Belong to the Truth Jesus Christ

ที่ว่า องค์กรคริสต์ ยึดพังงา กวาดมอแกนเป็นคริสต์
ผมอ่านแล้วไม่สบายใจตะหงิดๆ

เหมือนกับว่า ต้องการบอกว่า คริสต์กำลังจ้างคนให้มาเข้ารีต
เบี่ยงเบนประเด็นความช่วยเหลือขององค์กรคริสต์ชัด ๆ

ไม่รู้หลายท่านคิดอย่างไรนะครับ

http://webboard.nationgroup.com/swb/vie ... d=2&tid=22

เข้าไปบอกโดยตรงเลยสิครัย

เคยอ่านอารายแบบนี้ เหมือนกันฮับ แต่บูว่าพวกนี้เป็นส่วนน้อยนะ แต่ก้อทำให้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกะศาสนาคริสต์อ่ะ
ที่บูเคยอ่านเค้าบอกว่า เออ ถ้ารับพระเจ้าแล้ว พวกเนี่ยจาให้ของ บางคนก้อรับไปงั้นแหละ เพราะอยากได้ของอ่ะ คนไม่รับก้อไม่ได้ เหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจหรอกครายจารับจริงไม่จริง แค่อยากได้จำนวนคนเยอะๆ

อ้อ ผมว่าไม่เห็นจำเป็นต้องตั้งกระทู้นี้ที่พันทึบเลยนะครับ บางคนไม่ได้อ่านไม่ได้สนใจ และเราก็ไม่มีความจำเป็นต้องช่วยเผยแพร่งานของมารนะครับ

เรื่องแบบนี้อีกแล้ว

ไม่มีใครสนใจหรือครับ ขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์นี่นะ

เข้าไประบายที่เวปคอมชัดลึกแล้วละ

เรื่องพันทิพ
ผมก็บ่นตามประสานกกระจิบ ประสานกกระจาบละครับ

ยังดีกว่า อธิษฐานอย่างเดียว และไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้โต้ตอบอะไรบ้าง
เงียบก็เหมือนยอมรับ

แต่บอกตรง ๆ นะว่า ผมไม่ค่อยชอบการเล่นแบบนี้ของมารนักหรอก
เนื้อความข้างในเขียนดี บอกว่าเป็นความสมัครใจ แต่ดูหน้าข่าว มันคนละประเด็นเลย

แค่พุทธกับอิสลามก็ยุ่งพอแล้ว พวกนั้ยังลากคริสต์มาเกี่ยวอีก

คราวนี้มันทนไม่ได้จริงๆ

พอดีมาดูรายการช่วงกลางๆ ก็เห็นด้วยว่า มันคงมีจริงๆแหละคนทำแบบนั้น

ไม่รู้เรื่องมาก่อนเลยจนได้ยินจากที่นี่แล

ขอวิเคราะห์ดังนี้

1. ข่าวตั้งใจเขียนให้เว่อร์
2. คำพูดทำนองนี้อาจจะมาจากครอบครัวหรือบ้านที่ไม่พอใจที่มีสมาชิกเปลี่ยนศาสนา เลยอาจแกล้งว่าแรงๆประมาณว่าเห็นแก่ข้าวของเลยเปลี่ยนศาสนา พูดมากๆเข้าจึงกลายเป็นประเด็นขึ้นมา
3. มีคนทำจริง แต่น้อย แต่ก็เอามาเหมารวมตามระเบียบ
4. ตอนแรกช่วยเหลือธรรมดา พอเป็นคริสต์แล้ว สนิทกันมากขึ้น เจอกันบ่อยขึ้นเพราะไปโบสถ์ทุกวัน กลายเป้นเพื่อนหรือศิษย์ไปแล้ว กับคนอีกกลุ่มรับความช่วยเหลือแต่ไม่เปลี่ยนศาสนาก็ไม่สนิทเรียกว่าอาจคุ้นหน้าแต่ไม่รู้จัก และเมื่อต่อมาสมาชิกโบสถ์มีการช่วยเหลือกันมากขึ้น ก็แน่นอนว่าคนที่ตัวรู้จักก็อาจพลอยได้รับความช่วยเหลือก่อนคนที่เคยเห็นหน้าไม่กี่ครั้งมันก็เป็นเรื่องโคดจะธรรมดา จึงเป็นประเด็นเกิดอิจฉา และพูดให้ร้ายทำนองว่าเป็นคริสต์จะได้มากกว่า
5. โดยปรกติโปรแตสแตนท์บางโบสถ์เน้นการประกาศหาสมาชิกอยู่แล้ว แปลไทยเป็นไทยคือ ปรกติช่วยหรือไม่ช่วย เจอใครก็ชวนคนไปโบสถ์อยู่แล้ว ทีนี้พอไปช่วยคนก็ไม่ลืมที่จะชวนให้รับเชื่อ คนแยกไม่ออกเอาไปปนกัน หาว่าบริจาคหวังผล


สรุป

ฟป 1:15
บางคนประกาศสอนเรื่องพระคริสตเจ้า เพราะความอิจฉาและแข่งขันชิงดี แต่บางคนประกาศสอนด้วยเจตนาดี กลุ่มหลังนี้ทำเพราะความรัก รู้ว่าข้าพเจ้าอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องข่าวดี ส่วนกลุ่มแรกนั้นประกาศสอนเรื่องพระคริสตเจ้า เพราะต้องการแข่งขันชิงดี มิใช่เพราะเจตนาบริสุทธิ์ คิดเพียงแต่จะเพิ่มความทุกข์แก่ข้าพเจ้าซึ่งถูกจองจำอยู่แล้วเท่านั้น แต่จะเป็นอะไรไปเล่า ไม่ว่าโดยวิธีใด จะเป็นเพราะความเสแสร้งหรือด้วยใจจริงก็ตาม พระคริสตเจ้าก็ทรงได้รับการประกาศแล้ว เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงมีความยินดี และจะยินดีต่อไป

หนักแน่น อดทน มีสติ ค่อยไต่ตรอง และอธิบายอย่างสุภาพ

ก็เพราะข่าวเนี้ยแหละ วันทั้งวัน นั่งคอยตอบคำถามเพื่อนที่ทำงาน จากเรื่องหนึ่ง ไปสู่เรื่องหนึ่ง จนเหนื่อย กับการอธิบายแยกแยะประเด็นที่ถูกเข้าใจแบบเหมารวม ได้ที่เข้ามาถามน่ะดีไป ที่ได้อธิบายให้เข้าใจ แต่พวกที่ไม่เข้ามาถามน่ะสิ เอาแต่มองแล้วส่งสายตาหวาดกลัวมาที่เรา เฮ้อ เห็นแล้ว ต้องท่อง อดทนๆๆๆๆๆ

คิดถึงคริสตชนยุคแรกเริ่ม ก็คงเจออย่างเราแต่หนักกว่าเราเยอะ เขายังหนักแน่น จนพระศาสนจักรอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้น เราต้องอดทน อดทน

เมื่อคืนก้อนั่งดูรายการของเนชั่น เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ
มีเชิญศาสนาจารย์ของคริสเตียนมาสองคน คุณพ่อโจเซฟ เอช ไมเออร์
แล้วก้อคนของกรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมอีกคน มานั่งคุยกันเรื่องนี้
สรุปก้อคือ : เค้าคิดว่าเราต้องการชักชวนให้ชาวบ้านเข้ามาเป็นคริสต์ เป็นคริสต์แล้วได้ของอะไรทำนองนี้ แต่ทางเราก็บอกว่าไม่ใช่ แล้วแต่ความสมัครใจ ไม่ได้บังคับ พูดกันเป็นชั่วโมงเลยค่ะ วนไปวนมาอยู่อย่างนี้ หึหึ

ดูรายการนี้เมื่อคืนแล้วชอบคุณพ่อจัง น่ารักดี พ่อพูดไม่ค่อยชัดแต่ก้อพยายามพูดอธิบายให้ตาพิธีกรฟัง

อดทน สุภาพ ถ่อมใจ และอธิษฐานเผื่อคนที่แช่งด่าเราค่ะ