ใครเคยมีประสบการ์ณผ่านคืนมืดบ้างครับ

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ก.พ. 19, 2007 3:12 pm

อย่าไปสนใจมันเลยครับ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ ก.พ. 19, 2007 3:12 pm

Mobster เขียน: วิคคาเพกัน จะนับถือธรรมชาติ มีสัญลักษณืดาว5แฉกเป็นสัญลักษณ์คือ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และศักสิทธิ์ คราใดที่เอาเครื่องหมายนี้คว่ำจะกลายเป็นรูปซาตาน เค้าเชื่อว่าไม่ว่าทำอะไรจะกลับคืนสู่3เท่า เรกยว่ากฏแห่งสาม

ถ้าสนใจส่งข้อความส่วนตัวได้ เวปในไทยหน่ะล่มแล้วแต่เวปฝร่งยัง แต่ก็ไม่อยากให้เข้าเลย><
ขอบคุณครับ ที่เล่าให้ฟัง

ส่วนเวป ไม่ต้องก็ได้ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
KathaRoS
โพสต์: 218
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 20, 2007 12:35 am
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร มี.ค. 20, 2007 6:03 pm

เราเคยทำบาปหนักมา แต่ไม่ขอบอกว่าอะไรนะ เพราะรู้สึกว่าทำเองผิดบาปมากๆ
4 ปีมาแล้ว แต่เราก็ยังรู้สึกว่าตัวเองหลอนเรื่องนี้ตลอด
เหมือนมันคงยังตามหลอกหลอนเรา เมื่อเรายิ่งใกล้ชิดพระเจ้า
มันก็จะมีเสียงนึง เหมือนเป็นจิตชั่วในใจเราพูดกะเราว่า
แกนังคนบาป แกนังคนบาป แกนังคนบาป และเราก็จะไม่สามารถข่มตาหลับได้
เราก็จะสวดไปร้องไห้ไปเพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมามันเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมาเอง...
มีคืนนึงเราแทบเหมือนไม่ใช่ตัวเรา เสียงนั่นเริ่มหลอกหลอนเราอีกครั้ง
เราหยิบมีดขึ้นมากรีดที่ข้อมือ กรีดไปเรื่อยๆๆๆ จนทั้งแขนเราเต็มไปด้วยเลือดและรอยเเผล
บางครั้งเราเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว ร้องไห้คนเดียว เสียงนั้นก็มาอีกแล้ววว มันทำให้เราแทบเป็นบ้า
เพราะความรู้สึกผิดมากๆ
ยิ่งใกล้ล้างบาป มันยิ่งรู้สึกทุรนทุราย เหมือนโดนผจญ..
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราคิดว่าเราจะไม่รับศีลล้างบาปเลย เพราะเรารู้สึกว่าเรามันเป็นคนบาปจิงๆ
แต่พอมีมิสซาที่วัดพระวรสารอาทิตย์นั้นเป็นเรื่องลูกล้างผลาญกลับมาหาบิดาผู้ใจดี
เรานั่งฟังพ่อเกรียงเทศน์ น้ำตาเราไหลทันที นั่งซ้อมเพลงอยู่ก็รั่วทันที ร้องเพี๊ยน ร้องไม่ได้เลย อยู่ๆไมเกรนก็ขึ้น
วันอาทิตย์ที่แล้ว มิสซาอยู่ๆ ก็ไมเกรนขึ้น จนร้องเพลงไม่ได้ มันชาไปหมดทั่วตัว...เราเลยไปสวดขอแม่พระให้ช่วยเรา
เพราะรู้สึกแย่มากๆในอาทิตย์นั้น จนมานั่งเรียนคำสอนกะพ่อวีระ พ่อก็พูดเหมือนปลอบใจเราทางอ้อม จนเรารู้สึกว่าหายเครียดแล้ว
หลังจากนั้นเราก็ได้มาเดินรุป เท่านั้นแหละ ความรู้สึกที่กังวงใจ เครียด มันหายไปหมดเลย
เหมือนทุกอย่างมันถูกยกไปหมดเลย หายเป็นปลิดทิ้งจิงๆ
ความเครียด ความกังวลจนตัวเองแทบเป็นโรคประสาทที่ตามหลอกหลอนเรามา 4 ปี..หายไปหมดเลยจิงๆ
ด้วยคำพูดของพระเยซูเจ้า อย่ากังวลเลย....อย่ากังวลเลย....
และคำภาวนาที่เราขอให้แม่พระโปรดช่วยรักษาบาดแผลในจิตใจของลูก ขอพระเจ้าโปรดอภัยความผิดบาปของลูกที่ลูกได้เคยกระทำมา
ตอนนี้รู้สึกรักพระเจ้าขึ้นมากๆๆๆจิงๆ
ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระเยซู ขอบคุณแม่พระ และนักบุญฟรังซิส อัสซีซี  และพี่น้องทุกคน
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร มี.ค. 20, 2007 10:11 pm

ขอบพระคุณพระเจ้าครับ : xemo017 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

อาทิตย์ มี.ค. 25, 2007 12:43 am

ผมเคยเป็นคล้ายๆอย่างพี่KathaRoSครั้งนึงนะครับ

วันนั้นผมไม่สบายใจมากๆ เลยจะไปเข้าวัดให้พระช่วย
ระหว่างที่ผมกำลังรำพึงเงียบๆ มันเหมือนมีอะไรทำให้ผมระลึกถึงสิ่งต่างๆ
ทั้งๆที่ปกติผมจะไม่เคยนึกถึงมันเลย แต่วันนั้นมันเหมือนว่ามีสิ่งหนึ่ง
ที่มันขุดคุ้นสิ่งต่างๆที่ไม่ดี ขึ้นมาให้ผมเห็นต่อหน้า ว่าผมทำไม่ดีอะไรเอาไว้่
ีมันทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจเลย...

ผมสวดไป ร้องไห้ไปต่อหน้ารูปพระมารดานิจจานุเคราะห์
ยิ่งมองตาพระแม่ที่มองมาหายิ่งร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ
ผมสวดและร้องเพลง ไปเรื่อยๆเพื่อพยามคว้ามือพระเอาไว้

ผมร้องมาจนถึงเพลงๆนึง ผมก็ปล่อยโฮออกมา แต่ไม่ใช่เพราะว่าเสียใจ
แต่เพราะตอนนั้นเหมือนพระได้กอดเราเอาไว้ แต่ก็ไม่รู้ว่าผมรู้สึกได้อย่างไร
แต่ก็รู้สึกเหมือนว่ามีคนมาอยู่เป็นเพื่อนคอยจับมือเราเอาไว้ ไม่ให้เราเหงา...


: xemo026 :...รักพระที่สุดเลยครับ... : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พุธ มี.ค. 28, 2007 1:02 am

วันนั้นก็ไปวัดเย็นวันเสาร์ฮับ
ที่เชียงใหม่จะมีกลุ่ม "คนติดวัด" มานั่งสวดสายประคำอยู่แล้วก่อนเริ่มพิธีกรรม
เริ่มด้วยสายประคำพระเมตตา ตามด้วยสายประคำปกติ พร้อมบทรำพึงประจำวัน
แล้วหลังจากนั้นผมก็วูบหลับไป (น่าอายมากหลับในวัด)
หลับเฉยๆ ฮับ จากนั้นก็พยายามตื่น แต่ประมานยกหนังตาไม่ขึ้น
พอเริ่มแม่พระนิจจานุเคราะห์ เลยเอาหัวโขกพนักด้านหน้าไปทีนึง
ตื่นเลยฮับ

ปล. ไม่รู้เล่าผิดที่รึเปล่าเนี่ย
ปล2. รู้สึกว่าพูดไม่รู้เรื่องแล้วง่าฮับ
Dis volentibus

พุธ มี.ค. 28, 2007 1:12 am

KathaRoS เขียน: เราเคยทำบาปหนักมา แต่ไม่ขอบอกว่าอะไรนะ เพราะรู้สึกว่าทำเองผิดบาปมากๆ
4 ปีมาแล้ว แต่เราก็ยังรู้สึกว่าตัวเองหลอนเรื่องนี้ตลอด
เหมือนมันคงยังตามหลอกหลอนเรา เมื่อเรายิ่งใกล้ชิดพระเจ้า
มันก็จะมีเสียงนึง เหมือนเป็นจิตชั่วในใจเราพูดกะเราว่า
แกนังคนบาป แกนังคนบาป แกนังคนบาป และเราก็จะไม่สามารถข่มตาหลับได้
เราก็จะสวดไปร้องไห้ไปเพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมามันเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมาเอง...
มีคืนนึงเราแทบเหมือนไม่ใช่ตัวเรา เสียงนั่นเริ่มหลอกหลอนเราอีกครั้ง
เราหยิบมีดขึ้นมากรีดที่ข้อมือ กรีดไปเรื่อยๆๆๆ จนทั้งแขนเราเต็มไปด้วยเลือดและรอยเเผล
บางครั้งเราเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว ร้องไห้คนเดียว เสียงนั้นก็มาอีกแล้ววว มันทำให้เราแทบเป็นบ้า
เพราะความรู้สึกผิดมากๆ
ยิ่งใกล้ล้างบาป มันยิ่งรู้สึกทุรนทุราย เหมือนโดนผจญ..
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราคิดว่าเราจะไม่รับศีลล้างบาปเลย เพราะเรารู้สึกว่าเรามันเป็นคนบาปจิงๆ
แต่พอมีมิสซาที่วัดพระวรสารอาทิตย์นั้นเป็นเรื่องลูกล้างผลาญกลับมาหาบิดาผู้ใจดี
เรานั่งฟังพ่อเกรียงเทศน์ น้ำตาเราไหลทันที นั่งซ้อมเพลงอยู่ก็รั่วทันที ร้องเพี๊ยน ร้องไม่ได้เลย อยู่ๆไมเกรนก็ขึ้น
วันอาทิตย์ที่แล้ว มิสซาอยู่ๆ ก็ไมเกรนขึ้น จนร้องเพลงไม่ได้ มันชาไปหมดทั่วตัว...เราเลยไปสวดขอแม่พระให้ช่วยเรา
เพราะรู้สึกแย่มากๆในอาทิตย์นั้น จนมานั่งเรียนคำสอนกะพ่อวีระ พ่อก็พูดเหมือนปลอบใจเราทางอ้อม จนเรารู้สึกว่าหายเครียดแล้ว
หลังจากนั้นเราก็ได้มาเดินรุป เท่านั้นแหละ ความรู้สึกที่กังวงใจ เครียด มันหายไปหมดเลย
เหมือนทุกอย่างมันถูกยกไปหมดเลย หายเป็นปลิดทิ้งจิงๆ
ความเครียด ความกังวลจนตัวเองแทบเป็นโรคประสาทที่ตามหลอกหลอนเรามา 4 ปี..หายไปหมดเลยจิงๆ
ด้วยคำพูดของพระเยซูเจ้า อย่ากังวลเลย....อย่ากังวลเลย....
และคำภาวนาที่เราขอให้แม่พระโปรดช่วยรักษาบาดแผลในจิตใจของลูก ขอพระเจ้าโปรดอภัยความผิดบาปของลูกที่ลูกได้เคยกระทำมา
ตอนนี้รู้สึกรักพระเจ้าขึ้นมากๆๆๆจิงๆ
ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระเยซู ขอบคุณแม่พระ และนักบุญฟรังซิส อัสซีซี  และพี่น้องทุกคน


พี่รี่ออกเเนวน่ากลัวยังไงๆ เหอะๆ
ดีเเละมารชั่วไปไกลๆเลย
เจ้าเสนอยาพิษมา ก็เอาไปดื่มเองเซ่ๆ
(นักบุญเบเนดิกต์เคยกล่าวด้วยสำนวนที่ไพเราะกว่านี่ไว้ นานมาเเล้ว....) :angel:
ภาพประจำตัวสมาชิก
KathaRoS
โพสต์: 218
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 20, 2007 12:35 am
ที่อยู่: Bangkok

พุธ มี.ค. 28, 2007 1:35 am

ตอนนี้ได้รับการเยียวยาจิตใจจาก คลินิคจิตเวชเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
เอ๊ยย ไม่ใช่ค่ะ เพราะพระค่ะ  รู้สึกเหมือนได้กอดแม่แล้วก็ร้องไห้ออกมาเลย
มันแบบว่าสุดๆจิงๆง่ะ ตอนนี้อยู่ดี มีฟามสุข แฮปปี้อินเลิฟค่ะ
แต่มีบางทีอารมณ์ก็แอบหวั่นไหวบ้าง แต่ก็แค่ชั่วครู่
แล้วก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
อยากบอกพี่น้องทุกคนว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พระไม่เคยทิ้งเรา และยังเดินเคียงข้างเรา
คอยประคับประครองเราเสมอ..เราต่างหากที่อย่าทิ้งพระนะ
Dis volentibus

พุธ มี.ค. 28, 2007 2:08 am

KathaRoS เขียน: ตอนนี้ได้รับการเยียวยาจิตใจจาก คลินิคจิตเวชเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
เอ๊ยย ไม่ใช่ค่ะ เพราะพระค่ะ  รู้สึกเหมือนได้กอดแม่แล้วก็ร้องไห้ออกมาเลย
มันแบบว่าสุดๆจิงๆง่ะ ตอนนี้อยู่ดี มีฟามสุข แฮปปี้อินเลิฟค่ะ
แต่มีบางทีอารมณ์ก็แอบหวั่นไหวบ้าง แต่ก็แค่ชั่วครู่
แล้วก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
อยากบอกพี่น้องทุกคนว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พระไม่เคยทิ้งเรา และยังเดินเคียงข้างเรา
คอยประคับประครองเราเสมอ..เราต่างหากที่อย่าทิ้งพระนะ
นึกว่าจะไปบวชอยู่ที่อารามเสียอีกๆ  :angel:
*~ChimPs-Yo~*

พุธ มี.ค. 28, 2007 4:09 am

พี่เจนพี่รี่เค้าไม่ไปบวชที่อารามหรอก เพราะเค้าอยากเเต่งงาน
เเต่ที่รู้เเน่ๆตอนนี้ หาคนเเต่งด้วยได้รึยังเหอะ รึว่าไม่อยากเเต่งกะคน
เเต่อยากเเต่งกะนกมากกว่า 555+
Dis volentibus

พุธ มี.ค. 28, 2007 7:06 pm

*~ChimPs-Yo~* เขียน: พี่เจนพี่รี่เค้าไม่ไปบวชที่อารามหรอก เพราะเค้าอยากเเต่งงาน
เเต่ที่รู้เเน่ๆตอนนี้ หาคนเเต่งด้วยได้รึยังเหอะ รึว่าไม่อยากเเต่งกะคน
เเต่อยากเเต่งกะนกมากกว่า 555+
๕๕๕ นั่นจิ นกๆ กี่คำกี่คำก็มีเเต่ นก : xemo029 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
แบกะดิน
โพสต์: 1085
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 7:49 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 05, 2007 8:43 pm

ทำไมต้องมรมารมาประจนด้วยหนออ
ตอบกลับโพส