ขอคำภาวนาเเก่อิสรภาพของผม

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
comme des poppy
โพสต์: 20
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 13, 2007 7:30 pm

พุธ พ.ค. 02, 2007 11:41 pm

วันนี้อยากขอคำภาวนาเพื่อชีวิตของผมหน่อยคับ ขอเล่าชีวิตของผมก่อนเเล่ะกัน

ผมเติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลาง แต่ชีวิตของผมนั้นค่อนข้างสะดวกสบายตั้งเเต่เกิดมาก็มีพี่เลี้ยงคอยทำทุกอย่างให้ เพราะลูกคนสุดท้องเเละลูกชายคนเดียวพ่อเเม่เลี้ยงดูผมอย่างเอาใจใส่มากๆเพราะผมอายุห่างจากพี่ๆหลายปีมาก ทุกสิ่งที่เด็กปกติมีผมก็จะมีเเละบางสิ่งที่เด็กปกติไม่มีเเล้วพ่อเเม่ผมสามารถให้ได้ท่านก็จะให้ ท่านจะพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตของผม ท่านให้ผมเรียนชั้นประถมที่รร.เอกชนที่มีชื่อเสียง

การที่ผมเรียนที่นี่ ผมต้องยอมรับว่ามันทำให้ผมเป็นเด็กหัวสูงพอสมควร จนพ่อเเม่ผมกลัวว่าผมจะเป็นเหมือนพี่ผมที่ถูกสังคมรร.เอกชนช่วงมัธยมชักจูงจนชีวิตเปลี่ยนไป ดังนั้นพี่ผมทุกคนรวมทั้งผมจึงต้องย้ายมาเรียนรร.รัฐบาลเมื่อเข้าม.ต้น ซึ่งผมรู้ชะตาชีวิตตัวเองมาตลอดว่าจะต้องย้ายรร.เมื่อขึ้นม.ต้น ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึงความทุกข์ของผมก็เริ่มมากขึ้นเพราะการที่ผมเป็นคนค่อนข้างเงียบเเละมาจากรร.เอกชน บวกกับการที่เเม่ผมเข้มงวดคือเเม่ไม่ให้ผมไปไหนกับเพื่อนได้เลยไม่ว่าหลังเลิกเรียนหรือว่าวันหยุด ผมเข้าใจว่าเเม่เป็นห่วงผมเเต่การทำอย่างนั้นทำให้เพื่อนเก่าก็เริ่มขาดการติดต่อ เพื่อนใหม่ก็ไม่ค่อยกล้าที่จะเข้าหาผมเเละผมก็ไม่กล้าเข้าหาคนอื่นเช่นเดียวกัน

ผมต้องเรียนหนังสือโดยไม่มีเพื่อนสนิทเลยเป็นเวลาถึง3ปี ซึ่งชีวิตของผมตั้งเเต่ประถมถึงมัธยมนั้นมีเเต่คำว่าเรียน ผมต้องเรียนพิเศษตอนเย็นทุกวันกับวันเสาร์ตั้งเเต่ป.1 ไม่เคยมีกิจกรรมอื่นๆทั้งสิ้นไม่ว่าดนตรีหรือกีฬา ผมเครียดเเต่ไม่สามารถบอกใครได้ ผมทนกับการขีดเส้นทางเดินชีวิตมานานเหลือเกินจนผมจะบ้าตายหลายครั้ง ผมเหนื่อย จนม.3เเม่ก็เริ่มให้ผมไปเที่ยวกับเพื่อนได้บ้างเเต่มันก็เป็นช่วงเวลาเเค่ไม่นานเพราะพ่อผมเสียชีวิต ทำให้เเม่เริ่มคาดหวังกับตัวผมสูงมากขึ้นอีก ผมยอมที่จะไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนเพื่อจะรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเเม่

เนื่องจากพี่ๆทำงานเลิกดึกกัน ผมต้องกินข้าวเย็นกับเเม่2คนเรื่อยมา เเต่การที่ผมใกล้ชิดกับเเม่มากขึ้นกลับทำให้เเม่ผมยิ่งบังคับกำหนดทุกสิ่งในชีวิตผมมากขึ้น ผมเหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ผมไม่รู้ว่าเเม่จะรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เเม่ต้องการให้ลูกเป็นนั้นมันทำให้ชีวิตของลูกเป็นอย่างไร ลูกอาจเรียนได้ดีเหมือนที่เเม่ต้องการเเต่ด้านอื่นล่ะ ทุกคนมองว่าผมเป็นคุณหนูที่มีเเม่มากำหนดทุกย่างก้าวชีวิต

เพื่อนบางคนอาจอิจฉาที่ผมไม่ต้องทำงานกระเสือกกระสนเหมือนคนอื่น มีของเเพงๆใช้ เเต่จริงๆเเล้วข้างในผมกลับว่างเปล่า ผมต้องการความรักเหลือเกินผมอยากได้ครอบครัวที่เข้าใจผม ผมอยากได้ความรักจากคนรอบข้าง พี่ๆผมล้วนเเต่เข้าใจผมเพราะทุกคนเจอมาเหมือนผม เเต่พี่ผมทั้ง3คนอายุติดๆกัน เเม่ผมจึงไม่สามารถเข้มงวดได้อย่างผม พี่ผมเข้าใจผมเเต่ทำไมเเม่ผมถึงไม่เข้าใจบ้างล่ะ ผมคิดมาหลายปีเเล่ะว่าจะมีใครบนโลกที่เข้าใจผมจริงๆบ้าง ผมเชื่อในพระเจ้า ผมเชื่อในพระองค์ เเต่ทุกครั้งที่น้ำตาไหลผมเองก็ไม่เเน่ใจว่าพระองค์จะเข้าใจผมรึป่าว

ผมอายุ18ปีเเล้ว ความจริงอาจจะยังไม่โตเท่าไรเเต่ผมก็ต้องการที่จะมีความคิดเป็นของตนเองบ้างอยากมีอิสระบ้างอยากเป็นเหมือนเพื่อนๆบ้าง ทุกวันนี้ไม่รู้จะปรึกษาใคร ผมไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนผมฟังเท่าไรเพราะเพื่อนส่วนใหญ่จะรู้เพียงว่าเเม่ดุ ผมไม่อยากพูดเรื่องนี้กับเเม่เพราะท่านคงเสียใจเเละคงไม่เกิดประโยชน์อะไรเพราะเเม่ผมเป็นคนหัวเเข็ง ผมไม่ได้โกรธเกลียดเเม่เพราะผมเข้าใจว่านี่คือความรัก
เพียงเเต่อยากให้เเม่เข้าใจผมบ้าง ขอคำภาวนาเพื่อผมเเละเเม่ด้วยน่ะคับ
แก้ไขล่าสุดโดย Prod Pran เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 6:26 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 12:40 am

...ประวัติน้อง หลายๆอย่าง คล้ายกับพี่นะ

คิดว่าพอเข้าใจ ::010::


ดีใจที่น้องรู้ว่า แม่รักน้อง : xemo026 :

พระองค์ทรงทราบและเห็นใจเรื่องของน้องด้วย ::004::


จะสวดเผื่อนะ ::001::
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 1:45 am

มันเป็นเส้นแบ่งนะ  ระหว่างความนบนอบ  หัวอ่อน  เชื่อฟัง  กับอิสระ  พี่เองก็โตมากับความกดดันเหมือนกัน คนรอบข้างคาดหวังสูง  ....  ก็มาเรียนรู้ว่า  มันเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้  มันเป็นโจทย์ของชีวิตเรา  เป็นกางเขน  แต่ละคนได้โจทย์มาไม่เหมือนกัน  เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่  เรียนรู้  และแก้ไข    เหมือนทำข้อสอบน่ะค่ะ  พี่เองกว่าจะเข้าใจแบบนี้ได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกัน 

สิ่งที่อยากแนะนำในตอนนี้คือ  อยากให้ไปคุยกับคุณพ่อ (พระสงฆ์) นะคะ  เราทุกคนต้องการพ่อ  พระเป็นเจ้าจึงเป็นพระบิดาให้กับเรา  อยากให้เล่าความอึดอัดทั้งหมดให้ฟัง  เราจะได้รู้สึกว่า  มีคนเข้าใจและรับฟัง  ::001::

คุณแม่เองที่อาจจะดูกดดันไปนิด  ก็เพราะขาดคุณพ่อ  แม่เค้าพยายามเข้มแข็งนะ  เค้าดูหัวแข็งเพราะเค้าพยายามเข้มแข็ง ....  แต่ลึกๆก็ว้าเหว่เหมือนกัน  เลยมุ่งทุกอย่างมาที่ลูกเยอะไปหน่อย  ก็ต้องใช้เวลานะคะ  จนกว่าแม่จะวางใจและให้อิสระกับเราเต็มที่  ::001::

จะสวดให้นะคะ  และอยากให้ไปคุยกับคุณพ่อนะ ....  และก็ขอให้อดทน  มันใช้เวลานะคะกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น  ไม่ใช่ข้ามคืน  ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดานุ้งพุงระเบิด
โพสต์: 518
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
ที่อยู่: อุบลราชธานี

พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 1:48 am

แสดงให้แม่เห็น

ให้แม่วางใจในเรา

และลองคุยกับแม่ดูครับ

ลองคุยดูครับ ด้วยอารมณ์ที่สงบนิ่ง เพียงขอท่าน ไม่งั้นแล้วเราจะกลายเป็นคนเก็บกดและจะยากเมื่อตอนที่จิตใจเรามาถึงช่วง depression

แล้วจะภาวนาเผื่อครับ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 6:36 am

หวัดดีค่ะน้องป๊อป พี่พีพียังอธิษฐานให้อยู่ และเป็นห่วงเสมอ  เชื่อว่าคุณแม่ทำไปอย่างนั้นทุกอย่างเพราะรักค่ะ

และเมื่อน้องอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ท่านคงให้เสรีภาพมากขึ้นแน่นอน ถึงตอนนั้นแหละ เราอย่าใช้เสรีภาพในทางเสื่อม

อธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้าพระองค์ทรงฟังเสมอ และพระองค์ทรงรู้ทุกอย่างในการเป็นสรรพพัญญูของพระองค์

พี่เชื่อว่าพระองค์ทรงอนุญาตให้น้องได้รับการดูแลแบบนั้น ถึงจะช่วยให้น้องปลอดภัยจากความชั่วร้ายของสังคมรอบข้าง

ลองคิดดูสิ การที่น้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ได้ของทุกอย่าง ได้เรียนพิเศษมากมาย ฯลฯ นั่นเพราะความรัก
ได้มีโอกาสนั่งทานอาหารกับแม่ทุกวัน ซึ่งมีโอกาสใกล้ชิดกับแม่ ได้เป็นลูกที่หนุนจิตชูใจแม่ ลูกๆจำนวนมาก อยากนั่งกินข้าวกับพ่อแม่
แต่พ่อแม่มากมายไม่มีเวลากินข้าวกับลูก หรืออยู่ห่างไกลกัน  นี่เป็นโอกาส ที่พระเจ้าได้ให้น้องป๊อบดูแลแม่

ทำไมน้องป๊อบไม่คิดไกลไปกว่านั้นล่ะ หลังจากน้องป๊อบล้างบาปแล้ว ภารกิจยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงมอบให้ คือ การนำคุณแม่มารู้จักกับพระเยซูคริสต์
มาสัมผัสกับความรักของพระเจ้า คิดถึงเวลาข้างหน้าสิคะ

ถ้าเหงามาก โทรไปหาพี่พีพี ได้ (ยังจำเบอร์ได้ไหม )
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 8:46 am

วางใจในพระครับ แล้วสักวันหนึ่งพระจะส่งเพื่อนแท้มาให้ครับ ดีไม่ดีเพื่อนแท้อาจจะเป็นคนใกล้ตัวอย่างคุณแม่ก็ได้ครับ พี่คิดว่าคงไม่นานหรอกครับ พระองค์อาจจะกำลังรอเวลาที่เหมาะสมกับน้องอยู่ก็ได้ครับ

ขอพระอวยพรครับ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 8:48 am

อย่ากังวลหรือรู้สึกเสียใจเลยครับ มองที่เจตนาครับ ที่แม่ทำแบบนั้นเพราะว่าท่านทรงรักเรา

เพียงแต่ว่าอาจจะเป็นสิ่งที่กดดันเรา แล้วท่านเองก็ไม่ทราบว่ากดดันเราอ่ะครับ

เราอาจจะมองเลยถึงความรักที่ท่านมีต่อเราก็ได้นะครับ


พระองค์ทรงเป็นองค์ความรัก ตอนที่เราเกิดท่านก็มอบเราไว้กับท่าน

เราเองก็ต้องรักท่านให้มาก ๆ นะครับ

อย่าคิดว่าตัวเองถูกกดดัน มองในแง่ดีนะครับ
ตอบกลับโพส