วันที่ ๒๑
ความผิดบาปในโลกธุรกิจ
(ฮชย. 12:7-8; ยากอบ. 5:4-6; อาโมส. 8:4-6)
12:6 "โดยพระอนุเคราะห์ของพระเจ้าเจ้าจงกลับมา ยึดความรักมั่นคงและความยุติธรรมไว้ให้มั่น และรอคอยพระเจ้าของเจ้าอยู่เสมอ"
12:7 เขาเป็นพ่อค้า ในมือของเขามีตราชูขี้ฉ้อ เขารักที่จะบีบบังคับ
ยากอบ
5:4 นี่แน่ะ ค่าจ้างของคนที่ได้เกี่ยวข้าวในนาของท่านซึ่งท่านได้ฉ้อโกงไว้นั้น ก็ร้องฟ้องขึ้น และเสียงร้องทุกข์ของคนที่เกี่ยวข้าวนั้น ได้ทรงทราบถึงพระกรรณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาแล้ว
5:5 ท่านมีชีวิตอยู่ในโลกอย่างฟุ่มเฟือยและสนุกสนาน ท่านได้บำเรอจิตใจของท่านไว้รอวันประหาร
5:6 ท่านได้ตัดสินลงโทษ และได้ฆ่าคนชอบธรรม เขาก็ไม่ได้ต่อต้านท่าน
อาโมส
8:4 ท่านผู้เหยียบย่ำคนขัดสน ท่านผู้ทำลายคนยากจนแห่งแผ่นดิน จงฟังถ้อยคำนี้
8:5 โดยกล่าวว่า "เมื่อไรหนอวันขึ้นค่ำจะหมดไป เราจะได้ขายข้าวของเรา เมื่อไรหนอวันสะบาโตจะพ้นไป เราจะได้เอาข้าวสาลีออกขาย เราจะได้กระทำทะนานให้ย่อมลงและกระทำเชเขลให้โตขึ้น และหลอกค้าด้วยตาชั่งขี้ฉ้อ
8:6 เพื่อเราจะได้ซื้อคนจนด้วยเงิน และซื้อคนขัดสนด้วยรองเท้าสานคู่หนึ่ง และขายกากข้าวสาลี
ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม ธุรกิจมืดเจริญรุ่งเรือง และแผ่ขยายตัวมากในสังคมไทย เป็นธุรกิจที่มีเงินหมุนเวียนมากมายมหาศาล ผลประโยชน์ตอบแทนที่มาในรูปของเงินทองทำให้คนเก่ง คนมีความรู้ คนมีอำนาจ เข้ามาเกี่ยวข้องและสนับสนุนธุรกิจมืดให้เดินหน้าต่อไป ทั้งๆ ที่รู้ว่าธุรกิจเหล่านั้นทำลายสังคม ทำลายประเทศชาติ แต่ความเห็นแก่ตัว ความโลภ ได้ดับสามัญสำนึกและทำให้มโนธรรมเงียบเสียงไป ธุรกิจที่มอมเมาวัยรุ่นด้วยอบายมุขในรูปแบบต่างๆ ทำเงินให้มากมาย ทั้งที่รู้ว่าจะสร้างปัญหาและทำให้วัยรุ่นเสียคน เสียตัว หมดอนาคต พวกนายทุนก็ยังทุ่มเทเงินสนับสนุนธุรกิจเหล่านั้น เพราะว่ามีกำไรดีและรวดเร็ว
การทำธุรกิจแบบหลอกลวง ไม่สัตย์ซื่อ สินค้าปลอมปน สินค้าไม่ได้คุณภาพ สินค้าที่เป็นพิษภัยต่อผู้บริโภค ขาดจิตสำนึกของความรับผิดชอบต่อลูกค้าที่มาใช้บริการ เอารัดเอาเปรียบลูกค้าโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติทำให้ประเทศชาติเสียชื่อ
การกดขี่ข่มเหงผู้ใช้แรงงานโดยเฉพาะแรงงานเด็กและสตรีและแรงงานต่างชาติ เช่น พม่า ลาว เขมร การจ้างแรงงานด้วยค่าแรงที่ต่ำ สภาพการทำงานเสี่ยงอันตรายเป็นภัยต่อสุขภาพ ความเห็นแก่ตัวของนายจ้างที่มุ่งแต่กำไรโดยไม่คำนึงถึงมนุษยธรรม การหลอกลวงของพวกนายหน้าและสำนักงานจัดหางาน ทำให้คนจนตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงิน ต้องเป็นหนี้ และไม่ได้งานทำ หรือได้ก็ไม่ตรงตามที่สัญญา สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านในต่างจังหวัด เป็นการทำนาบนหลังคนขูดรีดหลอกลวงอย่างไร้ยางอาย คนกระทำเช่นนี้ถือคติว่า
@~ อธิษฐาน 40 วัน ( 1 พ.ย.-10 ธ.ค. 2005 )~@
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
วันที่ ๒๔
รักษาแผ่นดินให้หาย
(อิสยาห์ 58:12; 2 พงศาวดาร 7:14-15)
58:12 และสิ่งสลักหักพังโบราณของเจ้าจะได้รับการสร้างขึ้นใหม่ เจ้าจะได้ซ่อมเสริมรากฐานของคนหลายชั่วอายุมาแล้วขึ้น เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ซ่อมกำแพงที่พัง ผู้ซ่อมแซมถนนให้คืนคงเพื่อจะได้อาศัยอยู่
อิสยาห์
7:14 ถ้าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยชื่อของเรานั้นจะถ่อมตัวลง และอธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา และหันเสียจากทางชั่วของเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย
7:15 และตาของเราจะลืมอยู่และหูของเราจะฟังคำอธิษฐานซึ่งเขาทั้งหลายอธิษฐานณสถานที่นี้
แผ่นดินไทยของเราต้องการเยียวยารักษาจากพระเจ้าอย่างมากที่สุด จริงอยู่คณะรัฐบาลและคนไทยทั้งชาติต่างก็ร่วมใจกันแก้ปัญหาอยู่อย่างขะมักเขม้น และก็ได้คำตอบมาส่วนหนึ่ง แต่คำตอบสุดท้ายต้องมาจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นอัลฟาและโอเมกา เป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย คริสตจักรของพระเยซูคริสต์นี่แหละเป็นความหวังของชุมชนและของชาติ ถ้าคริสตจักรในประเทศไทยแตกแยกจะคาดหวังว่าผู้ครอบครองชาติจะมีความเป็นหนึ่งได้อย่างไร น่าละอายและอดสูใจเป็นอย่างยิ่งที่คริสตจักรซึ่งเป็นเกลือและเป็นแสงสว่างของชาติขาดรสเค็มจนจืดชืดและอับแสง จนรัฐบาลไม่เห็นความสำคัญและบทบาทของคริสตจักรไทยที่มีต่อการพัฒนาชาติบ้านเมือง
อ่าน 2 พงศาวดาร 7:14-15 แล้วอธิษฐานคร่ำครวญร้องไห้กับพระเจ้าเถอะพี่น้อง เราจะได้คำตอบ และแผ่นดินไทยจะได้รับการเยียวยารักษาให้หาย แผ่นดินไทยต้องการการรักษาทุกมิติเลยขวานทองของไทยมันไม่ผุดผ่องดั่งเดิมเสียแล้ว เพราะความบาปทับถมจนไร้แสงแวววับ แต่เรามีคำตอบนะพี่น้อง เรามีความหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่า อีกไม่กี่เพลาข้างหน้า การฟื้นฟูที่นำไปสู่การพลิกฟื้นชุมชน การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง และการรักษาแผ่นดินไทยให้หายจะเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย และในประเทศของเราอย่างแน่นอน!!!! ประเทศไทยจะเด่นอยู่ในสายตาของชาวโลก (จะว่าเป็นคำพยากรณ์ก็ได้นะ) พระเยซูคริสต์จอมกษัตริย์ และจอมเจ้านายของเราจะทรงนำกองทัพของพระองค์ในประเทศไทยไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ยิ่ง และการรักษาแผ่นดินไทยให้หายพระองค์จะทรงทำให้คริสเตียนไทย และคริสตจักรไทยกลายเป็นหนึ่งเดียว คุกเข่าอธิษฐานเถอะพี่น้อง
หัวข้ออธิษฐาน
1. คร่ำครวญต่อพระเจ้าขอความเป็นหนึ่งเดียวให้เกิดขึ้นต่อคริสตจักรและคริสเตียนไทย
2. คร่ำครวญต่อพระเจ้าขอให้คริสเตียนในถิ่นไทยทุกคนเร่งชำระตนเองถวายพระเจ้าโดยเฉพาะผู้นำ
3. คร่ำครวญต่อพระเจ้าขอให้ผู้นำคริสเตียนในประเทศไทยเป็นผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณอย่างแท้จริง
4. คร่ำครวญต่อพระเจ้าขอทรงโปรดรักษาแผ่นดินไทยให้หายในทุกมิติของชีวิต
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
วันที่ ๒๕
ความอยุติธรรมในสังคม
(อาโมส 5:10-13; อิสยาห์ 10:1-2)
5:10 เขาทั้งหลายเกลียดผู้ที่กล่าวเตือนที่ประตูเมืองและเขาทั้งหลายสะอิดสะเอียนผู้ที่พูดความจริง
5:11 เพราะว่าเขาทั้งหลายเหยียบย่ำคนยากจน และเอาส่วยข้าวสาลีไปเสียจากเขา เจ้าจึงสร้างตึกด้วยศิลาสกัด แต่เจ้าจะไม่ได้อยู่ในตึกนั้น เจ้าทำสวนองุ่นที่ร่มรื่น แต่เจ้าจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้น
5:12 เพราะเรารู้ว่าการทรยศของเจ้ามีเท่าใด และบาปของเจ้ามากมายสักเท่าใด เจ้าทั้งหลายผู้ข่มใจคนชอบธรรม ผู้รับสินบน และขับไล่คนขัดสนออกไปเสียจากประตูเมือง
5:13 เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญญาจะนิ่งเสียในเวลาเช่นนั้น เพราะเป็นเวลาชั่วร้าย
อิสยาห์
10:1 วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ออกกฎหมายอธรรม และแก่ผู้เขียนที่เขียนแต่การบีบคั้นเรื่อยไป
10:2 เพื่อหันคนขัดสนไปจากความยุติธรรม และปล้นสิทธิของคนจนแห่งชนชาติของเราเสีย เพื่อว่าหญิงม่ายจะเป็นของริบของเขา และเพื่อเขาจะกระทำให้คนกำพร้าพ่อเป็นเหยื่อของเขา
คนยากจนในสังคมไทยถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกรัดรอนสิทธิและโอกาสในการทำมาหากิน ถูกขูดรีดจากพวกมาเฟียที่ได้รับการหนุนหลังจากผู้มีอำนาจ ผู้มีตำแหน่ง แม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายในการปราบปรามพวกมาเฟีย แต่ในสภาพความเป็นจริงของสังคม คนยากจนก็ยังถูกข่มขู่คุกคามและตกอยู่ในความหวาดกลัว ขาดหลักประกันที่แท้จริงในความยุติธรรม การเรียกร้องขอความเป็นธรรมของคนยากจนบ่อยครั้งถูกละเลย ไม่ได้รับความสนใจจากผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
ศาสนาสอนว่าธรรมคืออำนาจ ธรรมะย่อมชนะอธรรม แต่ในสังคมไทยที่ยกย่องศาสนาว่าเป็นสิ่งดีงามกับยึดถือคติว่าอำนาจคือธรรม หมายความว่าใครมีอำนาจคนนั้นพูดอะไร ทำอะไรถูกต้องหมด สามารถทำเรื่องผิดโดยกฎหมายเอื้อมไม่ถึงเพราะเป็นผู้มีอำนาจ คนมากมายพร้อมที่จะเข้าเป็นสมัครพรรคพวกกับผู้มีอำนาจ เพื่อจะใช้เส้นสายของผู้มีอำนาจดำเนินการต่างๆ ที่ไม่ชอบธรรมได้โดยถูกเล่นงาน เป็นผู้มีอภิสิทธิ์ ด้วยองค์ประกอบของสังคมเช่นนี้ ความชั่วร้าย ความอธรรมจึงบีบคั้นความจริง กฎเกณฑ์ต่างๆ ที่บัญญัติเอาไว้อย่างดีจึงเป็นอัมพาต ใช้ไม่ได้ผล เพราะไม่สามารถดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาได้ เกิดการเลือกปฏิบัติ รากฐานแห่งความยุติธรรมของสังคมจึงถูกบิดเบือน ความไม่ชอบธรรม ความอยุติธรรมจึงเกาะแน่น เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ความชั่วร้านที่กัดกินสังคมไทยมาตลอดทุกยุคทุกสมัย แผ่นดินไทยที่อุมดสมบูรณ์ด้วยพืชพันธ์ธัญญาหารจึงยังคงมีคนยากจนอยู่มากมายทั่วประเทศ
หัวข้ออธิษฐาน
1. ขอให้ผู้มีอำนาจอยู่ในมือได้ใช้อำนาจนั้นเพื่อผดุงความยุติธรรมในสังคมไทย
2. ให้ผู้นำรัฐบาล ผู้นำชุมชน เป็นแบบอย่างในการบริหารงานตามกติกาอย่างเที่ยงธรรมและยุติธรรม โดยไม่เห็นแก่พวกพ้อง
3. ในรัฐบาลจัดการกับพวกมาเฟีย อิทธิพลมืดต่างๆ อย่างจริงจังและต่อเนื่อง
4. ให้รัฐบาลช่วยเหลือครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายจากภัยสึนามิและจากผู้ก่อการร้ายในภาคใต้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^
วันที่ ๒๖
ความสำนึกผิดทำให้กลับใจใหม่
(ลูกา 15:11-32)
15:11 พระองค์ตรัสว่า "ชายคนหนึ่งมีบุตรสองคน
15:12 บุตรคนน้อยพูดกับบิดาว่า "บิดาเจ้าข้า ขอทรัพย์ที่ตกเป็นส่วนของข้าพเจ้าเถิด" บิดาจึงแบ่งสมบัติให้แก่บุตรทั้งสอง
15:13 ต่อมาไม่กี่วันบุตรน้อยนั้นก็รวบรวมทรัพย์ทั้งหมดแล้วไปเมืองไกล และได้ผลาญทรัพย์ของตนที่นั่นด้วยการเป็นนักเลง
15:14 เมื่อใช้ทรัพย์หมดแล้วก็เกิดกันดารอาหารยิ่งนักทั่วเมืองนั้นเขาจึงขัดสน
15:15 เขาไปอาศัยอยู่กับชาวเมืองนั้นคนหนึ่ง และคนนั้นก็ใช้เขาไปเลี้ยงหมูที่ทุ่งนา
15:16 เขาใคร่จะได้อิ่มท้องด้วยฝักถั่วที่หมูกินนั้น แต่ไม่มีใครให้อะไรเขากิน
15:17 เมื่อเขารู้สำนึกตัวแล้ว จึงพูดว่า "ลูกจ้างของบิดาเรามีมาก ยังมีอาหารกินอิ่มและเหลืออีก ส่วนเราจะมาตายเสียที่นี่เพราะอดอาหาร
15:18 จำเราจะลุกขึ้นไปหาบิดาเรา และพูดกับท่านว่า "บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ผิดต่อสวรรค์และผิดต่อท่านด้วย
15:19 ข้าพเจ้าไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของท่านต่อไป ขอท่านให้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนลูกจ้างของท่านคนหนึ่งเถิด"
15:20 แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปหาบิดาของตน แต่เมื่อเขายังอยู่แต่ไกล บิดาแลเห็นเขาก็มีความเมตตา จึงวิ่งออกไปกอดคอจุบเขา
15:21 ฝ่ายบุตรนั้นจึงกล่าวแก่บิดาว่า "บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ผิดต่อสวรรค์และต่อท่าน ข้าพเจ้าไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของท่านต่อไป"
15:22 แต่บิดาสั่งบ่าวของตนว่า "จงรีบไปเอาเสื้ออย่างดีที่สุดมาสวมให้เขา และเอาแหวนมาสวมนิ้วมือ กับเอารองเท้ามาสวมให้เขา
15:23 จงเอาลูกวัวอ้วนพีมาฆ่าเลี้ยงกัน เพื่อความรื่นเริงยินดีเถิด
15:24 เพราะว่าลูกของเราคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก" เขาทั้งหลายต่างก็มีความรื่นเริงยินดี
15:25 "ฝ่ายบุตรคนใหญ่นั้นกำลังอยู่ที่ทุ่งนา เมื่อเขากลับมาใกล้ตึกแล้ว ก็ได้ยินเสียงมโหรีและเต้นรำ
15:26 เขาจึงเรียกบ่าวคนหนึ่งมาถามว่า เขาทำอะไรกัน
15:27 บ่าวจึงตอบว่า "น้องของท่านกลับมาแล้ว และบิดาได้ให้ฆ่าลูกวัวอ้วนพีเพราะได้ลูกกลับมาโดยสวัสดิภาพ"
15:28 ฝ่ายพี่ชายก็โกรธไม่ยอมเข้าไป บิดาจึงออกมาชักชวนเขา
15:29 แต่เขาบอกบิดาว่า "ดูแน่ะ ข้าพเจ้าได้ปรนนิบัติท่านกี่ปีมาแล้ว และมิได้ละเมิดคำบัญชาของท่านสักข้อหนึ่งเลย แม้แต่เพียงลูกแพะสักตัวหนึ่งท่านก็ยังไม่เคยให้ข้าพเจ้า เพื่อจะเลี้ยงกันเป็นที่รื่นเริงยินดีกับเพื่อนฝูงของข้าพเจ้า
15:30 แต่เมื่อลูกคนนี้ของท่าน ผู้ได้ผลาญสิ่งเลี้ยงชีพของท่าน โดยคบหญิงคนชั่วมาแล้ว ท่านยังได้ฆ่าลูกวัวอ้วนพีเลี้ยงเขา"
15:31 บิดาจึงตอบเขาว่า "ลูกเอ๋ย เจ้าอยู่กับเราเสมอ และสิ่งของทั้งหมดของเราก็เป็นของเจ้า
15:32 แต่สมควรที่เราจะได้รื่นเริงและยินดี เพราะน้องของเจ้าคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก"
คำอุปมาของพระเยซูคริสต์ 3 เรื่องที่ท่านลูกาได้บันทึกไว้คือ
1. แกะหาย เจ้าของออกไปตามหาจนพบ (ลูกา 15:1-7)
2. เหรียญหาย ก็เช่นเดียวกัน เจ้าของได้กวาดเรือนค้นหาเหรียญที่หายไปจนพบ
(ลูกา 15:8-10)
3. บุตรหาย ผู้เป็นพ่อไม่ได้กระทำเช่นเดียวกับเจ้าขงแกะและเจ้าของเหรียญ คือไม่ได้ออก
จากบ้านไปตามหาลูก แตกต่างกันตรงนี้ (ลูกา 15:11-32)
แกะเป็นเรื่องของสัตว์ เหรียญเป็นเรื่องของวัตถุสิ่งของ แต่คนเป็นเรื่องของจิตวิญญาณที่สำนึกและคิดได้ พระเยซูทรงผูกเรื่องนี้เพื่อที่จะสอนความจริงเรื่อง
รักษาแผ่นดินให้หาย
(อิสยาห์ 58:12; 2 พงศาวดาร 7:14-15)
58:12 และสิ่งสลักหักพังโบราณของเจ้าจะได้รับการสร้างขึ้นใหม่ เจ้าจะได้ซ่อมเสริมรากฐานของคนหลายชั่วอายุมาแล้วขึ้น เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ซ่อมกำแพงที่พัง ผู้ซ่อมแซมถนนให้คืนคงเพื่อจะได้อาศัยอยู่
อิสยาห์
7:14 ถ้าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยชื่อของเรานั้นจะถ่อมตัวลง และอธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา และหันเสียจากทางชั่วของเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย
7:15 และตาของเราจะลืมอยู่และหูของเราจะฟังคำอธิษฐานซึ่งเขาทั้งหลายอธิษฐานณสถานที่นี้
แผ่นดินไทยของเราต้องการเยียวยารักษาจากพระเจ้าอย่างมากที่สุด จริงอยู่คณะรัฐบาลและคนไทยทั้งชาติต่างก็ร่วมใจกันแก้ปัญหาอยู่อย่างขะมักเขม้น และก็ได้คำตอบมาส่วนหนึ่ง แต่คำตอบสุดท้ายต้องมาจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นอัลฟาและโอเมกา เป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย คริสตจักรของพระเยซูคริสต์นี่แหละเป็นความหวังของชุมชนและของชาติ ถ้าคริสตจักรในประเทศไทยแตกแยกจะคาดหวังว่าผู้ครอบครองชาติจะมีความเป็นหนึ่งได้อย่างไร น่าละอายและอดสูใจเป็นอย่างยิ่งที่คริสตจักรซึ่งเป็นเกลือและเป็นแสงสว่างของชาติขาดรสเค็มจนจืดชืดและอับแสง จนรัฐบาลไม่เห็นความสำคัญและบทบาทของคริสตจักรไทยที่มีต่อการพัฒนาชาติบ้านเมือง
อ่าน 2 พงศาวดาร 7:14-15 แล้วอธิษฐานคร่ำครวญร้องไห้กับพระเจ้าเถอะพี่น้อง เราจะได้คำตอบ และแผ่นดินไทยจะได้รับการเยียวยารักษาให้หาย แผ่นดินไทยต้องการการรักษาทุกมิติเลยขวานทองของไทยมันไม่ผุดผ่องดั่งเดิมเสียแล้ว เพราะความบาปทับถมจนไร้แสงแวววับ แต่เรามีคำตอบนะพี่น้อง เรามีความหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่า อีกไม่กี่เพลาข้างหน้า การฟื้นฟูที่นำไปสู่การพลิกฟื้นชุมชน การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง และการรักษาแผ่นดินไทยให้หายจะเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย และในประเทศของเราอย่างแน่นอน!!!! ประเทศไทยจะเด่นอยู่ในสายตาของชาวโลก (จะว่าเป็นคำพยากรณ์ก็ได้นะ) พระเยซูคริสต์จอมกษัตริย์ และจอมเจ้านายของเราจะทรงนำกองทัพของพระองค์ในประเทศไทยไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ยิ่ง และการรักษาแผ่นดินไทยให้หายพระองค์จะทรงทำให้คริสเตียนไทย และคริสตจักรไทยกลายเป็นหนึ่งเดียว คุกเข่าอธิษฐานเถอะพี่น้อง
หัวข้ออธิษฐาน
1. คร่ำครวญต่อพระเจ้าขอความเป็นหนึ่งเดียวให้เกิดขึ้นต่อคริสตจักรและคริสเตียนไทย
2. คร่ำครวญต่อพระเจ้าขอให้คริสเตียนในถิ่นไทยทุกคนเร่งชำระตนเองถวายพระเจ้าโดยเฉพาะผู้นำ
3. คร่ำครวญต่อพระเจ้าขอให้ผู้นำคริสเตียนในประเทศไทยเป็นผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณอย่างแท้จริง
4. คร่ำครวญต่อพระเจ้าขอทรงโปรดรักษาแผ่นดินไทยให้หายในทุกมิติของชีวิต
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
วันที่ ๒๕
ความอยุติธรรมในสังคม
(อาโมส 5:10-13; อิสยาห์ 10:1-2)
5:10 เขาทั้งหลายเกลียดผู้ที่กล่าวเตือนที่ประตูเมืองและเขาทั้งหลายสะอิดสะเอียนผู้ที่พูดความจริง
5:11 เพราะว่าเขาทั้งหลายเหยียบย่ำคนยากจน และเอาส่วยข้าวสาลีไปเสียจากเขา เจ้าจึงสร้างตึกด้วยศิลาสกัด แต่เจ้าจะไม่ได้อยู่ในตึกนั้น เจ้าทำสวนองุ่นที่ร่มรื่น แต่เจ้าจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้น
5:12 เพราะเรารู้ว่าการทรยศของเจ้ามีเท่าใด และบาปของเจ้ามากมายสักเท่าใด เจ้าทั้งหลายผู้ข่มใจคนชอบธรรม ผู้รับสินบน และขับไล่คนขัดสนออกไปเสียจากประตูเมือง
5:13 เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญญาจะนิ่งเสียในเวลาเช่นนั้น เพราะเป็นเวลาชั่วร้าย
อิสยาห์
10:1 วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ออกกฎหมายอธรรม และแก่ผู้เขียนที่เขียนแต่การบีบคั้นเรื่อยไป
10:2 เพื่อหันคนขัดสนไปจากความยุติธรรม และปล้นสิทธิของคนจนแห่งชนชาติของเราเสีย เพื่อว่าหญิงม่ายจะเป็นของริบของเขา และเพื่อเขาจะกระทำให้คนกำพร้าพ่อเป็นเหยื่อของเขา
คนยากจนในสังคมไทยถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกรัดรอนสิทธิและโอกาสในการทำมาหากิน ถูกขูดรีดจากพวกมาเฟียที่ได้รับการหนุนหลังจากผู้มีอำนาจ ผู้มีตำแหน่ง แม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายในการปราบปรามพวกมาเฟีย แต่ในสภาพความเป็นจริงของสังคม คนยากจนก็ยังถูกข่มขู่คุกคามและตกอยู่ในความหวาดกลัว ขาดหลักประกันที่แท้จริงในความยุติธรรม การเรียกร้องขอความเป็นธรรมของคนยากจนบ่อยครั้งถูกละเลย ไม่ได้รับความสนใจจากผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
ศาสนาสอนว่าธรรมคืออำนาจ ธรรมะย่อมชนะอธรรม แต่ในสังคมไทยที่ยกย่องศาสนาว่าเป็นสิ่งดีงามกับยึดถือคติว่าอำนาจคือธรรม หมายความว่าใครมีอำนาจคนนั้นพูดอะไร ทำอะไรถูกต้องหมด สามารถทำเรื่องผิดโดยกฎหมายเอื้อมไม่ถึงเพราะเป็นผู้มีอำนาจ คนมากมายพร้อมที่จะเข้าเป็นสมัครพรรคพวกกับผู้มีอำนาจ เพื่อจะใช้เส้นสายของผู้มีอำนาจดำเนินการต่างๆ ที่ไม่ชอบธรรมได้โดยถูกเล่นงาน เป็นผู้มีอภิสิทธิ์ ด้วยองค์ประกอบของสังคมเช่นนี้ ความชั่วร้าย ความอธรรมจึงบีบคั้นความจริง กฎเกณฑ์ต่างๆ ที่บัญญัติเอาไว้อย่างดีจึงเป็นอัมพาต ใช้ไม่ได้ผล เพราะไม่สามารถดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาได้ เกิดการเลือกปฏิบัติ รากฐานแห่งความยุติธรรมของสังคมจึงถูกบิดเบือน ความไม่ชอบธรรม ความอยุติธรรมจึงเกาะแน่น เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ความชั่วร้านที่กัดกินสังคมไทยมาตลอดทุกยุคทุกสมัย แผ่นดินไทยที่อุมดสมบูรณ์ด้วยพืชพันธ์ธัญญาหารจึงยังคงมีคนยากจนอยู่มากมายทั่วประเทศ
หัวข้ออธิษฐาน
1. ขอให้ผู้มีอำนาจอยู่ในมือได้ใช้อำนาจนั้นเพื่อผดุงความยุติธรรมในสังคมไทย
2. ให้ผู้นำรัฐบาล ผู้นำชุมชน เป็นแบบอย่างในการบริหารงานตามกติกาอย่างเที่ยงธรรมและยุติธรรม โดยไม่เห็นแก่พวกพ้อง
3. ในรัฐบาลจัดการกับพวกมาเฟีย อิทธิพลมืดต่างๆ อย่างจริงจังและต่อเนื่อง
4. ให้รัฐบาลช่วยเหลือครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายจากภัยสึนามิและจากผู้ก่อการร้ายในภาคใต้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^
วันที่ ๒๖
ความสำนึกผิดทำให้กลับใจใหม่
(ลูกา 15:11-32)
15:11 พระองค์ตรัสว่า "ชายคนหนึ่งมีบุตรสองคน
15:12 บุตรคนน้อยพูดกับบิดาว่า "บิดาเจ้าข้า ขอทรัพย์ที่ตกเป็นส่วนของข้าพเจ้าเถิด" บิดาจึงแบ่งสมบัติให้แก่บุตรทั้งสอง
15:13 ต่อมาไม่กี่วันบุตรน้อยนั้นก็รวบรวมทรัพย์ทั้งหมดแล้วไปเมืองไกล และได้ผลาญทรัพย์ของตนที่นั่นด้วยการเป็นนักเลง
15:14 เมื่อใช้ทรัพย์หมดแล้วก็เกิดกันดารอาหารยิ่งนักทั่วเมืองนั้นเขาจึงขัดสน
15:15 เขาไปอาศัยอยู่กับชาวเมืองนั้นคนหนึ่ง และคนนั้นก็ใช้เขาไปเลี้ยงหมูที่ทุ่งนา
15:16 เขาใคร่จะได้อิ่มท้องด้วยฝักถั่วที่หมูกินนั้น แต่ไม่มีใครให้อะไรเขากิน
15:17 เมื่อเขารู้สำนึกตัวแล้ว จึงพูดว่า "ลูกจ้างของบิดาเรามีมาก ยังมีอาหารกินอิ่มและเหลืออีก ส่วนเราจะมาตายเสียที่นี่เพราะอดอาหาร
15:18 จำเราจะลุกขึ้นไปหาบิดาเรา และพูดกับท่านว่า "บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ผิดต่อสวรรค์และผิดต่อท่านด้วย
15:19 ข้าพเจ้าไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของท่านต่อไป ขอท่านให้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนลูกจ้างของท่านคนหนึ่งเถิด"
15:20 แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปหาบิดาของตน แต่เมื่อเขายังอยู่แต่ไกล บิดาแลเห็นเขาก็มีความเมตตา จึงวิ่งออกไปกอดคอจุบเขา
15:21 ฝ่ายบุตรนั้นจึงกล่าวแก่บิดาว่า "บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ผิดต่อสวรรค์และต่อท่าน ข้าพเจ้าไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของท่านต่อไป"
15:22 แต่บิดาสั่งบ่าวของตนว่า "จงรีบไปเอาเสื้ออย่างดีที่สุดมาสวมให้เขา และเอาแหวนมาสวมนิ้วมือ กับเอารองเท้ามาสวมให้เขา
15:23 จงเอาลูกวัวอ้วนพีมาฆ่าเลี้ยงกัน เพื่อความรื่นเริงยินดีเถิด
15:24 เพราะว่าลูกของเราคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก" เขาทั้งหลายต่างก็มีความรื่นเริงยินดี
15:25 "ฝ่ายบุตรคนใหญ่นั้นกำลังอยู่ที่ทุ่งนา เมื่อเขากลับมาใกล้ตึกแล้ว ก็ได้ยินเสียงมโหรีและเต้นรำ
15:26 เขาจึงเรียกบ่าวคนหนึ่งมาถามว่า เขาทำอะไรกัน
15:27 บ่าวจึงตอบว่า "น้องของท่านกลับมาแล้ว และบิดาได้ให้ฆ่าลูกวัวอ้วนพีเพราะได้ลูกกลับมาโดยสวัสดิภาพ"
15:28 ฝ่ายพี่ชายก็โกรธไม่ยอมเข้าไป บิดาจึงออกมาชักชวนเขา
15:29 แต่เขาบอกบิดาว่า "ดูแน่ะ ข้าพเจ้าได้ปรนนิบัติท่านกี่ปีมาแล้ว และมิได้ละเมิดคำบัญชาของท่านสักข้อหนึ่งเลย แม้แต่เพียงลูกแพะสักตัวหนึ่งท่านก็ยังไม่เคยให้ข้าพเจ้า เพื่อจะเลี้ยงกันเป็นที่รื่นเริงยินดีกับเพื่อนฝูงของข้าพเจ้า
15:30 แต่เมื่อลูกคนนี้ของท่าน ผู้ได้ผลาญสิ่งเลี้ยงชีพของท่าน โดยคบหญิงคนชั่วมาแล้ว ท่านยังได้ฆ่าลูกวัวอ้วนพีเลี้ยงเขา"
15:31 บิดาจึงตอบเขาว่า "ลูกเอ๋ย เจ้าอยู่กับเราเสมอ และสิ่งของทั้งหมดของเราก็เป็นของเจ้า
15:32 แต่สมควรที่เราจะได้รื่นเริงและยินดี เพราะน้องของเจ้าคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก"
คำอุปมาของพระเยซูคริสต์ 3 เรื่องที่ท่านลูกาได้บันทึกไว้คือ
1. แกะหาย เจ้าของออกไปตามหาจนพบ (ลูกา 15:1-7)
2. เหรียญหาย ก็เช่นเดียวกัน เจ้าของได้กวาดเรือนค้นหาเหรียญที่หายไปจนพบ
(ลูกา 15:8-10)
3. บุตรหาย ผู้เป็นพ่อไม่ได้กระทำเช่นเดียวกับเจ้าขงแกะและเจ้าของเหรียญ คือไม่ได้ออก
จากบ้านไปตามหาลูก แตกต่างกันตรงนี้ (ลูกา 15:11-32)
แกะเป็นเรื่องของสัตว์ เหรียญเป็นเรื่องของวัตถุสิ่งของ แต่คนเป็นเรื่องของจิตวิญญาณที่สำนึกและคิดได้ พระเยซูทรงผูกเรื่องนี้เพื่อที่จะสอนความจริงเรื่อง