การจากลา เพื่อพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
HOLY DANCE
โพสต์: 159
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 03, 2011 5:53 pm

เสาร์ พ.ค. 07, 2011 11:12 pm

ในหนึ่งชีวิตของคนๆหนึ่งนั้น มากด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาในชีวิต เกี่ยวข้องด้วยเหตุผลต่างๆกัน เมื่อเรายังเด็ก เรามีพ่อแม่คอยอุ้มชูเลี้ยงดูฟูมฟัก พอเราโตขึ้น เริ่มออกสู่สังคม พบปะผู้คน ไปโรงเรียนพบเจอคุณครูผู้สั่งสอนและให้ความรู้ ผู้หลักผู้ใหญ่ และเพื่อนๆ ดีบ้างไม่ดีบ้างต่างกันไป บางคนนั้นโชคดี ที่เกิดมาแวดล้อมด้วยสิ่งดีๆมีคุณพ่อคุณแม่ให้ความอบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้า มีเพื่อนที่จริงใจและปรึกษากันได้แม้เรื่องจริงจังหรือเรื่องขำขัน แต่บางคนนั้น อาจเรียกว่าเป็นโชคร้าย เคราะห์กรรม หรือการลงโทษจากพระเจ้า ก็ว่ากันไปตามภาษาของมนุษย์ที่ไม่สามารถหยั่งรู้อะไรได้นอกเหนือสติปัญญาของตนเอง อาจไม่มีพ่อแม่ อาจเจอผู้คนที่ไม่ดีมาตลอด หรือไม่สามารถปรับตัวเข้ากับคนรุ่นเดียวกันได้ ภาวะจิตใจที่เกิดปัญหาเร้นลับเป็นชั้นความละเอียดซับซ้อนราวเขาวงกตที่แม้ตัวของตัวเองก็ยังมิอาจหยั่งรู้ถึงได้ ฉะนั้น เมื่อเจอใครซักคน คนๆนั้นที่สามารถมองทะลุปัญหาและเห็นอกเห็นใจ ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า เหมือนแสงสว่าง

ใจผมอ้างว้างมานาน เคยคิดหวังไว้ว่าซักวันหนึ่งจะได้เจอ "เพื่อนแท้" ที่ผมสามารถคุยทุกๆอย่างได้แม้เรื่องความลับที่ลึกที่สุด คนที่สามารถมองเห็นผมได้ทะลุปรุโปร่ง ในวันหนึ่งที่เหมือนฝันเป็นจริง พระเป็นเจ้าทรงประทาน "เพื่อน" ที่หัวใจผมร่ำร้องมาโดยตลอด มาให้กับผม ในบางครั้งพวกเรามักชอบนั่งคุยกันนานๆ เล่าสารทุกข์สุกดิบที่เจอในชีวิตประจำวัน ปรับทุกข์หนุนใจซึ่งกันและกัน ซึ่งในความจริงแล้ว เขามักเป็นผู้บรรเทาใจผมมากกว่า เขาสอนให้ผมเรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย ซึ่งจำเป็นในชีวิตบนเส้นทางแห่งกางเขน สอนให้รู้จักสิ่งต่างๆและเปิดเผยถึงความเข้าใจซึ่งเขามองเห็นความล้ำลึกในหัวใจที่ปิดกั้นต่อบุคคลภายนอกมานาน เวลาที่ผมร้องไห้ เวลาที่ผมเจ็บปวดรวดร้าวใจ เขาไม่เคยลังเลที่จะกางแขนโอบกอดพร้อมกับมือที่คอยเช็ดน้ำตาทุกหยด ความเมตตาและหัวใจบริสุทธิ์ของเพื่อนคนนี้เปรียบเสมือนของมีค่ามหาศาลชิ้นหนึ่งของชีวิต ใจผมปรารถนาขอให้ของล้ำค่าชิ้นนี้คงอยู่ต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เคียงคู่ชีวิตของผมตลอดการเดินทางบนโลกใบนี้

แต่ทุกชีวิตนั้นมีเส้นทางของตนเอง เมื่อเวลาผันผ่าน สมบัติล้ำค่าของผมจำต้องจากถิ่นๆเดิมไปยังที่แห่งใหม่ เพื่ออนาคตของเขาเอง และเพื่อความหวังของพ่อแม่ที่คอยเฝ้าดูความสำเร็จยิ่งใหญ่ของเขาอย่างใจจดใจจ่อ ผมใจหาย สมบัติของผมกำลังจะจากผมไป เราอาจไม่มีเวลานั่งคุยปรับทุกข์หนุนใจซึ่งกันและกันดั่งในครั้งก่อน อาจไม่มีใครคอยช่วยเหลือแนะนำเมื่อผมเผชิญกับปัญหาที่ยากเกินแก้ไข แล้วเมื่อผมเป็นทุกข์เสียใจ และ...ร้องไห้ อาจไม่มีอีกแล้ว ซึ่งอ้อมกอดบรรเทาใจนั้น ไม่มีมือนั้นซึ่งคอยบีบมือผม เพื่อส่งผ่านกำลังใจบรรเทาทุกข์ต่างๆที่มี

ผมมีสิทธิ์ใดที่เรียกร้องได้อย่างนั้นหรือ เขาเป็นผู้มีอัธยาศัยดี และเข้ากับผู้คนอื่นๆได้ง่าย บนโลกนี้มีคนดีๆมากมาย ทั้งคนที่อัธยาศัยดี คนที่เก่งในการงาน มีหน้ามีตาในสังคม บุคคลที่มีฐานะร่ำรวยด้วยเงินทองและเครื่องอำนวยความสะดวกสารพัด หากเพื่อนของผมได้สมาคมกับบุคคลที่สูงส่งเช่นนี้แล้ว ไม่เป็นอันแปลกเลยหายจะลืมเลือนซึ่งมิตรภาพของเรา
แต่ผมซึ่งยากต่อการเป็นมิตรสนิทกับผู้อื่นแล้ว จะยังคงอาลัยต่อเขาเนิ่นนานนับปี ยามคำนึงถึงครั้งใดยิ่งทวีความโหยหาอาวรณ์มิรู้สิ้นสุดหาผู้ใดมาแทนมิได้เลย

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ทุกสิ่งโดยรอบสุดขอบจักรวาลนั้นหาใช่สมบัติของผู้ใดผู้หนึ่งไม่ ทั้งหมดล้วนเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้สรรสร้างเสกสรรสิ่งสารพัด พระองค์ทรงเป็นพระบิดาเจ้าของทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ไม่มีใครเป็นเจ้าชีวิตซึ่งกันและกัน หากแต่พระองค์นั้นเองเป็นเจ้าชีวิตของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะชาย หรือหญิง เด็ก หรือผู้ใหญ่ และพระองค์นั้นเองที่ทรงกำหนดเส้นทางชีวิตของพวกเราแต่ละคนในน้ำพระทัยอันเป็นมงคลยิ่งของพระองค์ เพื่อนที่รักไม่ใช่สมบัติของผม แต่ทั้งเขาและผมเป็นสมบัติของพระองค์ เเละเป็นแผนการแห่งสิริของพระเป็นเจ้า ซึ่งให้เราทั้งสองคนต้องเดินหน้าต่อไปในพระญาณสอดส่องของพระองค์ เพื่อพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ที่พระองค์ทรงสถาปนาไว้ เพื่อความรอดของคนเป็นอันมากในอนาคต และพระองค์ทรงเข้าพระทัยถึงการจากลาเสมอ เพราะเหตุนี้ ที่พระบุตรแต่องค์เดียวของพระองค์ต้องจากสวรรค์บ้านพระบิดาลงมาสิ้นพระชนม์ในเเดนเนรเทศเพื่อนำลูกๆผู้หลงทางทั้งหลายกลับบ้าน คริสตชนผู้เป็นส่วนต่างๆในพระกายของพระคริสตเจ้าย่อมมีเส้นทางของตนเองในการเดินไปข้างหน้า และการจากลานั้นย่อมเป็นสัจธรรม เพื่อนำเราทุกคนกลับเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งในชีวิตนิรันดร์

ผมน้อมรับพระดำรัสด้วยน้ำตา แม้ยอมรับแล้วก็ไม่อาจคลายเศร้าของหัวใจซึ่งเพื่อนรักต้องลาจากในไม่ช้า ความเงียบเหงาที่มีมานานเมื่อเจอคนๆหนึ่งที่สนิทสนมกับเราเสมอมักทำให้เราทึกทักปลอบใจตนเองเสมอว่า "เขา" คือสมบัติล้ำค่าของเรา ราวกับเวลาฟ้าเเจ้งซึ่งคล้ายกับผืนฟ้าสีน้ำเงินสดใสได้โอบกอดพระอาทิตย์ไว้ในอ้อมอก แต่อันที่จริงแล้ว พระอาทิตย์ไม่ได้เป็นกรรมสิทธ์ของใคร พระอาทิตย์นั้นเป็นของๆตัวเอง เป็นแสงสว่างจ้าส่องอาบทุกสรรพชีวิตบนโลก ส่องอาบผืนฟ้าให้สดใส

บางทีในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา อาจมีใครซักคนที่เดินเข้ามาเอื้อหวานให้เอ่อชุ่มชื่นใจ สร้างสีสันให้กับชีวิต สรรเสกรอยยิ้ม เเต่งเติมวาดภาพสดใสประดับลมหายใจให้ไม่หม่นหมองด้วยเหวน้ำตาของโลก และเมื่อถึงเวลาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนด "เขา"ก็ผ่านไปตามกรรมสิทธิ์และเส้นทางที่เขาเลือก เพื่ออนาคตของตัวเขาเองและบุคคลอันเป็นที่รักของตน ตามเส้นทางแห่งชีวิตของเขา โดยมีเพียง "เรา" ที่เฝ้าบอกความคิดถึงถึงวันก่อนด้วย...

"คำภาวนา"
HOLY DANCE
โพสต์: 159
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 03, 2011 5:53 pm

เสาร์ พ.ค. 07, 2011 11:24 pm

ผู้ถวายตัวจากลาบ้านเกิด จากพ่อแม่ จากญาติมิตร ฝึกฝนตนในบ้านเณร เพื่อเป็น "พระสงฆ์ของพระคริสต์"
ผู้ชายและผู้หญิงละพ่อแม่ของตนมาอยู่ร่วมกัน เป็นสามี-ภรรยาที่ดี เพื่อมนุษย์ใหม่ ที่กำลังจะเกิดมา เพื่อสมาชิกใหม่ในพระศาสนจักร
มิชชันนารีละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนของตน เพื่อเทศสั่งสอน เผยแผ่พระคริสตเจ้าให้โลกได้รับรู้
มรณสักขีละทิ้งชีวิตของตนเอง เพื่อความเชื่อ
อัครสาวกละทิ้งตนเอง ละทิ้งบ้าน ละทิ้งความสุขสบาย เพื่อยืนยันความจริงของพระคริสต์

"พระคริสต์ ละทิ้งพระเทวภาพ ละทิ้งพระสิริรุ่งโรจน์ เพื่อเรา...ทุกคน"
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6040
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2011 1:07 pm

ทำใจซะ สวดให้ สวดให้..... :s015:
francisco xavier
โพสต์: 300
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am

อังคาร ส.ค. 02, 2011 1:02 pm

พระเจ้าทรงประทานความบรรเทาใจให้เราเสมอ แต่อย่าลืม เราก็ต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ทั้งในทางร่างกายและจิตวิญญาณด้วย การที่เราพรากจากคนที่รักนั้นเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่การที่พระเจ้าจะทรงนำเรากลับมาพบกันอีกครั้งนั้นน่าชื่นชมยินดียิ่งกว่า แล้วเรื่องราวในอดีต ความเจ็บปวด และหยดน้ำตาก็จะกลายเป็นเพียงความทรงจำในวัยเด็กที่แสนสวยงาม
ตอบกลับโพส