จงขอ แล้วจะได้รับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 22, 2012 10:44 pm
ผมสัีงเกตเห็นหลายคนในนี้นะครับ เฉพาะคนที่เสียความเชื่อแล้วกัน
เพราะเชื่อก็ไม่ได้ ขอแล้วก็ไม่เห็นผล ผมอยากแบ่งปันอะไรนิดนึง เท่าที่จำได้แบบชัดๆ
ความเดิม: ผมเป็นคาทอลิกตั้งแต่เกิด ตั้งแต่อนุบาลถึง ม.6 (จำได้ว่าสมัยอนุบาลก็สวดวันทามารีอาแล้วครับ) คลุกคลีกับพระมานาน ทางโรงเรียนมีสอนคำสอนทุกวันตอนเช้า และทางบ้านก็พาไปวัดวันอาทิตย์อยู่บ่อยๆ
นี่คือสิ่งที่ผมขอแล้วได้ โดยที่ขอแล้ววางใจให้พระจริงๆ
1. ผมเรียนกากมากสมัย ม.ต้น แม่ว่าตลอดว่าเกรด 2 กว่าๆ ผมเองก็เครียด ผมใช้เวลาประมาณ ตอน ม.2-ม.3 ภาวนาขอพระแค่ว่า อยากให้เกรดถึง 3 สักที จะ 3 เท่าไหร่ก็ได้ แต่ขอให้ถึง 3
ผมได้เกรดตอนจบ ม.3 เทอม2 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.01! (เก็บใบผลไว้ ดูได้)
2. ม.ปลาย ผมภาวนาขอให้สอบติดลาดกระบัง เพราะผมตั้งใจจะเข้าสถาปัตย์ลาดกระบัง และทั้ง ม.ปลายก็ทุ่มความฝันเพื่อตรงนี้ แต่ก็วางใจในพระตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าพระจะไม่ช่วย
ผมสอบตรง มศว. ศิลปากร และลาดกระบัง ทั้ง 3 ที่ ซึ่งตอนนั้นเปิดสอบรอบแรก และประกาศผลวันเดียวกันด้วย แต่เมื่อวันประกาศผล ไม่ติดสักที่ครับ! 555+
แต่ๆๆ มันไม่ได้สะทกสะท้านผมเท่าไหร่นะ คือเสียใจอะแน่ๆ แต่ก็รู้สึกลึกๆว่า มันไม่จบแค่นี้หรอก
จบไม่จบไม่รู้ พอถึง ม.6 เทอมสุดท้าย เพื่อนผมสอบตรงติดกันเกือบหมดห้อง มีผมกับอีกนิดหน่อยที่เตรียมเข้าเอกชน กดดันไหม? กดดันแน่นอน แต่! ไม่ทิ้งพระ ไม่ทิ้ง ไม่ทิ้ง ไม่ทิ้ง ยังครบ 100
พระต้องมีอะไรให้เราสิน่า เพียงแต่มันลึกล้ำเกินกว่าเราจะรู้
ผมคิดแบบนี้ตลอด จนกระทั่ง ผมย้ายเข้าเอแบค ซึ่งตอนนั้นเป็นอินเทนซีฟคอร์สประมาณ 1 เดือนก่อนเข้าเรียนจริง ผมเองก็ย้ายกระเป๋าเข้าไป มีหอพักเรียบร้อยหมด คือประมาณ 90 เปอร์เซนต์ คงต้องอยู่ที่นี่จริงๆ..
มีพลังบางอย่าง ความมั่นใจบางอย่าง บอกเสมอว่า..
ไม่ใช่ที่นี่หรอก เราไม่ลงเอยที่นี่..
..พระจัดให้..ต้องจัดให้ดิ..
ทั้งๆที่เตรียมเรียนแล้วแท้ๆ จ่ายตังก็แล้ว พร้อมเรียน!
วันหนึ่งก่อนจบคอร์สประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อนผมกระซิบบอกว่า มีเค้าว่า
ลาดกระบังจะเปิดรับอีกรอบสอง ประมาณ 15 คน
ผมไม่รอช้า นี่เป็นโอกาสแล้ว พระให้เราแล้ว
ผมเฝ้าติดตาม จนกระทั่งเค้าเปิดรับเพิ่มจริงๆ ซึ่งตอนนั้นไม่มีสอบอีกแล้ว อาจเป็นสอบนิเทศศิลป์สุดท้ายที่เปิดอยู่ในปีนั้นก็เป็นได้!
จนถึงวันที่ผมไปสอบ
คือติดไม่ติดไม่รู้ ความสามารถถึงไหมไม่รู้ มีแต่ใจที่เชื่อในพระ เข้าไปในห้องสอบ
สอบ สอบ สอบ สอบ ..
พลังที่กระซิบอยู่กับผมตอนเอแบคยังคงกระซิบอยู่ตลอดว่า "ได้"
ผมทำข้อสอบเสร็จ กลับบ้านกับแม่
เราั้ทั้งคู่วางใจพอๆกันว่า พระมาทันเวลาเสมอ..
..
ตอนนี้ผมอยู่นิเทศศิลป์ ลาดกระบัง ในฐานะหนึ่งในเด็กที่ผ่านเข้าไปรอบสอง
อย่าง.. งงๆ (ไม่งงหรอก พระทั้งนั้น)
3. อาม่าผม ลื่นล้มในห้องน้ำ หัวกระแทกพื้นจนสลบไป หลังจากนั้นก็มีอาการคล้ายนิทรา คือนอนอย่างเดียว แต่ไม่รู้สึกตัว ซึ่งอาม่าของผมเป็นคาทอลิกที่ศรัทธามาก อย่างไรก็ตาม ทุกคนลูกหลานต่างกลัวว่าอาม่าจะไม่ฟื้นอีก เพราะเลือดคั่งไปมากแล้ว
..วันหนึ่งอาม่าก็ได้ถูกย้ายมาที่บ้าน พร้อมสายออกซิเจนประทังชีวิตไปวันๆ โดยหวังว่าเค้าอาจฟื้น
ผมมีโอกาสได้ไปเยี่ยม..
..ผมขอพระ ขอโอกาสให้เค้าฟื้น ให้เขาฟื้นขึ้นมา..
ผมเอามือแตะมือของอาม่า ด้วยความเชื่อเต็มที่ว่า พระจะให้..
ขากลับ ผมกับแม่สวดพร้อมกันในรถอีกหน..
หลังจากนั้นประมาณ สองอาทิตย์
อาม่าของผมฟื้นที่โรงพยาบาล ขณะฟอกเลือด (โรคไต)
พร้อมสติ และความจำทุกอย่างอยู่ครบหมด!
คุยกับผมรู้เรื่อง ด่าผมอย่างที่เคยด่าเป๊ะๆ
ผมเข้าใจว่าคนที่สมองกระแทกจนนิทราไปเดือนกว่าๆ คงไม่ฟื้นพร้อมสติสัมปัญชัญญะ ที่รู้เรื่องแบบนี้!
ทั้งๆที่อาม่าผมอายุเกือบ 90 แล้ว
ครับ ผมกับแม่ และอากู๋อีกคนได้มีโอกาสคุยกับเขาในช่วงเวลานั้น
แต่อย่างไรก็ตาม ประมาณ 1 อาทิตย์ถัดมา เขาก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม คือนอนหลับไปไม่ฟิ้นอีกเลย
พระให้โอกาสอาม่าผม ได้พูดคุยครั้งสุดท้าย เฉพาะกับผม แม่ และอากู๋บางคนเท่านั้น
และหลังจากนั้น พระองค์ก็จัดการกับธรรมชาติของการจากไป ราวกับจะบอกผมกับแม่ว่า
"เราให้สิ่งที่เจ้าขอแล้ว"
** ทุกคนสามารถทำอะไรได้ทั้งนั้นแหละครับ หากอาศัยพลังของพระ จงเชื่อในพลังของพระ
อย่ากังวล อย่าลังเล อย่ากลัวว่าจะไม่ได้ หากเราเห็นพระ พระอยู่กับเรา ผมรับประกัน ด้วยความร่วมมือของเราและพระ ทุกอย่างได้หมดครับ
เพราะเชื่อก็ไม่ได้ ขอแล้วก็ไม่เห็นผล ผมอยากแบ่งปันอะไรนิดนึง เท่าที่จำได้แบบชัดๆ
ความเดิม: ผมเป็นคาทอลิกตั้งแต่เกิด ตั้งแต่อนุบาลถึง ม.6 (จำได้ว่าสมัยอนุบาลก็สวดวันทามารีอาแล้วครับ) คลุกคลีกับพระมานาน ทางโรงเรียนมีสอนคำสอนทุกวันตอนเช้า และทางบ้านก็พาไปวัดวันอาทิตย์อยู่บ่อยๆ
นี่คือสิ่งที่ผมขอแล้วได้ โดยที่ขอแล้ววางใจให้พระจริงๆ
1. ผมเรียนกากมากสมัย ม.ต้น แม่ว่าตลอดว่าเกรด 2 กว่าๆ ผมเองก็เครียด ผมใช้เวลาประมาณ ตอน ม.2-ม.3 ภาวนาขอพระแค่ว่า อยากให้เกรดถึง 3 สักที จะ 3 เท่าไหร่ก็ได้ แต่ขอให้ถึง 3
ผมได้เกรดตอนจบ ม.3 เทอม2 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.01! (เก็บใบผลไว้ ดูได้)
2. ม.ปลาย ผมภาวนาขอให้สอบติดลาดกระบัง เพราะผมตั้งใจจะเข้าสถาปัตย์ลาดกระบัง และทั้ง ม.ปลายก็ทุ่มความฝันเพื่อตรงนี้ แต่ก็วางใจในพระตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าพระจะไม่ช่วย
ผมสอบตรง มศว. ศิลปากร และลาดกระบัง ทั้ง 3 ที่ ซึ่งตอนนั้นเปิดสอบรอบแรก และประกาศผลวันเดียวกันด้วย แต่เมื่อวันประกาศผล ไม่ติดสักที่ครับ! 555+
แต่ๆๆ มันไม่ได้สะทกสะท้านผมเท่าไหร่นะ คือเสียใจอะแน่ๆ แต่ก็รู้สึกลึกๆว่า มันไม่จบแค่นี้หรอก
จบไม่จบไม่รู้ พอถึง ม.6 เทอมสุดท้าย เพื่อนผมสอบตรงติดกันเกือบหมดห้อง มีผมกับอีกนิดหน่อยที่เตรียมเข้าเอกชน กดดันไหม? กดดันแน่นอน แต่! ไม่ทิ้งพระ ไม่ทิ้ง ไม่ทิ้ง ไม่ทิ้ง ยังครบ 100
พระต้องมีอะไรให้เราสิน่า เพียงแต่มันลึกล้ำเกินกว่าเราจะรู้
ผมคิดแบบนี้ตลอด จนกระทั่ง ผมย้ายเข้าเอแบค ซึ่งตอนนั้นเป็นอินเทนซีฟคอร์สประมาณ 1 เดือนก่อนเข้าเรียนจริง ผมเองก็ย้ายกระเป๋าเข้าไป มีหอพักเรียบร้อยหมด คือประมาณ 90 เปอร์เซนต์ คงต้องอยู่ที่นี่จริงๆ..
มีพลังบางอย่าง ความมั่นใจบางอย่าง บอกเสมอว่า..
ไม่ใช่ที่นี่หรอก เราไม่ลงเอยที่นี่..
..พระจัดให้..ต้องจัดให้ดิ..
ทั้งๆที่เตรียมเรียนแล้วแท้ๆ จ่ายตังก็แล้ว พร้อมเรียน!
วันหนึ่งก่อนจบคอร์สประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อนผมกระซิบบอกว่า มีเค้าว่า
ลาดกระบังจะเปิดรับอีกรอบสอง ประมาณ 15 คน
ผมไม่รอช้า นี่เป็นโอกาสแล้ว พระให้เราแล้ว
ผมเฝ้าติดตาม จนกระทั่งเค้าเปิดรับเพิ่มจริงๆ ซึ่งตอนนั้นไม่มีสอบอีกแล้ว อาจเป็นสอบนิเทศศิลป์สุดท้ายที่เปิดอยู่ในปีนั้นก็เป็นได้!
จนถึงวันที่ผมไปสอบ
คือติดไม่ติดไม่รู้ ความสามารถถึงไหมไม่รู้ มีแต่ใจที่เชื่อในพระ เข้าไปในห้องสอบ
สอบ สอบ สอบ สอบ ..
พลังที่กระซิบอยู่กับผมตอนเอแบคยังคงกระซิบอยู่ตลอดว่า "ได้"
ผมทำข้อสอบเสร็จ กลับบ้านกับแม่
เราั้ทั้งคู่วางใจพอๆกันว่า พระมาทันเวลาเสมอ..
..
ตอนนี้ผมอยู่นิเทศศิลป์ ลาดกระบัง ในฐานะหนึ่งในเด็กที่ผ่านเข้าไปรอบสอง
อย่าง.. งงๆ (ไม่งงหรอก พระทั้งนั้น)
3. อาม่าผม ลื่นล้มในห้องน้ำ หัวกระแทกพื้นจนสลบไป หลังจากนั้นก็มีอาการคล้ายนิทรา คือนอนอย่างเดียว แต่ไม่รู้สึกตัว ซึ่งอาม่าของผมเป็นคาทอลิกที่ศรัทธามาก อย่างไรก็ตาม ทุกคนลูกหลานต่างกลัวว่าอาม่าจะไม่ฟื้นอีก เพราะเลือดคั่งไปมากแล้ว
..วันหนึ่งอาม่าก็ได้ถูกย้ายมาที่บ้าน พร้อมสายออกซิเจนประทังชีวิตไปวันๆ โดยหวังว่าเค้าอาจฟื้น
ผมมีโอกาสได้ไปเยี่ยม..
..ผมขอพระ ขอโอกาสให้เค้าฟื้น ให้เขาฟื้นขึ้นมา..
ผมเอามือแตะมือของอาม่า ด้วยความเชื่อเต็มที่ว่า พระจะให้..
ขากลับ ผมกับแม่สวดพร้อมกันในรถอีกหน..
หลังจากนั้นประมาณ สองอาทิตย์
อาม่าของผมฟื้นที่โรงพยาบาล ขณะฟอกเลือด (โรคไต)
พร้อมสติ และความจำทุกอย่างอยู่ครบหมด!
คุยกับผมรู้เรื่อง ด่าผมอย่างที่เคยด่าเป๊ะๆ
ผมเข้าใจว่าคนที่สมองกระแทกจนนิทราไปเดือนกว่าๆ คงไม่ฟื้นพร้อมสติสัมปัญชัญญะ ที่รู้เรื่องแบบนี้!
ทั้งๆที่อาม่าผมอายุเกือบ 90 แล้ว
ครับ ผมกับแม่ และอากู๋อีกคนได้มีโอกาสคุยกับเขาในช่วงเวลานั้น
แต่อย่างไรก็ตาม ประมาณ 1 อาทิตย์ถัดมา เขาก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม คือนอนหลับไปไม่ฟิ้นอีกเลย
พระให้โอกาสอาม่าผม ได้พูดคุยครั้งสุดท้าย เฉพาะกับผม แม่ และอากู๋บางคนเท่านั้น
และหลังจากนั้น พระองค์ก็จัดการกับธรรมชาติของการจากไป ราวกับจะบอกผมกับแม่ว่า
"เราให้สิ่งที่เจ้าขอแล้ว"
** ทุกคนสามารถทำอะไรได้ทั้งนั้นแหละครับ หากอาศัยพลังของพระ จงเชื่อในพลังของพระ
อย่ากังวล อย่าลังเล อย่ากลัวว่าจะไม่ได้ หากเราเห็นพระ พระอยู่กับเรา ผมรับประกัน ด้วยความร่วมมือของเราและพระ ทุกอย่างได้หมดครับ