สลด เด็กหญิง ขาบวมโต 20 นิ้ว วอนคนใจบุญช่วยด่วน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 21, 2009 6:50 pm
จาก http://webboard.yenta4.com/topic/315072
*** ลงรูปไม่เป็นด้วย
น่าสงสาร - นางปราโลม รุ่งทอง อายุ 43 ปี พาลูกสาว ด.ญ.สุจิตรา รุ่งทอง อายุ 7 ปี ร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากด.ญ.สุจิตราป่วยเป็นโรคขาโตผิดปกติรักษาไม่หาย ล่าสุดแพทย์จะตัดขาทิ้งด้วย วอนคนใจบุญช่วยด่วน
สลดด.ญ. 7 ขวบ เป็นโรคประหลาดขาบวมมโหฬาร มีขนาดถึง 20 นิ้ว รักษาเท่าไรไม่ หาย แม่เผยโดนเพื่อนทับขาสมัยเรียนอยู่ที่จ.น่าน พาไปพบหมอบอกว่าเป็นมะเร็งที่กระดูก แม่ไม่ต้องการให้หมอตัดขาลูก จึงหอบหิ้วกันมาหาน้องที่ปากน้ำ แต่น้องสาวก็จนปัญญาจึงพาพบนักข่าว วอนคนใจบุญช่วยเหลือ พม.สมุทรปราการพาพบแพทย์รักษาเบื้องต้นแล้ว
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 20 พ.ค. นางปราโลม รุ่งทอง 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/9 ม.2 ต.พิมพา อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา อุ้มลูกสาวชื่อ ด.ญ.สุจิตรา รุ่งทอง หรือน้องนุ้ย อายุ 7 ขวบ ซึ่งมีสภาพขาข้างซ้ายตั้งแต่เข่าจนถึงต้นขามีลักษณะบวมเป่ง วัดรอบขาประมาณ 20 นิ้ว เข้าร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชน จ. สมุทรปราการ
นางปราโลมเล่าว่า เมื่อต้นเดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา ขณะนั้นน้องนุ้ย เรียนอยู่ ป.1 โรงเรียนจุมปีวนิดาพร จ.น่าน ถูกเพื่อนล้มทับขาขณะวิ่งเล่นอยู่ภายในโรงเรียน จึงไปรักษาที่โรงพยาบาลน่าน แต่อาการก็ไม่หาย และยังมีอาการบวมขึ้น ทำให้ "น้องนุ้ย" มีอาการเจ็บปวดเป็นอย่างมาก จนต้องหยุดการเรียนไว้ก่อน ตนเองพยายามพาไปรักษาที่โรงพยาบาลตลอด จนต้องขายทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาน้องนุ้ยจนหมด ประกอบกับพ่อของน้องนุ้ยต้องตกงานอีก ทำให้ไม่มีเงินเดินทางไปรักษา ครั้งสุดท้ายที่สอบถามหมอที่ร.พ.น่าน บอกว่าน้องนุ้ยเป็นโรคมะเร็งที่กระดูกต้องตัดขา ตนเองทำใจไม่ได้ที่ลูกสาวต้องตัดขาตั้งแต่อายุยังน้อย จึงรวบรวมเงินที่มีอยู่ทั้งหมดเดินทางมาหาน้องสาวที่สมุทรปราการ เพื่อให้น้องสาวช่วยในเรื่องค่ารักษาพยาบาล และคิดว่าแพทย์ที่กรุงเทพฯน่าจะช่วยเหลือลูกสาวได้ แต่เมื่อมาถึงน้องสาวก็ไม่มีเงินที่จะพาไปรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากน้องสาวเป็นแค่พนักงานในโรงงาน จึงพาไปรักษาทางไสยศาสตร์ ที่วัดแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้านน้องสาวย่านบางพลีน้อย แต่อาการของน้องนุ้ยก็ยังไม่ดีขึ้น กระทั่งมีคนแนะนำว่าให้ขอความช่วยเหลือต่อสื่อมวลชน จึงเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าว
นายพงษ์พิชญ์ ทองหิตานุวัฒน์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทร ปราการ กล่าวว่า ครอบครัวของน้องนุ้ยเดินทางมาจากจ.น่าน มาพักอยู่ที่บ้านญาติที่อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับจ.สมุทร ปราการ หลังจากทราบเรื่องว่าได้รับความเดือดร้อนจึงส่งนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของน้องนุ้ยทันที ทราบว่าน้องนุ้ยไม่มีเงินในการรักษาพยาบาล จึงให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นจำนวน 2,000 บาท พร้อมกับประสานโรงพยาบาลของรัฐที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อให้น้องนุ้ยได้รับการตรวจรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเร่งด่วน โดยจะทำหนังสือขอยก เว้นค่ารักษาพยาบาล และจะประสานกับหน่วย งานสาธารณกุศล เช่น เหล่ากาชาดจังหวัดเข้าไปช่วยเหลืออีกทาง
"แม้ว่าน้องนุ้ยจะมีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.น่าน มาอาศัยพักอยู่กับญาติในเขตอ.บางปะกง จ.ฉะเชิง เทรา แต่เมื่อทางพัฒนาสังคมจังหวัดสมุทรปราการทราบเรื่องก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาในทันที ให้เขาได้คลายความเดือดร้อน ไม่ให้รู้สึกว่าหน่วยงานของรัฐไม่เหลียวแล ส่วนจะอยู่พื้นที่ไหนนั้นค่อยมาประสานกันในตอนหลังได้" นายพงษ์พิชญ์กล่าว
*** ลงรูปไม่เป็นด้วย
น่าสงสาร - นางปราโลม รุ่งทอง อายุ 43 ปี พาลูกสาว ด.ญ.สุจิตรา รุ่งทอง อายุ 7 ปี ร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากด.ญ.สุจิตราป่วยเป็นโรคขาโตผิดปกติรักษาไม่หาย ล่าสุดแพทย์จะตัดขาทิ้งด้วย วอนคนใจบุญช่วยด่วน
สลดด.ญ. 7 ขวบ เป็นโรคประหลาดขาบวมมโหฬาร มีขนาดถึง 20 นิ้ว รักษาเท่าไรไม่ หาย แม่เผยโดนเพื่อนทับขาสมัยเรียนอยู่ที่จ.น่าน พาไปพบหมอบอกว่าเป็นมะเร็งที่กระดูก แม่ไม่ต้องการให้หมอตัดขาลูก จึงหอบหิ้วกันมาหาน้องที่ปากน้ำ แต่น้องสาวก็จนปัญญาจึงพาพบนักข่าว วอนคนใจบุญช่วยเหลือ พม.สมุทรปราการพาพบแพทย์รักษาเบื้องต้นแล้ว
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 20 พ.ค. นางปราโลม รุ่งทอง 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/9 ม.2 ต.พิมพา อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา อุ้มลูกสาวชื่อ ด.ญ.สุจิตรา รุ่งทอง หรือน้องนุ้ย อายุ 7 ขวบ ซึ่งมีสภาพขาข้างซ้ายตั้งแต่เข่าจนถึงต้นขามีลักษณะบวมเป่ง วัดรอบขาประมาณ 20 นิ้ว เข้าร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชน จ. สมุทรปราการ
นางปราโลมเล่าว่า เมื่อต้นเดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา ขณะนั้นน้องนุ้ย เรียนอยู่ ป.1 โรงเรียนจุมปีวนิดาพร จ.น่าน ถูกเพื่อนล้มทับขาขณะวิ่งเล่นอยู่ภายในโรงเรียน จึงไปรักษาที่โรงพยาบาลน่าน แต่อาการก็ไม่หาย และยังมีอาการบวมขึ้น ทำให้ "น้องนุ้ย" มีอาการเจ็บปวดเป็นอย่างมาก จนต้องหยุดการเรียนไว้ก่อน ตนเองพยายามพาไปรักษาที่โรงพยาบาลตลอด จนต้องขายทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาน้องนุ้ยจนหมด ประกอบกับพ่อของน้องนุ้ยต้องตกงานอีก ทำให้ไม่มีเงินเดินทางไปรักษา ครั้งสุดท้ายที่สอบถามหมอที่ร.พ.น่าน บอกว่าน้องนุ้ยเป็นโรคมะเร็งที่กระดูกต้องตัดขา ตนเองทำใจไม่ได้ที่ลูกสาวต้องตัดขาตั้งแต่อายุยังน้อย จึงรวบรวมเงินที่มีอยู่ทั้งหมดเดินทางมาหาน้องสาวที่สมุทรปราการ เพื่อให้น้องสาวช่วยในเรื่องค่ารักษาพยาบาล และคิดว่าแพทย์ที่กรุงเทพฯน่าจะช่วยเหลือลูกสาวได้ แต่เมื่อมาถึงน้องสาวก็ไม่มีเงินที่จะพาไปรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากน้องสาวเป็นแค่พนักงานในโรงงาน จึงพาไปรักษาทางไสยศาสตร์ ที่วัดแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้านน้องสาวย่านบางพลีน้อย แต่อาการของน้องนุ้ยก็ยังไม่ดีขึ้น กระทั่งมีคนแนะนำว่าให้ขอความช่วยเหลือต่อสื่อมวลชน จึงเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าว
นายพงษ์พิชญ์ ทองหิตานุวัฒน์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทร ปราการ กล่าวว่า ครอบครัวของน้องนุ้ยเดินทางมาจากจ.น่าน มาพักอยู่ที่บ้านญาติที่อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับจ.สมุทร ปราการ หลังจากทราบเรื่องว่าได้รับความเดือดร้อนจึงส่งนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของน้องนุ้ยทันที ทราบว่าน้องนุ้ยไม่มีเงินในการรักษาพยาบาล จึงให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นจำนวน 2,000 บาท พร้อมกับประสานโรงพยาบาลของรัฐที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อให้น้องนุ้ยได้รับการตรวจรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเร่งด่วน โดยจะทำหนังสือขอยก เว้นค่ารักษาพยาบาล และจะประสานกับหน่วย งานสาธารณกุศล เช่น เหล่ากาชาดจังหวัดเข้าไปช่วยเหลืออีกทาง
"แม้ว่าน้องนุ้ยจะมีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.น่าน มาอาศัยพักอยู่กับญาติในเขตอ.บางปะกง จ.ฉะเชิง เทรา แต่เมื่อทางพัฒนาสังคมจังหวัดสมุทรปราการทราบเรื่องก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาในทันที ให้เขาได้คลายความเดือดร้อน ไม่ให้รู้สึกว่าหน่วยงานของรัฐไม่เหลียวแล ส่วนจะอยู่พื้นที่ไหนนั้นค่อยมาประสานกันในตอนหลังได้" นายพงษ์พิชญ์กล่าว
