มารผจญเราเสมอ ตลอดชีวิตนั้นหล่ะค่ะ มีแต่เราว่าจะเลือกเดินตามไปหรือไม่?
เมื่อรู้ตัว สำนึก ก็ยังกลับตัวทัน ขอโทษพระ...ค่อย ๆ ปรับใหม่...ยังไม่สาย...พระยังคอยอยู่...
ส่วนเรื่องคนอื่น สวดภาวนา รอให้พระจัดการ เวลาพระอาจช้าบ้าง....ในบางเรื่อง ควรอดใจไว้ เดี๊ยวจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเข้ามาเองหล่ะค่ะ....ไม่เร็ว..ไม่ช้า...
บางอย่างก็ไม่ต้องสนใจ ( รกสมอง )
การ คิดดี ทำดี ต้องเริ่มใกล้ตัวก่อนเลย...เริ่มตั้งแต่ก้าวออกจากบ้าน (ฝากให้คิด .... อย่าหวัง ว่าจะได้ผลตอบแทนกลับด้วยหล่ะ....เพราะกลายเป็นคาดหวัง แล้วก็จะไม่ได้อะไรกลับมา....ก็จะทำให้เสียใจเปล่าๆๆ...) เมื่อคนอื่นไม่ทำ เราก็จงทำ....ไม่ต้องรอให้ใครทำ...
เมื่อไหร่เราจะเลิกมืดมนได้เด็ดขาดซะที ท้อจังแล้ว
- salvation7
- Defender of lawS
- โพสต์: 522
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
- ติดต่อ:
พระเจ้าทรงรักเราทุกคนแม้คนที่เลวที่สุด เพราะทุกคนเป็นสิ่งสร้างที่เป็นฉายาลักษณ์ของพระองค์ มีจิตใจที่เลือกดีและเลวได้แต่ไม่สมบูรณ์แบบหรือมีฤทธิ์เหมือนกับพระองค์
ถ้าคุณจะเป็นศิษย์ของพระคริสต์คุณจะต้องพยายามให้อภัยและหวังดีต่อทุกคน ถ้าคุณเจอคนร้ายใส่คุณ อย่างน้อยที่สุดคุณต้องพยายามจำกัดขอบเขตความโกรธ คืออาจจะอดที่จะโกรธไม่ได้แต่อย่างน้อยต้องไม่อาฆาตแค้นหรือคาดหวังให้เค้าต้องไปเจอกรรมสนองอะไรประมาณนี้ และอย่าไปตัดสินเจตนาดีชั่วจากสิ่งที่คุณรู้เห็นเพราะคุณยังไม่มีญาณหยั่งรู้ว่าคนที่ทำอะไรไม่ดีเค้าทำด้วยเจตนาอะไรอย่างแท้จริง ถ้าคุณมีประสบการณ์ชีวิตมีความอดทนมากขึ้นคุณอาจจะพัฒนาด้วยการเลิกโกรธให้เร็วที่สุด
ถ้าคุณเจอคนเลว หรือรับรู้เรื่องราวการกระทำชั่วร้ายต่างๆ คุณควรภาวนาขอพระดลใจหรือประทานโอกาสในการกลับใจให้เขา ให้เขาสำนึกผิดคิดได้ ไม่ใช่คอยลุ้นว่าพระเจ้าจะทรงให้กฎแห่งกรรมลงโทษเขาเมื่อใด
สำหรับความลำบากในชีวิตของคุณๆต้องเข้าใจว่าทุกคนมีกางเขนที่ต้องแบกพระเจ้าไม่ทรงให้ใครแบกกางเขนที่หนักมากจนกว่าความสามารถของเขาจะรับได้ อุปสรรคและความทุกข์ในชีวิตของเราเป็นโอกาสที่บางครั้งเราอาจจะไม่เต็มใจรับ เราอยากจะมีสิทธิ์เลือกเอง แต่นั่นเป็นโอกาสที่เราจะได้บุญกุศลถ้าอดทนผ่านมันไปได้ด้วยความเต็มใจ และความทุกข์เหล่านี้เราสามารถถวายมันเพื่อชดเชยโทษบาปของเราเอง และแม้แต่ของผู้อื่น หรือวิญญาณในไฟชำระได้อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนต่างศาสนา ต่างความเชื่อไม่สามารถทำได้ เพราะเค้าไม่ได้เชื่อเช่นเรา ต่อให้เค้านับถือพระเจ้าพระองค์เดียวกับเราด้วยซ้ำ เพราะเค้าไม่ได้มีคำสอนแบบนี้
ถ้าคุณจะเป็นศิษย์ของพระคริสต์คุณจะต้องพยายามให้อภัยและหวังดีต่อทุกคน ถ้าคุณเจอคนร้ายใส่คุณ อย่างน้อยที่สุดคุณต้องพยายามจำกัดขอบเขตความโกรธ คืออาจจะอดที่จะโกรธไม่ได้แต่อย่างน้อยต้องไม่อาฆาตแค้นหรือคาดหวังให้เค้าต้องไปเจอกรรมสนองอะไรประมาณนี้ และอย่าไปตัดสินเจตนาดีชั่วจากสิ่งที่คุณรู้เห็นเพราะคุณยังไม่มีญาณหยั่งรู้ว่าคนที่ทำอะไรไม่ดีเค้าทำด้วยเจตนาอะไรอย่างแท้จริง ถ้าคุณมีประสบการณ์ชีวิตมีความอดทนมากขึ้นคุณอาจจะพัฒนาด้วยการเลิกโกรธให้เร็วที่สุด
ถ้าคุณเจอคนเลว หรือรับรู้เรื่องราวการกระทำชั่วร้ายต่างๆ คุณควรภาวนาขอพระดลใจหรือประทานโอกาสในการกลับใจให้เขา ให้เขาสำนึกผิดคิดได้ ไม่ใช่คอยลุ้นว่าพระเจ้าจะทรงให้กฎแห่งกรรมลงโทษเขาเมื่อใด
สำหรับความลำบากในชีวิตของคุณๆต้องเข้าใจว่าทุกคนมีกางเขนที่ต้องแบกพระเจ้าไม่ทรงให้ใครแบกกางเขนที่หนักมากจนกว่าความสามารถของเขาจะรับได้ อุปสรรคและความทุกข์ในชีวิตของเราเป็นโอกาสที่บางครั้งเราอาจจะไม่เต็มใจรับ เราอยากจะมีสิทธิ์เลือกเอง แต่นั่นเป็นโอกาสที่เราจะได้บุญกุศลถ้าอดทนผ่านมันไปได้ด้วยความเต็มใจ และความทุกข์เหล่านี้เราสามารถถวายมันเพื่อชดเชยโทษบาปของเราเอง และแม้แต่ของผู้อื่น หรือวิญญาณในไฟชำระได้อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนต่างศาสนา ต่างความเชื่อไม่สามารถทำได้ เพราะเค้าไม่ได้เชื่อเช่นเรา ต่อให้เค้านับถือพระเจ้าพระองค์เดียวกับเราด้วยซ้ำ เพราะเค้าไม่ได้มีคำสอนแบบนี้