ปัญหา 4/1 จะมีมาให้อ่านทุกวัน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 25, 2009 10:25 pm
* ชื่อบุคคลได้สมมติขึ้นหรือตั้งใจสะกดผิดและใช้ชื่อให้สั้นลงหรือใช้ตัวย่อ ของนามสกุล
23 มิถุนายน 2552
ในวันนี้เอง ม.บวร ครูประจำชั้น 4/1 ได้โมโหกับการกระทำของ น.ร. 4/1 มาก เพราะว่าเมื่อวานวันจันทร์ มีนักเรียนจำนวนมากมายที่ไม่ได้เอาอุปกรณ์มาเรียนและวันศุกร์มีนักเรียนที่ชอบทำให้คะแนนห้องเสื่อมเสียเป็นประจำ จำนวนหนึ่ง ได้เอาอุปกรณ์จัดบอร์ดมาเล่น พอ ม.บวร ด่า น.ร. หน้าเดิมๆ ที่ทำให้ห้องเสื่อมเสียเป็นประจำ ไปไปมามา กอด น.ร. ชาย ที่อายุ 18 อยู่ ม.4 เข้ามา (มาสาย) พอดี เลยโดนด่าข้อหาเอาอุปกรณ์จัดบอร์ดมาเล่น กอด เลยชักสีหน้าใส่ ม. บวร ทำให้ ม. บวร พูดว่าจะลาออกสิ้นเดือนนี้และจะไม่ด่าเด็ก 4/1 อีก (ม. บวร พูดด่าจริง) แล้ว ม. บวร บอกว่า เขาไม่เคยด่าเด็ก 4/2 เลย (4/2 เป็นห้องที่ผมอยากไปเรียนมาก เรียนสงบ ได้คะแนนห้องดีมาตลอด ไม่เหมือน 4/1 มีแต่คนเห็นแก่ตัวมากมายมหาศาล ไม่เรียน เอาแต่คุยเล่น ต่างจาก 4/2 หยั่งกับนรกกับสวรรค์ แต่ว่าผมไป 4/2 ไม่ได้ต้องปีหน้า หรืออาจจะ ต้องเทอม 2 ก่อน แต่โอกาสเทอม 2 ต่ำ ความจริง ม. บวรมีปัญหาทางเส้นเสียงเพราะเอาเสียงมาตะโกนด่าเด็ก 4/1 เป็นประจำ) จากนั้นพอจบ ช.ม. ทุกคนต่างไปคุกเข่าหน้าห้อง 4/2 ซึ่ง ม. บวรได้ไปจากห้องนั้นแล้ว ทั้งห้องยกเว้นผมไม่ออกไปคุกเข่า มิสมา ก็เห็นผมไม่ออกไปคนเดียว แถมพูดกับผมว่าผมไม่ค่อยได้ทำอะไรผิด พอเข้ามาในห้องก็มีคนรู้ว่าผมไม่ได้ออกไปคุกเข่า กอด นาค นก โมโหมาก หาว่าผมเห็นแก่ตัว พูดว่าผมไม่มีความผิดหรือไงจึงไม่ยอมออกไปคุกเข่า ที่จริงตอนที่ผมออกไปคุกเข่า แล้วอยู่ในห้องนั้น ผมสวดบทพระบิดา และวันทามารีอา เพื่อให้ปัญญาเรื่องเหล่านี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ความจริง กอด จะชกผมแล้ว แต่อ้อยห้ามกอดไว้ ทำให้ ไม่เกิดเรื่อง ในวันนั้นเอง นาค ก็ด่าว่าผมเห็นแก่ตัว ตอนเที่ยงผมไปผมพบครูประจำอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิง ครูบอกว่าผมควรออกไปเพราะเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม คาบสุดท้าย ผมเดินสวนสนาม กอด ด่าผมที่ผมอยากเป็นคริสต์ให้คนอื่นฟังด้วย แต่นิดเดียว พอผ่านไปตอนเย็น ม. บวร ได้เข้ามาบอกว่า ผม ไม่ผิดที่ไม่ได้ออกไปคุกเข่า ซึ่ง พวกตัวถ่วงความเจริญของห้องหาว่าผมขี้ฟ้อง ผมก็บอกพวกมันไปว่ามิส มาเห็น (เห็น จริงๆ) นี่คือการเริ่มต้นของปัญหาครั้งยิ่งใหญ่
24 มิถุนายน 2552
ในวันนี้เอง ผมถูกหาว่าโดนแบรนด์ แต่พอดี ผมเป็นคนที่เรียนเก่งที่สุดในห้องและมีอุปกรณ์การเรียนครบ (คนในห้องมันชอบยืมของผมจริงๆ หนา) จากนั้นผมได้เรียนอยู่ในห้องนั่งคนเดียว ทีนี้ผมมีปากกา อยู่ 3 ด้าม ให้คิง ไป 1 ด้าม อีกด้ามของผม อีกด้ามนาคมาขอยืมก่อน แต่นัดมาทีหลัง ผมให้ไปเพราะเขานิสัยดีกว่า นาค (อารมณ์ชั่ววูบ) และผมพูดว่า ผมจะให้กับคนที่นิสัยดีกว่า แม้ว่าผมจะโดนแบรนด์ ผมก็ยังมีหนังสือให้คนอื่นดู ชื่อ เม มีอีกคนมาขอความช่วยเหลือ ชื่อ บูม แต่จิ๊บ พูดว่า บูม อย่าไปนั่งตรงนั้นเดี๋ยวก็โดนแบรนด์ แม้ผมจะไม่มีเพื่อนห้อง 1 คบนัก (ห้อง 2 ดีเลิศ คอยปกป้องผม ไม่เหมือนห้อง 1 เลย) นกพูดว่าผมไม่มีเพื่อนคบ ผมตอบกลับไปว่า ถึงจะไม่มีเพื่อนคบแต่ก็มีความรู้ (ผมมีความรู้ แม้จะพวกถ่วงความเจริญแค่ไหนมันก็ต้องมาถามผมอยู่ดี ผมมีอุปกรณ์การเรียนให้มันยืม มันต้องยืมจะมัวหาว่าผมเห็นแก่ตัวแล้วไม่ยืมไม่ได้ เดี๋ยวงานไม่เสร็จ) กอดตบหัวผมตอนอยู่ในห้องผมบอกครู นาค หาว่าผมขี้ฟ้อง จากนั้น ตอนเข้าแถว กอด พูดว่าภายในเดือนนี้มันต้องโดนไล่ออก และบอกว่าถ้ามันโดนไล่ออกมันต้องมาชกหน้าผม จากนั้นมันก็พูดกับครูประจำชั้นที่เป็นผู้หญิงว่า อยากเปลี่ยนหัวหน้าห้อง แล้วพูดว่าใครอยากเปลี่ยนหัวหน้าห้องบ้าง คนในห้องต่างเห็นด้วย (คงเป็นเพราะว่า ไม่อยากถูกแบรนด์) แต่ว่าก็ไม่มีใครอยากเป็นหัวหน้าห้องแทนผมเลยสักคน อยากรู้นะว่าถ้าไม่มีผมนี่ คงเกี่ยงกันเป็นหัวหน้าห้องกันตายเลย แต่ครูพูดว่า จะมาพูดอะไรกันตอนนี้ แล้วก็เข้าห้องไป จากนั้นก็มีการเข้าแถวขึ้นห้องคอม พอขึ้นไป เม ได้พูดว่า อย่าแกล้งผมสิ ฤทธิ์ เลยพูดกับเมว่า เป็นแม่พระ ผมเลยเผลอพูดว่า ขอให้แม่พระมารีอาคุ้มครองคนนั้น พอจบคาบเรียน ผมต้องไป ร.ด. กอดไล่ผมนะครับ ก่อนที่จะไปผมได้กินข้าว มีข่าวดีคือท่าทางมิสไผ่ หรือครูไผ่ที่ผมบอกว่าครูเขาเป็นโรคทางหัวใจท่าทางหายดีแล้วจึง กลับมาสอนได้ ในที่สุดผมก็ไปศูนย์ฝึก ร. 1 พัน ร.อ. (เขียนถูกไหมนี่) แต่ว่าผมมีปัญหาที่นั่นคือ ผมไม่ได้เขียนใบสมัครครบทุกจุดเพราะต้องรีบเก็บ ขาดแค่ ตรง ข้อมูลมารดา และข้อมูลผู้ปกครอง ที่เหลือเสร็จหมดที่ผมต้องส่งเพราะมีคนในกลุ่มให้ผมส่งบอกว่า เขียนไม่ครบ เขาไม่ฆ่าผมหรอก จากนั้นตอนกลับบ้าน ผมทำแบบแผนต่างๆ คือทำระดับความสัมพันธ์ที่ดีต่อผม มี 6 คนที่เป็นคนนิสัยไม่ดีที่นอกจากทำคะแนนห้องเสียแล้วยังทำตัวไม่ดีต่อผมอีก เย็นวันนั้นผมไปวัดกาลหว่าร์ร่วมมิสซา เผื่อจะมีอะไรดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ พอดีวันนั้นเป็นวันเกิด นักบุญยอห์น บัพติส ผมอายุน้อยที่สุดในมิสซาคืนนั้น คืนนั้นผมสวดให้คนไม่ดีกลับใจสำนึกในสิ่งที่พวกเขาทำ และข้อให้คนดีๆ โดยเฉพาะเม เป็นคนดีต่อไป พระเจ้าคุ้มครอง (อาจจะทำไม่ค่อยถูก) และผมสวดให้ผมได้ย้ายไปห้องอยู่ห้อง 2 ซึ่งถ้าจะเปลี่ยนไปอยู่ห้อง 2 ต้องรอปีหน้าได้แน่นอน แต่เทอม 2 เดือนพฤศจิกายนนี้อาจจะได้นะ อาจจะต้องภาวนา
25 มิถุนายน 2552
ในวันนี้เอง คาบแรก ม. บวร เข้ามาถามนัดว่าเมื่อวานไปไหนเรียน ร.ด. ด้วยหรือเปล่า นัดบอกว่าไปคลองสานไม่ได้เรียน หนีไป ม. บวร บอกว่าขนาด ม. บวรจะออกยังทำตัวแบบนี้เลย ไม่สำนึก เกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นคิงตบหัวผม ผมบอกครูภู ครูภูบอกตบหัวคืน ผมเลยเอามือซ้ายตบหัวคืนเลย มีเสียงท่าทางแรงซะด้วย ในวันนั้นเองนก และคิง ต่างยืมของผม แบบเกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง สุดๆ คราวนี้มีวิชาต้องใช้เอ4 ฤทธิ์นักแน่นไม่เอาเอ4 ของผม ไปเอาของคนอื่นดีกว่า แสดงว่าฤทธิ์ เกลียดผมจริง ไม่งั้นคงเอาเอ4 ผมไปใช้แล้ว เอ4 ฤทธิ์เอาจากคนอื่น วิชาภาษาจีน มี น.ร. เก่งจากห้องอื่นมา เบด เป็นคนเรียนเก่งมาก นก บอกเบด ว่าผมด่าทุกคนไม่มีความรู้ ผมก็พยายามจะอธิบายว่า ผมน่ะ แค่บอกพวกมันว่าผมมีความรู้เป็นเพื่อน ความจริงความรู้เป็นเพื่อนที่ดี ทำให้ศัตรูยอมกลายเป็นมิตรเมื่อมันทำการบ้านไม่ได้ มันต้องมาโอดครวญเพื่อขอความรู้จากผม ไม่งั้นมันทำไม่ได้แน่ จากนั้นพอวิชาภาษาอังกฤษของครูฟิลิปปินส์ คราวนี้ผมยอมรับว่าผมทำไม่ได้จริงๆ ผมจึงขอดูของคุณนาต แต่มันพูดว่า
23 มิถุนายน 2552
ในวันนี้เอง ม.บวร ครูประจำชั้น 4/1 ได้โมโหกับการกระทำของ น.ร. 4/1 มาก เพราะว่าเมื่อวานวันจันทร์ มีนักเรียนจำนวนมากมายที่ไม่ได้เอาอุปกรณ์มาเรียนและวันศุกร์มีนักเรียนที่ชอบทำให้คะแนนห้องเสื่อมเสียเป็นประจำ จำนวนหนึ่ง ได้เอาอุปกรณ์จัดบอร์ดมาเล่น พอ ม.บวร ด่า น.ร. หน้าเดิมๆ ที่ทำให้ห้องเสื่อมเสียเป็นประจำ ไปไปมามา กอด น.ร. ชาย ที่อายุ 18 อยู่ ม.4 เข้ามา (มาสาย) พอดี เลยโดนด่าข้อหาเอาอุปกรณ์จัดบอร์ดมาเล่น กอด เลยชักสีหน้าใส่ ม. บวร ทำให้ ม. บวร พูดว่าจะลาออกสิ้นเดือนนี้และจะไม่ด่าเด็ก 4/1 อีก (ม. บวร พูดด่าจริง) แล้ว ม. บวร บอกว่า เขาไม่เคยด่าเด็ก 4/2 เลย (4/2 เป็นห้องที่ผมอยากไปเรียนมาก เรียนสงบ ได้คะแนนห้องดีมาตลอด ไม่เหมือน 4/1 มีแต่คนเห็นแก่ตัวมากมายมหาศาล ไม่เรียน เอาแต่คุยเล่น ต่างจาก 4/2 หยั่งกับนรกกับสวรรค์ แต่ว่าผมไป 4/2 ไม่ได้ต้องปีหน้า หรืออาจจะ ต้องเทอม 2 ก่อน แต่โอกาสเทอม 2 ต่ำ ความจริง ม. บวรมีปัญหาทางเส้นเสียงเพราะเอาเสียงมาตะโกนด่าเด็ก 4/1 เป็นประจำ) จากนั้นพอจบ ช.ม. ทุกคนต่างไปคุกเข่าหน้าห้อง 4/2 ซึ่ง ม. บวรได้ไปจากห้องนั้นแล้ว ทั้งห้องยกเว้นผมไม่ออกไปคุกเข่า มิสมา ก็เห็นผมไม่ออกไปคนเดียว แถมพูดกับผมว่าผมไม่ค่อยได้ทำอะไรผิด พอเข้ามาในห้องก็มีคนรู้ว่าผมไม่ได้ออกไปคุกเข่า กอด นาค นก โมโหมาก หาว่าผมเห็นแก่ตัว พูดว่าผมไม่มีความผิดหรือไงจึงไม่ยอมออกไปคุกเข่า ที่จริงตอนที่ผมออกไปคุกเข่า แล้วอยู่ในห้องนั้น ผมสวดบทพระบิดา และวันทามารีอา เพื่อให้ปัญญาเรื่องเหล่านี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ความจริง กอด จะชกผมแล้ว แต่อ้อยห้ามกอดไว้ ทำให้ ไม่เกิดเรื่อง ในวันนั้นเอง นาค ก็ด่าว่าผมเห็นแก่ตัว ตอนเที่ยงผมไปผมพบครูประจำอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิง ครูบอกว่าผมควรออกไปเพราะเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม คาบสุดท้าย ผมเดินสวนสนาม กอด ด่าผมที่ผมอยากเป็นคริสต์ให้คนอื่นฟังด้วย แต่นิดเดียว พอผ่านไปตอนเย็น ม. บวร ได้เข้ามาบอกว่า ผม ไม่ผิดที่ไม่ได้ออกไปคุกเข่า ซึ่ง พวกตัวถ่วงความเจริญของห้องหาว่าผมขี้ฟ้อง ผมก็บอกพวกมันไปว่ามิส มาเห็น (เห็น จริงๆ) นี่คือการเริ่มต้นของปัญหาครั้งยิ่งใหญ่
24 มิถุนายน 2552
ในวันนี้เอง ผมถูกหาว่าโดนแบรนด์ แต่พอดี ผมเป็นคนที่เรียนเก่งที่สุดในห้องและมีอุปกรณ์การเรียนครบ (คนในห้องมันชอบยืมของผมจริงๆ หนา) จากนั้นผมได้เรียนอยู่ในห้องนั่งคนเดียว ทีนี้ผมมีปากกา อยู่ 3 ด้าม ให้คิง ไป 1 ด้าม อีกด้ามของผม อีกด้ามนาคมาขอยืมก่อน แต่นัดมาทีหลัง ผมให้ไปเพราะเขานิสัยดีกว่า นาค (อารมณ์ชั่ววูบ) และผมพูดว่า ผมจะให้กับคนที่นิสัยดีกว่า แม้ว่าผมจะโดนแบรนด์ ผมก็ยังมีหนังสือให้คนอื่นดู ชื่อ เม มีอีกคนมาขอความช่วยเหลือ ชื่อ บูม แต่จิ๊บ พูดว่า บูม อย่าไปนั่งตรงนั้นเดี๋ยวก็โดนแบรนด์ แม้ผมจะไม่มีเพื่อนห้อง 1 คบนัก (ห้อง 2 ดีเลิศ คอยปกป้องผม ไม่เหมือนห้อง 1 เลย) นกพูดว่าผมไม่มีเพื่อนคบ ผมตอบกลับไปว่า ถึงจะไม่มีเพื่อนคบแต่ก็มีความรู้ (ผมมีความรู้ แม้จะพวกถ่วงความเจริญแค่ไหนมันก็ต้องมาถามผมอยู่ดี ผมมีอุปกรณ์การเรียนให้มันยืม มันต้องยืมจะมัวหาว่าผมเห็นแก่ตัวแล้วไม่ยืมไม่ได้ เดี๋ยวงานไม่เสร็จ) กอดตบหัวผมตอนอยู่ในห้องผมบอกครู นาค หาว่าผมขี้ฟ้อง จากนั้น ตอนเข้าแถว กอด พูดว่าภายในเดือนนี้มันต้องโดนไล่ออก และบอกว่าถ้ามันโดนไล่ออกมันต้องมาชกหน้าผม จากนั้นมันก็พูดกับครูประจำชั้นที่เป็นผู้หญิงว่า อยากเปลี่ยนหัวหน้าห้อง แล้วพูดว่าใครอยากเปลี่ยนหัวหน้าห้องบ้าง คนในห้องต่างเห็นด้วย (คงเป็นเพราะว่า ไม่อยากถูกแบรนด์) แต่ว่าก็ไม่มีใครอยากเป็นหัวหน้าห้องแทนผมเลยสักคน อยากรู้นะว่าถ้าไม่มีผมนี่ คงเกี่ยงกันเป็นหัวหน้าห้องกันตายเลย แต่ครูพูดว่า จะมาพูดอะไรกันตอนนี้ แล้วก็เข้าห้องไป จากนั้นก็มีการเข้าแถวขึ้นห้องคอม พอขึ้นไป เม ได้พูดว่า อย่าแกล้งผมสิ ฤทธิ์ เลยพูดกับเมว่า เป็นแม่พระ ผมเลยเผลอพูดว่า ขอให้แม่พระมารีอาคุ้มครองคนนั้น พอจบคาบเรียน ผมต้องไป ร.ด. กอดไล่ผมนะครับ ก่อนที่จะไปผมได้กินข้าว มีข่าวดีคือท่าทางมิสไผ่ หรือครูไผ่ที่ผมบอกว่าครูเขาเป็นโรคทางหัวใจท่าทางหายดีแล้วจึง กลับมาสอนได้ ในที่สุดผมก็ไปศูนย์ฝึก ร. 1 พัน ร.อ. (เขียนถูกไหมนี่) แต่ว่าผมมีปัญหาที่นั่นคือ ผมไม่ได้เขียนใบสมัครครบทุกจุดเพราะต้องรีบเก็บ ขาดแค่ ตรง ข้อมูลมารดา และข้อมูลผู้ปกครอง ที่เหลือเสร็จหมดที่ผมต้องส่งเพราะมีคนในกลุ่มให้ผมส่งบอกว่า เขียนไม่ครบ เขาไม่ฆ่าผมหรอก จากนั้นตอนกลับบ้าน ผมทำแบบแผนต่างๆ คือทำระดับความสัมพันธ์ที่ดีต่อผม มี 6 คนที่เป็นคนนิสัยไม่ดีที่นอกจากทำคะแนนห้องเสียแล้วยังทำตัวไม่ดีต่อผมอีก เย็นวันนั้นผมไปวัดกาลหว่าร์ร่วมมิสซา เผื่อจะมีอะไรดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ พอดีวันนั้นเป็นวันเกิด นักบุญยอห์น บัพติส ผมอายุน้อยที่สุดในมิสซาคืนนั้น คืนนั้นผมสวดให้คนไม่ดีกลับใจสำนึกในสิ่งที่พวกเขาทำ และข้อให้คนดีๆ โดยเฉพาะเม เป็นคนดีต่อไป พระเจ้าคุ้มครอง (อาจจะทำไม่ค่อยถูก) และผมสวดให้ผมได้ย้ายไปห้องอยู่ห้อง 2 ซึ่งถ้าจะเปลี่ยนไปอยู่ห้อง 2 ต้องรอปีหน้าได้แน่นอน แต่เทอม 2 เดือนพฤศจิกายนนี้อาจจะได้นะ อาจจะต้องภาวนา
25 มิถุนายน 2552
ในวันนี้เอง คาบแรก ม. บวร เข้ามาถามนัดว่าเมื่อวานไปไหนเรียน ร.ด. ด้วยหรือเปล่า นัดบอกว่าไปคลองสานไม่ได้เรียน หนีไป ม. บวร บอกว่าขนาด ม. บวรจะออกยังทำตัวแบบนี้เลย ไม่สำนึก เกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นคิงตบหัวผม ผมบอกครูภู ครูภูบอกตบหัวคืน ผมเลยเอามือซ้ายตบหัวคืนเลย มีเสียงท่าทางแรงซะด้วย ในวันนั้นเองนก และคิง ต่างยืมของผม แบบเกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง สุดๆ คราวนี้มีวิชาต้องใช้เอ4 ฤทธิ์นักแน่นไม่เอาเอ4 ของผม ไปเอาของคนอื่นดีกว่า แสดงว่าฤทธิ์ เกลียดผมจริง ไม่งั้นคงเอาเอ4 ผมไปใช้แล้ว เอ4 ฤทธิ์เอาจากคนอื่น วิชาภาษาจีน มี น.ร. เก่งจากห้องอื่นมา เบด เป็นคนเรียนเก่งมาก นก บอกเบด ว่าผมด่าทุกคนไม่มีความรู้ ผมก็พยายามจะอธิบายว่า ผมน่ะ แค่บอกพวกมันว่าผมมีความรู้เป็นเพื่อน ความจริงความรู้เป็นเพื่อนที่ดี ทำให้ศัตรูยอมกลายเป็นมิตรเมื่อมันทำการบ้านไม่ได้ มันต้องมาโอดครวญเพื่อขอความรู้จากผม ไม่งั้นมันทำไม่ได้แน่ จากนั้นพอวิชาภาษาอังกฤษของครูฟิลิปปินส์ คราวนี้ผมยอมรับว่าผมทำไม่ได้จริงๆ ผมจึงขอดูของคุณนาต แต่มันพูดว่า