ไม่เคยไปเฝ้าศีลเลยค่ะ ตั้งใจเต็มที่
แม้กายจะอิดออดเล็กน้อย เพราะอากาศ
.... แต่ก็จะไปให้ได้ ....
อ่านบทความนี้เจอ ว่า 12เหตุผล ทำไมที่เราควรไปเฝ้าศีล
ที่ลิงค์นี้ค่ะ น่าสนใจดีเลยเอาแบ่งปันค่ะ
http://www.catholic.or.th/spiritual/art ... cle15.html
ขอพระเจ้าอวยพรนะค่ะ
วันนี้.. ตั้งใจจะไป "เฝ้าศีล" ครั้งแรก
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ไปเฝ้าศีลแล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ?
- salvation7
- Defender of lawS
- โพสต์: 522
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
- ติดต่อ:
มารอว่า....รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง.....
"ขอบคุณค่ะ ที่มารออ่าน"
ที่บอกไปวันนั้น ผิดอาทิตย์ค่ะ เลยไม่ได้เข้ามา แล้วก็หายไปยาวเลยเพราะว่า ปิดเทอม
ได้เฝ้าศีล ใน ชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์ ครั้งแรก ที่ตั้งศีลย้ายที่ เป็นอีกข้างของพระแท่น แปลกดีค่ะ
พิธีเรียบๆ ตามหนังสือในพิธี ก็ัยังงงๆ อยู่บ้าง แต่พออีกวันนึกว่าจะตั้งไว้ัจนมิสซา อีกวันปรากฎว่า
ไม่มีแล้ว ไม่เป็นไรปีหน้าค่อยมาใหม่ เพราะว่าวัดที่ไป เป็นวัดใหญ่ ประตูเค้าคงจะไม่เปิด ใจก็คิดอย่างนั้น และด้วยความคิดว่า การเฝ้าศีลนี้ ดีนะเราจะได้พูดคุยกับพระ มาขอบพระคุณพระ ได้ใช้เวลาภาวนาเงียบๆ กับพระ
และที่สุดพระก็ ได้ให้คำตอบว่า พระองค์เองก็อยากให้เรามาเฝ้าศีล โดยวันนั้นไปที่วัดแล้วเพิ่งทราบว่าที่วัด มีวัดน้อยด้วยซึ่ง ไว้จัดมิสซาเช้าตอน 06.30น. สามารถไปเฝ้า ได้โดยจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้
รู้สึกดีใจ ที่ความตั้งใจ ของเราได้เป็นจริง หลังจากวันนั้น ก็เข้าไปประจำก่อนไปรับลูกๆ เพราะวัดเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ก็เลยเข้าไปนั่งเฝ้าศีล ใช้เวลาเงียบๆ กับพระนานๆ จนไม่รู้จะพูดจะบอกอะไรกับพระองค์ดี และก็ได้ติดบทภาวนาไปเยอะแยะค่ะ ไปสวด ต่อหน้าพระแท่น นั่งมองรูปปั้นแต่ละรูป มองตู้ศีล ความเงียบ ทำให้เราได้มีสติ โฟกัสไปที่พระองค์จริงๆ ผิดกับที่บ้าน ที่อาจจะนั่งสบายเกินไป มีอะไรหลายอย่างมาดึงเราให้ออกจากพระองค์ไป
ดังคำที่พระองค์เคยตรัสผ่าน แคทาลีน่า รีวาซ และบันทึกลงในหนังสือ The Holy Mass
ว่า "มนุษย์กำหนดแผนการของวัน ของสัปดาห์ ของภาคเรียน ของการพักร้อน และอื่นๆ ของตน เขารู้ว่าวันไหนจะพัก วันไหนจะไปดูหนังหรือว่างานรื่นเริง หรือไปเยี่ยมคุณย่า-คุณยาย หรือเยี่ยมลูกหลาน พบเพื่อนฝูง หรือไปหาความสำราญ มีกี่ครอบครัวกันที่อย่างน้อยๆ เดือนละครั้งคุยกันว่า "วันนี้เราควรเป็นฝ่ายไปหาพระเยซูเจ้าในตู้ศีลบ้าง" แล้วทั้งครอบครัวก็มาเฝ้าศีลเพื่อพูดคุยกับเรา มีสักกี่คนกันที่มานั่งตรงหน้าเราและสนทนาพูดคุยกับเรา เล่าสารทุกข์สุกดิบตั้งแต่พลกันครั้งก่อนให้ฟัง เพื่อปรับทุกข์ เพื่อขอสิ่งที่เขาต้องการจากเรา เพื่อให้เรามีส่วนร่วมในเรือ่งเหล่านี้ มีสักกี่ครั้งกัน"
"เราล่วงรู้ทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งความลับที่ฝังลึกอยู่ในความคิดจิตใจของลูก แต่เราชอบให้ลูกเล่าความเป็นไปในชีวิตในเราฟัง เราพอใจที่ลูกให้เรามีส่วนร่วม เหมือนกับสมาชิก ในครอบครัวของลูกคนหนึ่ง เหมือนเพื่อนสนิทของลูกคนหนึ่ง โอ้มนุษย์ช่างสูญเสียพระหรรษทานไปมากมายกระไรหนอ เมื่อเขาไม่มีพื้นที่ให้เรา อยู่ในชีวิตของเขา"
ขอขอบพระคุณพระองค์ที่ทำให้ลูกเห็นชัดเจนว่า สิ่งที่ลูกต้องการ ที่จะเข้าใกล้พระองค์มากขึ้น
แล้วพระองค์ก็บรรดาล ให้เกิดขึ้น ตา่มความปราถนาของลูก
ที่บอกไปวันนั้น ผิดอาทิตย์ค่ะ เลยไม่ได้เข้ามา แล้วก็หายไปยาวเลยเพราะว่า ปิดเทอม
ได้เฝ้าศีล ใน ชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์ ครั้งแรก ที่ตั้งศีลย้ายที่ เป็นอีกข้างของพระแท่น แปลกดีค่ะ
พิธีเรียบๆ ตามหนังสือในพิธี ก็ัยังงงๆ อยู่บ้าง แต่พออีกวันนึกว่าจะตั้งไว้ัจนมิสซา อีกวันปรากฎว่า
ไม่มีแล้ว ไม่เป็นไรปีหน้าค่อยมาใหม่ เพราะว่าวัดที่ไป เป็นวัดใหญ่ ประตูเค้าคงจะไม่เปิด ใจก็คิดอย่างนั้น และด้วยความคิดว่า การเฝ้าศีลนี้ ดีนะเราจะได้พูดคุยกับพระ มาขอบพระคุณพระ ได้ใช้เวลาภาวนาเงียบๆ กับพระ
และที่สุดพระก็ ได้ให้คำตอบว่า พระองค์เองก็อยากให้เรามาเฝ้าศีล โดยวันนั้นไปที่วัดแล้วเพิ่งทราบว่าที่วัด มีวัดน้อยด้วยซึ่ง ไว้จัดมิสซาเช้าตอน 06.30น. สามารถไปเฝ้า ได้โดยจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้
รู้สึกดีใจ ที่ความตั้งใจ ของเราได้เป็นจริง หลังจากวันนั้น ก็เข้าไปประจำก่อนไปรับลูกๆ เพราะวัดเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ก็เลยเข้าไปนั่งเฝ้าศีล ใช้เวลาเงียบๆ กับพระนานๆ จนไม่รู้จะพูดจะบอกอะไรกับพระองค์ดี และก็ได้ติดบทภาวนาไปเยอะแยะค่ะ ไปสวด ต่อหน้าพระแท่น นั่งมองรูปปั้นแต่ละรูป มองตู้ศีล ความเงียบ ทำให้เราได้มีสติ โฟกัสไปที่พระองค์จริงๆ ผิดกับที่บ้าน ที่อาจจะนั่งสบายเกินไป มีอะไรหลายอย่างมาดึงเราให้ออกจากพระองค์ไป
ดังคำที่พระองค์เคยตรัสผ่าน แคทาลีน่า รีวาซ และบันทึกลงในหนังสือ The Holy Mass
ว่า "มนุษย์กำหนดแผนการของวัน ของสัปดาห์ ของภาคเรียน ของการพักร้อน และอื่นๆ ของตน เขารู้ว่าวันไหนจะพัก วันไหนจะไปดูหนังหรือว่างานรื่นเริง หรือไปเยี่ยมคุณย่า-คุณยาย หรือเยี่ยมลูกหลาน พบเพื่อนฝูง หรือไปหาความสำราญ มีกี่ครอบครัวกันที่อย่างน้อยๆ เดือนละครั้งคุยกันว่า "วันนี้เราควรเป็นฝ่ายไปหาพระเยซูเจ้าในตู้ศีลบ้าง" แล้วทั้งครอบครัวก็มาเฝ้าศีลเพื่อพูดคุยกับเรา มีสักกี่คนกันที่มานั่งตรงหน้าเราและสนทนาพูดคุยกับเรา เล่าสารทุกข์สุกดิบตั้งแต่พลกันครั้งก่อนให้ฟัง เพื่อปรับทุกข์ เพื่อขอสิ่งที่เขาต้องการจากเรา เพื่อให้เรามีส่วนร่วมในเรือ่งเหล่านี้ มีสักกี่ครั้งกัน"
"เราล่วงรู้ทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งความลับที่ฝังลึกอยู่ในความคิดจิตใจของลูก แต่เราชอบให้ลูกเล่าความเป็นไปในชีวิตในเราฟัง เราพอใจที่ลูกให้เรามีส่วนร่วม เหมือนกับสมาชิก ในครอบครัวของลูกคนหนึ่ง เหมือนเพื่อนสนิทของลูกคนหนึ่ง โอ้มนุษย์ช่างสูญเสียพระหรรษทานไปมากมายกระไรหนอ เมื่อเขาไม่มีพื้นที่ให้เรา อยู่ในชีวิตของเขา"
ขอขอบพระคุณพระองค์ที่ทำให้ลูกเห็นชัดเจนว่า สิ่งที่ลูกต้องการ ที่จะเข้าใกล้พระองค์มากขึ้น
แล้วพระองค์ก็บรรดาล ให้เกิดขึ้น ตา่มความปราถนาของลูก