หน้า 1 จากทั้งหมด 1
พระเจ้าคะ หนูไม่ดูหมิ่นนะคะ แต่....
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 24, 2009 10:21 pm
โดย pi
คือกระทู้นี้อาจน่าเกียจนิดนึงนะคะ ท่านทั้งหลาย
แต่แบบข้องใจมานานแล้วคะ
คือตอนนี้หนูก็เปนวัยรุ่นธรรมดาทั่วไปอ่ะ คือการมีแฟนรึไม่มีแฟนก็เอ่ออ หนูไม่เคยมีแฟนหรอกคะ หนูไม่อยากมีเพราะผู้ชายสมัยนี้......
คือแบบถ้าเราแต่งงานกันแล้วอ่ะคะ แบบคู่ครองกัน มันก็ต้องมีเพศสัมพันใช่ไหมคะคือ เอ่ออออ
หนูคิดแบบนี้อ่ะคะไม่รู้ทำไม หนูมันกิเลสมากเลยใช่ไหม
คือ
เอ่อ
แบบหนูไม่คิดอยากจะแต่งงานเลยคะ ไม่อยากมีลูก คู่ครองเพราะว่า ถ้าแต่งงานกัน คุมกำเนิด มีเพศสัมพันกันหลายครั้ง ก็บาปใช่ไหมคะ
แล้วคนทั่วโลก ถึงมีอะไรกันก่อนแต่ง ฝรั่งไม่ต้องพูดถึง เต็มหมดเลยอะคะ คือแบบ มีกันเยอะมาก แล้วหลายคู่ด้วย
พ่อแม่หนูก็ด้วย พ่อแม่หนูก็บาปด้วยใช่ไหมคะ ฮือๆๆ
แบบมีกันหลายๆครั้ง แต่คุมนี่ก็บาป แล้วคือเอ่อออ หนูไม่ได้ลามกนะคะ
ทำไมสร้างจุดเอ่อ ...นะ ก็จุดสุด...เอ่อ อย่างนั้นนะคะ
หนูเลยไม่คิดอยากแต่งงานเลยอ่ะ หนูกลัวมากเลยนะ
เพราะกิเลสคนสมัยนี้ ผู้ชายแบบเอ่อ อีโก้สูงอ่ะคะ
Re: พระเจ้าคะ หนูไม่ดูหมิ่นนะคะ แต่....
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 24, 2009 10:32 pm
โดย Batholomew
คิดมากไปหรือเปล่าครับ?
บางคนก็ถือพรหมจรรย์เพื่อพระเป็นเจ้าก็มีนะครับ ถ้าคุณไม่อยากแต่งงานก็ถือโสดไปเลยครับ
แต่การแต่งงาน ก็ต้องมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่าการคุมกำเนิดเป็นบาป
พระเป็นเจ้าทรงยอมให้มนุษย์ใช้เพศเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์เท่านั้นครับ

Re: พระเจ้าคะ หนูไม่ดูหมิ่นนะคะ แต่....
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 24, 2009 10:45 pm
โดย Dis volentibus
ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
คือแบบถ้าเราแต่งงานกันแล้วอ่ะคะ แบบคู่ครองกัน มันก็ต้องมีเพศสัมพันใช่ไหมคะคือ
จริงๆเเล้วเพศสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ดีค่ะ พระเจ้าสร้างไว้เพื่อให้มนุษย์สืบลูกหลานต่อไป
เเต่ทั้งนั้นก็ต้องเเล้วเเต่ความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย (คู่สามีภรรยา)อาศัย "ความรัก" ด้วยค่ะ
แบบหนูไม่คิดอยากจะแต่งงานเลยคะ ไม่อยากมีลูก คู่ครองเพราะว่า ถ้าแต่งงานกัน คุมกำเนิด มีเพศสัมพันกันหลายครั้ง ก็บาปใช่ไหมคะ
จริงๆเเล้ว การคุมกำเนิดเเบบนับวัน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่อยากมีบุตร
เเต่ก็ควรอย่างยิ่ง ที่จะรับน้ำพระทัยพระเป็นเจ้าหากพระองค์ประทานมาให้
ซึ่ง ยังไงก็ดีกว่าการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสค่ะ
แล้วคนทั่วโลก ถึงมีอะไรกันก่อนแต่ง ฝรั่งไม่ต้องพูดถึง เต็มหมดเลยอะคะ คือแบบ มีกันเยอะมาก แล้วหลายคู่ด้วย
เพราะว่า เขาเลือกที่จะไม่เชื่อฟังคำสอนอ่าคะ
พ่อแม่หนูก็ด้วย พ่อแม่หนูก็บาปด้วยใช่ไหมคะ ฮือๆๆ
ตรงนี้ไม่ตัดสินเจ้าค่ะ
เเต่ไม่มีใครเลยที่ไม่เคยตกในบาปตลอดช่วงชีวิต เเล้วก็ไม่มีใครจะติดโทษบาปไปตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน หากมโนธรรมของเขาสำนึก เเละแก้ไข
แบบมีกันหลายๆครั้ง แต่คุมนี่ก็บาป แล้วคือเอ่อออ หนูไม่ได้ลามกนะคะ
เเอบงงนิดๆอ่าค่ะ เหะ เหะ
คุมกำเนิดก็ไม่สมควรอยู่เเล้ว เเต่มีเพศสัมพันธ์ "นอกสมรส" ยิ่งไม่ควรมากกว่านะคะ
ทำไมสร้างจุดเอ่อ ...นะ ก็จุดสุด...เอ่อ อย่างนั้นนะคะ
อย่างที่บอกไปอ่าค่ะ เพศสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ดีในตัวของมันเอง เเต่มีจุึดประสงค์เพื่อสืบเชื้อสายมนุษย์ ไม่ใช่สนองเนื้อหนัง
เเละควรเกิดขึ้นบนพื้นฐานของ "ความรัก" ระหว่างคู่สามี-ภรรยา ซึ่งเเต่งงานกันถูกต้อง
หนูเลยไม่คิดอยากแต่งงานเลยอ่ะ หนูกลัวมากเลยนะ
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องถือโสด (เป็นพรหมจรรย์) นะคะ
Re: พระเจ้าคะ หนูไม่ดูหมิ่นนะคะ แต่....
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 24, 2009 11:54 pm
โดย Buddy
อย่าคิดมากจ้า
บางที มันอาจไม่ใช่เวลาก็ได้นะ
การจะแต่งงานกัน เรื่องเพศสัมพันธ์ต้องเกิดจากความรักนะคะ ไม่ใช่แต่งงานเพราะจะได้มีได้
ทุกอย่างพระสร้างมาดีนะคะ แต่คนเราทำให้มันเพี้ยนไป
Re: พระเจ้าคะ หนูไม่ดูหมิ่นนะคะ แต่....
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 25, 2009 1:22 pm
โดย Starry Night
เอ่อๆๆ
หนูไม่เข้าใจที่เค้าพูดอ่ะ
ทำไมต้อง ตีโพยตีพายด้วยง่ะ
ไม่แต่งก็ไม่แต่งดิ จขทก.รู้สึกจะเครียดมากๆ
คิดเรื่องเพศ ไม่เห็นจะผิดอะไรมากมาย
ถ้าพ่อแม่ไม่คิดเรื่องอย่างว่าจะมี พวกเรา ออกมาได้หรอเจ้าค่ะ -*-
แล้ว จุดสุด... มันคือ ???
พูดถึง จุดสุดยอดอ่ะหรอ
ก็ดีแล้วนิ ที่ มันมีจุดสุดยอด
ถ้าไม่มีจุดสุดยอด คนเราก็คงไม่พอซักที (...กันทั้งวัน -*-)
แล้วเรื่องฝรั่งอ่ะ
ทำไมต้องไปยึดติดกับพวกเขาด้วยอ่ะ
ฝรั่งก็คริสตชนคนหนึ่งเหมือนคุณแหละค่ะ
ไม่ได้เป็นผู้นำทางศาสนาซะหน่อย
งงงงงงง
ตกลง จขทก. เครียด หรือ หนู เครียดเนี้ยยยย!!!!
อึ้ม!! จากที่อ่าน คลีโอ บ่อย แต่ไม่เข้าใจ
ตกลง อีโก้ คืออะไร
ผู้รู้ช่วยบอกที :huh:
Re: พระเจ้าคะ หนูไม่ดูหมิ่นนะคะ แต่....
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 25, 2009 2:43 pm
โดย ignatius
Starry Night เขียน:
งงงงงงง
ตกลง จขทก. เครียด หรือ หนู เครียดเนี้ยยยย!!!!
อึ้ม!! จากที่อ่าน คลีโอ บ่อย แต่ไม่เข้าใจ
ตกลง อีโก้ คืออะไร
ผู้รู้ช่วยบอกที :huh:
"อีโก้" ที่น้องเค้าหมายถึง น่าจะมาจากคำว่า ego ความหมายที่ 1 แปลว่า ตัวฉัน,ตัวกู ,อัตตา แหละคะ
ความหมายที่ 2 คล้ายกับคำว่า self-esteem ความมั่นใจในตนเอง
egoismความเห็นแก่ตัวตลอด หรือ อัตตานิยม
egoistผู้ถือประโยชน์ตนเองเป็นใหญ่,ผู้หลงตัวเอง
แค่นี้ก็คงพอนึกออกแล้วนะคะ 
Re: พระเจ้าคะ หนูไม่ดูหมิ่นนะคะ แต่....
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 25, 2009 3:15 pm
โดย Starry Night
ขอบคุณค้าๆๆๆ

Re: พระเจ้าคะ หนูไม่ดูหมิ่นนะคะ แต่....
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 25, 2009 11:25 pm
โดย ~@Little lamb@~
พระศาสนจักรโอเคกับเรื่องมีเพศสัมพันธ์ของคู่สามี ภรรยาค่ะ
ไม่ได้ถือว่าบาป ถือว่าเป็นการแสดงความรักของคู่สามีภรรยา และเพื่อสืบเผ่าพันธุ์
แต่ถ้าไปทำกับคนอื่นที่นอกเหนือจากคู่แต่งงานของตนคือบาป
ส่วนจุดสุดยอด ขึ้นมาทำไม
ก็ถ้าไม่มีสิ่งนี้ แล้วมนุษย์มันจะมีเพศสัมพันธ์กันมั๊ยคะ
ถ้าทำแล้วมันไม่รู้สึกอะไรเลย หรือ ทำแล้วไม่ได้มีความสุข
แถมทำแล้วท้อง ต้องมานั่งคลอดอย่างเจ็บปวดทรมาน ไม่มีใครเอาหรอกค่ะ
นั่งดูทีวีกะบ้านเฉย ๆ ดีกว่า ไม่ต้องทำอะไรเลย มีความสุขกว่าเยอะ
พระเจ้าสร้างทุกสิ่งมาล้วนดีแล้วค่ะ
แต่มนุษย์ ไปเน้นมันมากเกินไป เสพติดมันมากเกินไป
ไม่รู้จักพอ มั่วไปหมด มากชู้หลายกิ๊ก มันถึงได้บาปค่ะ
เฮ้ออออออออออออ 
Re: พระเจ้าคะ หนูไม่ดูหมิ่นนะคะ แต่....
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 26, 2009 7:18 am
โดย Buddy
Re: พระเจ้าคะ หนูไม่ดูหมิ่นนะคะ แต่....
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 26, 2009 8:48 am
โดย Holy
ลองอ่านกระทู้นี้ครับ
† ความสำคัญของกามารมณ์ (Sexuality) †
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=5291.0