บ้านผมก็เคร่งศาสนาพุทธ เข้าวัดเข้าวาเป็นประจำ
แถมพระเครื่อง ตระกุดเต็มบ้าน
แต่ผมก็ยังเชื่อ และคิดว่าแม่น่าจะรับได้
แต่พ่อนี่คงจะไม่
แ่ต่สำหรับในความคิดผมน่ะ
ผมไม่อยากไปโบสถ์คนเดียวหรอก
แต่ในใจผมก็นึกขอบคุณพระองค์ที่ทำให้มีเรื่องต่างๆมา
ทำให้รู้ว่าพระองค์ไม่เคยห่างจากผมเลย
จากเด็กคนนึงที่เดินเล่นในตลาดนัดแล้วไม่รู้ว่า
สร้อยที่เป็นรูปไม้กางเขนคือเครื่องหมายของศาสนาคริสต์
แต่ผมยังซื้อมาใส่
จนผมมาพบกับศาสนาคริสต์อีกครั้งเมือผมชอบผู้หญิงคนหนึ่ง
ผมได้ไปประกอบพิธีทางศาสนาในโบสถ์ครั้งแรกก็เพราะเขา
แต่น่าเสียใจยิ่งนักเนื่องจากผมได้ไปโบสถ์เพราะคุณพ่อของเขาเสียชีวิต
ตอนนั้นผมก็ได้รู้จักพระคริสต์มากขึ้นเพราะได้เห็นในความศรัทธาของเขา
ผมรู้สึกว่าเขามีที่พึ่งและมีความหวัง
ผมจึงลองสนใจและศึกษาดูบ้างถึงแ่ม้จะไม่ได้ไปโบสถ์ก็ตามที
จนกระทั่งเขารู้ว่าผมชอบเขา และเขาก็พยายามบอกผมว่า
"ฉันไม่ได้ชอบคุณหรอก ฉันก็แค่หลอกใช้คุณไปอย่างนั้นเอง "
ถ้าผมไม่ได้เรียนชั้นเดียวและห้องเดียวกับเธอ
ผมคงเกลียดเขาไปจนวันตาย
นับตั้งแต่วันนั้นผมก็พยายามออกห่างจากเธอ
แต่ก็เหมือนผมจะเดินออกห่างจากพระคริสต์ด้วย
ผมไร้ความหวังเมื่อทราบว่าเธอได้ไปชอบกับคนที่ชอบเธอมาตลออดหลายปี
ผมหายไปนานมาก
ตอนนั้นผมยอมรับเลยว่าตัวผมเองไม่มีความหวังอะไรเลย
ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมสิ่งที่ผมทำมันต้องมีเงื่อนไข
หลังจากนั้นผมก็พยายามหาที่พึ่งทางใจมาโดยตลอด
ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ทำไม
ผมยอมรับว่าผมเองเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องพวกเครื่องราง ของขลัง ตระกุด พระเครื่องเลย
ผมพยายามทำใจเืชื่อของเหล่านั้น แต่แล้วมันก็ไม่เป็นผลเลย
เวลานั้นผมก็พยายามทำทุกๆอย่างเพื่อให้ตัวเองค้นพบ
แต่ผมรู้สึกว่า มันก็ไม่ได้ทำให้เพิ่มความเชื่อในวัตถุเหล่านั้นขึ้นเลย
แต่ผมก็ยังคงนับถือ เนื่องจากตระกูลผมเป็นพุทธ
จนมีผู้หญิงคนหนึ่งมาร่วมงานกับผม
ครั้งแรก ผมก็ไม่ได้รู้หรอกว่าเธอเป็นคริสต์
จนไปเห็นที่ information ของเธอจรึงทราบว่าเธอเป็นคาทอลิก
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เธอมาเพิ่มความเชื่อของผม
เพราะญาติของเธอได้มอบกางเขนมาให้ผม
และผมก็คล้องมาจนถึงทุกวันนี้
เธอเป็นคนแรกในชีวิตที่พาผมไปโบสถ์
จนผมหลงรักเธอโดยทีั่่่่เธอเองก็ไม่รู้
วันนั้นผมอธิฐานกับพระรูปว่า ผมจะดูแลเขาให้ดีที่สุด
ผมนั่งอยู่กับเธอในโบสถ์
แต่ผมก็ไม่เคยบอกเธอเลยว่าผมคิดยังไง
เพราะผมกลัวว่า ความรักจะทำให้ผมสูญเสียเหมือนกับที่ผมเคยพบมา
เธอเป็นคนแรกที่ทำให้คนที่ไม่เคยร้องไห้มาเป็นสิบปีร้องไห้เพราะเสียใจ
ผมพยายามเปลี่ยนความคิดเขาหลายครั้งที่ว่า
คนเราชอบกันเพราะหน้าตา
ผมพยายามทำทุกๆอย่างเพื่อเปลี่ยนใจ
เพราะที่ผ่านๆมา เขาก็คงไม่เคยๆพบคนแบบนี้
แต่สิ่งที่ผมทำน่ะ ผมทำด้วยใจทั้งหมด
วันที่เขาไม่สบาย ไครกระวนกระวาย ถ้าไม่ใช่ผม
วันที่เขาเครียด เหนื่อย อ่อนล้า เสียใจ ไครร้องไห้ล่ะ ถ้าไม่ใช่ผม
วันนี้ ผมไม่อยากบอกตัวเองอีกต่อไปว่า ไกล้จะหมดเวลาอีกแล้ว
ซึ่งผมก็รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ผมเสียใจที่ผ่านมา ผมก็ทำดีที่สุด
แต่ผมก็ถูกหลอกใช้มาตลอด
ผมแค่อยากได้รับกำลังใจเล็กๆน้อยๆบ้าง
ผมจะไม่มีโอกาสเลยอย่างนั้นหรือ
ตอนนี้เขาคงรู้ตัวแล้ว ทุกๆสิ่งไม่ใช่ผมที่เป็นคนตัดสินใจ
แต่มันเป็นตัวของเธอว่าจะให้เวลาผมเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง
เขาจะเข้าใจผมบ้างไหม ?
ผมทำถึงขนาดนี้แล้ว
ผมแค่อยากให้เค้ารู้ว่า คนเรามองกันที่จิตใจได้ไหม ?
ขอปรับทุกข์หน่อยนะครับ ผมไม่รู้จะพูดยังไงอีกต่อไปแล้ว
ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่มีไครมาว่าผม
มี 2 คนครับ
คนแรกที่เขาบอกว่าหลอกใช้ผมครับ
แล้วผมก็มาเจออีกคนนึงตอนร่วมงานกัน
มี 2 คนครับ
คนแรกที่เขาบอกว่าหลอกใช้ผมครับ
แล้วผมก็มาเจออีกคนนึงตอนร่วมงานกัน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ก็ศึกษากันต่อไป ในทุกศาสนา ทุกคณะ/นิกาย ก็ยังมีคนชอบโกหกเสมอ ขอให้คุณหมายเอาพระเยซูคริสต์ เป็นหลักชัย
แล้วจะไม่ผิดหวัง ขอให้รู้จักพระเยซูเพราะทรงเป็นพระเจ้าที่เที่ยงแท้ ไม่ใช่พระผู้หญิงครับ
แล้วจะไม่ผิดหวัง ขอให้รู้จักพระเยซูเพราะทรงเป็นพระเจ้าที่เที่ยงแท้ ไม่ใช่พระผู้หญิงครับ
ผมกลับใจแล้วครับ
ผมพร้อมรับเืชื่อแล้วครับ
ตอนนี้อยู่ระหว่างการปรึกษาเพื่อน
คิดไว้มา 2 ปีแล้วkattaro เขียน:นั่นอาจจะเป็นวิธีพระเจ้าทรงเรียกคุณให้กลับใจก็ได้นะครับ
ผมพร้อมรับเืชื่อแล้วครับ
ตอนนี้อยู่ระหว่างการปรึกษาเพื่อน
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
พระเจ้าอวยพรครับ ขอบคุณพระเจ้า
เข้าใจนะครับ สู้ๆๆๆ