Grey Cat =^. .^= เขียน:
^
^
ก็ตอนนี้ผมเป็นออร์โธด๊อกซ์นี่ครับ ^ ^!
อ้อค่ะ ^__^ นิกายไหนก็ดีทั้งนั้นแหล่ะ ค่ะเชื่อในพระ และเป็นคนดี ย่อมดีเสมอ ^__^
เลย์ เขียน:
สวดให้เขานะครับ ขอแม่พระทรงนำทางให้พวกเขา
ค่ะ พยายามสวดใ้ห้เค้าค่ะ แต่บางทีก็นิสัยไม่ดีอ่ะคะ่ ไม่อยากยุ่งด้วยเล้ย
Deo Gratias เขียน:
คนประเภทนี้ยังมีอีกเยอะค่ะ โดยเฉพาะคณะที่ไกลๆๆ

ผู้นำว่าไงก็ว่างั้น ผู้นำบอกผิดก็บอกผิด บอกถูกก็ต้องถูก โดยไม่ได้ศึกษาด้วยตัวเอง
บางคนไม่กล้าศึกษาเพราะกลัวเจอของจริงที่ไม่เหมือนกับที่ผู้นำสอนแล้วรับไม่ได้
เพราะบางที่จะสอนแบบดักไว้ก่อนแล้วโดยอ้างว่าพระวิญญาณฯ ทรงนำ
ถ้าไม่เชื่อตามนี้ก็เป็นดับพระวิญญาณฯ มั่ง หมิ่นพระวิญญาณฯ มั่ง ละเมิดอธิปไตยพระเจ้ามั่ง บลาๆ
เลยทำให้ทุกคนต้องเชื่อตามๆ กันไป แบบไม่มีเงื่อนไข
ถ้ามีโอกาสคุยกับเขาอีก บอกเขานะคะว่า
พระคัมภีร์บอกว่าทุกคนก็เป็นคนบาปทั้งนั้น กลับใจหรือไม่อยู่ที่ความเชื่อในพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่คณะนิกาย
ทุกคณะนิกายมีทั้งผู้เชื่อแท้และผู้เชื่อเทียม และการไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ไม่ได้เป็นเครื่องวัดว่าบังเกิดใหม่ค่ะ
บอกเขาอย่าเชื่อผู้นำแบบไม่ลืมหูลืมตา ให้กลับมาดูด้วยว่าพระคัมภีร์ว่าอย่างไร
ค่ะ จะบอกเค้าเช่นนั้นค่ะ และก็บอกเค้าไปด้วยว่า ที่บอกมาทั้งหมด ก็มีในคริสต์ทุกนิกายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะคาทอลิก โปรแตสแตนท์ ออร์ทอด๊อกส์ แล้วก็บอกให้เค้าลองศึกษาแต่ละนิกายดูให้ดีๆกว่านี้ ^__^ แต่ที่สำคัญพยายามบอกเค้าอ้อมๆเสมอว่า ไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ีดีมาก แต่ไม่อยากให้เอามาอ้างในการไม่ทำหน้าที่ของตนเองทางโลกด้วย เพราะจะเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นมาบอกว่า เป็นคริสต์ต้องไปวัด เลยไม่รับผิดชอบ คือคนอื่นว่าเช่นนั้นจริงๆ ก็พยายามบอกเค้าทำหน้าที่ตนเองให้ดีด้วย เพราะเราต้องทำตัวเป็นต้นแบบที่ดี เผยแพร่ความรักของพระองค์จากการกระทำของเรา เค้าก็ไม่ทำ แล้วก็ยังอ้างเหมือนเดิม แถมว่าเราตลอด ไม่กลับใจ ไม่กลับใจ ต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อพระได้ ก็เลยคิดนิดหน่อยว่า งั้นก็ไม่ต้องมาเลยดีไหม ออกไปเลยดีไหม คนอื่นจะได้มาว่าคริสต์ไม่ได้อ่า แต่ก็คิดสับสนนะคะ ว่าจริงๆแล้ว เค้าทำถูกแล้วหรือเปล่าในกรณีที่บอกว่า ต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อพระ เค้ารักพระมากกว่าเราหรือเปล่า เรายึดทางโลกมากไปหรือเปล่า แบบว่าสับสน แห่ะๆๆๆๆ (จิตตกไปเหมือนกันค่ะ)
Valkyrie Zero Number เขียน:
มาอีกแล้วเรื่องระหว่างนิกายที่ชวนให้หมองใจ
เห็นเรื่องแบบนี้ทีไร อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าไม่มีการแยกนิกายมาแต่แรกจะดีไหม และรู้สึกว่าในฐานะคริสเตียนโปรแตสแตนท์ เหมือนตัวเองทำผิดไปเสียอย่างนั้น
........เมื่อก่อนเราเคยคิดว่า ทุกคนควรมีอิสระที่จะเลือก มีอิสระที่จะเชื่อ มีอิสระที่จะแปลกแยกแต่ไม่ทำร้ายซึ่งกันและกัน มีอิสระที่จะแตกต่าง
แต่ยิ่งนานวันผ่านไป เรายิ่งรู้สึกอยากหันมาสนับสนุนแนวคิด "หนึ่งเดียว อันเดียว สิ่งที่ผิดไปควรจะกำจัดให้หมด ถึงจะรักษาสิ่งที่ถูกเอาไว้ได้"
ไม่รู้พระบิดาเจ้าบนสวรรค์จะได้ยินความคิดเราไหมนะ
ฮ่าๆๆๆๆ จริงๆเชื่อว่าการมีหลายนิกาย อาจจะทำให้คนเราเข้าถึงพระได้ง่ายขึ้นหน่ะค่ะ เหมือนมีหลายทางเลือก ไม่เคร่งครัดจนเกินไปในบางนิกาย คนนับถือแล้วสบายใจ แต่ก็รักพระและพบพระองค์เช่นกัน (คิดเช่นนั้นจริงๆ จึงไม่เคยคิดจะว่านิกายอื่นผิด แต่ก็หวังว่าคนอื่นนิกายอื่น รวมศาสนาอื่นจะไม่ว่าคาทอลิกอ่ะค่ะ)^__^
Grey Cat =^. .^= เขียน:
Deo Gratias เขียน:
การไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ไม่ได้เป็นเครื่องวัดว่าบังเกิดใหม่ค่ะ
ชอบคำนี้จัง ><
ถูกใจเหมือนกันค่ะ ^__^
~@Little lamb@~ เขียน:
ไม่ผิดหรอกค่ะ ถ้าเขาพาลจะทำให้เราเสียไปด้วย
ก็จำเป็นต้องปล่อยเขาไป เพราะมันเกินกำลังของเรา
จากเฉย ๆ จะกลายเป้นเกลียดเขาได้ สวดภาวนาให้เขาแทนแล้วกันค่ะ
ใช่เลยค่ะ ตอนนี้เริ่มเกลียดๆเค้านิดหน่อย แล้วเค้าก็เป็นที่รังเกียจของทั้งกลุ่มไปแล้ว ก็เหลือเราคนเดียวที่ยังคุยด้วย เลยรู้สึกเหมือนผิดที่ไม่อดทน ไม่พลีกรรมเพื่อพระอ่ะค่ะ เวลาเงียบๆห่างๆก็ตั้งใจว่าจะทำเพื่อพระ แต่พอคุยด้วยทีไร ต่อมความเลวมันแตกทุกที แห่ะๆๆๆ
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน:
ผมมองคนพวกนี้เป็นแมลงวันครับ ใล่ตบไปก็เจ็บมือเปล่าไม่โดนหรอกปล่อยไปดีกว่า
ฮ่าๆๆๆๆ เอาไม้ช๊อตยุง ไล่ตีเลยดีเปล่าค่ะ ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นนะคะ ^__^
Trinity เขียน:
อ่า ก็ลองถามเขากลับไปสิครับ ว่า คุณเป็นคริสเตียน ที่ทำดียังนั้นยังนี้ แล้ว คุณเอาสิทธิที่ไหนมาพิพากษาคนอื่น ว่าคนบาปไม่กลับใจ ถ้าเขาทำอย่างนั้น เขาจะต่างอะไร กับ พวกฟาริสี และ พวกธรรมจารย์ ที่เวลาอดอาหารก็ทำตัวให้ดูหน้าซีดเซียว ทำให้ดูเหมือนดี เพื่อหวังคำเยินยอสรรเสริญว่าตัวเองทำดีที่สุดเพื่อพระเจ้า เขาต่างอะไรจากพวกธรรมจารย์ที่ยืนสวดอยู่ที่ชุมชน เพื่อให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองเป็นคนศรัทธา แล้วคอยตัดสินผู้อื่น การที่เขาว่าผู้อื่นอย่างนั้นโดยไม่ได้ศึกษา หรือ ดูว่า คาทอลิก ได้เชื่อ ได้ปฏิบัติตนให้สมกับเป็นลูกพระเจ้าหรือไม่ เอาแต่ความรู้สึกมาตัดสิน อันนี้ก็ผิดตามหลักการณ์พระคัมภีร์แบบจังๆเลยครับ เอ แล้วเขาเป็นคริสเตียนประเภทไหนนี่ เรื่องแค่นี้ก็ต้องให้บอก
นั่นแหล่ะคะ บอกตามนั้นเลย แล้วเค้าก็บอกแต่ว่า ไม่กลับใจ ไม่กลับใจ ถามอะไรไปก็แถไปโน่น ในที่สุดเลยคั้นว่า ตกลงเค้าเคยเป็นคาทอลิกมาก่อนเป็นคริสเตียนไหม (จริงๆทุกนิกายถือว่าคริสเตียนเนอะ แต่ของเค้าเป็นโปรแตสแตนท์ แต่เค้าไม่เข้าใจว่าโปรแตสแตนท์คืออะไร เค้ารู้แต่ว่าเป็นคริสเตียน แห่ะๆๆๆ) เค้าก็แถไปแถมา เราก็ถามเค้าจนในที่สุดก็ตอบว่า เกิดมาไม่ได้ถือคริสเตียนเลย แต่เค้ารู้ว่าเค้าได้เกิดในพระเจ้า เกิดมาเพื่อเป็นคริสเตียนตั้งแต่เด็ก แต่เค้าเพิ่งรู้จักคริสเตียน และเปลี่ยนประมาณ 3 ปี คือเค้าแถตลอดอ่ะค่ะ คุยด้วยแล้วต่อมเลวแตกตลอด ฮ่าๆๆๆๆ
* ST. Dominic * เขียน:
"ต้นไม้และผล" มัทธิว 12 : 33-37
"พึงกล่าวอย่างหนึ่งว่าต้นดีผลก็ดี หรือต้นเลวผลก็เลวด้วย
เราจะรู้จักต้นไม้ด้วยผลของมัน โอชาติงูร้าย
เจ้าเป็นคนชั่วแล้วจะพูดความดีได้อย่างไร ด้วยว่าปากนั้นพูดจากสิ่งที่มาจากใจ
คนดีก็เอาของดีมาจากคลังแห่งความดีในตัวของเขา
คนชั่วก็เอาของชั่วมาจากคลังแห่งความชั่วในตัวของเขา
ฝ่ายเราบอกเจ้าทั้งหลายว่า คำที่ไม่เป็นสาระทุกคำซึ่งมนุษย์พูดนั้น
มนุษย์จะต้องรับผิดในถ้อยคำเหล่านั้นในวันพิพากษา เหตุว่าที่เจ้าจะพ้นโทษได้
หรือจะต้องถูกปรับโทษนั้น ก็เพราะวาจาของเจ้า"
( " ผู้กล่าวคำโกหก ไม่ทำชั่วไม่มี " )
( วาจาส่อภาษา กิริยาส่อสกุล )
ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
^__^ คงต้องเอาพระคัมภีร์ข้อนี้ไปบอกเค้า เผื่อว่า เค้าจะได้เข้าใจว่าการทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ดีกว่าที่เค้าเอาแต่สอนคนอื่น แล้วก็ตำหนิคนอื่น โดยไม่เป็นแบบอย่าง (จริงๆ ก็พยายามบอกไปแล้ว แต่เค้าก็แถอยู่ดี) ขอบคุณนะคะ ^__^