Belong to the Truth Jesus Christ

เครื่อข่ายอธิษฐานอวยพรประเทศไทย

ได้รวมตัวกัน ระหว่าง ศิษยาภิบาล มิชชันนารี ผู้นำองค์กรคริสต์ และสมาชิกคริสตจักรต่างๆ
มีภาระใจ ในการอธิษฐานเผื่อประเทศไทยและคนไทย พวกเราเชื่อพลังอธิษฐาน และรอคอย
และคาดหวังว่าพระเจ้าจะทรงเปลี่ยนแปรงสังคม ที่กำลังเน่าเฟะ ความชั่วทุกรูปแบบ ความทุกข์
ของคนในแผ่นดิน จะได้รับการแก้ไข ถ้าพวกเราคริสตชน รักและห่วงใยคนไทยสังคมไทย

ไม่มีวิธีอื่นใด ที่จะทำได้ นอกจาก อธิษฐาน/ภาวนา วิงวอน ต่อองค์ พระผู้เป็นเจ้า ในพระนามของพระเยซูคริสต์ ผู้ที่ทรงมอบทั้งชีวิตเผื่อคนบาป

กิจกรรมหลัก ของ เครื่อข่ายอธิษฐาน

- การจัดประชุมยอดเขาอธิษฐาน ( Prayer Summit )
- การจัดรณรงค์ อธิษฐาน 40 วัน เผื่อประเทศไทย
- การจัดวันอธิษฐานแห่งชาติ10 ธันวาคม
- การจัดประชุมผู้ประสานงานเครือข่ายอธิษฐานทั่วประเทศไทย

ขณะนี้ มีศูนย์ รวม เครือข่ายอธิษฐานทั่วประเทศ 23 จังหวัด

*******************************************************************************************

ฤดูอธิษฐาน 40 วันเริ่มแล้ว พื้นฐานพระคัมภีร์ในการนำเราอธิษฐานปีนี้ อยู่ที่ อิสยาห์ บทที่ 58


58:1 จงร้องดังๆอย่าออมไว้ จงเปล่งเสียงของเจ้าเหมือนเป่าเขาสัตว์ จงแจ้งแก่ชนชาติของเราให้ทราบถึงเรื่องการทรยศของเขา แก่เชื้อสายของยาโคบเรื่องบาปของเขา
58:2 แต่เขายังแสวงเราทุกวัน และปีติยินดีที่จะรู้จักทางของเรา เหมือนกับว่าเขาเป็นประชาชาติที่ได้ทำความชอบธรรมและมิได้ละทิ้งกฎหมายแห่งพระเจ้าของเขา เขาก็ขอข้อกฎหมายอันชอบธรรมจากเรา เขาทั้งหลายก็ปีติยินดีที่จะเข้ามาใกล้พระเจ้า
58:3 'ทำไมข้าพระองค์ทั้งหลายได้อดอาหาร และพระองค์มิได้ทอดพระเนตร ทำไมข้าพระองค์ทั้งหลายได้ถ่อมตัวลง และพระองค์มิได้ทรงสนพระทัย' ดูเถิด ในวันที่เจ้าอดอาหาร เจ้าทำตามใจของเจ้าและบีบบังคับคนงานของเจ้าทั้งหมด
58:4 ดูเถิด เจ้าอดอาหารเพียงเพื่อวิวาทและต่อสู้และเพื่อต่อยด้วยหมัดอธรรม การอดอาหารอย่างของเจ้าในวันนี้ จะไม่กระทำให้เสียงของเจ้าได้ยินไปถึงที่สูง
58:5 อย่างนี้หรือเป็นการอดอาหารที่เราเลือก คือวันที่คนข่มตัว การก้มศีรษะของเขาลงเหมือนอ้อเล็ก และปูผ้ากระสอบและขี้เถ้ารองใต้เขา อย่างนี้หรือเจ้าจะเรียกการอย่างนี้ว่าการอดอาหาร และเป็นวันที่พระเจ้าโปรดปรานอย่างนั้นหรือ
58:6 "การอดอาหารอย่างนี้ไม่ใช่หรือที่เราต้องการคือการแก้พันธนะของความอธรรม การแก้สายรัดแอก และการปล่อยให้ผู้ถูกบีบบังคับเป็นอิสระ และการหักแอกเสียทุกอัน
58:7 ไม่ใช่การที่จะปันอาหารของเจ้าให้กับผู้หิวและนำคนยากจนไร้บ้านเข้ามาในบ้านของเจ้า เมื่อเจ้าเห็นคนเปลือยกายก็คลุมกายเขาไว้ และไม่ซ่อนตัวของเจ้าจากญาติของเจ้าเอง ดอกหรือ
58:8 แล้วความสว่างจะพุ่งออกมาแก่เจ้าอย่างอรุณและแผลของเจ้าจะเรียกเนื้อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ความชอบธรรมของเจ้าจะเดินนำหน้าเจ้า และพระสิริของพระเจ้าจะระวังหลังเจ้า
58:9 แล้วเจ้าจะทูล และพระเจ้าจะทรงตอบ เจ้าจะร้องทูล และพระองค์จะตรัสว่า เราอยู่นี่"ถ้าเจ้าจะเอาออกไปจากท่ามกลางเจ้าเสีย ซึ่งแอกซึ่งการชี้หน้า และซึ่งการพูดอธรรม
58:10 ถ้าเจ้าทุ่มเทชีวิตของเจ้าแก่คนหิว และให้ผู้ถูกข่มใจได้อิ่มใจ แล้วความสว่างจะโผล่ขึ้นแก่เจ้าในความมืด และความมืดคลุ้มของเจ้าจะเป็นเหมือนเที่ยงวัน
58:11 และพระเจ้าจะนำเจ้าอยู่เป็นนิตย์ และให้เจ้าอิ่มด้วยของดี และกระทำให้กระดูกของเจ้าแข็ง และเจ้าจะเป็นเหมือนสวนที่มีน้ำรด เหมือนน้ำพุ ที่น้ำของมันไม่ขาด
58:12 และสิ่งสลักหักพังโบราณของเจ้าจะได้รับการสร้างขึ้นใหม่ เจ้าจะได้ซ่อมเสริมรากฐานของคนหลายชั่วอายุมาแล้วขึ้น เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ซ่อมกำแพงที่พัง ผู้ซ่อมแซมถนนให้คืนคงเพื่อจะได้อาศัยอยู่
58:13 "ถ้าเจ้าหยุดเหยียบย่ำวันสะบาโต คือจากการทำตามใจของเจ้าในวันบริสุทธิ์ของเราและเรียกสะบาโตว่า วันปีติยินดี และเรียกวันบริสุทธิ์ของพระเจ้าว่า วันมีเกียรติถ้าเจ้าให้เกียรติมัน ไม่ไปตามทางของเจ้าเอง หรือทำตามใจของเจ้า หรือพูดแต่เรื่องไร้สาระ
58:14 แล้วเจ้าจะได้ความปีติยินดีในพระเจ้า และเราจะให้เจ้าขึ้นขี่อยู่บนที่สูงของแผ่นดินโลก และเราจะเลี้ยงเจ้าด้วยมรดกของยาโคบบิดาของเจ้าเพราะโอษฐ์ของพระเจ้าได้ตรัสแล้ว"

โครงร่างการอดอาหาร 40 วัน ตาม หนังสือ อิสยาห์ จะมี 4 หัวข้อใหญ่ คือ

1 การเปิดโปง = เปิดโปงความบาปในสังคมไทย ซึ่งขณะนี้เราประสบปัญหาความเสื่อมด้านจริยธรรม ศีลธรรม เรื่องเพศ เรื่องสิ่งเสพติด

เปิดโปงปัญหาของคริสตจักร/พระศาสนจักร คนไปวัดไปโบสถ์ อย่างขอไปที ขาดจิตสำนึก ที่จะคืนดีกับพระเจ้า และพี่น้อง ขาดความรัก เห็นแก่ตัว ทะเลาะเบาะแว้งใส่ร้ายกัน

ศิษยาภิบาล/บาทหลวง ทำงาน ตามหน้าที่ ขาดความรัก การเอาใจใส่ และบ่อยครั้งไม่ได้ เป็นแบบอย่างที่ดี แก่ สัตบุรุษ/สมาชิก

2.การกลับใจ= การกลับใจของคริสตจักร/พระศาสนจักร คือชุมชนแห่งความเชื่อ ต้องกลับใจใหม่ แสดงออกเป็นรุปธรรม สำแดงความรักของพระเยซูคริสต์ที่ทรงให้พวกเขาทั้งชีวิต เพื่อว่าชุมชนของผู้เชื่อ จะเป็นชุมชนแห่งพระพร

3. การประกาศ/แพร่ธรรม = เป็นการประกาศแผ่นดินของพระเจ้า ซึ่ง ทางคาทอลิกเอง ปีนี้เป็นปีแห่งการแพร่ธรรม ( ตุลาคม ๒๐๐๕ - ตุลาคม ๒๐๐๖ ) นำคนมารู้จักความรักของพระเยซูคริสต์ คือการตอบสนองพระมหาบัญชา (คำสั่งของพระเยซูเจ้า ) ควบคู่กับการประกาศ คริสตชนต้องช่วยเหลือ ดูแลสังคม ส่งเสริม คนทุกข์ยากลำบาก ทั้งฝ่ายกายและจิตวิญญาณ

4. การฟื้นฟู = คริสตจักร/พระศาสนจักร ต้องลุกขึ้น ทำการร่วมมือกันในพระกายของพระเยซูเจ้า ระหว่างชุมชนแห่งความความเชื่อ รื้อฟื้นสัมพันธภาพระหว่างผู้เชื่อกับพระเยซูคริสต์ ผ่านคำสอน ผ่านการเทศนา ผ่านบทเรียน ต้องร่วมมือกันระหว่างคริสตจักร กอบกู้ความชอบธรรมให้สังคมไทย

วันที่ ๑

การเปิดเผยความบาป

อ่าน อิสยาห์ 58:1

58:1 จงร้องดังๆอย่าออมไว้ จงเปล่งเสียงของเจ้าเหมือนเป่าเขาสัตว์ จงแจ้งแก่ชนชาติของเราให้ทราบถึงเรื่องการทรยศของเขา แก่เชื้อสายของยาโคบเรื่องบาปของเขา

มีคาห์ 7:2-6

7:2 ธรรมิกชนสูญหายไปจากโลก จะหาคนซื่อตรงท่ามกลางมนุษย์สักคนก็ไม่มี ต่างก็ซุ่มคอยจะเอาโลหิตกัน ต่างก็เอาตาข่ายดักพี่น้องของตน
7:3 มือของเขาคอยจ้องแต่สิ่งที่ชั่ว เพื่อจะกระทำด้วยความขยัน เจ้านายและผู้พิพากษาขอสินบน และคนใหญ่คนโตก็เอ่ยถึงความปรารถนาชั่วแห่งจิตใจของเขา ต่างก็สานสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกัน
7:4 คนที่ดีที่สุดของเขาก็เหมือนต้นหนามควัด คนที่ซื่อตรงที่สุดของเขาก็เหมือนรั้วหนาม วาระแห่งนายยามของเจ้าทั้งหลาย คือวันที่จะลงโทษเจ้า มาถึงแล้ว บัดนี้ ความยุ่งเหยิงของเขาก็อยู่ใกล้เต็มที
7:5 อย่าวางใจเพื่อนบ้านอย่านอนใจในสหาย จงเฝ้าประตูปากของเจ้า อย่าเผยแก่เธอที่อยู่ในอ้อมอกของเจ้า
7:6 เพราะว่าลูกชายดูหมิ่นพ่อ และลูกสาวลุกขึ้นต่อสู้แม่ของเธอ ลูกสะใภ้ต่อสู้แม่ผัว ศัตรูของใครๆก็คือคนที่อยู่ร่วมเรือนของเขาเอง

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

วันที่ ๒

การกลับใจใหม่

อ่าน มัทธิว 5:3

5:3 "บุคคลผู้ใด รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

วันที่ ๓

ทำไมถึงต้องเป็นเรา

อ่าน โรม 10:14-17

10:14 แต่ผู้ที่ยังไม่เชื่อในพระองค์ จะทูลขอต่อพระองค์อย่างไรได้ และผู้ที่ยังไม่ได้ยินถึงพระองค์ จะเชื่อในพระองค์อย่างไรได้ และเมื่อไม่มีผู้ใดประกาศให้เขาฟัง เขาจะได้ยินถึงพระองค์อย่างไรได้
10:15 และถ้าไม่มีใครใช้เขาไป เขาจะไปประกาศอย่างไรได้ ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เท้าของคนเหล่านั้นที่นำข่าวดีมา ช่างงามจริงๆ หนอ
10:16 แต่มิใช่ทุกคนได้เชื่อฟังข่าวประเสริฐนั้น เพราะอิสยาห์ได้กล่าวไว้ว่า พระองค์เจ้าข้า ใครเล่าได้เชื่อสิ่งที่เขาได้ยินจากเราทั้งหลาย
10:17 ฉะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เพราะการประกาศพระคริสต์

*********************************************************************

วันที่ ๔

การเตรียมใจเข้าสู่การฟื้นฟู

อิสยาห์ 58:11-12

58:11 และพระเจ้าจะนำเจ้าอยู่เป็นนิตย์ และให้เจ้าอิ่มด้วยของดี และกระทำให้กระดูกของเจ้าแข็ง และเจ้าจะเป็นเหมือนสวนที่มีน้ำรด เหมือนน้ำพุ ที่น้ำของมันไม่ขาด
58:12 และสิ่งสลักหักพังโบราณของเจ้าจะได้รับการสร้างขึ้นใหม่ เจ้าจะได้ซ่อมเสริมรากฐานของคนหลายชั่วอายุมาแล้วขึ้น เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ซ่อมกำแพงที่พัง ผู้ซ่อมแซมถนนให้คืนคงเพื่อจะได้อาศัยอยู่


^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^

วันที่ ๕

การถ่อมใจนำไปสู่การกลับใจ

อ่าน เยเรมีย์ 17:9

17:9 จิตใจก็เป็นตัวล่อลวงเหนือกว่าสิ่งใดทั้งหมดมันเสื่อมทรามอย่างร้ายทีเดียว ผู้ใดจะรู้จักใจนั้นเล่า

เยี่ยมครับ *no1 *ok *thx

วันที่ ๖

ความถ่อมใจนำไปสู่การกลับใจ

อ่าน มัทธิว 21:28-32

21:28 "แต่ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร คนหนึ่งมีบุตรชายสองคน บิดาไปหาบุตรคนแรกว่า "ลูกเอ๋ย วันนี้จงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด"
21:29 บุตรคนนั้นตอบว่า "ไม่ไป" แต่ภายหลังกลับใจแล้วไปทำ
21:30 บิดาจึงไปหาบุตรคนที่สองพูดเช่นเดียวกัน บุตรนั้นกล่าวว่า "ไปขอรับ" แต่ไม่ไป
21:31 ก็บุตรสองคนนี้คนไหนเป็นผู้ทำตามใจของบิดาเล่า" เขาทูลตอบว่า "คือบุตรคนแรก" พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า พวกเก็บภาษีและหญิงแพศยาก็เข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก่อนท่านทั้งหลาย
21:32 ด้วยยอห์นได้มาหาพวกท่านสอนทางชอบธรรม ท่านหาเชื่อไม่ แต่พวกเก็บภาษีและพวกหญิงแพศยาได้เชื่อ ฝ่ายท่านทั้งหลาย ถึงแม้ได้เห็นแล้วภายหลังก็มิได้กลับใจเชื่อยอห์น

---------------พระเยซูคริสต์ ตรัสแก่ผู้นำศาสนาที่ถือศาสนาเคร่งครัด และยึดธรรมบัญญัติเป็นศูนย์กลางในการดำเนินชีวิต พระองค์ทรงใช้คำอุปมาสอน เรื่องบุตรสองคน บิดาใช้ให้ไปทำสวนองุ่น คนแรกปฏิเสธ ไม่ไป ต่อมาสำนึกได้ กลับใจใหม่ ไปบอกบิดาว่าจะไปทำสวนองุ่น

ส่วนคนที่สอง ตอบอย่างไม่ลังเลว่าไป แต่เขาไม่ไป พระเยซูเจ้าตรัสถามว่า สองคนนี้ใครทำตามใจผู้เป็นบิดา คำตอบคือ คนแรก

พระคัมภีร์ตอนนี้ แสดงให้เห็นพวกผู้นำศาสนาจิตใจแข็งกระด้าง ไม่ยอมทะลุกรอบของศาสนา
เพื่อไปสู่มิติหนึ่ง ที่ศาสนาชี้นำ เช่นพวกฟาริสี ได้ตังกฏเกณฑ์ไว้มากมาย ทำเช่นนั้นทำให้เขามีความสุข และเข้าใจว่าพระเจ้าทรงพอพระทัย

ความจริงแล้วต้องยอมรับความอ่อนแอ และให้พระเยซูคริสต์เป็นผู้นำ เป็นศูนย์กลาง ในการดำเนินชีวิต แทนการ ยึดธรรมบัญญัติ

หัวข้ออธิษฐานภาวนา

-ผู้นำคริสตจักร ในการวางแผนการประกาศ ให้เหมาะสม
-คนไทยเปิดใจ กลับใจใหม่ ต้อนรับพระเยซูคริสต์
- ผู้เชื่อใหม่ ที่จะติดตามพระเยซูคริสต์

ผมมีหนังสืออธิษฐาน 40 วันของปีนี้ด้วย พอดีได้รับมาให้เอาไปแจกตามวัดคาทอลิก ก็แจกไปแล้ว แต่ยังเหลืออยู่หลายร้อยเล่มครับ ใครสนใจอยากได้ก็ติดต่อที่ผมได้นะครับ หนังสืออยู่ที่ตึกสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทยครับ

วันที่ ๗

ตัวแทนของพระเจ้า

๒ โครินธ์ บทที่ ๕

5:18 ทั้งสิ้นนี้เกิดมาจากพระเจ้า ผู้ทรงให้เราคืนดีกันกับพระองค์ทางพระเยซูคริสต์ และทรงโปรดประทานให้เรามีพันธกิจเรื่องการคืนดีกัน
5:19 คือพระเจ้าทรงให้โลกนี้คืนดีกันกับพระองค์โดยพระคริสต์ มิได้ทรงถือโทษในการผิดของเขา และทรงมอบเรื่องการคืนดีกันนั้นให้เราประกาศ
5:20 ฉะนั้นเราจึงเป็นทูตของพระคริสต์ โดยที่พระเจ้าทรงขอร้องท่านทั้งหลายทางเรา เราจึงขอร้องท่านในนามของพระคริสต์ให้คืนดีกันกับพระเจ้า
5:21 เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงกระทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์

กิจการ บทที่ ๒๘.๒๘

เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงรู้ว่า พระเจ้าทรงใช้คนให้นำความรอดของพระองค์ไปยังคนต่างชาติแล้ว เขาก็จะฟัง"

^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^

พระวาจาของพระเจ้าชี้ให้เห็นหลังจากได้รับการไถ่กู้ การถูกชำระ และได้กลับคืนดี และถึงสัมพันธภาพ ที่ถูกต้อง กับพระเจ้า พระองค์ทรงมอบหมายให้ เราเป็นตัวแทนของพระองค์ในการนำความรอดไปถึงเพื่อนมนุษย์ จึงนับว่าเราแต่ละคน มีหน้าที่ เป็นทูตของพระเยซูเจ้า ที่จะทำพันธกิจแห่งการคืนดี ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า

หัวข้อภาวนา

- ตัวเอง คริสตจักร/พระศาสนจักร จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพระเยซูคริสต์ช่วยให้คนไทยได้รับคำตอบที่ดีของชีวิต

-ขอพระเจ้าทรงเปิดตาใจของคริสตชนที่จะเห็นความเดือดร้อนของคนอื่น แล้วรู้จักในการให้ เสียสละแบบพระเยซูเจ้าที่ ทรงกระทำแบบไว้แล้ว

-เพื่อคริสตชนจะมีใจกล้าในการประกาศข่าวดีของพระเยซูคริสต์ ใช้โอกาสที่ตัวเอง เป็นอยู่ กับกลุ่มชนที่พบปะ หรือมีความสัมพันธ์

-เพื่อเจ้าหน้าที่โครงการ เรารักประเทศไทย ซึ่งทำงาน กับ ผู้ประสบภัยสึนามิ ให้ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว เห็นแก่พระเยซูเจ้า ไม่ใช่เพื่อชื่อเสียงตัวเอง ไม่ยึดติดกับคณะ นิกาย

อยากใด้หนังสือมั่งครับ ต้องทำยังไงเอ่ย ผมอยู่ที่รัชดาอะ

อยากได้หนังสือเหมือนกันงับๆ
ขอที่อยู่ทาง PM ได้ไหมคะ
จะได้ส่งซองเปล่าติดสแตมป์ไปให้ค่ะ เล่มใหญ่มั๊ยคะ จะได้กะค่าสแตมป์ถูก

วันที่ 19 ผมจะเอาไปที่วัดมามหาไถ่ประมาณ 20 เล่มแล้วกัน ในมาก็จะแจกให้ครับ

;) ใช้หนังสือ 40 วัน การอธิษฐาน การอดอาหารที่พระเจ้าพอพระทัย เล่มแดงๆหรือเปล่าค่ะ ที่พัทยาจะ

ร่วมกันอธิษฐานของกลุ่มคริสเตียนทั่วประเทศ ที่โรงแรม Royal Twins ในวันพฤหัสที่ 17 พ.ย นี้ด้วยค่ะ

ไม่ทราบว่า พี่พีพีจะมาด้วยหรือเปล่าค่ะ งานนี้รู้สึกว่า นายกเมืองพัทยา จะมาเปิดงานด้วย

วันที่ 8

สดุดี 126

126:1 เมื่อพระเจ้าทรงให้ศิโยนกลับสู่สภาพดี เราก็เป็นเหมือนคนที่ฝันไป
126:2 ปากของเราได้หัวเราะเต็มที่ และลิ้นของเราได้เปล่งเสียงโห่ร้องอย่างชื่นบาน แล้วเขาได้พูดกันท่ามกลางประชาชาติว่า "พระเจ้าทรงกระทำการมโหฬารให้เขา"
126:3 พระเจ้าทรงกระทำการมโหฬารให้เรา เรามีความยินดี
126:4 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกลับสู่สภาพดี อย่างทางน้ำไหลที่ในเนเกบ
126:5 ขอให้บรรดาผู้ที่หว่านด้วยน้ำตา ได้เกี่ยวด้วยเสียงโห่ร้องอย่างชื่นบาน
126:6 ผู้ที่ร้องไห้ออกไป หอบหิ้วเมล็ดพืชเพื่อจะหว่าน จะกลับบ้าน ด้วยเสียงโห่ร้องอย่างชื่นบาน นำฟ่อนข้าวของตนมาด้วย

ปากหัวเราะอย่างเต็มที่                      
   เราได้ยินข่าวการฟื้นฟูที่ได้เกิดขึ้น หรือกำลังเกิดขึ้นที่โน่น ที่โน้น ที่ประเทศกัวเตมาลา อาร์เจนตินา อูกานดา และที่กำลังเป็นข่าวอยู่ที่เกาะฟิจิ ปากของประชากรของพระเจ้าและของประชาชน ของชนชาติเหล่านั้นได้หัวเราะอย่างเต็มที่ จิตวิญญาณของพวกเขาเบิกบาน ชื่นชมยินดีกอย่างเต็มเปี่ยม ประเทศชาติของพวกเขาได้เกิดมหัศจรรย์แห่งการพลิกฟื้นชุมชนและแผ่นดินอย่างมโหฬาร จำนวนคริสตจักรเพิ่มพูน ความเชื่อของคริสเตียน

   ทวีคูณขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ พวกเขามีประสบการณ์สดใหม่กับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ชีวิตได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ จิตวิญญาณร้อนรนเพื่อพระเจ้า พวกเขารักซึ่งกันและกัน และรักวิญญาณเหล่านั้นที่หลงหาย และเกิดการคืนดีกันอย่างมโหฬาร และที่สำคัญที่สุดพวกเขาได้ทำให้สวรรค์เกิดความชื่นชมยินดีเป็นล้นพ้น เสียงสรรเสริญคงกึกก้องทั่วจักรวาลของพระเจ้า เกิดพระพรในชนชาติต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างไร

   โอ้ พระเจ้า พระองค์ทรงทำการมโหฬารให้พวกเขา ขอทรงโปรดทำการมโหฬารให้พวกเราคริสเตียนในประเทศไทยด้วย ขอให้เรามีความชื่นชมยินดีอย่างนั้นบ้าง ขอให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกลับสู่สภาพดี ขอให้ทุ่งกุลาฝ่ายวิญญาณของแผ่นดินไทยสิ้นสุดซึ่งการร้องไห้ แต่ชาวถิ่นนั้นได้หัวเราะอย่างเต็มที่เถิด ในพระนามพระเยซูเจ้า

   เอเมน คำตอบจากพระธรรมสดุดี 126 คือ ให้ผู้ที่เป็นคนของพระเยซูทุกคนออกไปหว่านด้วยน้ำตา นั่นคือ หว่านข่าวประเสริฐ หว่านความรัก หว่านความช่วยเหลือแก่ผู้หิวโหย เปลือยกาย ยากไร้ และเลือกเมล็ดที่ดีหว่านลงไปในชีวิตของคน ถ้าเราไม่เมื่อยล้า เราจะได้เกี่ยวเก็บผล นำฟ่อนข้าวกลับบ้านด้วยเสียงโห่ร้องอย่างชื่นบาน และปากของเราก็จะหัวเราะอย่างเต็มที่

หัวข้ออธิษฐาน

1. ทูลขอพระปัญญาจากพระเจ้าที่จะ

วันที่10

เมื่อโยนาห์กลับใจเสียใหม่               

   อ่านประกาศก โยนาห์บทที่ 1-4
   
ประกาศกโยนาห์ มีชีวิตอยู่ในสมัยกษัตริย์เยโรโบอัมที่ 2 (786-740 ก่อนคริสตศักราช) เมื่อโยนาห์ แปลว่า

seraphim เขียน: ;) ใช้หนังสือ 40 วัน การอธิษฐาน การอดอาหารที่พระเจ้าพอพระทัย เล่มแดงๆหรือเปล่าค่ะ ที่พัทยาจะ

ร่วมกันอธิษฐานของกลุ่มคริสเตียนทั่วประเทศ ที่โรงแรม Royal Twins ในวันพฤหัสที่ 17 พ.ย นี้ด้วยค่ะ

ไม่ทราบว่า พี่พีพีจะมาด้วยหรือเปล่าค่ะ งานนี้รู้สึกว่า นายกเมืองพัทยา จะมาเปิดงานด้วย

ค่ะ เล่ม ลาย พระเยซู กับเด็ก พื้นแดงๆและมีกางเขน ขาวๆ เขียน 40 วัน

คงเป็นคริสเตียน เขตตะวันออกหรือเปล่าคะ

เพราะมีทั้ง หมด 21 จังหวัด ทั่วประเทศที่เป็นศูนย์กลาง

พี่คงไปร่วม วันอธิษฐาน รวม วันที่ 10 ธันวาคม ค่ะ

:) :) โอเช เป็นเล่มเดียวกันค่ะ พอดีคุณครูฝรั่งที่เป็นคริสเตียนที่โรงเรียนน้องสาวให้มาค่ะ

;D ;D ให้น้องเจี๊ยบช่วยโพสแทนวันที่ 12 - 40 ด้วยสิค่ะ

ว่าแต่หนังสือเล่มที่ว่านี่. .ที่ไหนมีขายมั่งอ่ะคะ ???
อยากได้มั่งจังเลยค่ะ ;)

วันที่ 12

ทุ่มชีวิตให้แก่คนหิว   

อ่านอิสยาห์ 58:10

58:10 ถ้าเจ้าทุ่มเทชีวิตของเจ้าแก่คนหิว และให้ผู้ถูกข่มใจได้อิ่มใจ แล้วความสว่างจะโผล่ขึ้นแก่เจ้าในความมืด และความมืดคลุ้มของเจ้าจะเป็นเหมือนเที่ยงวัน


มัทธิว 25.31-46

25:31 "เมื่อบุตรมนุษย์ทรงพระสิริเสด็จมากับทั้งหมู่ทูตสวรรค์ เมื่อนั้นพระองค์จะประทับบนพระที่นั่งอันรุ่งเรืองของพระองค์
25:32 บรรดาประชาชาติต่างๆจะประชุมพร้อมกันต่อพระพักตร์พระองค์ และพระองค์จะทรงแยกมนุษย์ทั้งหลายออกเป็นสองพวก เหมือนอย่างผู้เลี้ยงแกะจะแยกแกะออกจากแพะ
25:33 ส่วนฝูงแกะนั้นจะทรงจัดให้อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ แต่ฝูงแพะนั้นจะทรงจัดให้อยู่เบื้องซ้าย
25:34 ขณะนั้น พระมหากษัตริย์จะตรัสแก่บรรดาผู้ที่อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ว่า "ท่านทั้งหลายที่ได้รับพระพรจากพระบิดาของเรา จงมารับเอาราชอาณาจักร ซึ่งได้ตระเตรียมไว้สำหรับท่านทั้งหลายตั้งแต่แรกสร้างโลก
25:35 เพราะว่าเมื่อเราหิว ท่านทั้งหลายก็ได้จัดหาให้เรากิน เรากระหายน้ำ ท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ได้ต้อนรับเราไว้
25:36 เราเปลือยกายท่านก็ได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เมื่อเราเจ็บป่วยท่านก็ได้มาเยี่ยมเอาใจใส่เรา เมื่อเราต้องจำอยู่ในพันธนาคาร ท่านก็ได้มาเยี่ยมเรา"
25:37 เวลานั้นบรรดาผู้ชอบธรรมจะกราบทูลว่า "พระองค์เจ้าข้า ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ทรงหิวหรือทรงกระหายน้ำ และได้จัดมาถวายแด่พระองค์แต่เมื่อไร
25:38 ที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลก หน้า และได้ต้อนรับไว้ หรือเปลือยพระกาย และได้สวมฉลองพระองค์ให้แต่เมื่อไร
25:39 ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ประชวรหรือต้องจำอยู่ในพันธนาคาร และได้มาเฝ้าพระองค์นั้นแต่เมื่อไร"
25:40 แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสกับเขาว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ซึ่งท่านได้กระทำแก่คนใดคนหนึ่งในพวกพี่น้องของเรานี้ ถึงแม้จะต่ำต้อยเพียงไร ก็เหมือนได้กระทำแก่เราด้วย"
25:41 พระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายพระหัตถ์ของพระองค์ว่า "ท่านทั้งหลายผู้ต้องแช่งสาปจงถอยไปจากเรา เข้าไปอยู่ในไฟซึ่งไหม้อยู่เป็นนิตย์ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับมารร้ายและสมุนของมันนั้น
25:42 เพราะว่าเมื่อเราหิวท่านก็มิได้ให้เรากิน เรากระหายน้ำท่านก็มิได้ให้เราดื่ม
25:43 เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ไม่ได้ต้อนรับเราไว้ เราเปลือยกาย ท่านก็ไม่ได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เราเจ็บป่วยและต้องจำอยู่ในพันธนาคาร ท่านไม่ได้เยี่ยมเรา"
25:44 เขาทั้งหลายจะทูลว่า "พระองค์เจ้าข้า ที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ทรงหิวหรือทรงกระหายน้ำ หรือทรงเป็นแขกแปลกหน้าหรือเปลือยพระกาย หรือประชวร หรือต้องจำอยู่ในพันธนาคาร และข้าพระองค์มิได้ปรนนิบัติพระองค์นั้นแต่เมื่อไร"
25:45 เมื่อนั้นพระองค์จะตรัสกับเขาว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ซึ่งท่านมิได้กระทำแก่ผู้ต่ำต้อยที่สุดสักคนหนึ่งในพวกนี้ ก็เหมือนท่านมิได้กระทำแก่เราด้วย"
25:46 และพวกเหล่านี้จะต้องออกไปรับโทษอยู่เป็นนิตย์ แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์"



   พระเยซูตรัสว่า

anton เขียน: อยากใด้หนังสือมั่งครับ ต้องทำยังไงเอ่ย ผมอยู่ที่รัชดาอะ

ไปที่วัดพระมหาไถ่ หรือ ส่ง adress. ทาง IM ให้พี่พีพี ยังเหลือ จำนวนหนึ่งค่ะ

SugarRei เขียน: อยากได้หนังสือเหมือนกันงับๆ
ขอที่อยู่ทาง PM ได้ไหมคะ
จะได้ส่งซองเปล่าติดสแตมป์ไปให้ค่ะ เล่มใหญ่มั๊ยคะ จะได้กะค่าสแตมป์ถูก

น้องเร คะ ที่คริสตจักร วัฒนา มีแน่ๆ เพราะศิษยาภิบาล เป็นกรรมการใหญ่ของ งานนี้ค่ะ

seraphim เขียน:
:) :) โอเช เป็นเล่มเดียวกันค่ะ พอดีคุณครูฝรั่งที่เป็นคริสเตียนที่โรงเรียนน้องสาวให้มาค่ะ

;D ;D ให้น้องเจี๊ยบช่วยโพสแทนวันที่ 12 - 40 ด้วยสิค่ะ

ดี จัง ครูฝรั่ง ;D

เรื่องให้ เจ้าเจี๊ยบโพสต์ นี่ จะเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะตอนนี้ชอบ สะเหร่อ อยู่ที่พันทิปน่ะ

เวลาว่างส่วนใหญ่ ทะเลาะกับ อิกคิว คู่นี้ พอๆกัน แรงต่อแรง ชนกัน

:+:Regina Pacis:+: เขียน: ว่าแต่หนังสือเล่มที่ว่านี่. .ที่ไหนมีขายมั่งอ่ะคะ ???
อยากได้มั่งจังเลยค่ะ ;)

ไม่มีขายให้ ฟรี ส่ง adress ผ่าน IM ไปถึงพี่พีพี ค่ะ จะจัดส่งให้

หรือ ติดตามอ่านที่บอร์ดนี้แหละ พี่พยายามจะ พิมพ์ มาโพสต์ทั้งหมดค่ะ

เปิดพระคัมภีร์ให้ด้วย ค่ะ

>:( >:( น้องเจี๊ยบนี่ ใกล้เกลือกินด่างอีกแล้ว ระวังด่างจะกัดปากนะจ๊ะ

http://www.jaisamarn.net/40/Book40days.pdf



โหลดเอาได้ อ่ะ

RACHEL(บุหลัน) เขียน: http://www.jaisamarn.net/40/Book40days.pdf

โหลดเอาได้ อ่ะ

ขอบคุณมากๆ จ๊ะ Hey!! how are you ?

วันที่ 13

สังคมที่เต็มด้วยความผิดบาปทางเพศ   

โรม 1.24-27

1:24 เหตุฉะนั้น พระเจ้าจึงทรงปล่อยเขาให้ประพฤติอุลามกตามราคะตัณหาในใจของเขาให้เขากระทำสิ่งซึ่งน่าอัปยศทางกายต่อกัน
1:25 เพราะว่าเขาได้เอาความจริงเรื่องพระเจ้ามาแลกกับความเท็จ และได้นมัสการและปรนนิบัติสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้ แทนพระองค์ผู้ทรงสร้าง ผู้ซึ่งควรจะได้รับความสรรเสริญเป็นนิตย์ อาเมน
1:26 เพราะเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงปล่อยให้เขามีกิเลสตัณหาอันน่าอัปยศ พวกผู้หญิงของเขาก็เปลี่ยนจากการสัมพันธ์ตามธรรมชาติ ให้ผิดธรรมชาติไป
1:27 ฝ่ายผู้ชายก็เลิกการสัมพันธ์กับผู้หญิงให้ถูกตามธรรมชาติเช่นกัน และเร่าร้อนด้วยไฟแห่งราคะตัณหาที่มีต่อกัน ผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันประกอบกิจอันชั่วช้าอย่างน่าละอาย เขาจึงได้รับผลกรรมอันสมควรแก่ความผิดของเขา

   ประเทศไทยเป็นแหล่งของการค้าประเวณีเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ชาวต่างประเทศมาเที่ยวเมืองไทยส่วนหนึ่ง เพราะต้องการมาใช้บริการทางเพศ หาได้ง่าย ราคาถูก เพราะความยากจน ทำให้เด็กวัยรุ่นในชนบทมาขายตัวเป็นหญิงบริการ และเพราะความฟุ้งเฟ้อเรื่องเสื้อผ้า เครื่องประดับ การเที่ยวเตร่ และการชักจูงของเพื่อนๆ ทำให้นักศึกษานักเรียนหญิง ยอมขายตัวบริการทางเพศ เพื่อจะได้เงินมาซื้อของฟุ่มเฟือย

   เด็กวัยรุ่นหญิงชายมีเพศสัมพันธ์กันโดยถือเป็นเรื่องปกติ ถือเป็นการเรียนรู้ เป็นกำไรของชีวิต เป็นแฟชั่นที่นิยมปฏิบัติกัน ไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าอาย หรือเป็นเรื่องผิดบาป เป็นความพอใจของทั้งสองฝ่าย การมีเพศสัมพันธ์เหมือนการทานอาหาร เปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ เหมือนเปลี่ยนร้านอาหาร ผลกระทบที่ตามมาคือโรคติดต่อทางเพศ และที่สำคัญคือ โรคเอดส์ได้แพร่ระบาดไปในพวกนักเรียนนักศึกษา อีกเรื่องหนึ่งคือ การทำแท้ง (เป็นการฆ่าเด็กในท้องที่ไม่มีทางต่อสู้) มีการทำแท้งหลายหมื่นรายในแต่ละปี เลือดของเด็กที่ไร้ความผิดตกบนแผ่นดินไทยมากมายมหาศาลในแต่ละปี ทำให้แผ่นดินมีมลทิน

   พวกรักร่วมเพศกำลังทวีจำนวนขึ้นอย่างมากมายตามสถาบันศึกษา พวกนี้กำลังเรียกร้องสิทธิ์ และสร้างความเชื่อค่านิยมว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ความผิดบาป ไม่ผิดศีลธรรม เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับพวกเขา และคนอื่นๆ ก็มีสิทธิเลือกและแสดงออกได้เต็มที่

หัวข้ออธิษฐาน

1.   ขอให้รัฐบาลดำเนินมาตรการปราบปรามสื่อลามกต่างๆ อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เป็นพิษภัยต่อเด็กๆ และวัยรุ่น
2.   ขอพระเจ้าอวยพระพรหน่วยงานคริสเตียนที่ทำงานกับหญิงค้าบริการ เพื่อให้หญิงเหล่านี้พบพระเจ้า และเปลี่ยนอาชีพ
3.   ขอให้รัฐบาลและผู้นำชุมชนตามที่ต่างๆ ร่วมมือกันประชาสัมพันธ์ สร้างค่านิยมของการรักนวลสงวนตัวในหมู่นักเรียน นักศึกษา ให้มีความภูมิใจในศักดิ์ศรีของตนเอง
4.   การช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นสีนามิในโครงการ เรารักประเทศไทย ด้านจิตใจและด้านประกอบอาชีพ

Prod Pran เขียน: [

น้องเร คะ ที่คริสตจักร วัฒนา มีแน่ๆ เพราะศิษยาภิบาล เป็นกรรมการใหญ่ของ งานนี้ค่ะ

เมื่อเช้าอาจารย์ก็บอกว่าที่โบสถ์มีค่ะ ขอบคุณค่า เดี๋ยวเอาที่โบสถ์ได้ค่ะ
ว่าแต่ คือเล่มเดียวกะที่กำลังโพสนี้ป่ะคะ ^^

SugarRei เขียน:

Prod Pran เขียน: [

น้องเร คะ ที่คริสตจักร วัฒนา มีแน่ๆ เพราะศิษยาภิบาล เป็นกรรมการใหญ่ของ งานนี้ค่ะ

เมื่อเช้าอาจารย์ก็บอกว่าที่โบสถ์มีค่ะ ขอบคุณค่า เดี๋ยวเอาที่โบสถ์ได้ค่ะ
ว่าแต่ คือเล่มเดียวกะที่กำลังโพสนี้ป่ะคะ ^^

เล่ม เดียว กันค่ะ ( ไม่มีใครขยัน เสียเงิน หลายเวอร์ชั่นหรอก หนู ) :-*

วันที่ 14

หญิงม่าย กลับใจ

อ่าน 1 พงศ์กษัตริย์

17:9 "ลุกขึ้นไปยังเมืองศาเรฟัทเถิด ซึ่งขึ้นแก่เมืองไซดอน และอาศัยอยู่ที่นั่น ดูเถิด เราได้บัญชาหญิงม่ายคนหนึ่งที่นั่นให้เลี้ยงเจ้า"
17:10 ท่านจึงลุกขึ้นไปยังเมืองศาเรฟัท และเมื่อมาถึงประตูเมือง ดูเถิด หญิงม่ายคนหนึ่งที่นั่นกำลังเก็บฟืน ท่านจึงเรียกนางว่า "ขอน้ำเล็กน้อยใส่ภาชนะมาให้ฉัน เพื่อฉันจะได้ดื่มน้ำ"
17:11 และขณะเมื่อนางจะไปเอาน้ำมา ท่านก็เรียกนางแล้วบอกว่า "ขอนำอาหารใส่มือมาให้ฉันสักหน่อยหนึ่ง"
17:12 และนางตอบว่า "พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ดิฉันไม่มีอะไรที่ปิ้งเสร็จ มีแต่แป้งสักกำมือหนึ่งในหม้อ และน้ำมันเล็กน้อยที่ในไห บัดนี้ดิฉันกำลังเก็บฟืนเล็กน้อย เพื่อจะเข้าไปทำสำหรับตัวดิฉัน และบุตรชายของดิฉัน เพื่อเราจะได้กินแล้วก็จะตาย"
17:13 และเอลียาห์บอกนางว่า "อย่ากลัวเลย จงไปทำตามที่เจ้าพูด แต่จงทำขนมก้อนเล็กให้ฉันก่อน แล้วเอามาให้ฉัน ภายหลังจึงทำสำหรับตัวเจ้าและบุตรของเจ้า
17:14 เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า "แป้งในหม้อนั้นจะไม่หมด และน้ำมันในไหนั้นจะไม่ขาด จนกว่าจะถึงวันที่พระเจ้าทรงส่งฝนลงมายังพื้นดิน"
17:15 นางก็ไปกระทำตามคำของเอลียาห์ นาง ตัวท่านและครอบครัวของนางก็รับประทานอยู่หลายวัน
17:16 แป้งในหม้อก็ไม่หมดน้ำมันในไหก็ไม่ขาด ตามพระวจนะของพระเจ้าซึ่งตรัสทางเอลียาห์


   พงศ์กษัตริย์ 17.8-16 ได้บันทึกเรื่องราวชีวิตของหญิงม่ายชาวศาเรฟัท มีลูกคนเดียวกำลังเผชิญการภัยแล้ง หรือ ทุพภิกขภัย และกำลังจะตายหลังจากที่จะรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายจากแป้งที่เหลืออยู่สักหนึ่งกำมือที่อยู่ในหม้อ และน้ำมันเล็กน้อยที่เหลืออยู่ในไห นางออกไปเก็บฟืนเพื่อจะทำอาหารมื้อสุดท้าย

   เวลานั้น พระเจ้าได้ทรงบัญชาให้เอลียาห์ไปหาแม่ม่ายคนนี้ และตรัสว่าจะให้นางเลี้ยงดูเอลียาห์ในยามวิกฤติการณ์ เช่นนี้ เอลียาห์เชื่อและทำตาม และได้ไปขอพบหญิงคนนี้จริงๆ ขึ้นแรกเอลียาห์ขอน้ำ นางบอกว่าพอจะมีให้ ขณะกำลังเดินไปเพื่อจะเอาน้ำมาให้ เอลียาห์กล่าวต่อไปว่า ขอให้ทำอาหารมาให้ฉันกินด้วย

   เธอถึงกับอ้างพระนามของพระเจ้าให้เอลียาห์ฟังเพื่อ เพื่อจะพูดความจริงว่าเธอกำลังจะตายพร้อมกับลูก หลังจากอาหารมื้อสุดท้ายที่เหลืออยู่ แล้สจะทำอาหารมาเลี้ยงเอลียาห์ได้อย่างไร เอลียาห์สั่งว่าอย่ากลัวเลย จงไปทำตามที่เจ้าพูด และทำมาให้ฉันกินก่อน และเธอกับลูกค่อยกินภายหลัง พูดเป็นนัยว่า ถ้าเธอเปลี่ยนความคิด (กลับใจเสียใหม่) พระเจ้าจะเติมเต็มให้

   นางเชื่อและทำตาม นางกลับใจจากความคิดที่ว่า วันนี้หลังจากอาหารมื้อสุดท้ายแล้วจะตาย พร้อมกันกับลูก การอัศจรรย์เกิดขึ้น แป้งในหม้อไม่ขาด และน้ำมันก็ไม่ได้หมดไปจากไห ตรงกันข้าม ภาชนะทั้งสองได้รับการเติมเต็ม นาง และบุตรและเอลียาห์มีอาหารรับประทานต่อไปอีกหลายวัน (1 พงศ์กษัตริย์ 17.15-16)

   พระเยซูคริสต์ ได้ยกย่องเธอให้ชาวเมืองนาซาเร็ธฟังอีกครั้งหนึ่ง (ลูกา 4.25-26)

หัวข้ออธิษฐาน

1.   เพื่อหญิงม่ายในคริสตจักร /พระศาสนจักรให้มีความเชื่อในพระเจ้าอย่างมั่นคง
2.   เพื่อบุตรของหญิงม่ายและคนสูงอายุได้รับพระพรในการดำรงชีวิต
3.   เพื่อหญิงม่ายและคนสูงอายุที่ถูกทอดทิ้ง
4.   เพื่อผู้รับใช้พระเจ้าในเมืองและในชนบท ( บาทหลวง บราเด้อร์ ซิสเตอร์ )จะได้รับการสนับสนุนเพียงพอ มีขวัญกำลังใจในการรับใช้พระเจ้า

สวัสดีพี่พีพีและทุกท่านครับ
เสียดายอาทิตย์ก่อนที่พระจัดให้ผมกับพี่เจอกันโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่ได้คุยกันมากมายเลย เพราะผมต้องซ้อมเพลงที่วัดต่อ เลยไม่ได้ฟังพ่อพงศ์เทพบรรยายให้นักศึกษาของพี่เลย เสียดายจังแฮะ ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง
ผมก็ได้รับหนังสือนี้จากเพื่อนๆ คริสเตียนเป็นประจำทุกปีจากคริสตจักรเหมือนกัน นี่ก็คิดว่าจะนำติดตัวไปอธิษฐานภาวนาที่ บ้านผู้หว่าน ในโอกาสผมไปเข้าเงียบครั้งแรก วันที่ 19-21 พ.ย. นี้เหมือนกัน ถึงผิดก้อคงมะสนใจอะ เราบริสุทธิ์ใจซะอย่าง คงไม่น่าจะเป็นการผิดอะไรของคริสตังกระมัง
ถือโอกาสพิจจรณากระแสเรียกของตัวเองเหมือนกัน ว่าชีวิตและน้ำพระทัยของพระเจ้าจะไปทางไหนดี เพราะผมรู้สึกว่างเปล่าในชีวิตมากๆ
แล้วพอเข้าเงียบผ่านไปจะเมล์หลังไมค์มาแบ่งปันให้พี่ฟังครับ
TPP
:-)

แหม พี่ พัพเพ็ต เมื่อวาน ฮะ ที่พี่พีพี พานักศึกษา ไปร่วมมิสซา และฟังบรรยายจาก พ่อพงศ์เทพฮะ

พ่อบรรยายดีมาก เข้าใจทะลุปรุโปร่ง ขอให้มีสันติสุขในการเข้าเงียบนะฮะ

วันที่ 15

มองคน อย่างมีคุณค่า!!             

ลูกา 15.3-10

15:3 พระองค์จึงตรัสคำเปรียบให้เขาฟังดังต่อไปนี้ว่า
15:4 "ในพวกท่านมีคนใดที่มีแกะร้อยตัว และตัวหนึ่งหายไป จะไม่ละเก้าสิบเก้าตัวนั้นไว้ที่กลางทุ่งหญ้า และไปเที่ยวหาตัวที่หายไปนั้นจนกว่าจะได้พบหรือ
15:5 เมื่อพบแล้วเขาก็ยกขึ้นใส่บ่าแบกมาด้วยความเปรมปรีดิ์
15:6 เมื่อมาถึงบ้านแล้ว จึงเชิญพวกมิตรสหายและเพื่อนบ้านให้มาพร้อมกัน พูดกับเขาว่า "จงเปรมปรีดิ์กับข้าพเจ้าเถิด เพราะข้าพเจ้าได้พบแกะของข้าพเจ้าที่หายไปนั้นแล้ว"
15:7 เราบอกท่านทั้งหลายว่า เช่นนั้นแหละ จะมีความปรีดีในสวรรค์ เพราะคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ มากกว่าเพราะคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ต้องการกลับใจใหม่
15:8 "หญิงคนใดที่มีเหรียญเงินสิบเหรียญ และเหรียญหนึ่งหายไป จะไม่จุดตะเกียงกวาดเรือนค้นหาให้ละเอียดจนกว่าจะพบหรือ
15:9 เมื่อพบแล้วจึงเชิญเหล่ามิตรสหาย และเพื่อนบ้านให้มาพร้อมกัน พูดกับเขาว่า "จงเปรมปรีดิ์กับข้าพเจ้าเถิด เพราะข้าพเจ้าได้พบเหรียญเงินที่หายไปนั้นแล้ว"
15:10 เช่นนั้นแหละ เราบอกท่านทั้งหลายว่าจะมีความปรีดีในพวกทูตของพระเจ้า เพราะคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่    

การที่ท่านได้สูญเสียใครบางคนหรือเสียของบางอย่างไป และไม่มีโอกาสได้คืน รู้สึกแบบไหน??

   เช่นเดียวกัน ในพระคัมภีร์ตอนนนี้สอนให้เราได้รู้ว่า ของบางอย่างที่มีความสำคัญได้หายไปนั้นต่างมีความหมายต่อคนที่เกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น... แกะที่หายไป มีความสำคัญมากต่อคนเลี้ยงแกะ เพราะเป็นไปได้ที่จำนวนเกาะที่เขามี สำคัญต่อการดำรงเลี้ยงชีพ รายได้หรือไม่ก็เกี่ยวข้องกับสถานภาพ และศักดิ์ศรีของการเป็นผู้เลี้ยงที่ดีด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อลูกแกะหายไป แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้เลี้ยงที่ใช้การไม่ได้

   เหรียญที่หายไป มีความสำคัญต่อการอยู่รอดของหญิงนั้น เป็นไปได้ที่เหรียญนั้นไม่ใช่เป็นเงินเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่าย แต่น่าจะหมายถึงเหรียญที่ใช้เป็นเครื่องประดับ เพื่อจะยกระดับหรือบ่งบอกสถานะของหญิงนั้นต่อสังคมรอบข้าง หากนางมีไม่ครบชีวิตน่าจะจบลงแบบไม่ดีได้

   พระเยซูคริสต์ได้นำเอา 2 เรื่องนี้มาเปรียบให้เราเห็นว่า สำหรับพระองค์แล้ว คนมีคุณค่าและมีความสำคัญอย่างมาก ดังที่ได้ทรงตรัสไว้ว่า

วันที่ ๑๖
รับการเจิมส่วนตัว
(กิจการ 1:4-8; 10:38)

1:4 เมื่อพระองค์ได้ทรงพำนักอยู่กับอัครทูต จึงกำชับเขามิให้ออกไปจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่ให้คอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา คือพระองค์ตรัสว่า "ตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินจากเรานั่นแหละ
1:5 เพราะว่ายอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่ไม่ช้าไม่นานท่านจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์"
1:6 เมื่อเขาทั้งหลายได้ประชุมพร้อมกัน เขาจึงทูลถามพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า พระองค์จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่ ให้แก่ชนอิสราเอลในครั้งนี้หรือ"
1:7 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า "ไม่ใช่ธุระของท่าน ที่จะรู้เวลาและวาระซึ่งพระบิดาได้ทรงกำหนดไว้ โดยสิทธิอำนาจของพระองค์
1:8 แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก"

10:38 คือเรื่องพระเยซูชาวนาซาเร็ธ ว่าพระเจ้าได้ทรงเจิมพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร และพระเยซูเสด็จไปกระทำคุณประโยชน์ และรักษาบรรดาคนซึ่งถูกมารเบียดเบียน เพราะว่าพระเจ้าทรงสถิตกับพระองค์

   การแก้ การปลดปล่อย การหักแอกเสียทุกอัน การปันอาหารแก่คนหิว ฯลฯ เหล่านี้เป็นกิจการฝ่ายวิญญาณ แม้แต่การแจกทานในพระธรรมกิจการบทที่ 6 ก็ยังต้องการคนทำการที่ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์

   ถ้าคริสเตียนผู้ทำการไม่ได้รับการทรงเจิมจากพระเจ้าแล้ว กิจการดีทั้งปวงเหล่านี้ที่ได้กระทำตามอิสยาห์บทที่ 58 ก็เป็นเพียงกิจการที่ดีเท่านั้น คริสเตียนไทยในอดีตได้ทุ่มเทการดีเหล่านี้อย่างมากมาย แต่การพลิกฟื้นชุมชนก็ยังเป็นความหวังอยู่เท่านั้น พันธกิจอันเป็นคุณประโยชน์เหล่านี้ พระเยซูเองก็ได้ทรงกระทำให้เราเห็นเป็นตัวอย่าง แต่พระองค์มิได้ทรงกระทำโดยปราศจากการทรงเจิม

   กิจการ 10:38 กล่าวว่าพระเจ้าได้ทรงเจิมพระเยซูเจ้า

วันที่ ๑๘

เมื่อแม่ทัพกลับใจ
(2 พงษ์กษัตริย์ 5:1-14)

5:1 นาอามานผู้บัญชาการกองทัพของพระราชาประเทศซีเรีย เป็นคนสำคัญมากของพระราชา เป็นคนมีเกียรติ เพราะว่าพระเจ้าทรงนำชัยชนะมายังซีเรียโดยท่านนี้ ท่านเป็นวีรบุรุษด้วย แต่ท่านเป็นโรคเรื้อน
5:2 ฝ่ายคนซีเรียยกพวกไปปล้นครั้งหนึ่งนั้น ได้จับเด็กหญิงคนหนึ่งมาจากแผ่นดินอิสราเอล และเธอมาปรนนิบัติภรรยาของนาอามาน
5:3 เธอได้เรียนนายผู้หญิงของเธอว่า "อยากให้เจ้านายของดิฉันไปอยู่กับผู้เผยพระวจนะผู้ซึ่งอยู่ในสะมาเรีย ท่านจะได้รักษาโรคเรื้อนของเจ้านายเสียให้หาย"
5:4 นาอามานจึงไปทูลพระราชาเจ้านายของท่านว่า สาวใช้จากแผ่นดินอิสราเอลพูดว่าอย่างนั้นๆ
5:5 พระราชาแห่งซีเรียตรัสว่า "จงไปเถิด เราจะส่งสารไปยังพระราชาแห่งอิสราเอล" แล้วท่านก็ไป นำเงินหนักสิบตะลันต์ ทองคำหนักหกพันเชเขล และเสื้อเที่ยวงานสิบชุดไปด้วย
5:6 และท่านก็นำสารไปยังพระราชาแห่งอิสราเอลใจความว่า "เมื่อสารนี้มาถึงท่าน ขอท่านทราบด้วยว่า ข้าพเจ้าได้ส่งนาอามานข้าราชการของข้าพเจ้ามา เพื่อขอให้ท่านรักษาเขาให้หายจากโรคเรื้อน"
5:7 และอยู่มาเมื่อพระราชาอิสราเอลทรงอ่านสารนั้นแล้ว พระองค์ก็ทรงฉีกฉลองพระองค์ตรัสว่า "เราเป็นพระเจ้าซึ่งจะให้ตายและให้มีชีวิตหรือ ชายคนนี้จึงส่งสารมาให้เรารักษาคนหนึ่งที่เป็นโรคเรื้อน ขอใคร่ครวญดูเถิดว่าเขาแสวงหาเหตุพิพาทกับเราอย่างไร"
5:8 แต่เมื่อเอลีชาคนแห่งพระเจ้าได้ยินว่า พระราชาแห่งอิสราเอลได้ทรงฉีกฉลองพระองค์ จึงใช้คนไปทูลพระราชาว่า "ไฉนฝ่าบาทจึงทรงฉีกฉลองพระองค์ของฝ่าพระบาทเสีย ขอให้เขามาหาข้าพระบาทเถิด เพื่อเขาจะได้ทราบว่า มีผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งในอิสราเอล"
5:9 นาอามานจึงมาพร้อมกับบรรดาม้าและรถรบของท่าน มาหยุดอยู่ที่ประตูเรือนของเอลีชา
5:10 เอลีชาก็ส่งผู้สื่อสารมาเรียนท่านว่า "ขอจงไปชำระตัวในแม่น้ำจอร์แดนเจ็ดครั้ง และเนื้อของท่านจะกลับคืนเป็นอย่างเดิม และท่านจะสะอาด"
5:11 แต่นาอามานก็โกรธและไปเสีย บ่นว่า "ดูเถิด ข้าคิดว่าเขาจะออกมาหาข้าเป็นแน่และมายืนอยู่ และออกพระนามของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา แล้วโบกมือเหนือที่นั้นให้โรคเรื้อนหาย
5:12 อาบานาและฟารปาร์แม่น้ำเมืองดามัสกัส ไม่ดีกว่าบรรดาลำน้ำแห่งอิสราเอลดอกหรือ ข้าจะชำระตัวในแม่น้ำเหล่านั้นและจะสะอาดไม่ได้หรือ" ท่านจึงหันตัวแล้วไปเสียด้วยความเดือดดาล
5:13 แต่พวกข้าราชการของท่านเข้ามาใกล้และเรียนท่านว่า "คุณพ่อของข้าพเจ้า ถ้าท่านผู้เผยพระวจนะจะสั่งให้ท่านกระทำสิ่งใหญ่โตประการหนึ่งท่านจะไม่กระทำหรือ ถ้าเช่นนั้นเมื่อท่านผู้เผยพระวจนะกล่าวแก่ท่านว่า "จงไปล้างและสะอาดเถิด" ควรท่านจะทำยิ่งขึ้นเท่าใด"
5:14 ท่านจึงลงไปจุ่มตัวเจ็ดครั้งในแม่น้ำจอร์แดน ตามถ้อยคำของคนแห่งพระเจ้า และเนื้อของท่านก็กลับคืนเป็นอย่างเนื้อของเด็กเล็กๆ และท่านก็สะอาด

   ในพันธสัญญาเดิม 2 พงศกษัตริย์ 5:1-14 ได้บันทึกเรื่องราวชีวิตของแม่ทัพแห่ง ประเทศซีเรีย มีชื่อว่า นาอามาน เป็นคนสำคัญของกษัตริย์ เป็นคนมีเกียรติ เพราะนำชัยชนะในการรบมาสู่ประเทศซีเรีย จนได้รับฉายาว่าเป็น วีรบุรุษ

   หลังจากท่านยกทัพไปรบสะมาเรีย และได้รับชัยชนะเมื่อยกทัพกลับท่านได้จับเด็กอิสราเอลคนหนึ่งให้ปรนนิบัติภรรยาของท่าน วันหนึ่งเด็กคนนี้บอกข่าวดีให้แก่ภรรยาของท่านว่า อยากจะให้นายไปอิสราเอลเพื่อรับการรักษาโรคจากผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า เป็นที่น่ายินดีที่ภรรยาบอกให้สามีฟัง สามีเชื่อจึงกราบบังคมทูลกษัตริย์ พระองค์ก็ทรงพอพระทัย และได้มีพระราชหัตถเลขาไปยังกษัตริย์แห่งกรุงสะมาเรีย ให้อำนวยความสะดวกแก่แม่ทัพ แต่กษัตริย์อิสราเอลคิดว่าเป็นแผนการของกษัตริย์ซีเรียมาหาเหตุให้เกิดการพิพาทอีก เพราะพระองค์ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะรักษาโรคเรื้อนได้ เมื่อความทราบถึงเอลีชาๆ จึงให้คนไปทูลกษัตริย์ว่า ขอให้ส่งแม่ทัพอานามานมาหาท่าน และท่านจะเป็นผู้รักษาเอง แม่ทัพนาอามานก็เดินทางไปถึงที่พักเอลีชาๆ ได้ให้คนใช้มาพบที่ประตูบ้าน โดยแจ้งให้แม่ทัพว่า นายของผมบอกว่าให้ท่านไปจุ่มตัวลงในแม่น้ำจอร์แดนเจ็ดครั้ง โรคเรื้อนของท่านก็จะหาย พูดจบแล้วแม่ทัพนาอามานโกรธมาก เพราะผิดหวังมากๆ โดยท่านคิดว่าผู้รับใช้พระเจ้าจะออกมาต้อนรับแล้วโบกมือ เหนือโรคของท่านเป็นการักษาเยียวยา ท่านแม่ทัพหันกลับไปด้วยความโกรธและตัดพ้อต่อว่าด้วยการเปรียบเทียบว่า ที่ประเทศซีเรียมีแม่น้ำที่ดีกว่าอิสราเอล จะไปจุ่มตัวที่นั่นไม่ดี กว่าหรือ นายทหารคนสนิทได้เข้าไปพูดกับท่านแม่ทัพว่า