ขอคำภาวนาให้ลูกเมียของ......หมอนั่น
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 24, 2012 10:40 pm
...........คงจะสงสัยล่ะสิว่า ทำไมเรามาแปลก.......
หึ จริงสินะ คนอย่างเราสำหรับที่นี่ แถม ณ เวลานี้ ก็คงไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว พล่ามอีกสักกระทู้นึงอย่างมากก็แค่โดนลบ
.........เข้าเรื่องดีกว่า
เริ่มต้นที่่ว่า ขอบคุณพระเจ้า ที่ทำให้เรามีน้าที่ดี (เป็นเจ้าของบริษัทที่เราทำงานอยู่ แล้วก็.....เป็นตำรวจเก่าด้วย) ให้ความช่วยเหลือ สุดท้ายก็รู้ตัวคนร้ายที่เอาโน้ตบุ๊คเราไปได้สำเร็จ เจ้าตัวสารภาพหมดเปลือก คือคนที่นั่งเก้าอี้ตำแหน่งผู้จัดการบริษัทนี่เอง
ผู้จัดการคนนี้ สอนให้เรารู้ว่า "คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ" ได้อย่างชัดเจนที่สุดเลยล่ะค่ะ
จริงๆ มันก็ส่อเค้าน่าสงสัยมาตั้งหลายทีแล้ว แค่เราไม่ได้เอะใจเท่านั้นเอง แต่คนอื่นเค้าเอะใจนานแล้วแต่ไม่มีหลักฐานชัดพอเท่านั้น
- เวลาที่ควรอยู่ออฟฟิศไม่ยอมอยู่ ทำเป็นออกไปขายเน็ตแค่รายสองราย ที่เหลือเอารถบริษัทไปทำอะไรมั่งก็ไม่รู้ (เอาจริง ๆ มันหน้าที่ sale แท้ ๆ ตัวเองเป็น manager ดันไม่ชอบอยู่ประจำตำแหน่ง)
- เสแสร้งทำดีจริง ๆ ไ่ม่เห็นใครในสายตาสักนิด เอาทรัพย์สินบริษัทไปทำเรื่องมิชอบจนเสียหายกลับมาแล้วแต่งเรื่องโกหก (คิดดู เอารถของบริษัทไป ตจว. อ้างจะไปขอยืมเงินแล้วจริงๆ ไปเล่นการพนันจนโดนเค้าขี่รถไล่ชนท้าย รถบริษัทแท้ ๆ แล้วยังแต่งเรื่องกลบเกลื่อน)
- เอาโน้ตบุ๊คไปจำนำแล้ว 2 เครื่อง เพราะมีปัญหาช็อตเรื่องเงินขั้นรุนแรง (จริง ๆ เรื่องการพนันกับหนี้สินนี่ทำตัวเองแท้ ๆ )......... แล้วยังเอาของคนอื่นไปจำนำเป็นเงินตัวเองหน้าด้าน ๆ
ตอนนี้รับสารภาพหมดเปลือก ชะตาของมันจากนี้ต้องโดนให้ออกสถานเดียว แต่คุณน้ายังใจดี ให้โอกาสมันเอาของมาคืน ไม่งั้นถึงตำรวจแน่..........
ที่ว่ามาไม่ใช่อะไรหรอก สงสารลูกเมียมันมากกว่า เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรต้องมาถูกตีตราเป็นลูกอาชญากรมันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย........
ถึงจะมีหวังได้ของคืนก็จริงอยู่........ แต่แค่นี้มันยุติธรรมแล้วจริงๆ น่ะหรือ
ทั้งจิตใจที่ต้องแตกสลาย....... ทำให้เราบ้าคลั่งจนถึงขั้นต้องเสียความสัมพันธ์กับพระไป..... แถมตอนี้ไม่มีแม้แต่หน้าจะไปขอคืนดี
...........this damage is too.....................much for me............
ควรไหม ถ้าจะชกหน้ามันอย่างน้อยสักสามหมัดเป็นอย่างต่ำ (ขึ้นกับอารมณ์เวลาเห็นหนังหน้า) จะได้จบ ๆ ไป ดีกว่ามาแค้นทีหลังแล้วสุมทรวงทีหลัง.......... แต่ไม่รู้พระเจ้าจะยังอนุญาตให้ได้ทำไหมนี่สิ
...........อันที่จริง เราสามารถอภัยให้หมอนี่ได้ง่าย ๆ ในภายหลังอยู่หรอก........ เพราะคงไม่อยากจดจำแม้แต่การมีตัวตนของมันซะด้วยซ้ำไป เสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ
แต่เห็นใจครอบครัวของมันมากกว่า เพราะเราคิดว่าพอเข้าใจดี ว่าเด็กที่ต้องแบกรับบาปของพ่อแม่ตัวเองนั้น ดูน่าสงสารและไม่เป็นธรรมกับเค้าเพียงใด เราเองก็ไม่อยู่ในฐานะจะไปยุ่งอะไรได้ขนาดนั้น
..........ยังไงก็ ขอบคุณพระเจ้า ที่อย่างน้อยท้ายที่สุด พระองค์ก็ยังแสดงความเป็นพระผู้ทรงธรรมให้เห็น........
ถึงเราจะทำได้เพียงอาลัยอาวรณ์ ไม่มีหน้ากลับไปสู้หน้าพระองค์อีกแล้วก็ตามที.........
หึ จริงสินะ คนอย่างเราสำหรับที่นี่ แถม ณ เวลานี้ ก็คงไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว พล่ามอีกสักกระทู้นึงอย่างมากก็แค่โดนลบ
.........เข้าเรื่องดีกว่า
เริ่มต้นที่่ว่า ขอบคุณพระเจ้า ที่ทำให้เรามีน้าที่ดี (เป็นเจ้าของบริษัทที่เราทำงานอยู่ แล้วก็.....เป็นตำรวจเก่าด้วย) ให้ความช่วยเหลือ สุดท้ายก็รู้ตัวคนร้ายที่เอาโน้ตบุ๊คเราไปได้สำเร็จ เจ้าตัวสารภาพหมดเปลือก คือคนที่นั่งเก้าอี้ตำแหน่งผู้จัดการบริษัทนี่เอง
ผู้จัดการคนนี้ สอนให้เรารู้ว่า "คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ" ได้อย่างชัดเจนที่สุดเลยล่ะค่ะ
จริงๆ มันก็ส่อเค้าน่าสงสัยมาตั้งหลายทีแล้ว แค่เราไม่ได้เอะใจเท่านั้นเอง แต่คนอื่นเค้าเอะใจนานแล้วแต่ไม่มีหลักฐานชัดพอเท่านั้น
- เวลาที่ควรอยู่ออฟฟิศไม่ยอมอยู่ ทำเป็นออกไปขายเน็ตแค่รายสองราย ที่เหลือเอารถบริษัทไปทำอะไรมั่งก็ไม่รู้ (เอาจริง ๆ มันหน้าที่ sale แท้ ๆ ตัวเองเป็น manager ดันไม่ชอบอยู่ประจำตำแหน่ง)
- เสแสร้งทำดีจริง ๆ ไ่ม่เห็นใครในสายตาสักนิด เอาทรัพย์สินบริษัทไปทำเรื่องมิชอบจนเสียหายกลับมาแล้วแต่งเรื่องโกหก (คิดดู เอารถของบริษัทไป ตจว. อ้างจะไปขอยืมเงินแล้วจริงๆ ไปเล่นการพนันจนโดนเค้าขี่รถไล่ชนท้าย รถบริษัทแท้ ๆ แล้วยังแต่งเรื่องกลบเกลื่อน)
- เอาโน้ตบุ๊คไปจำนำแล้ว 2 เครื่อง เพราะมีปัญหาช็อตเรื่องเงินขั้นรุนแรง (จริง ๆ เรื่องการพนันกับหนี้สินนี่ทำตัวเองแท้ ๆ )......... แล้วยังเอาของคนอื่นไปจำนำเป็นเงินตัวเองหน้าด้าน ๆ
ตอนนี้รับสารภาพหมดเปลือก ชะตาของมันจากนี้ต้องโดนให้ออกสถานเดียว แต่คุณน้ายังใจดี ให้โอกาสมันเอาของมาคืน ไม่งั้นถึงตำรวจแน่..........
ที่ว่ามาไม่ใช่อะไรหรอก สงสารลูกเมียมันมากกว่า เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรต้องมาถูกตีตราเป็นลูกอาชญากรมันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย........
ถึงจะมีหวังได้ของคืนก็จริงอยู่........ แต่แค่นี้มันยุติธรรมแล้วจริงๆ น่ะหรือ
ทั้งจิตใจที่ต้องแตกสลาย....... ทำให้เราบ้าคลั่งจนถึงขั้นต้องเสียความสัมพันธ์กับพระไป..... แถมตอนี้ไม่มีแม้แต่หน้าจะไปขอคืนดี
...........this damage is too.....................much for me............
ควรไหม ถ้าจะชกหน้ามันอย่างน้อยสักสามหมัดเป็นอย่างต่ำ (ขึ้นกับอารมณ์เวลาเห็นหนังหน้า) จะได้จบ ๆ ไป ดีกว่ามาแค้นทีหลังแล้วสุมทรวงทีหลัง.......... แต่ไม่รู้พระเจ้าจะยังอนุญาตให้ได้ทำไหมนี่สิ
...........อันที่จริง เราสามารถอภัยให้หมอนี่ได้ง่าย ๆ ในภายหลังอยู่หรอก........ เพราะคงไม่อยากจดจำแม้แต่การมีตัวตนของมันซะด้วยซ้ำไป เสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ
แต่เห็นใจครอบครัวของมันมากกว่า เพราะเราคิดว่าพอเข้าใจดี ว่าเด็กที่ต้องแบกรับบาปของพ่อแม่ตัวเองนั้น ดูน่าสงสารและไม่เป็นธรรมกับเค้าเพียงใด เราเองก็ไม่อยู่ในฐานะจะไปยุ่งอะไรได้ขนาดนั้น
..........ยังไงก็ ขอบคุณพระเจ้า ที่อย่างน้อยท้ายที่สุด พระองค์ก็ยังแสดงความเป็นพระผู้ทรงธรรมให้เห็น........
ถึงเราจะทำได้เพียงอาลัยอาวรณ์ ไม่มีหน้ากลับไปสู้หน้าพระองค์อีกแล้วก็ตามที.........