รวมกระทู้น้องValkyrie_Chan
อย่างน้อยการให้ความปราถนาดีแก่ผู้อื่น
ก็ลบล้างความเกลียดชังในใจเราได้ครับ
สู้ๆ
ก็ลบล้างความเกลียดชังในใจเราได้ครับ
สู้ๆ
-
- โพสต์: 740
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm
เอเมนHoly เขียน: ก่อนจะประเมิน เจ้านายเรา
ประเมินตัวเราเองก่อนว่า เป็นผู้รับใช้ที่ดีพอแล้วหรือยัง ก่อนจะดีกว่าครับ เพราะเจ้านายเขาไม่มีเราเขาก็อยู่ของเขาได้ แต่ถ้าเราไม่มีเขา ก็นรกชัดๆ
-
- โพสต์: 250
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 3:33 am
สำหรับ จขกท. ผมว่าการทดลองมีเพื่อทดสอบเรานะ ว่าเราซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าแค่ใหน
ขอเพียงศรัทธา และรู้จุดประสงค์ของชีวิตเรา อดทน และยืนหยัด ก็จะไปถึงสิ่งที่มีค่าควรครับ
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$
ต่อไปนี้เป็นการเสนอความเชื่อที่แตกต่าง จากทางมอรมอนนะจ๊ะ
ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณ อย่ายิงกันเด้อ
เราเชื่อว่าพระเจ้ารวมถึงทูตสวรรค์ มีเพศ!!!
พระบิดา เป็นชาย
พระเยซู เป็นชาย
ซาตาน เป็นชาย
ทูตสวรรค์ต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงใช้มาเป็นชาย
ศาสดาพยากรณ์แต่โบราณทุกคน เป็นชาย (แอดัม โมเสส โนอาร์ เอบราแฮม ฯลฯ)
แล้วผู้หญิงไปอยู่ที่ใหน???
แต่แรกเริ่มเดิมที
พระเจ้าสร้างผู้ชายก่อน
จากนั้นจึงสร้างผู้หญิง
สร้างผู้หญิงมาเพื่อ "เคียงคู่กับผู้ชาย"
ผู้ชายมีพละกำลัง เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ตัดสินใจเฉียบขาด เหมาะกับเป็นผู้นำ ดังนั้นชายทุกคนจึงต้องรับฐานะปุโรหิตอันศักดิ์สิทธิ์
แต่ผู้หญิงก็ไม่น้อยหน้า ผู้หญิงมีประสาทสัมผัสที่ดีกว่าผู้ชาย ผู้หญิงละเอียดอ่อนและรอบคอบกว่าผู้ชาย ดังนั้นผู้หญิงจึงเหมาะกับงานที่ละเอียดอ่อน
และด้วยการที่ประสาทสัมผัสผู้หญิงดีกว่าผู้ชาย จึงเหมือนกับว่าผู้หญิงจะถูกล่อลวงง่ายกว่าผู้ชาย เพศที่เหมาะกับการเป็นผู้นำจึงเป็นชาย
แต่ถึงยังไงสิ่งมีชีวิตที่สวยงามที่สุดในบรรดาสรรพสิ่งในโลกก็คือ "ผู้หญิง" (ใครเถียงเดี๋ยวให้ป้าเกรซมาเคลียร์)
บนสวรรค์หรือชีวิตหลังความตาย จะไม่มีการแต่งงาน หรือการยกให้กันอีก
นั่นคือเรื่องการแต่งงานนั้น ต้องทำให้เสร็จตั้งแต่บนโลกมนุษย์
โดยที่ผู้ที่แต่งงานโดยมีพระเจ้าเป็นพยานในการแต่งงาน และมีผู้ดำเนินพิธีที่เป็นมหาปุโรหิต
เขาและเธอนั้นจะอยู่ด้วยกันชั่วนิจนิรันดร์ในชีวิตหน้า และเขาจะเพิ่มทวีอีกด้วย
นี่คือเหตุที่ว่า "ชายก็ต้องพึงหญิง และหญิงก็ต้องพึงชาย"
ขอเพียงศรัทธา และรู้จุดประสงค์ของชีวิตเรา อดทน และยืนหยัด ก็จะไปถึงสิ่งที่มีค่าควรครับ
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$
ต่อไปนี้เป็นการเสนอความเชื่อที่แตกต่าง จากทางมอรมอนนะจ๊ะ
ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณ อย่ายิงกันเด้อ
เราเชื่อว่าพระเจ้ารวมถึงทูตสวรรค์ มีเพศ!!!
พระบิดา เป็นชาย
พระเยซู เป็นชาย
ซาตาน เป็นชาย
ทูตสวรรค์ต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงใช้มาเป็นชาย
ศาสดาพยากรณ์แต่โบราณทุกคน เป็นชาย (แอดัม โมเสส โนอาร์ เอบราแฮม ฯลฯ)
แล้วผู้หญิงไปอยู่ที่ใหน???
แต่แรกเริ่มเดิมที
พระเจ้าสร้างผู้ชายก่อน
จากนั้นจึงสร้างผู้หญิง
สร้างผู้หญิงมาเพื่อ "เคียงคู่กับผู้ชาย"
ผู้ชายมีพละกำลัง เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ตัดสินใจเฉียบขาด เหมาะกับเป็นผู้นำ ดังนั้นชายทุกคนจึงต้องรับฐานะปุโรหิตอันศักดิ์สิทธิ์
แต่ผู้หญิงก็ไม่น้อยหน้า ผู้หญิงมีประสาทสัมผัสที่ดีกว่าผู้ชาย ผู้หญิงละเอียดอ่อนและรอบคอบกว่าผู้ชาย ดังนั้นผู้หญิงจึงเหมาะกับงานที่ละเอียดอ่อน
และด้วยการที่ประสาทสัมผัสผู้หญิงดีกว่าผู้ชาย จึงเหมือนกับว่าผู้หญิงจะถูกล่อลวงง่ายกว่าผู้ชาย เพศที่เหมาะกับการเป็นผู้นำจึงเป็นชาย
แต่ถึงยังไงสิ่งมีชีวิตที่สวยงามที่สุดในบรรดาสรรพสิ่งในโลกก็คือ "ผู้หญิง" (ใครเถียงเดี๋ยวให้ป้าเกรซมาเคลียร์)
บนสวรรค์หรือชีวิตหลังความตาย จะไม่มีการแต่งงาน หรือการยกให้กันอีก
นั่นคือเรื่องการแต่งงานนั้น ต้องทำให้เสร็จตั้งแต่บนโลกมนุษย์
โดยที่ผู้ที่แต่งงานโดยมีพระเจ้าเป็นพยานในการแต่งงาน และมีผู้ดำเนินพิธีที่เป็นมหาปุโรหิต
เขาและเธอนั้นจะอยู่ด้วยกันชั่วนิจนิรันดร์ในชีวิตหน้า และเขาจะเพิ่มทวีอีกด้วย
นี่คือเหตุที่ว่า "ชายก็ต้องพึงหญิง และหญิงก็ต้องพึงชาย"
แก้ไขล่าสุดโดย Little Boy เมื่อ พุธ ม.ค. 13, 2010 2:54 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
เชื่อต่างกับเราสินะ แต่ก็เอาเถอะLittle Boy เขียน: สำหรับ จขกท. ผมว่าการทดลองมีเพื่อทดสอบเรานะ ว่าเราซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าแค่ใหน
ขอเพียงศรัทธา และรู้จุดประสงค์ของชีวิตเรา อดทน และยืนหยัด ก็จะไปถึงสิ่งที่มีค่าควรครับ
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$
ต่อไปนี้เป็นการเสนอความเชื่อที่แตกต่าง จากทางมอรมอนนะจ๊ะ
ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณ อย่ายิงกันเด้อ
เราเชื่อว่าพระเจ้ารวมถึงทูตสวรรค์ มีเพศ!!!
พระบิดา เป็นชาย
พระเยซู เป็นชาย
ซาตาน เป็นชาย
ทูตสวรรค์ต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงใช้มาเป็นชาย
ศาสดาพยากรณ์แต่โบราณทุกคน เป็นชาย (แอดัม โมเสส โนอาร์ เอบราแฮม ฯลฯ)
แล้วผู้หญิงไปอยู่ที่ใหน???
แต่แรกเริ่มเดิมที
พระเจ้าสร้างผู้ชายก่อน
จากนั้นจึงสร้างผู้หญิง
สร้างผู้หญิงมาเพื่อ "เคียงคู่กับผู้ชาย"
ผู้ชายมีพละกำลัง เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ตัดสินใจเฉียบขาด เหมาะกับเป็นผู้นำ ดังนั้นชายทุกคนจึงต้องรับฐานะปุโรหิตอันศักดิ์สิทธิ์
แต่ผู้หญิงก็ไม่น้อยหน้า ผู้หญิงมีประสาทสัมผัสที่ดีกว่าผู้ชาย ผู้หญิงละเอียดอ่อนและรอบคอบกว่าผู้ชาย ดังนั้นผู้หญิงจึงเหมาะกับงานที่ละเอียดอ่อน
และด้วยการที่ประสาทสัมผัสผู้หญิงดีกว่าผู้ชาย จึงเหมือนกับว่าผู้หญิงจะถูกล่อลวงง่ายกว่าผู้ชาย เพศที่เหมาะกับการเป็นผู้นำจึงเป็นชาย
แต่ถึงยังไงสิ่งมีชีวิตที่สวยงามที่สุดในบรรดาสรรพสิ่งในโลกก็คือ "ผู้หญิง" (ใครเถียงเดี๋ยวให้ป้าเกรซมาเคลียร์)
บนสวรรค์หรือชีวิตหลังความตาย จะไม่มีการแต่งงาน หรือการยกให้กันอีก
นั่นคือเรื่องการแต่งงานนั้น ต้องทำให้เสร็จตั้งแต่บนโลกมนุษย์
โดยที่ผู้ที่แต่งงานโดยมีพระเจ้าเป็นพยานในการแต่งงาน และมีผู้ดำเนินพิธีที่เป็นมหาปุโรหิต
เขาและเธอนั้นจะอยู่ด้วยกันชั่วนิจนิรันดร์ในชีวิตหน้า และเขาจะเพิ่มทวีอีกด้วย
นี่คือเหตุที่ว่า "ชายก็ต้องพึงหญิง และหญิงก็ต้องพึงชาย"
ยังพออยู่พอคุยด้วยกันได้ acceptable!
ยชว 24:14
ใน ครั้งนั้น โยชูวากล่าวแก่ประชาชน(ชาวอิสราเอล)ทั้งปวงว่า ‘บัดนี้จงเกรงกลัวพระยาห์เวห์ และรับใช้พระองค์อย่างแท้จริงและด้วยความจริงใจ จงกำจัดพระเจ้าทั้งหลายซึ่งบรรพบุรุษของพวกท่านได้รับใช้เมื่ออยู่บริเวณ เหนือแม่น้ำและในอียิปต์ และหันมารับใช้พระยาห์เวห์ แต่ถ้าการรับใช้พระยาห์เวห์ดูเป็นเรื่องย่ำแย่สำหรับพวกท่าน วันนี้ พวกท่านจะต้องตัดสินใจว่าพวกท่านต้องการรับใช้พระเจ้าองค์ใด จะรับใช้พระเจ้าทั้งหลายซึ่งบรรพบุรุษของพวกท่านได้รับใช้เมื่ออยู่เหนือ บริเวณแม่น้ำ หรือพระเจ้าทั้งหลายของคนอาโมไรต์ซึ่งพวกท่านอาศัยอยู่ในประเทศของพวกเขา ส่วนสำหรับครอบครัวของข้าพเจ้าและข้าพเจ้า เอง เราจะรับใช้พระยาห์เวห์’
ประชาชน ตอบว่า ‘ไม่มีทางที่เราจะละทิ้งพระยาห์เวห์ และหันไปรับใช้พระเจ้าอื่น! พระยาห์เวห์ พระเจ้าของเราคือผู้ทรงนำพวกเราและบรรพบุรุษของเราที่นี่ออกมาจากประเทศ อียิปต์จากสถานที่ที่เราต้องเป็นทาสแรงงาน และทรงกระทำสิ่งอัศจรรย์ยิ่งใหญ่เหล่านั้นต่อหน้าต่อตาเราและทรงรักษาเราให้ ปลอดภัยตลอดเส้นทางที่เราเดินและเมื่ออยู่ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลายที่เรา ผ่าน และพระยาห์เวห์ได้ทรงขับไล่ชนชาติทั้งหมดออกไปเพื่อพวกเรา รวมทั้งชาวอาโมไรต์ซึ่งเคยอยู่ในประเทศ เราจะรับใช้พระยาห์เวห์ด้วยเช่นกัน เพราะพระองค์คือพระเจ้าของพวกเรา’
โย ชูวาจึงกล่าวกับประชาชนว่า ‘พวกท่านจะไม่สามารถรับใช้พระยาห์เวห์ได้ เนื่องจากพระองค์เป็นพระผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรง เป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน และจะไม่ทรงยอมผ่อนปรนต่อความประพฤติมิชอบหรือบาปของพวกท่าน ถ้าพวกท่านละทิ้งพระยาห์ เวห์และหันไปรับใช้พระเจ้าของคนต่างชาติ พระองค์จะทรงหันกลับและกระทำทารุณกรรมกับพวกท่านอีกครั้งหนึ่ง และแม้ว่าจะได้ทรงดีต่อพวกท่านมาในอดีตมากสักเพียงใด แต่พระองค์จะทรงทำลายพวกท่าน’ ประชาชนกล่าวตอบโยชูวาว่า ‘ไม่! พระยาห์เวห์คือพระผู้ซึ่งเราต้องการจะรับใช้’ โยชูวาจึงตอบว่า ‘พวกท่านเป็นพยานให้ตัวเองว่า พวกท่านได้เลือกพระยาห์เวห์ เพื่อรับใช้พระองค์’ พวกเขาตอบว่า ‘เราเป็นพยาน’ ‘ถ้าเช่นนั้น จงกำจัดพระเจ้าของคนต่างชาติซึ่งพวกท่านมีอยู่กับพวกท่าน และจงถวายความจงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล!’ ประชาชนกล่าวตอบโยชูวาว่า ‘พระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา คือ ผู้ที่เราจะรับใช้ เราจะฟังเสียงของพระองค์’
ใน ครั้งนั้น โยชูวากล่าวแก่ประชาชน(ชาวอิสราเอล)ทั้งปวงว่า ‘บัดนี้จงเกรงกลัวพระยาห์เวห์ และรับใช้พระองค์อย่างแท้จริงและด้วยความจริงใจ จงกำจัดพระเจ้าทั้งหลายซึ่งบรรพบุรุษของพวกท่านได้รับใช้เมื่ออยู่บริเวณ เหนือแม่น้ำและในอียิปต์ และหันมารับใช้พระยาห์เวห์ แต่ถ้าการรับใช้พระยาห์เวห์ดูเป็นเรื่องย่ำแย่สำหรับพวกท่าน วันนี้ พวกท่านจะต้องตัดสินใจว่าพวกท่านต้องการรับใช้พระเจ้าองค์ใด จะรับใช้พระเจ้าทั้งหลายซึ่งบรรพบุรุษของพวกท่านได้รับใช้เมื่ออยู่เหนือ บริเวณแม่น้ำ หรือพระเจ้าทั้งหลายของคนอาโมไรต์ซึ่งพวกท่านอาศัยอยู่ในประเทศของพวกเขา ส่วนสำหรับครอบครัวของข้าพเจ้าและข้าพเจ้า เอง เราจะรับใช้พระยาห์เวห์’
ประชาชน ตอบว่า ‘ไม่มีทางที่เราจะละทิ้งพระยาห์เวห์ และหันไปรับใช้พระเจ้าอื่น! พระยาห์เวห์ พระเจ้าของเราคือผู้ทรงนำพวกเราและบรรพบุรุษของเราที่นี่ออกมาจากประเทศ อียิปต์จากสถานที่ที่เราต้องเป็นทาสแรงงาน และทรงกระทำสิ่งอัศจรรย์ยิ่งใหญ่เหล่านั้นต่อหน้าต่อตาเราและทรงรักษาเราให้ ปลอดภัยตลอดเส้นทางที่เราเดินและเมื่ออยู่ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลายที่เรา ผ่าน และพระยาห์เวห์ได้ทรงขับไล่ชนชาติทั้งหมดออกไปเพื่อพวกเรา รวมทั้งชาวอาโมไรต์ซึ่งเคยอยู่ในประเทศ เราจะรับใช้พระยาห์เวห์ด้วยเช่นกัน เพราะพระองค์คือพระเจ้าของพวกเรา’
โย ชูวาจึงกล่าวกับประชาชนว่า ‘พวกท่านจะไม่สามารถรับใช้พระยาห์เวห์ได้ เนื่องจากพระองค์เป็นพระผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรง เป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน และจะไม่ทรงยอมผ่อนปรนต่อความประพฤติมิชอบหรือบาปของพวกท่าน ถ้าพวกท่านละทิ้งพระยาห์ เวห์และหันไปรับใช้พระเจ้าของคนต่างชาติ พระองค์จะทรงหันกลับและกระทำทารุณกรรมกับพวกท่านอีกครั้งหนึ่ง และแม้ว่าจะได้ทรงดีต่อพวกท่านมาในอดีตมากสักเพียงใด แต่พระองค์จะทรงทำลายพวกท่าน’ ประชาชนกล่าวตอบโยชูวาว่า ‘ไม่! พระยาห์เวห์คือพระผู้ซึ่งเราต้องการจะรับใช้’ โยชูวาจึงตอบว่า ‘พวกท่านเป็นพยานให้ตัวเองว่า พวกท่านได้เลือกพระยาห์เวห์ เพื่อรับใช้พระองค์’ พวกเขาตอบว่า ‘เราเป็นพยาน’ ‘ถ้าเช่นนั้น จงกำจัดพระเจ้าของคนต่างชาติซึ่งพวกท่านมีอยู่กับพวกท่าน และจงถวายความจงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล!’ ประชาชนกล่าวตอบโยชูวาว่า ‘พระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา คือ ผู้ที่เราจะรับใช้ เราจะฟังเสียงของพระองค์’
- dark-kanita
- โพสต์: 317
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 18, 2007 2:37 pm
เป็นฝันที่น่าตื่นเต้นดีจังเลยคะ
อิอิ เหมือนเกม RPG ชอบมากๆเลยละคะ
เราก้เคยอธิฐานให้ ลูจังคืนดีกับพระนะคะ แต่ว่าผลตอบรับกลับมามันร้ายน่าดู
พี่แกเล่นตอบกลับเร็วกว่าเล่น เอ็ม ซะอีก
อิอิ เหมือนเกม RPG ชอบมากๆเลยละคะ
เราก้เคยอธิฐานให้ ลูจังคืนดีกับพระนะคะ แต่ว่าผลตอบรับกลับมามันร้ายน่าดู
พี่แกเล่นตอบกลับเร็วกว่าเล่น เอ็ม ซะอีก
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
วันนี้นัดคนไข้ใหม่อีกคนที่เพิ่งได้มาไม่นาน มารักษารากฟัน (เป็นเคสที่สอง ทางคณะกำหนดสำหรับปี 4 ว่าจะได้เลื่อนชั้น ต้องทำเสร็จอย่างน้อย 2 รายตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนนี้คนแรกได้ครึ่งทางแล้วค่ะ) เริ่มต้นจากนัดมากรอโพรงฟัน
แต่ทว่า วันนี้เป็นวันที่เราได้ลองอะไรใหม่ ๆ หลายอย่างที่ไม่ได้พบในผู้ป่วยรายแรก นั่นคือต้องกรอเปิดโพรงฟันเอง (รายที่แล้วกรอไม่มากเพราะคนไข้เปิดมาก่อนแล้ว เนื่องจากทำครอบฟันมา และพี่ ป.โท กรอเปิด + ล้างหนองจำนวนหนึ่งออกให้) ไหนจะเรื่องการต้องหายืมอุปกรณ์มาใช้แทน เพราะอุปกรณ์ชุดเก่าหลายอันส่งไปฆ่าเชื้อยังไม่ได้กลับมาเลย
ตอนแรกนึกว่าจะไปได้ดี ต่างจากทฤษฎีไปบ้างคงไม่เป็นอะไรมาก แต่ทว่าเราไม่รู้ตัวเลยจนกระทั่งอาจารย์มาดู
เรากรอผิดแนว ทะลุไปนอกฟันซะงั้น ส่วนโพรงจริงอาจารย์เปิดเจอให้ค่ะ
(การกรอทะลุในฟันรากตรง ไม่ควรจะเกิดขึ้น ถ้าเป็นในรากโค้ง ๆ ยังพอว่า)
งานเข้าเลย งานนี้ได้อาจารย์มาช่วยเยอะ ทั้งอุดชั่วคราว และส่งให้พี่ ป.โท รักษาแก้ตรงที่ทะลุให้ก่อน
ดีว่าคนไข้ยังไม่แสดงท่าทีโกรธหรือเอาเรื่อง และอาจารย์ก็ยังให้โอกาสว่าอุดซ่อมตรงนั้นเสร็จให้ทำขั้นต่อไปได้
แต่การที่คนอื่นยังดีกับเรานี่สิ มันยิ่งทำให้เรารู้สึกผิด และเกลียดตัวเองมากขึ้นหลายเท่า
ใจจริงก็คิดมาตลอดอยู่หรอก ว่าอย่างเราน่ะทำอาชีพนี้ไปไม่รอด แต่ตอนปี 2 ไม่มีใครยอมฟัง พ่อเราก็เอาแต่ตามที่ตัวเองต้องการให้เป็น ทำทุกอย่างให้เรายอมจำนนและเรียนต่อไปให้ได้
นี่ผ่านมาสามปี(สองชั้นปี) สิ่งที่เรากลัวก็เกิดขึ้นจริงจนได้ แถมเป็นไปโดยไม่ทันรู้ตัวซะอีก (จริง ๆ เรื่องแย่ ๆ อย่างอื่นก็มีเพียบ รวมถึงเรื่องความซวยส่วนบุคคล เช่น ได้ชีทที่หน้าขาดหายไปหน้านึงตลอดบ้าง ยุงกวนทีเดียวเผลอทำพังบ้าง หรือหัวกรอหงิกงอเมื่อไหร่ไม่รู้บ้าง แต่ไอ้คุณพ่อมันก็เอาแต่ให้พยายามต่อไป โดยที่ไม่เคยมาเห็นเลยว่าเราลำบากแค่ไหน เราทำได้ชม เราทำแย่ด่า) (ไม่เหมือนอาจารย์ที่ยังมาดูนักศึกษา โดนคนที่รู้เรื่องว่าด้วยเหตุผล ยังดีกว่าคนที่ไม่รู้อะไรมาว่าด้วยอีโก้ตัวเองเป็นไหน ๆ )
จริง ๆ เราทำใจแล้วล่ะว่าปีนี้ไม่ซ้ำชั้นก็ซิ่วชัวร์ แต่สิ่งที่เกิดกับนไข้มันอ้างด้วยเรื่องแค่นี้ได้ซะที่ไหน
วันนี้คนไข้ตอนบ่ายโทรมาเลื่อนนัดอีก วันนี้ตอนบ่ายจะได้คนไข้ฉุกเฉินไหมไม่รู้ แต่อย่างเราแบบนี้ ยังมีหน้าไปหาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้มาใช้บริการอีกกี่คนถึงจะพอ
........พูดง่ายๆ ยิ่งทำงานและเรียนคณะนี้ต่อไป ก็มีแต่จะยิ่งเพิ่มตราบาปและสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นคนไปเท่านั้น เป็นได้แค่คนที่เดินตามทางของผู้ชายเอาแต่ได้คนเดียว(พ่อชั้นน่ะแหละ)
..........ถึงจะฝากตัวเป็นศิษย์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าเที่ยงแท้แล้ว แต่สภาพแวดล้อมในชีวิตที่แย่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน สิ่งดี ๆ ที่ได้มา ก็มีคนที่ทำตัวเป็นพระเจ้าเสียเองพร้อมจะช่วงชิงไปเสมอหากเจ้าตัวพาล (แน่นอนว่าหมายถึงไอ้พ่อที่เป็นมนุษย์คนเดิม) แถมบาปในอดีตก็ยังไม่สามารถลบล้างได้ (การได้รับการไถ่บาปมันก็ดีอยู่หรอก แต่เราอยากให้มันไม่เคยเกิดขึ้นเลยมากกว่า) แถมตราบที่ยังมีชีวิต บาปก็ยิ่งเพิ่มเป็นเท่าตัว
แต่เนื่องจากชีวิตของเราไม่เป็นของเราแล้ว จะฆ่าตัวตายก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่รอ "เจ้านายแท้" จะเห็นใจและจัดการเราเมื่อไหร่เท่านั้น
ถึงจะยังมีอะไรที่อยากทำในฐานะคนมีชีวิตบนโลกอยู่ก็เถอะ ทั้งการตอบแทน ความแค้น เกียรติและศักดิ์ศรี ความเป็นตัวของตัวเองที่ตัวเองจะยินดีได้ แต่ไหน ๆ มันก็ไม่มีทางเป็นจริงได้อยู่แล้ว จะอยู่ไปทำไม
อยากถามพระองค์มากว่า ทำไมพระองค์ยังต้องให้เราอยู่ในโลกนี้อีก ทั้งในสภาพที่อยู่ไปก็มีแต่จะแย่ลง(ตั้งแต่เพศยันความสามารถ)
คนที่น่าจะโดนลงโทษเพราะผิดยิ่งกว่าเรา อย่างพ่อบนโลก
เอาเถอะ เราไม่ใช่ลูกรักนี่หว่า พ่อ(พระบิดา)ที่ไหนจะมารักลูกที่เอาแต่ขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือชอบขัดใจพ่อกันล่ะ
เราเป็นอะไรไป แค่บอกว่าเราทำตัวเราเองมันก็สมเหตุสมผลแล้ว พระบิดาเจ้าก็ไม่ได้สะกิดอะไรสักนิดนี่
ชั้นไม่มีอำนาจที่จะแก้ไขประวัติศาสตร์ แต่ผู้ที่ทำได้ไม่ทำเพราะไม่เป็นไปตามใจชอบของท่าน จะให้ชั้นพูดอะไรได้อีก
แต่ทว่า วันนี้เป็นวันที่เราได้ลองอะไรใหม่ ๆ หลายอย่างที่ไม่ได้พบในผู้ป่วยรายแรก นั่นคือต้องกรอเปิดโพรงฟันเอง (รายที่แล้วกรอไม่มากเพราะคนไข้เปิดมาก่อนแล้ว เนื่องจากทำครอบฟันมา และพี่ ป.โท กรอเปิด + ล้างหนองจำนวนหนึ่งออกให้) ไหนจะเรื่องการต้องหายืมอุปกรณ์มาใช้แทน เพราะอุปกรณ์ชุดเก่าหลายอันส่งไปฆ่าเชื้อยังไม่ได้กลับมาเลย
ตอนแรกนึกว่าจะไปได้ดี ต่างจากทฤษฎีไปบ้างคงไม่เป็นอะไรมาก แต่ทว่าเราไม่รู้ตัวเลยจนกระทั่งอาจารย์มาดู
เรากรอผิดแนว ทะลุไปนอกฟันซะงั้น ส่วนโพรงจริงอาจารย์เปิดเจอให้ค่ะ
(การกรอทะลุในฟันรากตรง ไม่ควรจะเกิดขึ้น ถ้าเป็นในรากโค้ง ๆ ยังพอว่า)
งานเข้าเลย งานนี้ได้อาจารย์มาช่วยเยอะ ทั้งอุดชั่วคราว และส่งให้พี่ ป.โท รักษาแก้ตรงที่ทะลุให้ก่อน
ดีว่าคนไข้ยังไม่แสดงท่าทีโกรธหรือเอาเรื่อง และอาจารย์ก็ยังให้โอกาสว่าอุดซ่อมตรงนั้นเสร็จให้ทำขั้นต่อไปได้
แต่การที่คนอื่นยังดีกับเรานี่สิ มันยิ่งทำให้เรารู้สึกผิด และเกลียดตัวเองมากขึ้นหลายเท่า
ใจจริงก็คิดมาตลอดอยู่หรอก ว่าอย่างเราน่ะทำอาชีพนี้ไปไม่รอด แต่ตอนปี 2 ไม่มีใครยอมฟัง พ่อเราก็เอาแต่ตามที่ตัวเองต้องการให้เป็น ทำทุกอย่างให้เรายอมจำนนและเรียนต่อไปให้ได้
นี่ผ่านมาสามปี(สองชั้นปี) สิ่งที่เรากลัวก็เกิดขึ้นจริงจนได้ แถมเป็นไปโดยไม่ทันรู้ตัวซะอีก (จริง ๆ เรื่องแย่ ๆ อย่างอื่นก็มีเพียบ รวมถึงเรื่องความซวยส่วนบุคคล เช่น ได้ชีทที่หน้าขาดหายไปหน้านึงตลอดบ้าง ยุงกวนทีเดียวเผลอทำพังบ้าง หรือหัวกรอหงิกงอเมื่อไหร่ไม่รู้บ้าง แต่ไอ้คุณพ่อมันก็เอาแต่ให้พยายามต่อไป โดยที่ไม่เคยมาเห็นเลยว่าเราลำบากแค่ไหน เราทำได้ชม เราทำแย่ด่า) (ไม่เหมือนอาจารย์ที่ยังมาดูนักศึกษา โดนคนที่รู้เรื่องว่าด้วยเหตุผล ยังดีกว่าคนที่ไม่รู้อะไรมาว่าด้วยอีโก้ตัวเองเป็นไหน ๆ )
จริง ๆ เราทำใจแล้วล่ะว่าปีนี้ไม่ซ้ำชั้นก็ซิ่วชัวร์ แต่สิ่งที่เกิดกับนไข้มันอ้างด้วยเรื่องแค่นี้ได้ซะที่ไหน
วันนี้คนไข้ตอนบ่ายโทรมาเลื่อนนัดอีก วันนี้ตอนบ่ายจะได้คนไข้ฉุกเฉินไหมไม่รู้ แต่อย่างเราแบบนี้ ยังมีหน้าไปหาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้มาใช้บริการอีกกี่คนถึงจะพอ
........พูดง่ายๆ ยิ่งทำงานและเรียนคณะนี้ต่อไป ก็มีแต่จะยิ่งเพิ่มตราบาปและสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นคนไปเท่านั้น เป็นได้แค่คนที่เดินตามทางของผู้ชายเอาแต่ได้คนเดียว(พ่อชั้นน่ะแหละ)
..........ถึงจะฝากตัวเป็นศิษย์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าเที่ยงแท้แล้ว แต่สภาพแวดล้อมในชีวิตที่แย่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน สิ่งดี ๆ ที่ได้มา ก็มีคนที่ทำตัวเป็นพระเจ้าเสียเองพร้อมจะช่วงชิงไปเสมอหากเจ้าตัวพาล (แน่นอนว่าหมายถึงไอ้พ่อที่เป็นมนุษย์คนเดิม) แถมบาปในอดีตก็ยังไม่สามารถลบล้างได้ (การได้รับการไถ่บาปมันก็ดีอยู่หรอก แต่เราอยากให้มันไม่เคยเกิดขึ้นเลยมากกว่า) แถมตราบที่ยังมีชีวิต บาปก็ยิ่งเพิ่มเป็นเท่าตัว
แต่เนื่องจากชีวิตของเราไม่เป็นของเราแล้ว จะฆ่าตัวตายก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่รอ "เจ้านายแท้" จะเห็นใจและจัดการเราเมื่อไหร่เท่านั้น
ถึงจะยังมีอะไรที่อยากทำในฐานะคนมีชีวิตบนโลกอยู่ก็เถอะ ทั้งการตอบแทน ความแค้น เกียรติและศักดิ์ศรี ความเป็นตัวของตัวเองที่ตัวเองจะยินดีได้ แต่ไหน ๆ มันก็ไม่มีทางเป็นจริงได้อยู่แล้ว จะอยู่ไปทำไม
อยากถามพระองค์มากว่า ทำไมพระองค์ยังต้องให้เราอยู่ในโลกนี้อีก ทั้งในสภาพที่อยู่ไปก็มีแต่จะแย่ลง(ตั้งแต่เพศยันความสามารถ)
คนที่น่าจะโดนลงโทษเพราะผิดยิ่งกว่าเรา อย่างพ่อบนโลก
เอาเถอะ เราไม่ใช่ลูกรักนี่หว่า พ่อ(พระบิดา)ที่ไหนจะมารักลูกที่เอาแต่ขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือชอบขัดใจพ่อกันล่ะ
เราเป็นอะไรไป แค่บอกว่าเราทำตัวเราเองมันก็สมเหตุสมผลแล้ว พระบิดาเจ้าก็ไม่ได้สะกิดอะไรสักนิดนี่
ชั้นไม่มีอำนาจที่จะแก้ไขประวัติศาสตร์ แต่ผู้ที่ทำได้ไม่ทำเพราะไม่เป็นไปตามใจชอบของท่าน จะให้ชั้นพูดอะไรได้อีก
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 1:10 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
ไม่มีพ่อที่ไหนไม่รักลูกหรอกครับ แต่การแสดงความรักของพ่อแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน การที่ท่านบังคับเราก็เพราะว่าท่านใส่ใจเรามากต่างหาก หัวอกคนเป็นพ่อแม่ ยังไงก็อยากให้ลูกได้ดีครับ
เรื่องความผิดพลาดในอดีต มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ครับ สิ่งที่สำคัญคือ เราจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก อันนี้ครับเป็นข้อสำคัญ
การที่เราติดอยู่กับความผิดบาปในอดีต จนกลายเป็นรากขมขื่น นั่นแสดงว่าเราไม่มั่นใจในฤทธิ์อำนาจในการยกบาปของพระคริสต์ เราไม่ศรัทธาต่อพระหรรษทานที่ได้รับผ่านทางศีลอภัยบาป เพราะในพระคัมภีร์บอกชัดเจนว่า ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงตรง ก็จะยกบาปของเราและจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น
เรื่องการอธิษฐานทูลขอพระบิดา มันไม่ผิดหรอกครับที่เราจะทูลขอสิ่งต่าง ๆ เพื่อตัวเรา แต่เราก็ต้องเข้าใจด้วยว่าไม่ว่าคำตอบของพระเป็นเจ้าจะเป็นแบบใด เราก็ควรที่จะเชื่อฟังและทำตาม การที่พระเจ้าไม่ให้ตามที่เราขอก็ไม่ได้หมายความว่าพระองค์ไม่รักเรา แต่แสดงว่าพระองค์ทรงรู้จักเราดีจนรู้ว่าอะไรที่เหมาะหรือไม่เหมาะสำหรับเรา
ชีวิตคนเรามันไม่ง่ายกันหรอกครับ คนกวาดถนนก็มีทุกข์ของคนกวาดถนน ประธานบริษัทก็มีทุกข์ของประธานบริษัท พนักงานก็มีทุกข์ของพนักงาน ไม่ว่าชีวิตจะดำเนินไปในรูปแบบใด มันก็มีอุปสรรคความทุกข์ยากด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ สิ่งสำคัญไม่ใช่การแสวงหาชีวิตที่ไม่มีอุปสรรคหรือความทุกข์ แต่การแสวงว่าพระเป็นเจ้าและเชื่อพึ่งในพระองค์ในทุกทางที่เราดำเนินต่างหาก คือ สิ่งที่สำคัญ
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
ระลึกถึงเสมอในคำภาวนา
เรื่องความผิดพลาดในอดีต มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ครับ สิ่งที่สำคัญคือ เราจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก อันนี้ครับเป็นข้อสำคัญ
การที่เราติดอยู่กับความผิดบาปในอดีต จนกลายเป็นรากขมขื่น นั่นแสดงว่าเราไม่มั่นใจในฤทธิ์อำนาจในการยกบาปของพระคริสต์ เราไม่ศรัทธาต่อพระหรรษทานที่ได้รับผ่านทางศีลอภัยบาป เพราะในพระคัมภีร์บอกชัดเจนว่า ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงตรง ก็จะยกบาปของเราและจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น
เรื่องการอธิษฐานทูลขอพระบิดา มันไม่ผิดหรอกครับที่เราจะทูลขอสิ่งต่าง ๆ เพื่อตัวเรา แต่เราก็ต้องเข้าใจด้วยว่าไม่ว่าคำตอบของพระเป็นเจ้าจะเป็นแบบใด เราก็ควรที่จะเชื่อฟังและทำตาม การที่พระเจ้าไม่ให้ตามที่เราขอก็ไม่ได้หมายความว่าพระองค์ไม่รักเรา แต่แสดงว่าพระองค์ทรงรู้จักเราดีจนรู้ว่าอะไรที่เหมาะหรือไม่เหมาะสำหรับเรา
ชีวิตคนเรามันไม่ง่ายกันหรอกครับ คนกวาดถนนก็มีทุกข์ของคนกวาดถนน ประธานบริษัทก็มีทุกข์ของประธานบริษัท พนักงานก็มีทุกข์ของพนักงาน ไม่ว่าชีวิตจะดำเนินไปในรูปแบบใด มันก็มีอุปสรรคความทุกข์ยากด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ สิ่งสำคัญไม่ใช่การแสวงหาชีวิตที่ไม่มีอุปสรรคหรือความทุกข์ แต่การแสวงว่าพระเป็นเจ้าและเชื่อพึ่งในพระองค์ในทุกทางที่เราดำเนินต่างหาก คือ สิ่งที่สำคัญ
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
ระลึกถึงเสมอในคำภาวนา
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
คุณนางฟ้าน่ารักครับ (เรียกได้ไม่เต็มปากเต็มคำ จะเรียกเทวดาก็เกร็งใจ อิอิ )
จริงๆ จะมีกี่คนที่ใส่ใจหัวใจของตัวเอง จริงปะ ผมว่าแบบนี้ก็โอเคแหละ
แต่ก็..อย่าท้ออะ สู้ต่อไป
จริงๆ จะมีกี่คนที่ใส่ใจหัวใจของตัวเอง จริงปะ ผมว่าแบบนี้ก็โอเคแหละ
แต่ก็..อย่าท้ออะ สู้ต่อไป
-
- โพสต์: 605
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:19 pm
- ที่อยู่: พเนจร
- ติดต่อ:
ขอให้กำลังใจนะฮะเจ๊
อย่าหมดศรัทธาในพระเจ้า อย่าหมดศรัทธาในพ่อแม่ อย่าหมดศรัทธาในตัวเองนะฮะ ^ ^
อย่าหมดศรัทธาในพระเจ้า อย่าหมดศรัทธาในพ่อแม่ อย่าหมดศรัทธาในตัวเองนะฮะ ^ ^
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ อย่าเพิ่งยอมแพ้ และที่สำคัญ อย่าไปคิดว่า พระองค์ไม่รักคุณนะครับ
องค์พระเป็นเจ้าของเราทรงทราบและเข้าใจเราเป็นอย่างดีว่า เรามนุษย์อ่อนแอแค่ไหน
ทุกคนต่างเป็นคนบาปทั้งสิ้น ไม่สำคัญว่า จะเป็นเพศไหน
ทุกวันนี้ พวกผู้ชายนี่แหละตัวดี เป็นตัวการทำบาปร้ายแรงมากกว่าผู้หญิงเสียอีก
เพราะเหตุนี้ พระบิดาจึงทรงส่งพระเยซูเจ้ามาให้เราทุกคน
ฉะนั้นทุกครั้งที่เราทำผิดไป ก็แค่ขอโทษพระองค์ ขอโทษพ่อผู้พระทัยดี และพ่อก็พร้อมอภัยให้เสมอ
ขอให้อดทน และไว้วางใจในพระเจ้าต่อไปเถิดครับ มีอะไรก็มาระบายให้พี่น้องในบอร์ดฟังแบบนี้แหละครับ
พวกเราพร้อมจะช่วยกันสวดภาวนาให้ครับ
และก็โปรดให้อภัยคุณพ่อเถอะนะครับ ท่านคงหวังดีแต่อาจจะไม่เข้าใจคุณ
สุดท้ายนี้ ขอให้สู้ๆ ต่อไปนะครับ คุณไม่ได้เดินเดียวดาย บนหนทางแห่งกางเขนนี้
แต่คุณยังมีเพื่อน ๆ พี่น้องคริสตชน ที่เดินแบกไปพร้อมๆ กัน ให้กำลังใจกัน
เราทุกคนต่างต้องแบกไม้กางเขน (ความทุกข์ยาก) ของตน ตามองค์พระเยซูเจ้าไปเหมือนกัน
สู้ๆ ครับ
องค์พระเป็นเจ้าของเราทรงทราบและเข้าใจเราเป็นอย่างดีว่า เรามนุษย์อ่อนแอแค่ไหน
ทุกคนต่างเป็นคนบาปทั้งสิ้น ไม่สำคัญว่า จะเป็นเพศไหน
ทุกวันนี้ พวกผู้ชายนี่แหละตัวดี เป็นตัวการทำบาปร้ายแรงมากกว่าผู้หญิงเสียอีก
เพราะเหตุนี้ พระบิดาจึงทรงส่งพระเยซูเจ้ามาให้เราทุกคน
ฉะนั้นทุกครั้งที่เราทำผิดไป ก็แค่ขอโทษพระองค์ ขอโทษพ่อผู้พระทัยดี และพ่อก็พร้อมอภัยให้เสมอ
ขอให้อดทน และไว้วางใจในพระเจ้าต่อไปเถิดครับ มีอะไรก็มาระบายให้พี่น้องในบอร์ดฟังแบบนี้แหละครับ
พวกเราพร้อมจะช่วยกันสวดภาวนาให้ครับ
และก็โปรดให้อภัยคุณพ่อเถอะนะครับ ท่านคงหวังดีแต่อาจจะไม่เข้าใจคุณ
สุดท้ายนี้ ขอให้สู้ๆ ต่อไปนะครับ คุณไม่ได้เดินเดียวดาย บนหนทางแห่งกางเขนนี้
แต่คุณยังมีเพื่อน ๆ พี่น้องคริสตชน ที่เดินแบกไปพร้อมๆ กัน ให้กำลังใจกัน
เราทุกคนต่างต้องแบกไม้กางเขน (ความทุกข์ยาก) ของตน ตามองค์พระเยซูเจ้าไปเหมือนกัน
สู้ๆ ครับ
-
- โพสต์: 740
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm
55+ แอบแซวMinistry Of Men เขียน: คุณนางฟ้าน่ารักครับ (เรียกได้ไม่เต็มปากเต็มคำ จะเรียกเทวดาก็เกร็งใจ อิอิ )
จริงๆ จะมีกี่คนที่ใส่ใจหัวใจของตัวเอง จริงปะ ผมว่าแบบนี้ก็โอเคแหละ
แต่ก็..อย่าท้ออะ สู้ต่อไป
เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ หรือจะยอมแพ้ๆ
พระเจ้าเสริมกำลังครับ
- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
อ่ะ สู้นะค่ะ
ปล.กลัวหมอฟันจับจิตอะค่ะ
ปล.กลัวหมอฟันจับจิตอะค่ะ
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
เคยคิดบ้างมั้ย ว่าเราเลือกนายถูกแล้วรึเปล่า
ไม่เคยค่ะ เพราะรักเดียวใจเดียวค่ะ
เคยคิดบ้างมั๊ยว่า ... ถ้าเราจะเข้าไปนั่งนอนอาศัยอยู่ในบ้านของใครสักคน เราจะต้องรู้จักสนิทสนมกับเจ้าของบ้านเขามากเป็นพิเศษ ชนิดรักเหมือนลูกเหมือนหลานเลย ประมาณนั้น
แล้ว ... ถ้าเราอยากเข้าไปนั่งนอนอาศัยอยู่ในสวรรค์ เราต้องทำความรู้จักสนิทสนมกับใคร ที่เค้าเป็นเจ้าของสวรรค์หน่ะ
แล้ว ... พระองค์มาบอกรักเรา อยากให้เราเป็นบุตรของพระองค์ แล้วเรายังจะต้องมานั่งคิดกันอีกหรือ?
ไม่เคยค่ะ เพราะรักเดียวใจเดียวค่ะ
เคยคิดบ้างมั๊ยว่า ... ถ้าเราจะเข้าไปนั่งนอนอาศัยอยู่ในบ้านของใครสักคน เราจะต้องรู้จักสนิทสนมกับเจ้าของบ้านเขามากเป็นพิเศษ ชนิดรักเหมือนลูกเหมือนหลานเลย ประมาณนั้น
แล้ว ... ถ้าเราอยากเข้าไปนั่งนอนอาศัยอยู่ในสวรรค์ เราต้องทำความรู้จักสนิทสนมกับใคร ที่เค้าเป็นเจ้าของสวรรค์หน่ะ
แล้ว ... พระองค์มาบอกรักเรา อยากให้เราเป็นบุตรของพระองค์ แล้วเรายังจะต้องมานั่งคิดกันอีกหรือ?
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาค่ะ มีขึ้น เดี๋ยวก้อ มีลง ... มีลง เดี๋ยวมันก้อ มีขึ้น ค่ะ อย่าไปคิดมาก สวดภาวนาไว้เสมอๆ นะคะ
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
จิตตก ก้อเก็บซิค่ะ อย่าท้อถอย สู้ๆๆๆๆๆค่ะ
อุปสรรค มีไว้ให้เราได้พิสูจน์ความสามารถและความพยายามค่ะ ขอพระอวยพรนะคะ
อุปสรรค มีไว้ให้เราได้พิสูจน์ความสามารถและความพยายามค่ะ ขอพระอวยพรนะคะ
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
แล้วพระองค์บังเกิดมาจากครรภ์ของใครหล่ะค่ะ ... ไม่ใช่เกิดจากครรภ์ของ หญิง พรมจารีย์มารีอาหรอกหรือ?Valkyrie_chan เขียน:
ส่วนเรื่องพระเยซูลงมาบังเกิดเป็นชาย "ถึงยังไงพระองค์ก็เป็นพระเจ้า แม้มีสภาพมนุษย์ยังไงก็ยังเป็นพระเจ้า จะเอาลงมานับกับมนุษย์บาปหนาได้ยังไง"
ทำไมต้องไปคิดแบ่งหญิง แบ่งชาย กันด้วยหล่ะค่ะ ไม่ว่าจะ หญิง หรือ ชาย ล้วนต้องกำเนิดมาจากครรภ์มารดาทั้งนั้น
ผู้ชายให้เข้มแข็ง ยิ่งใหญ่ อย่างไร ก็ไหลออกมาจากมดลูกของแม่ด้วยกันทุกคนค่ะ
ค่อยๆ คิดตรองดูนะคะ อย่าใช้อารมณ์ ให้ใช้วิจารณญาณดีๆ ค่ะ และสวดภาวนาเสมอๆ โดยเฉพาะเวลาที่เกิดความสงสัยไม่แน่ใจ
สงสัยได้ค่ะ แต่ในความสงสัยไม่แน่ใจนั้น ให้มีคำภาวนาอยู่ด้วยเสมอ เพื่อไล่จิตชั่วร้าย และฟังสิ่งที่พระเป็นเจ้ากำลังทรงกระซิบบอกกับเราค่ะ
- Jeanne d'Arc
- โพสต์: 235
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm
เราไม่ได้เลือกพระเจ้า พระเจ้าเลือกเราครับ
พระเจ้ารู้ดีที่สุด ว่าเราต้องการอะไร และน้ำพระทัยของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก
Don't Let an Evil control ur thinking
พระเจ้ารู้ดีที่สุด ว่าเราต้องการอะไร และน้ำพระทัยของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก
Don't Let an Evil control ur thinking
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ม.ค. 22, 2010 9:38 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.