Belong to the Truth Jesus Christ

1. ปัญหาตอนนี้เพิ่มากขึ้นเรื่อยๆ ครับ เนื่องจากว่าผมต้องมาเรียนอยู่ที่ห้อง ม.4/1 บ้าๆ บอๆ โดนลงโทษทุกสัปดาห์เพราะเป็นห้องบ๊วยอมตะ  จนผมทนไม่ไหวโดนทำโทษทุกๆ สัปดาห์ บอกที่บ้าน ป้าก็ให้ผมเปลี่ยนห้องไม่รู้จะเปลี่ยนยได้ไหม ภาวนาให้ผมด้วย และที่สำคัญถ้าเปลี่ยนไม่ได้ ผมต้องไปทำบุญในวันที่ 14 มิ.ย. นี้ อาจจะไม่ได้ไปวันแห่ศีลมหาสนิท ที่วัดนักบุญยอแซฟรอบเช้า (แต่ความจริงป้าผมตั้งใจจะให้ไปทำบุญอยู่แล้ว) ที่สำคัญป้าผมยังต้องให้ผมไปไหว้พระพุทธรูปที่หน้า รร. อีกด้วย ยังไงผมก็ต้องโดนทำโทษเพราะคนอื่นที่ทำตัวไม่ดีอีกมากมาย ผมจึงต้องการย้ายห้องผมต้องการคำภาวนามากๆ เลย

2. ซ้อมไหว้ครู ต้องสวดมนตร์ไหว้ครู ผมรู้สึกว่าผมจะทำอย่างไรผมก็เป็นคาทอลิกไม่ได้ซักทีนึง เพราะเขาบังคับให้ผมต้องสวดมนตร์ เพราะศาสนาในทะเบียนแท้ๆ ผมต้องเรียนคำสอนตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่พระ และผมจะต้องเรียนคำสอนเมื่อ 28 มิ.ย. ที่จะถึง พร้อมอยากรับศีลบาป ที่ป้าผมได้ถามผมว่าผมมีอะไรเครียดๆ เป็นทุกข์ ทุกข์นั่นก็คือ ผมต้องมานับถือศาสนาพุทธ ป้าบังคับให้นับถือศาสนาพุทธ ป้าผมเป็นคนเคร่งศาสนาพุทธอย่างมาก ไม่ยอมให้คนในบ้านไปนับถือศาสนาอื่นๆ ชีวิตนี้ผมคงไม่มีโอกาสเป็นคาทอลิกอย่างสมบูรณ์แน่ 

คือไม่อยากยุ ให้ทะเลาะกันนะคับ- -; ป้าคุณเคร่งแต่ทำตัวเป็นพุทธที่ดีหรือป่าวคับ? - -ลองแค่คำถามแนวเนี้ย ถ้าเที่ยวไหว้นู่นนี่ไปทั่ว แก้บน ศาลนู่น ศาลนี่ ก็ไม่ต้องสนใจเลยก็ได้คับ(มั้งนะ)

        ขอให้น้องวอสวดภาวนาบ่อยๆนะครับ พระเป็นเจ้าพระองค์ทรงทราบถึงความตั้งใจของน้องแล้วครับ
     พระองค์ทราบนะครับว่าน้องวอรักพระองค์มากแค่ไหน  น้องวอไม่ต้องไปวิตกกังวลอะไรมากนะครับ
     พอถึงเวลาอันสมควรพระองค์ต้องเรียกน้องมาเป็นลูกพระองค์อย่างสมบูรณ์แน่นอน
        น้องมีความเชื่อในพระองค์ มีความรักต่อพระองค์ มีความปรารถนาที่จะล้างบาปเป็นคริสตชน ทั้งเป็น
    ทุกข์ถึงบาปที่ตนได้กระทำ ก็เท่ากับว่าน้องวอได้เป็นคริสตชนแล้วนะครับ เป็นศีลล้างบาปด้วยความปรารถนา
        พี่อยากให้น้องวอตั้งใจเรียนนะครับ มีกิจกรรมไหว้ครูน้องก็ร่วมกิจกรรมนะครับ ไม่เป็นไร ป้าให้น้องวอ
   ไปทำบุญทางพุทธ ไหว้พระพุทธรูป น้องก็ทำเถิดครับอย่าขัดใจป้าเลย
        ทำใจให้สบาย   อย่าไปวิตกกังวลอะไรมาก  ตั้งใจเรียนให้มากๆ   สวดภาวนาบ่อยๆ
   และไปเรียนคำสอนอย่างสม่ำเสมอนะครับ เมื่อถึงเวลาพระจะเรียกเอง
   
       จงมีความรักเถิด เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน หากผู้ใดกล่าวว่า " ฉันรักพระเป็นเจ้า
   แต่เกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นย่อมเป็นคนมุสา เพราะผู้ที่ไม่รักพี่น้องที่แลเห็นได้
   ย่อมไม่สามารถรักพระเป็นเจ้าที่เขาแลเห็นไม่ได้ เราได้รับบัญญัตินี้จากพระองค์
   คือให้ผู้ที่รักพระเจ้า รักพี่น้องของตนด้วย "
                      ( จดหมายฉบับแรกของนักบุญยอห์น 4:19-21)

   

   


 
 
   

อย่างงั้นวอ ก็ไหว้และสวดมนต์ของพุทธได้สิ ป้าของวอเคร่งมากนะ ไหว้พระทำบุญแผ่เมตตา เคร่งสุดๆ เรื่องจริยธรรมดีมากๆ ไงก็ตามวอก็ซึ้งในคำพูดพี่มากครับ วอเศร้าอยากจะร้องไห้ วอยังคงมีความหวัง ป้าของวอบอกว่าที่วอ ได้อยู่ในห้องที่ไม่ดีเป็นเพราะว่า ปีนี้วอไม่ได้ไปไหว้พระที่ รร. เลยมีการให้วอเวลาไป รร. ต้องไหว้พระพุทธรูปหน้า รร. ทุกวันซะแล้ว 

      น้องวอครับ.
              การที่พี่ให้น้องวอไปทำบุญทางพุทธ หรือการไหว้พระพุทธรูป พี่อยากให้น้องแยกแยะออกจากกันนะครับ
 
ที่พี่ให้น้องทำก็เพื่อความสบายใจของป้าและตัวของน้องเอง ป้าเค้าปรารถนาดีต่อน้องนะครับจึงให้น้องไปทำบุญ ไหว้พระพุทธรูป
 
ถ้าน้องขัดขืน พี่ว่าป้ากับน้องคงจะต้องผิดใจกัน ป้าคงมองศาสนาคริสต์ไปในทางลบ น้องไหว้พระพุทธ ไปทำบุญ ก็เพื่อรักษาน้ำใจ

รักษาความรักของป้าที่ปรารถนาดีต่อน้อง แต่ในความเชื่อส่วนตัว น้องมีความศรัทธา ความเชื่อในพระศาสนจักรคาทอลิก ต่อพระเจ้า 

ต่อพระแม่มารีย์ น้องสวดภาวนา ร่วมมิสซา ร่วมกิจศรัทธาต่างๆได้ พี่ว่าพระองค์ทรงเข้าใจน้องครับ ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความรัก
 
พี่ไม่อยากให้น้องวอกับป้าต้องผิดใจกันเพราะเรื่องศาสนา  ตอนที่พี่เรียนคำสอน แม่พี่แอนตี้ศาสนาคริสต์มากๆ แต่เวลาแม่ให้พี่ไหว้พระ

พุทธรูปพี่ก็ไหว้ ให้พี่ตักบาตรพี่ก็ทำ หรือแม้กระทั้งให้พี่ไปดูหมออาบน้ำมนต์พี่ก็ทำ เพราะอะไรหรอพี่ถึงทำ ไม่ใช่ว่าพี่หมดศรัทธาใน

พระเจ้า แต่พี่ทำไปเพราะพี่รักษาใจของแม่ ไม่อยากขัดใจแม่  ในส่วนตัวพี่มีความเชื่อ ความมั่นคงในพระเจ้าอย่างที่สุดเหมือนกับน้องวอ

ในขณะนี้  พี่ก็ไปร่วมมิสซา  สวดภาวนา  ไปเรียนคำสอนอย่างสม่ำเสมอ พี่ถามคุณพ่อว่าทำแบบนี้จะผิดบัญญติข้อที่1หรือไม่ คุณพ่อบอก

ว่าถ้าเราทำเพราะเรามีความเชื่อน้อย ไม่มั่นคงในพระ นั้น"ผิด" แต่เราทำเพราะทางบ้านพ่อแม่ญาติต่างความเชื่อสั่งให้เราทำ  เราทำเพราะ

รักษาใจของทางบ้าน นั้น"ไม่ผิด" เราทำให้พ่อแม่ญาติพี่น้องสบายใจ ก็เหมือนกับเราทำให้พระเยซูเจ้าสบายใจด้วย จนในที่สุดพี่ก็ได้รับ

ศีลล้างบาป  น้องวอครับ วัยของน้องเป็นวัยที่สดใส เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ พี่อยากให้น้องทำใจให้สบายๆ ตั้งใจเรียน เพราะเรื่องเรียนเป็น

สิ่งสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องของห้องเรียน พี่ว่ามันไม่เกี่ยวกันมันขึ้นอยู่กับตัวน้องมากกว่าว่าน้องตั้งใจเรียนมากน้อยแค่ไหน  ส่วนเรื่องจะได้

ล้างบาปหรือไม่น้องวออย่าวิตกกังวลไปเลยนะครับ ขอให้น้องหมั่นสวดภาวนา เรียนคำสอนอย่างสม่ำเสมอ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมพระจะ

เรียกเองครับ

  " จงวางใจในพระเยซูเจ้า ฝากความเดือดร้อนและความยุ่งยาก
    ไว้ในดวงพระทัยของพระองค์ แล้วพระองค์จะทรงจัดการทุกสิ่งเอง "

  ขอพระเจ้าสถิตกับน้องครับ

เข้าใจแล้วครับ 

คือถ้าไหว้อ่ะคับ ต้องดูบริบทด้วยคับ ตอนนี้ล้างบาปหรือยังคับ? ถ้ายังก็ไหว้ได้อ่ะคับยังไม่ถือว่าผิด แต่บางครั้งก็ยอมๆป้าคุณไปคงจะดีกว่าอ่ะนะคับ เพราะจากที่บอกว่าอยู่บ้านเดียวกัน ก็คงต้องตามน้ำไปอ่ะคับ แต่ถ้าไหว้ก็คงต้องจะดูเจตนาของการไหว้อ่ะคับ ถ้าคุณไหว้เพราะโดนบังคับโดยไม่เต็มใจ ยังงี้ทั้งชาติคุณมานั่งไหว้อยู่ จิตใจคุณก็ไม่สนหรอกคับ ไหว้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรอ่ะคับ เพราะอย่างน้อย ไหว้ๆไปเพื่อควมสบายใจคนบางหลายๆคนก็ยังดีกว่า ต้องมาอยบู่บ้านเดียวกับคนที่มาบังคับเราตลอดเวลานะคับ

วอ เขียน: 1. ปัญหาตอนนี้เพิ่มากขึ้นเรื่อยๆ ครับ เนื่องจากว่าผมต้องมาเรียนอยู่ที่ห้อง ม.4/1 บ้าๆ บอๆ โดนลงโทษทุกสัปดาห์เพราะเป็นห้องบ๊วยอมตะ  จนผมทนไม่ไหวโดนทำโทษทุกๆ สัปดาห์ บอกที่บ้าน ป้าก็ให้ผมเปลี่ยนห้องไม่รู้จะเปลี่ยนยได้ไหม ภาวนาให้ผมด้วย และที่สำคัญถ้าเปลี่ยนไม่ได้ ผมต้องไปทำบุญในวันที่ 14 มิ.ย. นี้ อาจจะไม่ได้ไปวันแห่ศีลมหาสนิท ที่วัดนักบุญยอแซฟรอบเช้า (แต่ความจริงป้าผมตั้งใจจะให้ไปทำบุญอยู่แล้ว) ที่สำคัญป้าผมยังต้องให้ผมไปไหว้พระพุทธรูปที่หน้า รร. อีกด้วย ยังไงผมก็ต้องโดนทำโทษเพราะคนอื่นที่ทำตัวไม่ดีอีกมากมาย ผมจึงต้องการย้ายห้องผมต้องการคำภาวนามากๆ เลย

อันนี้ผมเคยเกิดกับตัวเองครับ 3 ปี เกือบตลอด- -" ( หากระทู้เบื่อโลกของผมได้ที่ http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=9264.0 )
วิธีแก้ก็พอมีครับ =
1.น้องต้องทำใจให้เป็นกลางครับ ถ้าโดน(ทั้งๆที่เราไม่ผิด)แล้วอาจารย์ชอบโปรเหมาๆ ต้องทำใจครับ ไม่โกรธ โทษ ไม่ก็ชี้แจงว่าน้องไม่เกี่ยว(ปกติอาจารย์ลัทธิเหมาไม่ค่อยฟัง) ก็ต้องยอมครับ ในสถานการณ์นั้นทำอะไรไม่ได้ก็ต้องยอมครับ แล้วน้องจะต้อง(ต้องทำเลยนะครับ)ไม่มาผูกใจเจ็บครับ เหมือนกับอภัย เพราะถ้าไม่น้องจะเริ่มมีความเก็บกดกับเพื่อนในห้องครับ
แบว่า "ห่ะ ฉันยังไม่ทำอะไรผิด ทำฉันทำไม" - "เพราะพวกเธอทำให้ฉันเป็นอย่างนี้" - "ไม่ยุติธรรมเลย พวกเขาผิด ผมไม่นี่นา"
พูดไปก็หาคนทำยากครับ กว่าจะถึงจุดที่ให้อภัยทุกอย่างก็อาจจะแย่เกินไป

2.ไอ่ห้องบ๊วยเนี้ย ถ้ามันเป็นที่น้องว่าจริงๆ มันบ๊วยเพราะคนในห้องหรือบ๊วยเพราะสายตาคนภายนอก อันนี้คงบอกว่าน้องเปลี่ยนโลกไม่ได้ครับ แต่อย่าให้โลกเปลี่ยนน้อง(ไปในทางที่แย่ลง) อันนี้นี้ถ้าน้องเปลี่ยนห้องไม่ได้ น้องก็ต้องจำใจอยู่(นอกจากจะย้ายหนี) แต่อยู่อย่างคนแกร่งครับ อย่างน้อยน้องก็ต้องทำใจว่าจะอยู่ที่นี่....มันก็จะต้องมีเรื่องแย่ๆมาตลอด ถ้าทำใจและยอมรับมันได้น้องก็อยู่ได้

3.ต่อจากข้างบน...น้องอาจจะใช้แรงด้านลบผลักเป็นแรงบวก(+)ครับ ตั้งใจเรียน ขยันเข้าไป วันหนึ่งเมื่อเกรดออก ผลออก น้องอาจจะเป็นคนที่ทั้งสายชื่นชมก็ได้ อย่างน้อยห้องนี้มันแย่อย่างนั้น อย่างนี้ แต่...ก็ยังมีเด็กชายคนนนี้ที่ดี อะไรทำนองนั้น เมื่อนั้นอาจารย์ทั่วไปจะรู้ว่า อ้อ...คนนี้คนดีนะ ไม่น่าจะทำอย่างนั้นเหมือนคนอื่น แล้วน้องจะอยู่ได้กับคนเหล่านั้นครับ

4.ถ้าคนห้องน้องเป็นประเภทไม่เอา แล้วยัง(เท้า)ยัน (การต่อต้านแบบสุดโต่ง) อันนี้เพื่อนพี่ (รวมทั้งพี่) ด้วยก็เจอครับ เรียนต.อ.แล้วเจอการไม่ร่วมมือแล้วมันเครียดครับ สุดท้ายเพื่อนพี่ก็ไม่ทำครับงานห้อง (ต่างจากพี่ที่รับมาทำคนเดียว...อยู่คนล่ะห้องนะครับ ) = อันนี้ยก ตย. มานะครับ ถ้าเจออย่างนี้แล้วให้หาคนที่จะทำกับน้องในห้องดีๆครับ อย่างน้อยพี่เชื่อว่าผู้หญิงในห้องก็ต้องร่วมมือมาก อย่าใส่ใจกับคนไม่ทำครับ เพราะน้องไม่ควรจะแบกพวกเขาไว้ จะทำให้น้องแย่ได้

5.ส่วนเรื่องไหว้นั้น พี่ก็เป็นครับ เมื่อพี่จะไหว้พี่จะคิดว่าสิ่งที่พี่ทำมันเป็นการเคารพครับ แบบว่าเคารพสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ให้เกียรติ เหมือนกับเราไปบ้านคนอื่น เจอพ่อแม่เขาเราไหว้ อะไรทำนองนั้น สำหรับพี่การไหว้คือการเคารพและทักทาย  ส่วนการทำบุญนี่แล้วแต่แง่มุมครับ แต่พี่เชื่อว่าพระองค์เข้าใจในสถานการณ์ที่น้ิองเป็นอยู่ และไม่นานพระองค์จะรับน้องเป็นลูกของพระองค์

สุดท้ายถ้าน้องยังไม่เข้าใจกับตัวเอง พี่ขอฝากประโยคที่พี่ชอบนำมาใช้เตือนตัวเองเวลารู้สึกว่าหาทางเลือกไม่ได้

" คำที่ซึ่งใครพูดกันนั้น ฉันควรจะเชื่อในคำพูดใคร "
" แค่เชื่อเชื่อมั่นในคำพูดเธอ แค่นั้นก็คงจะเพียงพอแล้ว"
" เชื่อมั่นต่อไปเถอะ "