ครับ หลังจากที่ผมออกจากโรงพยาบาลแล้ว พอตกกลางคืนอาการของผมก็กำเริบขึ้นมาอีกครั้งครับ คราวนี้ผมให้แม่พาไปโรงพยาบาลตอนเกือบเที่ยงคืน และได้เคาท์ดาวน์อยู่ในห้องตรวจ
จากนั้น ผมก็เลยได้นอนอยู่ในห้องพิเศษในคืนนั้นครับ(ช่วงประมาณเที่ยงคืน วันที่ 1 มกราคม 50)
พอตื่นเช้าขึ้นมา ผมไปเข้าห้องน้ำปรากฏว่าที่คอผมมีกางเขนห้อยคออยู่ครับ ผมออกมาถามแม่(แม่เป็นพุทธ)ว่ากางเขนอยู่ที่คอผมได้อย่างไร
แม่ก็บอกว่า เมื่อคืนตอนที่แม่จะเอาสร้อยพระ(พุทธ)ให้ผมใส่ ผมบอกแม่ว่า พระของผมอยู่ในลิ้นชัก พอแม่เปิดลิ้นชักดูเจอกางเขน ก็เลยเอามาใส่ให้ผมแล้วผมก็นอนไป ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นผมจำอะไรไม่ได้เลย
***ผมตัดสินใจอยากเป็นคริสตังแต่ไม่ได้บอกอะไรแม่เลยครับ ก่อนมาโรงพยาบาลเอารูปแม่พระกับกางเขนมาด้วย พอมาถึงก็เอารูปแม่พระ กับกางเขนใส่ไว้ในลิ้นชักข้างเตียง
หลังจากนั้นผมก็ได้เริ่มคิดว่า ที่ผ่านมาผมเองก็รู้จักพระมานาน แต่ไม่ได้มีความกระตือรือร้นในการเข้าหาพระเลย คราวนี้คงได้โอกาสแล้วสินะเพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่(ถ้าเป็นโรคหัวใจจริง)
ในวันจันทร์นั่นแหละครับ ผมเลยบอกกับแม่ว่าจะไปเรียนคำสอน เพื่อเป็นคริสต์ตัง แม่เข้าใจครับ และอนุญาต(แต่ต่อไปนี่สิ)
วันอังคาร พอออกจากโรงพยาบาลได้ ช่วงบ่ายผมก็ได้ไปที่ วัดนักบุญเปาโลกลับใจ (วัดคริสต์แห่งเดียวในอำเภอ) ก็เข้าไปขอเรียนคำสอนเลยครับ โดยผมได้คุยกับซิสเตอร์ และพ่อ ซึ่งผมจะได้เริ่มเรียนคำสอนวันอาทิตย์นี้เลย

แต่เมื่อผมคุยกับแม่แล้ว แม่ผมยอมให้เรียนคำสอนครับ แต่ไม่ให้ล้างบาปบอกว่าต้องให้ผมโตและมีงานทำก่อน

แม่ผมบอกว่า ผมไม่ต้องบวชให้แม่ก็ได้ เพราะ แม่บอกแม่ทำบุญให้ตัวเองได้

แต่ห้ามผมล้างบาป เพราะว่าเผื่อจะมีญาติเสีย จะได้ให้ผมบวชหน้าศพ

แล้วก็ล่าสุดครับเมื่อวาน(พุธที่ 3 มกรา 50) ทางวัดได้มีพิธีต้องช่วงค่ำประมาณ 1 ทุ่ม ผมไม่รู้ชื่อครับว่าพิธีอะไร แต่ซิสเตอร์ท่านแนะนำดีมาก ๆ เลยครับ ท่านก็บอกแนะนำอยู่ตลอดเวลา ผมได้ออกไปรับศีลกับพ่อด้วย แต่ไม่ได้รับปัง(อิจฉาคนที่ล้างบาปแล้วจังเลยยยยยยยยยย) รู้สึกดีและมีความสุขมาก ๆ เลยครับ

สรุป ผมได้เรียนคำสอนแล้วครับ แต่เป็นแบบเรียนไปเรื่อย ๆ พอโตถึงค่อยได้ล้างบาป แต่ก็นะครับ ถ้าพระจะให้รอยังไงก็รอได้ครับ

***นับตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นมา อาการเจ็บหน้าอกของผมก็หายไปไม่เป็นอีกเลยครับ แต่ก็ต้องรอดูอาการต่อไป ขอบคุณพระเจ้ามาก ๆ เลยครับ รักพระสุด ๆ เลย


***เรื่องรูปเคารพอ่ะ ผมไม่ไหวมาก ๆ เลย ผมบอกแม่แล้วว่าผิดบัญญัติข้อแรก แต่แม่บอกว่าไหว้ได้(แกมบังคับ +กดดัน) ผมได้ถามซิสเตอร์ท่านก็ได้บอกว่าอยู่ที่ใจ ผมก็เลยตัดสินใจว่าจะไหว้เฉพาะร่างกาย ไม่ทราบว่าจะผิดรึเปล่า
