ตอบจากหัวข้อ!!! เห็นด้วยไหม...ที่พระเจ้าไม่เคยผิดพลาด!!!
ผมมีบทความหนึ่งจากหนังสือเรื่อง"พยานแห่งความหวัง"
ที่ว่าพระเจ้าไม่เคยผิดพลาดจริงครับ
แต่ลองมาดูข้อบกพร่องของพระเยซูบ้าง
ข้อแรกเลย
พระเยซูเจ้าทรงมีความจำที่แย่มาก
เช่นอย่างแรกเลย ขณะที่พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขนอยู่นั้น
พระองค์ได้ยินเสียงโจรที่ถูกตรึงทางขวามือของพระองค์ทูลว่า"ข้าแต่พระเยซูโปรดระลึกถึงข้าพเจ้าด้วย เมื่อพระองค์เสด็จเข้าสู่พระอาณาจักรของพระองค์"
ถ้าเราเป็นพระเยซูคงตอบว่า "เราจะไม่ลืมเจ้าแน่นอนเพราะอาชญากรรมต่างๆของเจ้าจะต้องได้รับการชดเชยด้วยการตกไฟชำระอย่างน้อยยี่สิบปีเสียก่อน"
แต่พระเยซูทรงตอบเขาว่า "เราขอบอกความจริงแก่ท่านว่า วันนี้ ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์" พระองค์ทรงลืมบาปทั้งหมดของโจรคนนั้น
ข้อที่สอง
พระเยซูเจ้าทรงไม่รู้วิชาคณิตศาสตร์
หากพระเยซูทรงสอบวิชาคณิตศาสตร์คงอาจจะทรงสอบตกเป็นแน่
พระองค์ทรงส่อแววในเรื่องนี้ด้วยนิทานเปรียบเทียบเรื่องแกะตัวที่หายไป คนเลี้ยงแกะมีแกะอยู่100ตัวแต่บังเอิญมีตัวหนึ่งได้หายไปเขามิร้อช้า
รีบออกตามหามันโดยทิ้งอีก99ตัวไว้ในที่เปลี่ยว และเมื่อพปมันแล้วเขาก็แบกมันกลับมาหาเพื่อนๆ
สำหรับพระเยซูเจ้าแล้วแกะตัวหนึ่งก็มีค่าเท่ากันกับเก้าสิบเก้าตัว บางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไปใครจะรับได้
ข้อที่สาม
พระองค์ทรงไม่รู้จักตรรกวิทยา
หญิงคนหนึ่งมีเงินอยู่สิบเหรียญบังเอิญเหรียญหนึ่งหายไปเธอก็จุดตะเกียงเพื่อค้นหามันเมื่อได้พบแล้วก็ตะโกนกับเพื่อนบ้านว่า "จงร่วมยินดีกับฉันเถิด ฉันได้พบเหรียญที่หายไปแล้ว"
มันช่างไม่มีเหตุผลเลย เงินเหรียญเดียวต้องเรียกเพื่อนบ้านเพื่อมาเลี้ยงฉลอง ยิ่งไปกว่านั้นการเชิญเพื่อนบ้านมาเลี้ยงฉลองต้องใช้จ่ายด้วยเงินเหรียญที่ได้มาแน่นอน
แล้วที่สำคัญเงินสิบเหรียญที่มีจะพอเลี้ยงเพื่อนบ้านหรือเปล่า
ข้อที่สี่
พระเยซูเจ้าทรงเป็นนักเสี่ยง
ผู้จัดการต่างๆเช่นนักหาเสียงมักจะมีโครงการที่ชัดเจนรวมไปถึงคำสัญญาต่างๆด้วย
แต่สำหรับพระเยซูไม่มีการแบบนี้เลย
พระเยซูทรงสัญญาให้มีความทุกข์ทรมานและการเบียดเบียนสำหรับผู้ที่ติดตามพระองค์
บรรดาศิษย์ของพระองค์ต้องละทิ้งทุกสิ่งเพื่อติดตามพระองค์พระองค์มิได้สัญญาว่า จะให้ข้าวของเงินทอง แต่ จะมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตของพระองค์เอง
ท่านทั้งหลายย่อมเป็นสุขเมื่อถูกดูหมิ่น ข่มเหง และใส่ร้ายต่างๆนานาเพราะเรา จงชื่นชมยินดีเถิด เพราะรางวัลของท่านในสวรรค์นั้นใหญ่ยิ่งนัก
บรรดาสานุศิษย์เชื่อในนักเสี่ยงพระองค์นี้ตลอดเวลาสองพันปีและจนสิ้นพิพบมหาชนที่ติดตามพระเยซูไม่มีวันขาดสาย
มองดูนักบุญแต่ละยุคเป็นการเพียงพอแล้วพวกเขาหลายๆคนเป็นสมาชิกของสมาคมนักเสี่ยงนี้โดยปราศจากที่อยู่ และทุกสิ่งอย่าง เพื่อพระองค์
ข้อที่ห้า
พระเยซุไม่ทรงเข้าใจเรื่องการเงินหรือเศรษฐกิจ
ฟังเรื่องสวนองุ่นกันก่อนนะ
อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับพ่อบ้านออกบ้านแต่เช้าตรู่เพื่อไปจ้างคนงานมาทำงานในสวนองุ่นครั้นได้คนงานก้อตกลงค่าจ้างวันละหนึ่งเหรียญ
แล้วส่งคนงานไปทำงานในสวนองุ่น ประมาณสามโมงเช้า พ่อบ้านเห็นคนที่ยังไม่มีงานทำจึงพูดกับคนเหล่านั้นว่า "จงไปทำงานในสวนองุ่นของฉันเถิดฉันจะให้ค่าจ้างตามสมควร"
คนเหล่านั้นก็ไป พ่อบ้านออกไปประมาณเที่ยงวันและบ่ายสามโมงทำเช่นเดียวกัน ประมาณห้าโมงพ่อบ้านออกไปอีก พบคนอื่นยืนอยู่จึงถามว่า"ทำไมท่านยืนอยู่นี่ทั้งวัน"
พวกเขาก็ตอบว่า "เพราะไม่มีใครจ้างไปทำงาน" พ่อบ้านจึงพูดว่าจงไปทำงานในสวนองุ่นของฉันเถิด" ครั้นพอค่ำ เจ้าของสวนบอกผู้จัดการว่า "ไปเรียกคนงานมาจ่ายค่าจ้างโดยเริ่มตั่งแต่คนสุดท้ายจนถึงคนแรก"
ถ้าหากพระเยซูเจ้าถูกตั้งขึ้นเป็นผู้จัดการธุรกิจ ธุรกิจนั้นคงล้มเหลวเป็นแน่แท้ มีใครบ้างที่จะจ่ายคนที่มาทำงานห้าโมงเท่ากับคนที่มาทำงานแต่เช้าตรู่
เป็นความเข้าใจผิดหรือเปล่าไม่หรอกพระองค์ทรงตั้งพระทัยพระองค์ทรงอธิบายว่า "ฉันไม่มีสิทธิ์ใช้เงินของฉันตามที่ฉันพอใจหรือ ท่านอิจฉาริษยาเพราะฉันใจดีหรือ"
อยากให้ทุกคนอ่านแล้วคิดตามนะครับกลัวทุกคนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขียนอ่านแล้วคิดตามนะครับขอบคุณครับ
ที่ว่าพระเจ้าไม่เคยผิดพลาดจริงครับ
แต่ลองมาดูข้อบกพร่องของพระเยซูบ้าง
ข้อแรกเลย
พระเยซูเจ้าทรงมีความจำที่แย่มาก
เช่นอย่างแรกเลย ขณะที่พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขนอยู่นั้น
พระองค์ได้ยินเสียงโจรที่ถูกตรึงทางขวามือของพระองค์ทูลว่า"ข้าแต่พระเยซูโปรดระลึกถึงข้าพเจ้าด้วย เมื่อพระองค์เสด็จเข้าสู่พระอาณาจักรของพระองค์"
ถ้าเราเป็นพระเยซูคงตอบว่า "เราจะไม่ลืมเจ้าแน่นอนเพราะอาชญากรรมต่างๆของเจ้าจะต้องได้รับการชดเชยด้วยการตกไฟชำระอย่างน้อยยี่สิบปีเสียก่อน"
แต่พระเยซูทรงตอบเขาว่า "เราขอบอกความจริงแก่ท่านว่า วันนี้ ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์" พระองค์ทรงลืมบาปทั้งหมดของโจรคนนั้น
ข้อที่สอง
พระเยซูเจ้าทรงไม่รู้วิชาคณิตศาสตร์
หากพระเยซูทรงสอบวิชาคณิตศาสตร์คงอาจจะทรงสอบตกเป็นแน่
พระองค์ทรงส่อแววในเรื่องนี้ด้วยนิทานเปรียบเทียบเรื่องแกะตัวที่หายไป คนเลี้ยงแกะมีแกะอยู่100ตัวแต่บังเอิญมีตัวหนึ่งได้หายไปเขามิร้อช้า
รีบออกตามหามันโดยทิ้งอีก99ตัวไว้ในที่เปลี่ยว และเมื่อพปมันแล้วเขาก็แบกมันกลับมาหาเพื่อนๆ
สำหรับพระเยซูเจ้าแล้วแกะตัวหนึ่งก็มีค่าเท่ากันกับเก้าสิบเก้าตัว บางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไปใครจะรับได้
ข้อที่สาม
พระองค์ทรงไม่รู้จักตรรกวิทยา
หญิงคนหนึ่งมีเงินอยู่สิบเหรียญบังเอิญเหรียญหนึ่งหายไปเธอก็จุดตะเกียงเพื่อค้นหามันเมื่อได้พบแล้วก็ตะโกนกับเพื่อนบ้านว่า "จงร่วมยินดีกับฉันเถิด ฉันได้พบเหรียญที่หายไปแล้ว"
มันช่างไม่มีเหตุผลเลย เงินเหรียญเดียวต้องเรียกเพื่อนบ้านเพื่อมาเลี้ยงฉลอง ยิ่งไปกว่านั้นการเชิญเพื่อนบ้านมาเลี้ยงฉลองต้องใช้จ่ายด้วยเงินเหรียญที่ได้มาแน่นอน
แล้วที่สำคัญเงินสิบเหรียญที่มีจะพอเลี้ยงเพื่อนบ้านหรือเปล่า
ข้อที่สี่
พระเยซูเจ้าทรงเป็นนักเสี่ยง
ผู้จัดการต่างๆเช่นนักหาเสียงมักจะมีโครงการที่ชัดเจนรวมไปถึงคำสัญญาต่างๆด้วย
แต่สำหรับพระเยซูไม่มีการแบบนี้เลย
พระเยซูทรงสัญญาให้มีความทุกข์ทรมานและการเบียดเบียนสำหรับผู้ที่ติดตามพระองค์
บรรดาศิษย์ของพระองค์ต้องละทิ้งทุกสิ่งเพื่อติดตามพระองค์พระองค์มิได้สัญญาว่า จะให้ข้าวของเงินทอง แต่ จะมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตของพระองค์เอง
ท่านทั้งหลายย่อมเป็นสุขเมื่อถูกดูหมิ่น ข่มเหง และใส่ร้ายต่างๆนานาเพราะเรา จงชื่นชมยินดีเถิด เพราะรางวัลของท่านในสวรรค์นั้นใหญ่ยิ่งนัก
บรรดาสานุศิษย์เชื่อในนักเสี่ยงพระองค์นี้ตลอดเวลาสองพันปีและจนสิ้นพิพบมหาชนที่ติดตามพระเยซูไม่มีวันขาดสาย
มองดูนักบุญแต่ละยุคเป็นการเพียงพอแล้วพวกเขาหลายๆคนเป็นสมาชิกของสมาคมนักเสี่ยงนี้โดยปราศจากที่อยู่ และทุกสิ่งอย่าง เพื่อพระองค์
ข้อที่ห้า
พระเยซุไม่ทรงเข้าใจเรื่องการเงินหรือเศรษฐกิจ
ฟังเรื่องสวนองุ่นกันก่อนนะ
อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับพ่อบ้านออกบ้านแต่เช้าตรู่เพื่อไปจ้างคนงานมาทำงานในสวนองุ่นครั้นได้คนงานก้อตกลงค่าจ้างวันละหนึ่งเหรียญ
แล้วส่งคนงานไปทำงานในสวนองุ่น ประมาณสามโมงเช้า พ่อบ้านเห็นคนที่ยังไม่มีงานทำจึงพูดกับคนเหล่านั้นว่า "จงไปทำงานในสวนองุ่นของฉันเถิดฉันจะให้ค่าจ้างตามสมควร"
คนเหล่านั้นก็ไป พ่อบ้านออกไปประมาณเที่ยงวันและบ่ายสามโมงทำเช่นเดียวกัน ประมาณห้าโมงพ่อบ้านออกไปอีก พบคนอื่นยืนอยู่จึงถามว่า"ทำไมท่านยืนอยู่นี่ทั้งวัน"
พวกเขาก็ตอบว่า "เพราะไม่มีใครจ้างไปทำงาน" พ่อบ้านจึงพูดว่าจงไปทำงานในสวนองุ่นของฉันเถิด" ครั้นพอค่ำ เจ้าของสวนบอกผู้จัดการว่า "ไปเรียกคนงานมาจ่ายค่าจ้างโดยเริ่มตั่งแต่คนสุดท้ายจนถึงคนแรก"
ถ้าหากพระเยซูเจ้าถูกตั้งขึ้นเป็นผู้จัดการธุรกิจ ธุรกิจนั้นคงล้มเหลวเป็นแน่แท้ มีใครบ้างที่จะจ่ายคนที่มาทำงานห้าโมงเท่ากับคนที่มาทำงานแต่เช้าตรู่
เป็นความเข้าใจผิดหรือเปล่าไม่หรอกพระองค์ทรงตั้งพระทัยพระองค์ทรงอธิบายว่า "ฉันไม่มีสิทธิ์ใช้เงินของฉันตามที่ฉันพอใจหรือ ท่านอิจฉาริษยาเพราะฉันใจดีหรือ"
อยากให้ทุกคนอ่านแล้วคิดตามนะครับกลัวทุกคนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขียนอ่านแล้วคิดตามนะครับขอบคุณครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ทุกข้อเป็นเรื่องจริงในเนื้อหาแต่ละข้อ
แค่ว่า ใช้ศัพท์ออกจะแรงไปหน่อยเท่านั้นเองครับ
ซึ่งคิดว่าผู้เขียนไม่ได้เจตนาอื่นแอบแฝง เพราะเข้าใจเนื้อหา
พระเยซูเจ้าทรงมีความจำที่แย่มาก = พระเยซูเจ้าทรงลืมความผิดของเราทั้งสิ้น เมื่อเราสำนึกในบาปนั้น
พระเยซูเจ้าทรงไม่รู้วิชาคณิตศาสตร์ = พระองค์ทรงรักมนุย์แต่ละคนและให้ความสำคัญแต่ละคนมาก ถึงขนาดถ้าหายไป พระองค์ต้องตามหา
พระองค์ทรงไม่รู้จักตรรกวิทยา = (เหมือนกับเรื่องแกะที่หายไป)
พระเยซูเจ้าทรงเป็นนักเสี่ยง = พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้าและทรงตรัสว่า ทางของพระเจ้าและทางของโลกนั้นคนละทาง
พระเยซูไม่ทรงเข้าใจเรื่องการเงินหรือเศรษฐกิจ = พระเยซูเจ้าทรงตรัสถึงแผนการไถ่กู้
แค่ว่า ใช้ศัพท์ออกจะแรงไปหน่อยเท่านั้นเองครับ
ซึ่งคิดว่าผู้เขียนไม่ได้เจตนาอื่นแอบแฝง เพราะเข้าใจเนื้อหา
พระเยซูเจ้าทรงมีความจำที่แย่มาก = พระเยซูเจ้าทรงลืมความผิดของเราทั้งสิ้น เมื่อเราสำนึกในบาปนั้น
พระเยซูเจ้าทรงไม่รู้วิชาคณิตศาสตร์ = พระองค์ทรงรักมนุย์แต่ละคนและให้ความสำคัญแต่ละคนมาก ถึงขนาดถ้าหายไป พระองค์ต้องตามหา
พระองค์ทรงไม่รู้จักตรรกวิทยา = (เหมือนกับเรื่องแกะที่หายไป)
พระเยซูเจ้าทรงเป็นนักเสี่ยง = พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้าและทรงตรัสว่า ทางของพระเจ้าและทางของโลกนั้นคนละทาง
พระเยซูไม่ทรงเข้าใจเรื่องการเงินหรือเศรษฐกิจ = พระเยซูเจ้าทรงตรัสถึงแผนการไถ่กู้
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
เนื้อหาโอเค แต่ไม่ชอบหัวข้อเหมือนกัน บางครั้งผู้เขียนอาจจะไม่ได้มีเจตนาอะไร แต่ผู้อ่าน อ่านแล้วเสียความรู้สึกกับหัวข้ออ่ะคะ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
ถ้าเกิดพระเจ้าไม่ทำเป็นลืมแบบในข้อ 1 ล่ะก็
.......ตายหมดยกแผ่นดินโลกค่ะ ตกนรกกัน 100% ด้วย ไม่รอดสักคนนอกจากพระองค์คนเดียว
.......ตายหมดยกแผ่นดินโลกค่ะ ตกนรกกัน 100% ด้วย ไม่รอดสักคนนอกจากพระองค์คนเดียว
ขอบคุรครับทุกเม้นเลยแล้วจะพยายามเขียนให้เข้าจัยนะครับ
ขอบคุณที่ติชม
ขอบคุณที่ติชม
ขอชี้แจงหน่อยนะครับ
เนื่องจากมีหนังสือเล่มนี้ไว้ครอบครองเช่นกัน
ข้อความที่ดูกระด้าง ซึ่งพี่เต๋าได้หยิบมานั้น
เป็นคำพูดของพระคุณเจ้า เหวี่ยน-วัน ถ่วน พระคาร์ดินัล ชาวเวียดนาม
ท่านถูกคุมขังเป็นนักโทษของลัทธิคอมมิวนิสต์ 13ปี
ระหว่างนั้น ท่านถูกรัฐบาลห้ามใส่เสื้อหล่อ ห้ามใครเรียกท่านว่าพระคุณเจ้าหรือคุณพ่อ
บรรดาผู้ร่วมคุมขังซึ่งต่างความเชื่อมาถามถึง "เหตุผลแห่งความหวัง"ของท่าน
ท่านจึงตอบคำถามโดยตรรกกะที่ดูนอกรีตเสียหน่อย (ท่านได้กล่าวขอโทษ เมื่อพูดคำพูดเหล่านี้ซ้ำในการเข้าเงียบ)
ประสบการณ์ความหวังของท่าน ทำให้พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่2
ได้แต่งตั้งท่านเป็นนักเทศน์ส่วนพระองค์และข้าราชบริพารในการเข้าเงียบที่กรุงโรม ในปี2000 ปิติมหาการุญครับ
เนื่องจากมีหนังสือเล่มนี้ไว้ครอบครองเช่นกัน
ข้อความที่ดูกระด้าง ซึ่งพี่เต๋าได้หยิบมานั้น
เป็นคำพูดของพระคุณเจ้า เหวี่ยน-วัน ถ่วน พระคาร์ดินัล ชาวเวียดนาม
ท่านถูกคุมขังเป็นนักโทษของลัทธิคอมมิวนิสต์ 13ปี
ระหว่างนั้น ท่านถูกรัฐบาลห้ามใส่เสื้อหล่อ ห้ามใครเรียกท่านว่าพระคุณเจ้าหรือคุณพ่อ
บรรดาผู้ร่วมคุมขังซึ่งต่างความเชื่อมาถามถึง "เหตุผลแห่งความหวัง"ของท่าน
ท่านจึงตอบคำถามโดยตรรกกะที่ดูนอกรีตเสียหน่อย (ท่านได้กล่าวขอโทษ เมื่อพูดคำพูดเหล่านี้ซ้ำในการเข้าเงียบ)
ประสบการณ์ความหวังของท่าน ทำให้พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่2
ได้แต่งตั้งท่านเป็นนักเทศน์ส่วนพระองค์และข้าราชบริพารในการเข้าเงียบที่กรุงโรม ในปี2000 ปิติมหาการุญครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ก.พ. 24, 2010 8:16 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อยากบอกว่า......
อ่านแล้วรู้สึกสุดยอด เหมือนจะว่ากล่าว แต่จริงๆแฝงไปด้วยความหมายแห่งความรัก และความเมตตาที่พระเยซูมีต่อพวกเราอย่างแท้จริง ท่านผู้แต่ง ช่างคิดทำให้ถ้าคนที่ไม่ชอบพระองค์เห็นจะต้องอ่าน และเมื่ออ่าน ก็จะเริ่มมีอะไรเกิดขึ้นในใจเค้าแน่ๆ ขอชื่นชมอีกครั้ง
และเชื่อว่า พระองค์ไม่เคยผิดพลาด ลูกเชื่อพระองค์จงใจ
อ่านแล้วรู้สึกสุดยอด เหมือนจะว่ากล่าว แต่จริงๆแฝงไปด้วยความหมายแห่งความรัก และความเมตตาที่พระเยซูมีต่อพวกเราอย่างแท้จริง ท่านผู้แต่ง ช่างคิดทำให้ถ้าคนที่ไม่ชอบพระองค์เห็นจะต้องอ่าน และเมื่ออ่าน ก็จะเริ่มมีอะไรเกิดขึ้นในใจเค้าแน่ๆ ขอชื่นชมอีกครั้ง
และเชื่อว่า พระองค์ไม่เคยผิดพลาด ลูกเชื่อพระองค์จงใจ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
ไอ้รักมันก็รัก แต่จะให้เชื่อว่าไม่เคยผิดพลาดนี่......
ถ้าไม่เคยผิดพลาดจริง ก็ไม่น่าจะปล่อยให้ลูซิเฟอร์กบฎและไปล่อลวงมนุษย์ถึงสวนอีเดนตั้งแต่แรก
และไม่น่าจะอยู่เฉยจนโลกผิดพลาดไปขนาดนี้
(อย่าให้ได้พูดถึงตัวเราอีกนะ จะยาวกว่านี้)
ถึงจะบอกว่ามนุษย์ทำเอง ถ้าทำจริงก็น่าจะดูแลหรือยับยั้งได้สิ
ในเมื่อทุกสิ่งในโลกเกิดขึ้นเพราะน้ำพระทัย แล้วน้ำพระทัยที่ว่า ถึงขนาดปล่อยให้คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยในโลก หรือหญิงที่ถูกข่มขืนขนาดสิ้นศรัทธา ต้องลงนรกเพราะไม่อยู่ในพระองค์ แถมด่าพระองค์แค่นั้นหรือ (ในเมื่อพระองค์ปล่อยให้พวกเขาเจ็บไม่ยอมช่วยเอง)
.......ถ้าคิดจะรับชั้นเป็นลูก และพระองค์เป็นพ่อจริง เจอคำบ่นแค่นี้คงไม่สติแตกนะ พระองค์ก็น่าจะ็รู้ว่าชั้น Dark ขนาดไหน
(........อย่าแปลกใจ รีพลายเราหากออกไปในทางต่างกัน ย่อมหมายถึงอารมณ์ที่ต่างกันในแต่ละช่วงเวลาของเราด้วยเหมือนกัน)
ถ้าไม่เคยผิดพลาดจริง ก็ไม่น่าจะปล่อยให้ลูซิเฟอร์กบฎและไปล่อลวงมนุษย์ถึงสวนอีเดนตั้งแต่แรก
และไม่น่าจะอยู่เฉยจนโลกผิดพลาดไปขนาดนี้
(อย่าให้ได้พูดถึงตัวเราอีกนะ จะยาวกว่านี้)
ถึงจะบอกว่ามนุษย์ทำเอง ถ้าทำจริงก็น่าจะดูแลหรือยับยั้งได้สิ
ในเมื่อทุกสิ่งในโลกเกิดขึ้นเพราะน้ำพระทัย แล้วน้ำพระทัยที่ว่า ถึงขนาดปล่อยให้คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยในโลก หรือหญิงที่ถูกข่มขืนขนาดสิ้นศรัทธา ต้องลงนรกเพราะไม่อยู่ในพระองค์ แถมด่าพระองค์แค่นั้นหรือ (ในเมื่อพระองค์ปล่อยให้พวกเขาเจ็บไม่ยอมช่วยเอง)
.......ถ้าคิดจะรับชั้นเป็นลูก และพระองค์เป็นพ่อจริง เจอคำบ่นแค่นี้คงไม่สติแตกนะ พระองค์ก็น่าจะ็รู้ว่าชั้น Dark ขนาดไหน
(........อย่าแปลกใจ รีพลายเราหากออกไปในทางต่างกัน ย่อมหมายถึงอารมณ์ที่ต่างกันในแต่ละช่วงเวลาของเราด้วยเหมือนกัน)
ทฤษฎีเมตาฟิสิกส์
ตามหลักเมตาฟิสิกส์ เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในอนาคต
เราทุกคน ทั้งปีศาจและเทวดา โลกและจักรวาลทั้งสิ้น เป็นสิ่งสร้างของพระองค์ พระองค์ย่อมรู้จักเราดีแน่นอน
เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะเลือกทางไหน พระก็จะสามารถรู้ได้หมด เพราะพระรู้ขอบจำกัดของเราและสิ่งสร้างทั้งมวล
พระองค์สามารถรู้ได้ว่าเราทำอะไรได้มากแค่ไหน และมีผลแบบใดที่เป็นไปได้บ้าง ไม่ว่าดีหรือร้ายพระองค์สามารถรู้ได้หมด
และไม่ว่าเราจะเลือกทางไหน พระก็ได้เตรียมทางที่เราจะเลือกนั้นให้เราแล้ว แล้วทางนั้นจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเลือก
ระหว่างทางจะดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่การเลือกของเรา แต่แน่นอนว่าไม่ว่าเราเลือกทางไหนพระก็สอดส่องดูแลเราตลอดเวลา
และสุดท้ายปลายทางทุกสิ่งจะต้องออกมาีดีตามพระสัญญา แค่อยู่ที่ว่าเราจะยังเลือกสิ่งที่ดีอยู่รึเปล่า
สิ่งสร้างทั้งหลายทั้งปวงล้วนมี "ความงาม" และ "เหตุผลในการดำรงอยู่" ของมัน
แม้แต่สิ่งไม่ดีก็เป็นเหตุผลตามหลักเมตาฟิสิกส์เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดี ดังเช่นที่พระเจ้าทรงยอมให้มีความืด เพื่อให้แสดงสว่างนั้นเด่นชัด
ตามความคิดของผม "ความไม่สมบูรณ์" "ความดี" "ความชั่ว" "ความพอดี" "ความไม่สมดุล"
เพราะความไม่สมบูรณ์ของสิ่งสร้างเหล่านี้แหละ ที่ทำให้สิ่งสร้างของพระองค์นั้น "งดงามอย่างสมบูรณ์แบบ"
ตามหลักเมตาฟิสิกส์ เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในอนาคต
เราทุกคน ทั้งปีศาจและเทวดา โลกและจักรวาลทั้งสิ้น เป็นสิ่งสร้างของพระองค์ พระองค์ย่อมรู้จักเราดีแน่นอน
เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะเลือกทางไหน พระก็จะสามารถรู้ได้หมด เพราะพระรู้ขอบจำกัดของเราและสิ่งสร้างทั้งมวล
พระองค์สามารถรู้ได้ว่าเราทำอะไรได้มากแค่ไหน และมีผลแบบใดที่เป็นไปได้บ้าง ไม่ว่าดีหรือร้ายพระองค์สามารถรู้ได้หมด
และไม่ว่าเราจะเลือกทางไหน พระก็ได้เตรียมทางที่เราจะเลือกนั้นให้เราแล้ว แล้วทางนั้นจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเลือก
ระหว่างทางจะดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่การเลือกของเรา แต่แน่นอนว่าไม่ว่าเราเลือกทางไหนพระก็สอดส่องดูแลเราตลอดเวลา
และสุดท้ายปลายทางทุกสิ่งจะต้องออกมาีดีตามพระสัญญา แค่อยู่ที่ว่าเราจะยังเลือกสิ่งที่ดีอยู่รึเปล่า
สิ่งสร้างทั้งหลายทั้งปวงล้วนมี "ความงาม" และ "เหตุผลในการดำรงอยู่" ของมัน
แม้แต่สิ่งไม่ดีก็เป็นเหตุผลตามหลักเมตาฟิสิกส์เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดี ดังเช่นที่พระเจ้าทรงยอมให้มีความืด เพื่อให้แสดงสว่างนั้นเด่นชัด
ตามความคิดของผม "ความไม่สมบูรณ์" "ความดี" "ความชั่ว" "ความพอดี" "ความไม่สมดุล"
เพราะความไม่สมบูรณ์ของสิ่งสร้างเหล่านี้แหละ ที่ทำให้สิ่งสร้างของพระองค์นั้น "งดงามอย่างสมบูรณ์แบบ"
แก้ไขล่าสุดโดย sasuke เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2010 12:58 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ทำไมถึงพูดถึงพระเจ้าแบบนั้นหล่ะครับ
พระองค์เป็นพระเจ้านะครับ ไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์คุณ
กรุณาหยุดเถอะครับ
ขอพระเจ้าทรงเมตตาคุณ Valkyrie Zero Number ครับ
พระองค์เป็นพระเจ้านะครับ ไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์คุณ
กรุณาหยุดเถอะครับ
ขอพระเจ้าทรงเมตตาคุณ Valkyrie Zero Number ครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Batholomew เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 18, 2010 11:52 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ทุราจาร
ในทำนองเดียวกัน หากจะรับพระองค์เป็นพ่อจริง ก็อย่าพูดอะไรทำนองนี้ จริกอยู่คุณจะดากแค่ไหน พระองค์ก็ยังรักคุณนั่นแหละ แต่พระองค์ทรงเป็นความสว่าง ฉะนั้นถ้ารู้ตัวว่าอยู่ฝ่ายดาก ก็อย่าไปเอาแว่นดากๆไปดูความสว่าง เพราะก็จะเห็นแต่มุมมองดากๆ และเข้าใจแบบดากๆ สุดท้ายความรอดที่พระองค์ประทานให้ก็กลายเป็นของเน่าเสียไป คุณเลือกเอง ลองไปอ่านคำอุปมาเรื่องการหว่านเมล็ดดูนะครับ แล้วจะลองเลือกดู พระองค์ทรงให้อำเภอใจแก่คุณ ก็เลือกเอาเองแล้วกันว่าจะอยู่อย่างดากหรือจะอยู่อย่างสว่างถ้าคิดจะรับชั้นเป็นลูก และพระองค์เป็นพ่อจริง เจอคำบ่นแค่นี้คงไม่สติแตกนะ พระองค์ก็น่าจะ็รู้ว่าชั้น Dark ขนาดไหน
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
คุณ Valkyrie Zero Number ค่อยๆ อ่าน และพยายามทำความเข้าใจกับมันหน่อยนะคะ คิดว่าคุณกำลังเข้าข่ายนี้อยู่หรือเปล่าเห็นพูดถึงพระเจ้าแนวนี้มาหลายโพสแล้ว
*********************************************************************************************************
บาปผิดต่อพระจิต
Sins Against The Holy Spirit
ศาสนจักรโรมันคาทอลิก ศาสนจักรออร์ทอด็อกซ์ตะวันออก และบูรพทิศ เชื่อว่า การกล่าวร้ายต่อพระจิตเป็นบาปที่อภัยไม่ได้ (บาปชั่วนิรันดร)
ตามคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกนั้น พระเมตตาของพระเป็นเจ้าไม่มีขอบเขต แต่ผู้ใดก็ตามที่ปฏิเสธที่จะรับพระเมตตาโดยการใช้โทษบาป ไม่ยอมรับการอภัยต่อบาปของตน และการไถ่ให้รอดที่เสนอให้จากพระจิต ความแข็งกระด้างของหัวใจ อาจจะนำไปสู่ความไม่สามารถใช้โทษบาปขั้นสุดท้าย และความสูญเสียชั่วนิรันดร
อย่างไรก็ดี ควรจะต้องสังเกตุว่า พระศาสนจักรยังคงเชื่อว่า ไม่มีความผิด(บาป)ใด แม้จะหนักหนาสากรรจ์ขนาดไหนที่พระศาสนจักรจะอภัยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครชั่วร้าย และมีความผิด ซึ่งอาจจะไม่หวังอย่างไว้วางใจในการอภัย หากการใช้โทษบาปนั้นกระทำอย่างสุจริต พระคริสตเจ้าที่สิ้นพระชนม์สำหรับมนุษย์ทุกคน มีพระประสงค์ว่า ในพระศาสนจักรของพระองค์ ประตูแห่งการให้อภัยคงเปิดเสมอ สำหรับใครก็ตามที่หันหนีจากบาป
ศาสนจักรออร์ทอด็อกซ์ก็ยึดมั่นในหลักการเดียวกันในคำสอนนี้ แม้จะเข้าใจธรรมชาติของคำว่า
*********************************************************************************************************
บาปผิดต่อพระจิต
Sins Against The Holy Spirit
ศาสนจักรโรมันคาทอลิก ศาสนจักรออร์ทอด็อกซ์ตะวันออก และบูรพทิศ เชื่อว่า การกล่าวร้ายต่อพระจิตเป็นบาปที่อภัยไม่ได้ (บาปชั่วนิรันดร)
ตามคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกนั้น พระเมตตาของพระเป็นเจ้าไม่มีขอบเขต แต่ผู้ใดก็ตามที่ปฏิเสธที่จะรับพระเมตตาโดยการใช้โทษบาป ไม่ยอมรับการอภัยต่อบาปของตน และการไถ่ให้รอดที่เสนอให้จากพระจิต ความแข็งกระด้างของหัวใจ อาจจะนำไปสู่ความไม่สามารถใช้โทษบาปขั้นสุดท้าย และความสูญเสียชั่วนิรันดร
อย่างไรก็ดี ควรจะต้องสังเกตุว่า พระศาสนจักรยังคงเชื่อว่า ไม่มีความผิด(บาป)ใด แม้จะหนักหนาสากรรจ์ขนาดไหนที่พระศาสนจักรจะอภัยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครชั่วร้าย และมีความผิด ซึ่งอาจจะไม่หวังอย่างไว้วางใจในการอภัย หากการใช้โทษบาปนั้นกระทำอย่างสุจริต พระคริสตเจ้าที่สิ้นพระชนม์สำหรับมนุษย์ทุกคน มีพระประสงค์ว่า ในพระศาสนจักรของพระองค์ ประตูแห่งการให้อภัยคงเปิดเสมอ สำหรับใครก็ตามที่หันหนีจากบาป
ศาสนจักรออร์ทอด็อกซ์ก็ยึดมั่นในหลักการเดียวกันในคำสอนนี้ แม้จะเข้าใจธรรมชาติของคำว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 19, 2010 8:45 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
โตซะทีเถอะครับ Valkyrie Zero Number