Belong to the Truth Jesus Christ

ตามกระทู้ที่ตั้งแล้ว หมายถึงตัวผมเองที่ไม่สามารถเอาชนะตัวเองได้ แม้รู้ว่าสิ่งผิดถูก ก็ยังทำสิ่งที่เป็นบาปและผิดผลาดอยู่ทุกวัน
แม้อยากจะละทิ้งทุกสิ่งแล้วทำตามทุกสิ่งที่รู้เกี่ยวกับคำสอนของพระเจ้า แต่ก็ยังทำไม่ได้ ตอนนี้จะบอกไม่มีศาสนาก็ได้ เพราะทำไม่ได้ตามหลักความเชื่อ แม้จะเชื่อและเกรงกลัวพระเจ้าแต่ยังไม่มากพอที่จะชนะความอ่อนแอในตัวเองได้ ผมไม่ได้เข้าร่วมกับศาสนาใหนๆมานานมาก5ปีขึ้นเป็นอย่างต่ำ มันตลกที่รู้ว่าความจริงแต่ทำไม่ได้ การถ่อมใจนั้นสำคัญที่เราจะเชื่อฟังพระองค์ แต่ก็นั่นละการผลัดวันประกันพรุ่งก็เป็นจุดอ่อนร้ายแรงจริงๆ ผมต้องอยู่โดยไร้ศาสนาอีกนานแค่ใหนผมเองก็ไม่รู้ ทางออกที่เห็นก็รู้อยู่ แต่การกลับใจจากบาปนั้นยากนัก และบาปก็เพิ่มขึ้นทุกวันตามวันเวลาที่ล่วงไป จิตวิญญาณก็อ่อนแอลง และคงตายอยู่กับบาปของตัวเอง 
  อยากกลับไปสู่คอกของพระเจ้าจังแงๆ ขอข้อความพระคัมภีร์ดีดี และคำหนุนใจด้วยครับ ขอคำแนะนำจากใจจริงครับ ไม่ใหวแล้วอยู่ข้างนอกมันเหนื่อยจิงๆ

มีพระคัมภีร์ไหม?
ถ้ามี ขอให้อ่านอย่างจริงจัง แม้หนึ่งวันที่ท่านได้อยู่ใกล้ ก็ยังดีกว่าพันวันในที่อื่นๆ นะครับ

พูดก็อาจจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
ปัญหามันคืออะไรกันแน่หรอครับ พอจะเล่าได้ไหม
อย่างไรจะสวดภาวนาเผื่อนะครับ

ปัญหาคือไม่สามารถกลับไปสู่คอกของพระเจ้าได้ ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ
ปัญหาคือไม่ไปเข้าโบถหรือร่วมศาสนกิลมามากกว่า5ปี

การที่เรารู้ว่าเราอ่อนแอ  พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าถึงจะแสดงออกได้อย่างเต็มที่ค่ะ

เราทุกๆ คนเป็นคนบาปเหมือนกัน มีความอ่อนแอทางวิญญาณเหมือนกัน

ตอนนี้พระเจ้ากำลังเรียกให้คุณกลับมานะคะ พระเจ้ารักคุณมากและอยากจะช่วยเหลือคุณ

แต่การที่พระเจ้าจะเข้าไปช่วยคุณได้คุณต้องเปิดใจกับพระองค์ก่อน ต้อนรับให้พระองค์กลับมาสิคะ

ขอให้พระองค์ทรงช่วยเหลือคุณ ขอให้พระองค์นำทาง อย่าให้ซาตานหรือมารมาใช้เหตุผลต่างๆ ล่อลวงคุณเลย

พระองค์รอคุณอยู่ และคุณก็เป็นลูกคนนึงที่พระองค์ทรงรักนะคะ พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งคุณหรอกค่ะ

ขอพระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพโปรดเมตตาคุณ APaladin ด้วยเทอญ

ปัญหาคือ ทำตามใจตัวเองมากขึ้นและมากไป แต่นั่นทำให้ผิดพลาดมากขึ้นเช่นกันในชีวิตประจำวัน รู้ทั้งรู้แค่เอาชนะตัวเองไม่ได้
ทำอย่างไรให้กลับกลับไปถ่อมตัวต่อพระพักต์พระเจ้าได้แงๆเครียดๆ

เป็นธรรมดาที่ไม่ได้เข้าโบสถ์ ส่วนมากจะจิตวิญญาณตกต่ำ เพราะว่าไม่ได้รับการดูแลจากพี่น้องและผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ ซ้ำยังไม่ได้ดูแลจิตวิญญาณของตัวเองด้วย ดังนั้น ตอนนี้สิ่งที่ผมว่าคุณน่าจะทำได้ก็คือ การเฝ้าเดี่ยว เช่น สวดสายประคำ อ่านพระคัมภีร์ ฟังบทเทศน์อ่อนไลด์ แลกเปลี่ยนพูดคุยขอคำภาวนาพี่น้องผ่านบอร์ดแห่งนี้อ่ะครับ เหอๆ

สู้ๆๆ
เข้มแข็งกับพระเจ้าใจทางจิตใจล่ะกันนะครับ

เลย์สวดให้นะครับ 

APaladin เขียน: ปัญหาคือ ทำตามใจตัวเองมากขึ้นและมากไป แต่นั่นทำให้ผิดพลาดมากขึ้นเช่นกันในชีวิตประจำวัน รู้ทั้งรู้แค่เอาชนะตัวเองไม่ได้
ทำอย่างไรให้กลับกลับไปถ่อมตัวต่อพระพักต์พระเจ้าได้แงๆเครียดๆ

ทุกคนก็มีความผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้นค่ะ ความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับมนุษย์เรา

ก้าวข้ามความผิดที่ผ่านมาเรียนรู้มันเพื่อจะเติบโต ให้อภัยตัวเอง ขอพระเจ้าเสริมกำลังให้เราก้าวข้ามความผิดพลาดในอดีต

พระเจ้ากำลังโบกมือเรียกคุณกลับมาอยู่นะจ๊ะ มาเร็วๆๆ เร้ว

BOYZ เขียน: เป็นธรรมดาที่ไม่ได้เข้าโบสถ์ ส่วนมากจะจิตวิญญาณตกต่ำ เพราะว่าไม่ได้รับการดูแลจากพี่น้องและผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ ซ้ำยังไม่ได้ดูแลจิตวิญญาณของตัวเองด้วย ดังนั้น ตอนนี้สิ่งที่ผมว่าคุณน่าจะทำได้ก็คือ การเฝ้าเดี่ยว เช่น สวดสายประคำ อ่านพระคัมภีร์ ฟังบทเทศน์อ่อนไลด์ แลกเปลี่ยนพูดคุยขอคำภาวนาพี่น้องผ่านบอร์ดแห่งนี้อ่ะครับ เหอๆ

สู้ๆๆ
เข้มแข็งกับพระเจ้าใจทางจิตใจล่ะกันนะครับ

 ขอบคุณจ้า แต่สิ่งพลาดมันใหญ่นะ กลัวจะเป็นบาปหนัก ยิ่งคิดยิ่งเครียด มีสิ่งใหนบ้างที่เราจะไม่ได้รับการอภัยจากพระเจ้า แบบทรยศไงงี้
อยากรู้ว่าสิ่งที่ทำจะอยู่ใหนข่ายโดนอเปหิเป่า กลุ้มมากเลย

นักบุญเปโตรก็ทรยศพระเยซูเหมือนกันนะคะ ก็ปฏิเสธพระองค์ถึง 3 ครั้ง

แต่ตอนหลังก็กลับใจกลับมาหาพระองค์อีก ยังได้รับการอภัยเลย

เพียงแค่กลับมาแค่นั้นเองค่ะ

เจอละคำหนุนใจดีๆ555  คำนี้เลย    พระเจ้าดีต่อฉัน ในวันที่อ่อนล้า และทรงทันเวลาเสมอ
เพิ่งสังเกตุเห็น ขอบคุณครับ และตรงกับตอนนี้จริงๆ ขอบคุณมากมายจ้า sinner

คืนนี้จะสวดให้นะ::022:: ไปละบาย ขอพระอวยพรจ้า 

sinner เขียน: คืนนี้จะสวดให้นะ::022:: ไปละบาย ขอพระอวยพรจ้า 

จ้า ขอบคุณจ๊ะสำหรับทุกสิ่ง ใจดีมากเลย

"บุคคลผู้ใดรู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณผู้นั้นเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา" (มธ.5:3)

มนุษย์ทุกคนมีความอ่อนแอทั้งนั้น ถ้าคุณรู้สึกได้ว่าตัวเองอ่อนแอและต้องการพระเจ้า จงขอบคุณพระเจ้า

เพราะนั่นหมายความว่าพระวิญญาณฯ ได้ทรงทำงานในตัวคุณ ทำให้จิตวิญญาณของคุณร้องเรียกหาพระเจ้า

แต่ผู้ที่ไม่รู้ว่าตัวเองอ่อนแอนี่สิ น่าเป็นห่วง เพราะเขาจะมั่นใจในความสามารถของตัวเองและไม่พึ่งพาพระเจ้า


ไปโบสถ์ไม่ได้เพราะอะไร? ต้องดูและแก้ไขที่ต้นเหตุค่ะ

อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ได้ไปโบสถ์(ไปไม่ได้จริงๆ) แต่พระเจ้าก็ยังสถิตกับคุณและเป็นพระเจ้าของคุณตราบเท่าที่คุณยังเชื่อในพระองค์

คุณอาจรู้สึกห่างไกลจากพระองค์ แต่พระเจ้าไม่เคยอยู่ห่างไกลจากคุณเลย "ที่จริงพระองค์มิทรงอยู่ห่างไกลจากเราทุกคนเลย" (กจ.17:27)



กลเม็ดของซาตานที่เด็ดที่สุดก็คือการหลอกลวง การกล่าวโทษ ดังนั้นอย่าให้มันหลอกเอาได้ว่าคุณไม่ดีพอสำหรับพระเจ้า

คุณทำผิดนั่นผิดนี่ ไม่คู่ควรเป็นที่รักของพระเจ้า ถ้ามันกรอกหูข้างๆ คุณว่าคุณมันบาปๆๆๆ ขอให้บอกมันกลับไปเลยว่า

"ข้าพเจ้าชนะสิ่งสารพัดแล้วโดยพระโลหิตของพระเมษโปดก" และขอให้คุณมั่นใจเช่นนั้นจริงๆ



พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงช่วยคุณให้เติบโต้ขึ้นในฝ่ายวิญญาณนะคะ

ขอพระเจ้าอวยพร

โอ้ว งืมๆ  สู้ๆ ครับ

ผมตอนนี้ก็กำลังหันหน้าเข้าหาพระเจ้า เหมือนกันแหะๆ

ผมจะกลับใจใหม่ เพื่อรับใช้พระเจ้า ไม่สายหรอกครับที่จะกลับใจ

พระเจ้าอวยพรครับ

Deo Gratias เขียน: "บุคคลผู้ใดรู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณผู้นั้นเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา" (มธ.5:3)

มนุษย์ทุกคนมีความอ่อนแอทั้งนั้น ถ้าคุณรู้สึกได้ว่าตัวเองอ่อนแอและต้องการพระเจ้า จงขอบคุณพระเจ้า

เพราะนั่นหมายความว่าพระวิญญาณฯ ได้ทรงทำงานในตัวคุณ ทำให้จิตวิญญาณของคุณร้องเรียกหาพระเจ้า

แต่ผู้ที่ไม่รู้ว่าตัวเองอ่อนแอนี่สิ น่าเป็นห่วง เพราะเขาจะมั่นใจในความสามารถของตัวเองและไม่พึ่งพาพระเจ้า


ไปโบสถ์ไม่ได้เพราะอะไร? ต้องดูและแก้ไขที่ต้นเหตุค่ะ

อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ได้ไปโบสถ์(ไปไม่ได้จริงๆ) แต่พระเจ้าก็ยังสถิตกับคุณและเป็นพระเจ้าของคุณตราบเท่าที่คุณยังเชื่อในพระองค์

คุณอาจรู้สึกห่างไกลจากพระองค์ แต่พระเจ้าไม่เคยอยู่ห่างไกลจากคุณเลย "ที่จริงพระองค์มิทรงอยู่ห่างไกลจากเราทุกคนเลย" (กจ.17:27)



กลเม็ดของซาตานที่เด็ดที่สุดก็คือการหลอกลวง การกล่าวโทษ ดังนั้นอย่าให้มันหลอกเอาได้ว่าคุณไม่ดีพอสำหรับพระเจ้า

คุณทำผิดนั่นผิดนี่ ไม่คู่ควรเป็นที่รักของพระเจ้า ถ้ามันกรอกหูข้างๆ คุณว่าคุณมันบาปๆๆๆ ขอให้บอกมันกลับไปเลยว่า

"ข้าพเจ้าชนะสิ่งสารพัดแล้วโดยพระโลหิตของพระเมษโปดก" และขอให้คุณมั่นใจเช่นนั้นจริงๆ



พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงช่วยคุณให้เติบโต้ขึ้นในฝ่ายวิญญาณนะคะ

ขอพระเจ้าอวยพร

 น้ำตาคลอเลยซึ้งมากครับขอบคุณจริงๆสำหรับคำหนุนใจ นู๋โยจะกล้าหาญในทางของพระองค์มากขึ้นสู้ๆ

ขอบคุณทุกโพสต์จ้าดีมากเลย มีกำลังใจขึ้นเยอะ บางโพสต์อ่านแล้วน้ำตาคลอเลย สำนึกในพระคุณพระบิดาสูงสุด และพระคริสต์มากๆ เหมือนคำนี้ตรงมากๆ พระเจ้าดีต่อฉัน ในวันที่อ่อนล้า และทรงทันเวลาเสมอ
                สุดยอดๆๆๆจริง

เป็นกำลังใจให้นะครับ อิอิ
พระเจ้ารักเสมอ ผมก็เคยหนีหายจากพระเจ้าไป สิ่งที่คุณกำลังเจอ ผมก็เคยเจอมาเหมือนกัน
กลับมาให้ได้ = ผ่านไปได้  .. มาหาพระนะครับ 

สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

หลายคนยังเข้าใจว่าการกลับใจแปลว่าต้องเปลี่ยนเป็นคนดีเลย และการกลับใจมีได้ครั้งเดียวตอนล้างบาป

ที่จริง เราต้องกลับใจทุกวันนะครับ

เพราะธรรมชาติของมนุษย์คือคนบาป เราล้มในบาปทุกวัน เราจึงต้องลุกขึ้นกลับใจทุกวันทุกเวลาที่รู้ตัว

ถ้าคิดว่าจะชอบธรรมให้ได้แล้วจึงกลับไปหาศาสนา อันนี้เป็นมุมมองของศาสนาอื่นครับ แต่สำหรับความเชื่อคริสตชน เราจะกลับใจทันทีเมื่อ"เราต้องการพึ่งพระเจ้า" พระเยซูจึงตาย และไถ่บาปเรา ตั้งแต่ตอนที่เรายังเป็นคนบาป แทนการรอให้เราเป็นคนดีด้วยกำลังมนุษย์ของเราเอง แล้วค่อยต้อนรับเรา

พระเจ้ารักเราตั้งแต่เราเป็นคนบาป ไม่ใช่รอให้เราดีถึงจะรัก

คุณทิ้งพระองค์ไป5ปี พ่อก็คอยที่หน้าบ้านทุกวัน รอลูกคนเล็กกลับบ้าน พ่อคอยด้วยความห่วงใยเศร้าใจและสงสาร แค่เห็นหน้าลูกกลับมา ไม่ว่าสภาพจะทุเรศแค่ไหน พ่อก็วิ่งไปกอดโดยไม่รังเกียจ พ่อไม่ถามก่อนว่ากลับมาคราวนี้จะหนีไปอีกไหม และไม่ได้บอกว่า ไปประสบความสำเร็จร่ำรวยค่อยกลับบ้าน

พ่อไม่ได้ต้องการ ลูกที่ร่ำรวย สวยงาม แสนดี แต่พ่อแค่ต้องการ ลูก ครับ

พระเยซูไม่ได้ต้องการให้คุณเข้มแข็งปีกกล้าขาแข็งกลับมาหาพระองค์ แต่พระองค์ต้องการ"ช่วย"คุณ ประทานความเข้มแข็ง และเดินผ่านชีวิตนี้ไปพร้อมกับคุณ

พระองค์ไม่ได้มาหาคนสบายดี แต่มาหาคนเจ็บป่วย คนมาหาหมอจึงต้องเป็นคนที่ต้องการหายป่วย ไม่ใช่คนพยายามหายป่วยเองแล้วค่อยมา

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

APaladin เขียน: ......ไม่ใหวแล้วอยู่ข้างนอกมันเหนื่อยจิงๆ

มัทธิว11:28-30
บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข
จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก
ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา

ยอห์น6:26
พระเยซูตรัสกับเขาว่า
"เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทั้งหลายตามเรามามิใช่เพราะได้เห็นหมายสำคัญ แต่เพราะได้กินขนมปังอิ่ม...

ยอห์น6:29
พระเยซูตรัสตอบเขาว่า
"งานของพระเจ้านั้น คือการที่ท่านวางใจในท่านที่พระองค์ทรงใช้มา"

หากความคิดของสมองเป็นเหตุให้เกิดอุปสรรคในทางพระเจ้า
ท่านก็เพียงตัดสมองทิ้ง เหลือเพียงใจ แล้วทำตามหัวใจเรียกร้อง 
พระเยซูตรัสว่า จงกลับใจเหมือนเด็กเล็กๆ
พระองค์ยังบอกให้ เด็กเล็กๆเหล่านี้มาหาเราด้วย 
จะเป็นอะไร ถ้าเราจะใช้ความซื่อเหมือนอะดัม
ที่มีแต่ความผูกพันธ์กับพระเจ้า
นั่นคือการคุยกับพระเจ้าเหมือนเด็กเล็กๆที่คุยกับพ่อ

ขอบคุณทุกโพสต์จ้า มีประโยชน์กับผมมากเลย

ดูเรื่องบุตรล้างผลาญ นะครับ ลูกา บทที่ 15 :11-31

เรื่องลูกล้างผลาญและลูกที่คิดว่าตนทำดีแล้วa

11พระองค์ยังตรัสอีกว่า

http://www.imeem.com/people/yMhQm-K/music/OTVNhO9W//

ลองฟังเพลงนี้ แล้วจะรู้ว่า "ใจเป็นทุกข์โดยไม่มีเหตุ" นั้นเกิดจากอะไร

สุดยอดที่สุด
ขอพระเจ้าทรงโปรดอวยพระพรผู้พบทางออกคร้าบ

ขอพระนามของพระองค์ทรงได้รับการสรรเสิญเป็นนิจ