ
ฉบับที่มีคริสตชนไทยใช้กันบ้างก็เช่น NIV(อมตธรรม) TSV(มาตรฐาน2002)
KJV(คิงเจมส์[หายากมากๆ]) ฉบับอ่านเข้าใจง่าย(แปลจากภาษาเดิม) ฯลฯ
ส่วนฉบับที่ส่วนใหญ่ใช้กันในปัจจุบันคือฉบับ 1971 สมาคมฯ(TBS) ซึ่งแปลจากภาษาเดิม
และทฤษฎีการแปลฉบับนี้พยายามรักษารูปแบบของภาษาเดิมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนที่ว่าแปลกหู คงเพราะความเคยชินมากกว่าคะ
แม้แต่โปรฯ เองที่ใช้ 1971 จนเคยชิน พอไปอ่าน TSV NIV KJV ... หรือที่พี่น้องโรมันฯ แปล ก็รู้สึกแปลกหูเหมือนกันค่ะ : emo045 :
อาเมน!!Mminnano เขียน: ดีจังเลยค่ะ จะได้เข้าใจกัน รวมกันเป็นหนึ่งเดียว แล้วก็ช่วยกันออกหว่านแหจับมนุษย์แทนปลากัน แต่ถ้าเป็นอยู่อย่างนี้ เสียเวลามาว่ากันทำไมก็ไม่ทราบ แถมทำเราเสียความรู้สึกอีกต่างหาก
คำพูดนี้ถูกใจมากค่ะ
ถ้าเขาเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ไปโบสถ์ทุกอาทิตย์แต่สังคมชาวคริสต์ไม่ช่วยให้เขาเปลี่ยนแปลงได้ ก็คงยากที่ใคร(มนุษย์)จะเปลี่ยนเขาได้Mminnano เขียน: ดังนั้น รบกวนขอคำภาวนาให้เราด้วยนะคะ ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอให้สิ่งต่างๆผ่านพ้นไปได้สักที ตอนนี้ไม่อยากคบแล้วคนนี้ เริ่มรู้สึกแย่มากๆค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงกับเค้าแล้ว
คุณ Mminnano ก็ยังเป็นเพื่อนกับเขาได้ แต่ห่างๆ หน่อยก็ดีค่ะ คุยเท่าที่จำเป็น ถ้าเขาคุยดีก็ดีด้วย แต่ถ้ามาแบบนี้อีกก็ไม่ต้องคุย
เพราะถ้าฝืนต่อไปก็อาจจะทำให้เราเสียสุขภาพจิตใจ-จิตวิญญาณไปเปล่าๆ ค่ะ ไม่คุ้มกัน
อธิษฐานเผื่อเขานะคะ ให้พระเจ้าเป็นผู้เปลี่ยนแปลงเขาเอง เพราะยังไงเขาก็เป็นลูกของพระเจ้า
ลูกก็มีดื้อบ้างแต่ยังไงก็คือลูก พระเจ้าทรงมีวิธีการของพระองค์ที่เราไม่รู้ เชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาจะเป็นลูกที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ มี.ค. 17, 2010 9:44 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
2ธส 3:6-15
พี่น้องทั้งหลาย เราขอกำชับท่านในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าให้ท่านหลีกห่างจากพี่น้องที่ดำเนินชีวิตโดยไม่มีวินัย ไม่ทำตามธรรมประเพณีที่ท่านได้รับจากเรา ท่านรู้อยู่แล้วว่า ท่านต้องยึดถือเราเป็นแบบฉบับอย่างไร เพราะเมื่อเราอยู่กับท่าน เรามิได้อยู่นิ่งเฉย เรามิได้กินอาหารของผู้ใดโดยไม่ทำงานตอบแทน แต่เราตรากตรำทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเราจะได้ไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด ทั้งนี้มิใช่เพราะเราไม่มีสิทธิ แต่เพื่อทำตนเป็นแบบฉบับแก่ท่าน เมื่อเราอยู่กับท่าน เรายังกำชับท่านว่า ถ้าผู้ใดไม่อยากทำงานก็อย่ากิน แต่เราได้ยินว่า บางท่านดำเนินชีวิตอย่างเกียจคร้านไม่ทำงานเลย แต่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับธุระของผู้อื่น เรากำชับและเตือนคนเช่นนี้ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ให้ทำงานอย่างสงบและหาเลี้ยงชีพด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง พี่น้องทั้งหลาย อย่าท้อถอยในการทำดี ถ้าผู้ใดไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนใน จดหมายฉบับนี้ จงจับตามองเขาและอย่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับเขาอย่างเด็ดขาด เพื่อเขาจะได้ละอายใจ แต่อย่านับว่าเขาเป็นศัตรู จงตักเตือนเขาฉันพี่น้อง
----ถอยได้เลยครับ แต่อย่านับว่าเป็นศัตรู กล่าวคือ ให้อภัย แต่ไม่ยุ่งด้วยได้ครับ
พี่น้องทั้งหลาย เราขอกำชับท่านในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าให้ท่านหลีกห่างจากพี่น้องที่ดำเนินชีวิตโดยไม่มีวินัย ไม่ทำตามธรรมประเพณีที่ท่านได้รับจากเรา ท่านรู้อยู่แล้วว่า ท่านต้องยึดถือเราเป็นแบบฉบับอย่างไร เพราะเมื่อเราอยู่กับท่าน เรามิได้อยู่นิ่งเฉย เรามิได้กินอาหารของผู้ใดโดยไม่ทำงานตอบแทน แต่เราตรากตรำทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเราจะได้ไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด ทั้งนี้มิใช่เพราะเราไม่มีสิทธิ แต่เพื่อทำตนเป็นแบบฉบับแก่ท่าน เมื่อเราอยู่กับท่าน เรายังกำชับท่านว่า ถ้าผู้ใดไม่อยากทำงานก็อย่ากิน แต่เราได้ยินว่า บางท่านดำเนินชีวิตอย่างเกียจคร้านไม่ทำงานเลย แต่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับธุระของผู้อื่น เรากำชับและเตือนคนเช่นนี้ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ให้ทำงานอย่างสงบและหาเลี้ยงชีพด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง พี่น้องทั้งหลาย อย่าท้อถอยในการทำดี ถ้าผู้ใดไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนใน จดหมายฉบับนี้ จงจับตามองเขาและอย่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับเขาอย่างเด็ดขาด เพื่อเขาจะได้ละอายใจ แต่อย่านับว่าเขาเป็นศัตรู จงตักเตือนเขาฉันพี่น้อง
----ถอยได้เลยครับ แต่อย่านับว่าเป็นศัตรู กล่าวคือ ให้อภัย แต่ไม่ยุ่งด้วยได้ครับ
- Jeanne d'Arc
- โพสต์: 235
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm
ผมเป็นโปรมาก่อน อ่านของโปรยังแปลกหูเลยครับDeo Gratias เขียน:
ส่วนที่ว่าแปลกหู คงเพราะความเคยชินมากกว่าคะ
แม้แต่โปรฯ เองที่ใช้ 1971 จนเคยชิน พอไปอ่าน TSV NIV KJV ... หรือที่พี่น้องโรมันฯ แปล ก็รู้สึกแปลกหูเหมือนกันค่ะ : emo045 :
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
^
อคติเกินไป ทราบไหมครับว่า สถานที่เข้าเงียบ ของคาทอลิก ยังใช้พระคัมภีร์สมาคมพระคริสตธรรมทั้งหมด
และหลายแห่งใช้ พระคัมภีร์ใหม่ กีเดี้ยน
เพราะอะไรทราบไหม เพราะพระคัมภีร์ของคาทอลิก ยังแปลไม่เสร็จเลย จึงยังต้องออกมาเป็นชุดๆอยู่
ขอย้อนปวศ.ให้ฟัง กว่าคาทอลิก จะสามารถอ่านพระคัมภีร์เป็นภาษาท้องถิ่นได้ หลังสังคายนาวาติกันที่ 2 (1965) ครับ
ขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแปลพระคัมภีร์
การแปลพระคัมภีร์
นับตั้งแต่มาร์ติน ลูเธอร์ ได้ปฏิรูปศาสนาในปี ค.ศ.1517 ทำให้หลายคนคิดที่จะแปลพระคัมภีร์ออกเป็นภาษาต่างๆมากขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้คนธรรมดาได้อ่านได้ทำความเข้าใจพระคัมภีร์และรับชีวิตใหม่ในการแปลพระคัมภีร์ครั้งนี้พวกเขาคิดที่จะแปลจากต้นฉบับภาษาดั้งเดิมแทนที่จะแปลจากฉบับวัลเกต(ฉบับภาษาลาตินปี ค.ศ.400 โดยประมาณ)
การแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษ
ในประเทศอังกฤษสมัยก่อนมีผู้พยายามแปลพระคัมภีร์บางตอนออกเป็นภาษาอังกฤษคนสำคัญๆได้แก่เวเนอร์เรเบิล
การแปลพระคัมภีร์
.นับตั้งแต่มาร์ติน ลูเธอร์ ได้ปฏิรูปศาสนาในปี ค.ศ.1517 ทำให้หลายคนคิดที่จะแปลพระคัมภีร์ออกเป็นภาษาต่างๆมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้คนธรรมดาได้อ่าน ได้ทำความเข้าใจพระคัมภีร์และรับชีวิตใหม่ ในการแปลพระคัมภีร์ครั้งนี้ พวกเขาคิดที่จะแปลจากต้นฉบับภาษาดั้งเดิมแทนที่จะแปลจากฉบับวัลเกต (ฉบับภาษาลาตินปี ค.ศ.400 โดยประมาณ)
การแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษ
ในประเทศอังกฤษสมัยก่อนมีผู้พยายามแปลพระคัมภีร์บางตอนออกเป็นภาษาอังกฤษ คนสำคัญๆได้แก่ เวเนอร์เรเบิล บีด (ค.ศ.735)เป็นผู้แปลหนังสือยอห์นเป็นภาษาแองโกลแซกซัน ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษดั้งเดิม บุคคลที่มีส่วนในการแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษมีหลายท่าน เช่นกษัตริย์อัลเฟรด (ค.ศ.871-901) จอห์น วิคลิฟ (ค.ศ.1384) และ วิลเลียม ทินเดล (ค.ศ.1526) ฯลฯ ส่วน ไมล์ส คัฟเวอร์เดล (ค.ศ.1535) เป็นคนแรกที่พิมพ์พระคัมภีร์ภาษาอังกฤษทั้งเล่ม
หลังจากนั้นมีการแปลเล่มอื่นๆตามออกมาอีกจนถึงการแปลฉบับคิงเจมส์ในปี ค.ศ.1611 ซึ่งนับเป็นฉบับที่ยอมรับกันทั่วไป ฉบับนี้ต่างกับฉบับก่อนๆตรงที่ผู้แปลเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มาทำงานร่วมกัน
ต้นศตวรรษที่ 19 มีการก่อตั้งสมาคมพระคริสตธรรม ซึ่งมีเป้าหมายรับใช้คริสตจักรในด้านการประกาศและการส่งมิชชันนารี แต่เป้าหมายหลักที่สำคัญที่สุด คือการจัดเตรียมและจัดพิมพ์พระคัมภีร์ภาษาต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนการแปลพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษในปี ค.ศ.1881 มีฉบับแก้ไขใหม่หรือที่เรียกกันว่าฉบับรีไวส์ (Revised Version) ซึ่งเป็นฉบับที่แปลจากต้นฉบับที่ถูกต้องกว่าและมุ่งแปลแบบคำต่อคำ ผลงานจึงออกมาไม่ดีนักในแง่ของภาษา และสำนวนไม่ทันสมัย ภายหลังมีฉบับแปลอื่นๆตามออกมา เช่น ฉบับรีไวส์แสตนดาร์ด (Revised Standard Version, 1952) ฉบับนิวอิงลิช (New English Bible, 1970) ฉบับกู๊ดนิวส์ (Good News Bible, 1976) ฉบับเอ็นไอวี (New International Version, 1979) ฉบับนิวคิงเจมส์ (New King James, 1982) ฯลฯ นอกเหนือจากฉบับแปลเหล่านี้แล้ว ยังมีฉบับแปลอื่นๆที่เป็นฉบับของผู้ผลิตเอง เช่น ฉบับเวย์เม้าธ์ ฉบับมอฟเฟ็ท ฉบับฟีลิปส์ ฉบับเทเลอร์ เป็นต้น บีด(ค.ศ.735)เป็นผู้แปลหนังสือยอห์นเป็นภาษาแองโกลแซกซัน ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษดั้งเดิม บุคคลที่มีส่วนในการแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษมีหลายท่าน เช่นกษัตริย์อัลเฟรด(ค.ศ.871-901)จอห์น วิคลิฟ(ค.ศ.1384) และวิลเลียม ทินเดล (ค.ศ.1526)ฯลฯ ส่วนไมล์ส คัฟเวอร์เดล(ค.ศ.1535)เป็นคนแรกที่พิมพ์พระคัมภีร์ภาษาอังกฤษทั้งเล่ม
หลังจากนั้นมีการแปลเล่มอื่นๆตามออกมาอีกจนถึงการแปลฉบับคิงเจมส์ในปี ค.ศ.1611ซึ่งนับเป็นฉบับที่ยอมรับกันทั่วไป ฉบับนี้ต่างกับฉบับก่อนๆตรงที่ผู้แปลเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มาทำงานร่วมกัน
ต้นศตวรรษที่19 มีการก่อตั้งสมาคมพระคริสตธรรม ซึ่งมีเป้าหมายรับใช้คริสตจักรในด้านการประกาศและการส่งมิชชันนารีแต่เป้าหมายหลักที่สำคัญที่สุด คือการจัดเตรียมและจัดพิมพ์พระคัมภีร์ภาษาต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ส่วนการแปลพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษในปีค.ศ.1881มีฉบับแก้ไขใหม่หรือที่เรียกกันว่าฉบับรีไวส์(Revised Version)ซึ่งเป็นฉบับที่แปลจากต้นฉบับที่ถูกต้องกว่าและมุ่งแปลแบบคำต่อคำผลงานจึงออกมาไม่ดีนักในแง่ของภาษา และสำนวนไม่ทันสมัยภายหลังมีฉบับแปลอื่นๆตามออกมาเช่น ฉบับรีไวส์แสตนดาร์ด(Revised Standard Version,1952) ฉบับนิวอิงลิช(New English Bible,1970)ฉบับกู๊ดนิวส์(Good News Bible,1976)ฉบับเอ็นไอวี (New International Version,1979)ฉบับนิวคิงเจมส์(New King James,1982)ฯลฯนอกเหนือจากฉบับแปลเหล่านี้แล้ว ยังมีฉบับแปลอื่นๆที่เป็นฉบับของผู้ผลิตเอง เช่น ฉบับเวย์เม้าธ์ ฉบับมอฟเฟ็ท ฉบับฟีลิปส์ ฉบับเทเลอร์ เป็นต้น
การแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาไทย
ปี ค.ศ.1567 คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกได้เข้ามาเผยแผ่ในประเทศไทย เมื่อกลุ่มคณะนักบวชที่เดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มแรกมาถึงกรุงศรีอยุธยาได้เริ่มเรียนภาษาไทยและได้มีการตั้งศูนย์พระศาสนจักรขึ้นที่กรุงศรีอยุธยาขณะนั้นอยู่ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเมื่อมิชชันนารีเรียนภาษาไทยจนอ่านออกเขียนได้แล้วได้แปลหนังสือ"พระวรสาร"คือพระราชประวัติของพระเยซูจากพระกิตติคุณ(พระวรสาร-คาทอลิก)ทั้งสี่เล่มเป็นภาษาไทยโดยเขียนบนกระดาษสา หนังสือนี้ชื่อว่า"พระพุทธเยซู"ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกที่ประเทศฝรั่งเศส นับว่าเป็นวรรณกรรมทางคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีอายุเกือบ 500 ปีแล้ว
ต่อมาแหม่มแอนนา จัดสัน ภรรยาของ ศาสนาจารย์ อาโดนีรัม จัดสัน มิชชันนารีที่ทำงานในประเทศพม่า ได้ศึกษาภาษาไทยจากเชลยศึกชาวสยามที่ถูกกวาดต้อนมาเมื่อตอนที่กรุงศรีอยุธยาแตก แหม่มจัดสันได้แปลพระกิตติคุณลูกาและหลักข้อเชื่อของคริสต์ศาสนาเป็นภาษาไทยเพื่อเผยแผ่แก่เชลยศึกชาวสยามเหล่านั้นพระธรรมเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ในประเทศอินเดีย(กัลป์กะต้า)ปี ค.ศ.1819แต่น่าเสียดายที่ต้นฉบับพระธรรมเล่มนี้สูญหายหมด
ในปี ค.ศ.1828 ศาสนาจารย์ คาร์ล กุ๊ทสลาฟ และศาสนาจารย์ จาคอบ ทอมลิน มิชชันนารีสองท่านที่ประกาศข่าวดีในประเทศไทยเป็นผู้แปลพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่จากภาษาจีนเป็นภาษาไทย โดยเริ่มแปลพระกิตติคุณลูกาเป็นเล่มแรก
ต่อมา สมาคมพระคริสต์ธรรมอเมริกาได้ร่วมมือกับยูเนียนแบ๊บติสต์มิชชั่นและอเมริกันบอร์ดออฟมิชชั่น แปลพระกิตติคุณทั้งสี่ขึ้นใหม่ แก้ไขและจัดพิมพ์ในปีค.ศ.1849 ต่อมาได้ทำการแก้ไขปรับปรุงเล่มอื่นๆ ด้วยจนเสร็จทั้งเล่ม
ในปี ค.ศ.1883 พระคัมภีร์ภาษาไทยทั้งภาคพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่แปลเสร็จเรียบร้อย และจัดพิมพ์แยกเล่มโดยสมาคมพระคริสตธรรมอเมริกาในปี ค.ศ.1891-1896สมาคมพระคริสตธรรมอเมริกาได้จัดพิมพ์พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับรวมเล่มภายหลังจากแก้ไขใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ.1926-1930 ได้มีการแก้ไขพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับรวมเล่มและจัดพิมพ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่งในปีค.ศ.1954ได้มีการตั้งกรรมการตรวจทานต้นฉบับอีกครั้งหนึ่งเพื่อแก้ไขพระคัมภีร์โดยได้รับความร่วมมือทั้งจากฝ่ายโปรเตสแตนต์และฝ่ายคาทอลิกงานแก้ไขครั้งนี้ใช้เวลานานถึง13ปี เนื่องจากต้องการแก้ไขการแปลให้ถูกต้องตามต้นฉบับมากที่สุดโดยเทียบฉบับยกร่างภาคพันธสัญญาเดิมกับต้นฉบับภาษาฮีบรู และเทียบฉบับยกร่างภาคพันธสัญญาใหม่กับต้นฉบับภาษากรีกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับแก้ไขนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1971โดยอาจารย์ศรัณย์ ชัยรัตน์และคณะในระหว่างที่กำลังจัดทำพระคัมภีร์ฉบับแก้ไขอยู่นั้นสมาคมพระคริสตธรรมได้แปลพระคัมภีร์ภาษาไทยอีกฉบับหนึ่งขึ้นโดยเน้นสำนวนภาษาที่ทันสมัยเป็นฉบับที่เรียกว่า"พระวจนะสำหรับยุคใหม่"หรือ"ประชานิยม"ซึ่งได้แปลเสร็จและจัดพิมพ์ส่วนที่เป็นภาคพันธสัญญาเดิมในปีค.ศ.1977 ส่วนที่เป็นภาคพันธสัญญาใหม่แปลเสร็จและจัดพิมพ์ในปีค.ศ.1980 และได้จัดพิมพ์รวมเล่มออกมาในปี ค.ศ.1984(ถึงปัจจุบันมีฉบับเรียงพิมพ์ใหม่2009 และคงจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกแน่นอน)
อคติเกินไป ทราบไหมครับว่า สถานที่เข้าเงียบ ของคาทอลิก ยังใช้พระคัมภีร์สมาคมพระคริสตธรรมทั้งหมด
และหลายแห่งใช้ พระคัมภีร์ใหม่ กีเดี้ยน
เพราะอะไรทราบไหม เพราะพระคัมภีร์ของคาทอลิก ยังแปลไม่เสร็จเลย จึงยังต้องออกมาเป็นชุดๆอยู่
ขอย้อนปวศ.ให้ฟัง กว่าคาทอลิก จะสามารถอ่านพระคัมภีร์เป็นภาษาท้องถิ่นได้ หลังสังคายนาวาติกันที่ 2 (1965) ครับ
ขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแปลพระคัมภีร์
การแปลพระคัมภีร์
นับตั้งแต่มาร์ติน ลูเธอร์ ได้ปฏิรูปศาสนาในปี ค.ศ.1517 ทำให้หลายคนคิดที่จะแปลพระคัมภีร์ออกเป็นภาษาต่างๆมากขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้คนธรรมดาได้อ่านได้ทำความเข้าใจพระคัมภีร์และรับชีวิตใหม่ในการแปลพระคัมภีร์ครั้งนี้พวกเขาคิดที่จะแปลจากต้นฉบับภาษาดั้งเดิมแทนที่จะแปลจากฉบับวัลเกต(ฉบับภาษาลาตินปี ค.ศ.400 โดยประมาณ)
การแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษ
ในประเทศอังกฤษสมัยก่อนมีผู้พยายามแปลพระคัมภีร์บางตอนออกเป็นภาษาอังกฤษคนสำคัญๆได้แก่เวเนอร์เรเบิล
การแปลพระคัมภีร์
.นับตั้งแต่มาร์ติน ลูเธอร์ ได้ปฏิรูปศาสนาในปี ค.ศ.1517 ทำให้หลายคนคิดที่จะแปลพระคัมภีร์ออกเป็นภาษาต่างๆมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้คนธรรมดาได้อ่าน ได้ทำความเข้าใจพระคัมภีร์และรับชีวิตใหม่ ในการแปลพระคัมภีร์ครั้งนี้ พวกเขาคิดที่จะแปลจากต้นฉบับภาษาดั้งเดิมแทนที่จะแปลจากฉบับวัลเกต (ฉบับภาษาลาตินปี ค.ศ.400 โดยประมาณ)
การแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษ
ในประเทศอังกฤษสมัยก่อนมีผู้พยายามแปลพระคัมภีร์บางตอนออกเป็นภาษาอังกฤษ คนสำคัญๆได้แก่ เวเนอร์เรเบิล บีด (ค.ศ.735)เป็นผู้แปลหนังสือยอห์นเป็นภาษาแองโกลแซกซัน ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษดั้งเดิม บุคคลที่มีส่วนในการแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษมีหลายท่าน เช่นกษัตริย์อัลเฟรด (ค.ศ.871-901) จอห์น วิคลิฟ (ค.ศ.1384) และ วิลเลียม ทินเดล (ค.ศ.1526) ฯลฯ ส่วน ไมล์ส คัฟเวอร์เดล (ค.ศ.1535) เป็นคนแรกที่พิมพ์พระคัมภีร์ภาษาอังกฤษทั้งเล่ม
หลังจากนั้นมีการแปลเล่มอื่นๆตามออกมาอีกจนถึงการแปลฉบับคิงเจมส์ในปี ค.ศ.1611 ซึ่งนับเป็นฉบับที่ยอมรับกันทั่วไป ฉบับนี้ต่างกับฉบับก่อนๆตรงที่ผู้แปลเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มาทำงานร่วมกัน
ต้นศตวรรษที่ 19 มีการก่อตั้งสมาคมพระคริสตธรรม ซึ่งมีเป้าหมายรับใช้คริสตจักรในด้านการประกาศและการส่งมิชชันนารี แต่เป้าหมายหลักที่สำคัญที่สุด คือการจัดเตรียมและจัดพิมพ์พระคัมภีร์ภาษาต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนการแปลพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษในปี ค.ศ.1881 มีฉบับแก้ไขใหม่หรือที่เรียกกันว่าฉบับรีไวส์ (Revised Version) ซึ่งเป็นฉบับที่แปลจากต้นฉบับที่ถูกต้องกว่าและมุ่งแปลแบบคำต่อคำ ผลงานจึงออกมาไม่ดีนักในแง่ของภาษา และสำนวนไม่ทันสมัย ภายหลังมีฉบับแปลอื่นๆตามออกมา เช่น ฉบับรีไวส์แสตนดาร์ด (Revised Standard Version, 1952) ฉบับนิวอิงลิช (New English Bible, 1970) ฉบับกู๊ดนิวส์ (Good News Bible, 1976) ฉบับเอ็นไอวี (New International Version, 1979) ฉบับนิวคิงเจมส์ (New King James, 1982) ฯลฯ นอกเหนือจากฉบับแปลเหล่านี้แล้ว ยังมีฉบับแปลอื่นๆที่เป็นฉบับของผู้ผลิตเอง เช่น ฉบับเวย์เม้าธ์ ฉบับมอฟเฟ็ท ฉบับฟีลิปส์ ฉบับเทเลอร์ เป็นต้น บีด(ค.ศ.735)เป็นผู้แปลหนังสือยอห์นเป็นภาษาแองโกลแซกซัน ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษดั้งเดิม บุคคลที่มีส่วนในการแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาอังกฤษมีหลายท่าน เช่นกษัตริย์อัลเฟรด(ค.ศ.871-901)จอห์น วิคลิฟ(ค.ศ.1384) และวิลเลียม ทินเดล (ค.ศ.1526)ฯลฯ ส่วนไมล์ส คัฟเวอร์เดล(ค.ศ.1535)เป็นคนแรกที่พิมพ์พระคัมภีร์ภาษาอังกฤษทั้งเล่ม
หลังจากนั้นมีการแปลเล่มอื่นๆตามออกมาอีกจนถึงการแปลฉบับคิงเจมส์ในปี ค.ศ.1611ซึ่งนับเป็นฉบับที่ยอมรับกันทั่วไป ฉบับนี้ต่างกับฉบับก่อนๆตรงที่ผู้แปลเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มาทำงานร่วมกัน
ต้นศตวรรษที่19 มีการก่อตั้งสมาคมพระคริสตธรรม ซึ่งมีเป้าหมายรับใช้คริสตจักรในด้านการประกาศและการส่งมิชชันนารีแต่เป้าหมายหลักที่สำคัญที่สุด คือการจัดเตรียมและจัดพิมพ์พระคัมภีร์ภาษาต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ส่วนการแปลพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษในปีค.ศ.1881มีฉบับแก้ไขใหม่หรือที่เรียกกันว่าฉบับรีไวส์(Revised Version)ซึ่งเป็นฉบับที่แปลจากต้นฉบับที่ถูกต้องกว่าและมุ่งแปลแบบคำต่อคำผลงานจึงออกมาไม่ดีนักในแง่ของภาษา และสำนวนไม่ทันสมัยภายหลังมีฉบับแปลอื่นๆตามออกมาเช่น ฉบับรีไวส์แสตนดาร์ด(Revised Standard Version,1952) ฉบับนิวอิงลิช(New English Bible,1970)ฉบับกู๊ดนิวส์(Good News Bible,1976)ฉบับเอ็นไอวี (New International Version,1979)ฉบับนิวคิงเจมส์(New King James,1982)ฯลฯนอกเหนือจากฉบับแปลเหล่านี้แล้ว ยังมีฉบับแปลอื่นๆที่เป็นฉบับของผู้ผลิตเอง เช่น ฉบับเวย์เม้าธ์ ฉบับมอฟเฟ็ท ฉบับฟีลิปส์ ฉบับเทเลอร์ เป็นต้น
การแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาไทย
ปี ค.ศ.1567 คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกได้เข้ามาเผยแผ่ในประเทศไทย เมื่อกลุ่มคณะนักบวชที่เดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มแรกมาถึงกรุงศรีอยุธยาได้เริ่มเรียนภาษาไทยและได้มีการตั้งศูนย์พระศาสนจักรขึ้นที่กรุงศรีอยุธยาขณะนั้นอยู่ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเมื่อมิชชันนารีเรียนภาษาไทยจนอ่านออกเขียนได้แล้วได้แปลหนังสือ"พระวรสาร"คือพระราชประวัติของพระเยซูจากพระกิตติคุณ(พระวรสาร-คาทอลิก)ทั้งสี่เล่มเป็นภาษาไทยโดยเขียนบนกระดาษสา หนังสือนี้ชื่อว่า"พระพุทธเยซู"ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกที่ประเทศฝรั่งเศส นับว่าเป็นวรรณกรรมทางคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีอายุเกือบ 500 ปีแล้ว
ต่อมาแหม่มแอนนา จัดสัน ภรรยาของ ศาสนาจารย์ อาโดนีรัม จัดสัน มิชชันนารีที่ทำงานในประเทศพม่า ได้ศึกษาภาษาไทยจากเชลยศึกชาวสยามที่ถูกกวาดต้อนมาเมื่อตอนที่กรุงศรีอยุธยาแตก แหม่มจัดสันได้แปลพระกิตติคุณลูกาและหลักข้อเชื่อของคริสต์ศาสนาเป็นภาษาไทยเพื่อเผยแผ่แก่เชลยศึกชาวสยามเหล่านั้นพระธรรมเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ในประเทศอินเดีย(กัลป์กะต้า)ปี ค.ศ.1819แต่น่าเสียดายที่ต้นฉบับพระธรรมเล่มนี้สูญหายหมด
ในปี ค.ศ.1828 ศาสนาจารย์ คาร์ล กุ๊ทสลาฟ และศาสนาจารย์ จาคอบ ทอมลิน มิชชันนารีสองท่านที่ประกาศข่าวดีในประเทศไทยเป็นผู้แปลพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่จากภาษาจีนเป็นภาษาไทย โดยเริ่มแปลพระกิตติคุณลูกาเป็นเล่มแรก
ต่อมา สมาคมพระคริสต์ธรรมอเมริกาได้ร่วมมือกับยูเนียนแบ๊บติสต์มิชชั่นและอเมริกันบอร์ดออฟมิชชั่น แปลพระกิตติคุณทั้งสี่ขึ้นใหม่ แก้ไขและจัดพิมพ์ในปีค.ศ.1849 ต่อมาได้ทำการแก้ไขปรับปรุงเล่มอื่นๆ ด้วยจนเสร็จทั้งเล่ม
ในปี ค.ศ.1883 พระคัมภีร์ภาษาไทยทั้งภาคพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่แปลเสร็จเรียบร้อย และจัดพิมพ์แยกเล่มโดยสมาคมพระคริสตธรรมอเมริกาในปี ค.ศ.1891-1896สมาคมพระคริสตธรรมอเมริกาได้จัดพิมพ์พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับรวมเล่มภายหลังจากแก้ไขใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ.1926-1930 ได้มีการแก้ไขพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับรวมเล่มและจัดพิมพ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่งในปีค.ศ.1954ได้มีการตั้งกรรมการตรวจทานต้นฉบับอีกครั้งหนึ่งเพื่อแก้ไขพระคัมภีร์โดยได้รับความร่วมมือทั้งจากฝ่ายโปรเตสแตนต์และฝ่ายคาทอลิกงานแก้ไขครั้งนี้ใช้เวลานานถึง13ปี เนื่องจากต้องการแก้ไขการแปลให้ถูกต้องตามต้นฉบับมากที่สุดโดยเทียบฉบับยกร่างภาคพันธสัญญาเดิมกับต้นฉบับภาษาฮีบรู และเทียบฉบับยกร่างภาคพันธสัญญาใหม่กับต้นฉบับภาษากรีกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับแก้ไขนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1971โดยอาจารย์ศรัณย์ ชัยรัตน์และคณะในระหว่างที่กำลังจัดทำพระคัมภีร์ฉบับแก้ไขอยู่นั้นสมาคมพระคริสตธรรมได้แปลพระคัมภีร์ภาษาไทยอีกฉบับหนึ่งขึ้นโดยเน้นสำนวนภาษาที่ทันสมัยเป็นฉบับที่เรียกว่า"พระวจนะสำหรับยุคใหม่"หรือ"ประชานิยม"ซึ่งได้แปลเสร็จและจัดพิมพ์ส่วนที่เป็นภาคพันธสัญญาเดิมในปีค.ศ.1977 ส่วนที่เป็นภาคพันธสัญญาใหม่แปลเสร็จและจัดพิมพ์ในปีค.ศ.1980 และได้จัดพิมพ์รวมเล่มออกมาในปี ค.ศ.1984(ถึงปัจจุบันมีฉบับเรียงพิมพ์ใหม่2009 และคงจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกแน่นอน)
ค่ะ สักวันเมื่อเค้ารู้จักพระเจ้ามากขึ้นอีก เค้าคงเข้าใจมากขึ้นค่ะ ตอนนี้ขอห่างๆอย่างที่คุณว่าดีกว่า แห่ๆๆๆ ขอบคุณนะคะDeo Gratias เขียน:ของโปรฯ เองก็มีหลายสำนวนแปลค่ะ มีทั้งแปลจากภาษาเดิม และแปลจากภาษาอื่นๆ เช่น อังกฤษJeanne d'Arc เขียน: แต่แปลไม่เหมือนกันครับ
เหมือนกับว่าของเขาแปลมาจาก King James
............................
ฉบับที่มีคริสตชนไทยใช้กันบ้างก็เช่น NIV(อมตธรรม) TSV(มาตรฐาน2002)
KJV(คิงเจมส์[หายากมากๆ]) ฉบับอ่านเข้าใจง่าย(แปลจากภาษาเดิม) ฯลฯ
อาเมน!!Mminnano เขียน: ดีจังเลยค่ะ จะได้เข้าใจกัน รวมกันเป็นหนึ่งเดียว แล้วก็ช่วยกันออกหว่านแหจับมนุษย์แทนปลากัน......
คำพูดนี้ถูกใจมากค่ะ
ถ้าเขาเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ไปโบสถ์ทุกอาทิตย์แต่สังคมชาวคริสต์ไม่ช่วยให้เขาเปลี่ยนแปลงได้ ก็คงยากที่ใคร(มนุษย์)จะเปลี่ยนเขาได้Mminnano เขียน: ดังนั้น รบกวนขอคำภาวนาให้เราด้วยนะคะ ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอให้สิ่งต่างๆผ่านพ้นไปได้สักที ตอนนี้ไม่อยากคบแล้วคนนี้ เริ่มรู้สึกแย่มากๆค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงกับเค้าแล้ว
คุณ Mminnano ก็ยังเป็นเพื่อนกับเขาได้ แต่ห่างๆ หน่อยก็ดีค่ะ คุยเท่าที่จำเป็น ...............
อย่างนี้ต้อง ถอยยยยยย ดีกว่าาาาาา ไม่เอาาาาาา ดีกว่า แห่ะๆๆๆๆ ขอร้องเพลงนิดนึงนะคะ แห่ะๆๆๆ ตอนนี้จะออกมาห่างๆ เฉยๆ นิ่งๆ ทำใจนิ่งๆค่ะ เพราะก็ยังรู้สึกผิดที่บางครั้ง เหมือนจะพูดกลับไปด้วยถ้อยคำที่เข้มเหมือนกัน ว่า"ทำอย่างนี้ มันเกินไปไหมคะน้อง พี่ว่ามันแรงเกินไปนะ พี่ไม่ชอบ" คือทุกทีจะพูดค่ะ หรือจ๊ะ กับเค้าตลอด แต่พอทนไม่ไหว บางทีก็แรงเหมือนกัน ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับคำแนะนำ และบทความดีๆในพระัคัมภีร์ ^__^Holy เขียน: 2ธส 3:6-15
พี่น้องทั้งหลาย เราขอกำชับท่านในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าให้ท่านหลีกห่างจากพี่น้องที่ดำเนินชีวิตโดยไม่มีวินัย ไม่ทำตามธรรมประเพณีที่ท่านได้รับจากเรา ท่านรู้อยู่แล้วว่า ท่านต้องยึดถือเราเป็นแบบฉบับอย่างไร เพราะเมื่อเราอยู่กับท่าน เรามิได้อยู่นิ่งเฉย เรามิได้กินอาหารของผู้ใดโดยไม่ทำงานตอบแทน ...................
----ถอยได้เลยครับ แต่อย่านับว่าเป็นศัตรู กล่าวคือ ให้อภัย แต่ไม่ยุ่งด้วยได้ครับ
Jeab Agape เขียน: ^
อคติเกินไป ทราบไหมครับว่า สถานที่เข้าเงียบ ของคาทอลิก ยังใช้พระคัมภีร์สมาคมพระคริสตธรรมทั้งหมด
และหลายแห่งใช้ พระคัมภีร์ใหม่ กีเดี้ยน..................
การแปลพระคัมภีร์
นับตั้งแต่มาร์ติน ลูเธอร์ ได้ปฏิรูปศาสนาในปี ค.ศ.1517 ทำให้หลายคนคิดที่จะแปลพระคัมภีร์ออกเป็นภาษาต่างๆมากขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้คนธรรมดาได้อ่านได้ทำความเข้าใจพระคัมภีร์และรับชีวิตใหม่ในการแปลพระคัมภีร์ครั้งนี้พวกเขาคิดที่จะแปลจากต้นฉบับภาษาดั้งเดิมแทนที่จะแปลจากฉบับวัลเกต(ฉบับภาษาลาตินปี ค.ศ.400 โดยประมาณ)
การแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาไทย
ปี ค.ศ.1567 คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกได้เข้ามาเผยแผ่ในประเทศไทย เมื่อกลุ่มคณะนักบวชที่เดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มแรกมาถึงกรุงศรีอยุธยาได้เริ่มเรียนภาษาไทยและได้มีการตั้งศูนย์พระศาสนจักรขึ้นที่กรุงศรีอยุธยาขณะนั้นอยู่ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเมื่อมิชชันนารีเรียนภาษาไทยจนอ่านออกเขียนได้แล้วได้แปลหนังสือ"พระวรสาร"คือพระราชประวัติของพระเยซูจากพระกิตติคุณ(พระวรสาร-คาทอลิก).............
.............................................................
ในปี ค.ศ.1828 ศาสนาจารย์ คาร์ล กุ๊ทสลาฟ และศาสนาจารย์ จาคอบ ทอมลิน มิชชันนารีสองท่านที่ประกาศข่าวดีในประเทศไทยเป็นผู้แปลพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่จากภาษาจีนเป็นภาษาไทย โดยเริ่มแปลพระกิตติคุณลูกาเป็นเล่มแรก
ได้ความรู้เพิ่มเติมอีกแล้ว ดีจัง ขอบคุณมากๆนะคะ ^__^
แต่ที่สำคัญ อีกครั้ง ขอคำภาวนาให้เรา และเ้ค้าคนนั้นด้วยนะคะ ^__^
แก้ไขล่าสุดโดย Prod Pran เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2010 7:26 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
เหตุผลนึงที่เราหันมาเข้าโบสถ์คาทอลิกแทน
.......สงสัยจะเป็นนิกายมอร์ม่อน หรือเปล่าไม่รู้
เดี๋ยวนี้มีโปรๆแตกแยกเป็นร้อยเป็นพันนิกาย ตีความในพระคัมภีร์แตกต่างกันก็อ้างว่าของตนแท้
คนอื่นไม่แท้ โจมตีกันไปมา แย่งสมาชิกกันทำไม โดยฉะเพาะในเกาหลี
....เรายังทะเลาะกันในต่างนิกาย แล้วไปประกาศข่าวดีให้คนต่างศาสนาฟังเขาก็หัวเราะเยาะเอา
ในบ้านตัวเองแท้ๆยังแตกแยกกัน
ที่อ.โปรดปรานพูดถูกเราต้องเสวนากันพูดคุยกัน เรื่องต่างๆมันผ่านมาเป็นร้อยๆปีแล้ว
คนเก่าๆเหล่านั้นตายไปหมดแล้ว เขาต้องรับผิดชอบต่อหน้าพระเจ้า ในการกระทำของเขา
แล้วเรายังมาแบ่งแยกโจมตีกันทำไม หันหน้าเข้าหากัน คุยกันจับมือกัน พระองค์สอนว่า
จงรักกันและกันเหมือนดังที่เรารักท่าน เคยได้ยินบ้างไหมคำที่มีคนเคยว่าพวกเรา เอาแบบสุภาพ
(ไอ้พวก.................... พระเจ้าองค์เดียวกันไบเบิ้ลเล่มเดียวกัน มันยังกัดกันเลย)
ฟังแล้วไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเจ็บไปถึงหัวใจ มันมีกลุ่มที่จับผิดใส่ร้ายป้ายสี ดูหมิ่น ศาสนาคริสต์อยู่
เราควรรักกัน สามัคคีกัน เป็นพี่น้องกัน แม้นแตกต่างนิกายไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันหรือเป็นศัตรูกัน
ช่วยกันประกาศเรื่องพระเจ้าอย่างมีความสุข....โดยมีความรักของพระองค์เป็นแบบอย่าง.....
เดี๋ยวนี้มีโปรๆแตกแยกเป็นร้อยเป็นพันนิกาย ตีความในพระคัมภีร์แตกต่างกันก็อ้างว่าของตนแท้
คนอื่นไม่แท้ โจมตีกันไปมา แย่งสมาชิกกันทำไม โดยฉะเพาะในเกาหลี
....เรายังทะเลาะกันในต่างนิกาย แล้วไปประกาศข่าวดีให้คนต่างศาสนาฟังเขาก็หัวเราะเยาะเอา
ในบ้านตัวเองแท้ๆยังแตกแยกกัน
ที่อ.โปรดปรานพูดถูกเราต้องเสวนากันพูดคุยกัน เรื่องต่างๆมันผ่านมาเป็นร้อยๆปีแล้ว
คนเก่าๆเหล่านั้นตายไปหมดแล้ว เขาต้องรับผิดชอบต่อหน้าพระเจ้า ในการกระทำของเขา
แล้วเรายังมาแบ่งแยกโจมตีกันทำไม หันหน้าเข้าหากัน คุยกันจับมือกัน พระองค์สอนว่า
จงรักกันและกันเหมือนดังที่เรารักท่าน เคยได้ยินบ้างไหมคำที่มีคนเคยว่าพวกเรา เอาแบบสุภาพ
(ไอ้พวก.................... พระเจ้าองค์เดียวกันไบเบิ้ลเล่มเดียวกัน มันยังกัดกันเลย)
ฟังแล้วไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเจ็บไปถึงหัวใจ มันมีกลุ่มที่จับผิดใส่ร้ายป้ายสี ดูหมิ่น ศาสนาคริสต์อยู่
เราควรรักกัน สามัคคีกัน เป็นพี่น้องกัน แม้นแตกต่างนิกายไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันหรือเป็นศัตรูกัน
ช่วยกันประกาศเรื่องพระเจ้าอย่างมีความสุข....โดยมีความรักของพระองค์เป็นแบบอย่าง.....
น้องเมจิ นิกายที่น้องพูดถึงว่านิกายอะไร...ก็คงเป็นโปรฯอีกนิกายหนึ่ง
น้องถามเขาโดยตรงไปเลยค่ะ...คงมีเป็นส่วนน้อย
เพราะพี่ก็ไม่ค่อยได้ยิน เลยไม่รู้ว่าเป็นนิกายอะไร...
(ตอนแรกก็คิดว่าเป็น มอร์ม่อน ถ้าไม่ใช่ขออภัยด้วยค่ะ)
..... ....
น้องถามเขาโดยตรงไปเลยค่ะ...คงมีเป็นส่วนน้อย
เพราะพี่ก็ไม่ค่อยได้ยิน เลยไม่รู้ว่าเป็นนิกายอะไร...
(ตอนแรกก็คิดว่าเป็น มอร์ม่อน ถ้าไม่ใช่ขออภัยด้วยค่ะ)
..... ....
-
- โพสต์: 954
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 12, 2011 11:04 pm
บอกไปเลยว่า ทุกนิกายอะแยกมาจากคาทอลิกทั้งนั้น ที่แยกไปอะของปลอม บอกคนที่ว่าเรานะ