ผมป่วยหนัก พี่น้องคริสเตียน คริสตังช่วยสวดให้ผมด้วยครับ
-
- โพสต์: 131
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
- ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima
ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าตัวผม ไม่ได้ยำเกรงพระเจ้า ยังไงก็ไม่รู้ครับ ผมมักจะทำบาปอยู่เสมอ โดยเฉพาะบาปทางเพศน่ะครับ คือผมอาจจะเป็นโรคติดเซ็กซ์ก็ได้ ผมมักจะชอบเข้าเวปลามก อยู่เรื่อยๆ เมื่อเวลาใช้ net และก็ชอบเข้าเวปที่มีรูปผู้หญิงสวยๆ เซฟภาพเอาไว้ดู และบางครั้งก็ช่วยตัวเองด้วย เมื่อผมทำบาปลงไปแล้วผมมักจะสำนึกผิดทุกครั้ง พยายามที่จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับมัน ทุกครั้งที่ผมทำบาป ผมรู้สึกเจ็บปวดในใจมาก และทนทุกข์มาก แต่ผมก็ยังเลิกพฤติกรรมนี้ไม่ได้เสียที ถึงแม้ว่าผมจะสารภาพบาปกับพระองค์ทุกครั้งที่ทำบาป รู้ทั้งรู้นะครับว่าหากทำลงไปแล้วเราจะทรมานและทุกข์ใจแค่ไหน แต่ผมก็ยังทำ มันมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรมดึงดูดให้ผมต้องทำมัน มีอยู่หนหนึ่งผมตัดสินใจที่ลบภาพเหล่านั้นออกจากคอมของผม ผมตัดสินใจว่า ผมจะไม่ดูภาพแบบนั้นอีก และผมก็จะพยายามที่จะกลับใจอย่างแน่วแน่ และผมก็ทำได้มาระยะหนึ่ง แต่เมื่อ 2 วันก่อนนี้ ผมซื้อคอมใหม่ แล้วที่ร้านก็ดันเอาภาพแบบนั้นลงในเครื่องผม แถมยังมีคลิปวิดิโออย่างว่าด้วย ทั้งๆที่ผมไม่ได้สั่งเขาเลย ผมไม่ต้องการ เพราะผมกำลังอยากจะเลิก จนแล้วจนเล่า ผมก็เปิดดู และผมก็ทำบาป อีกจนได้ และตอนนี้ผมเริ่มท้อใจและหมดหวัง ผมนึกถึงพระคัมภีร์ตอนหนึ่งกล่าวว่า เมื่อเราสารภาพความผิดบาปต่อพระองค์ พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม จะทรงอภัยบาปให้กับเราทุกครั้ง ผมก็เลยนึกว่า พระองค์จะทรงอภัยให้ลูกที่เป็นคนอุลามก คนนี้ได้ทุกครั้งจริงหรือ ผมกลัวเหมือนคนเมือง โสดม ที่ถูกพระองค์ล้างผลาญเสียสิ้น ผมต่อสู้กับเนื้อหนังมาจนอ่อนล้า ผมต่อสู้กับจนผมไม่รู้จะเอาอะไรมาสู้กับมันแล้ว ผมลองทุกหนทางที่จะเอาชนะบาปเรื่องนี้ให้ได้ แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง ผมรอคอยหมายสำคัญจากพระองค์ ที่จะมาช่วยผม ให้รอด ให้เป็นไท จากบาปสิ่งนี้ ผมไม่อยากเป็นทาสมันอีกต่อไปแล้ว ผมอยากให้พี่น้อง ช่วยอธิษฐานเผื่อผม สวดภาวนาให้ผม เป็นพิเศษด้วยนะครับ ผมเป็นคริสเตียนที่ไม่เหมือนคริสเตียนเลย เพื่อนๆผมที่เป็นคริสเตียน เขาไม่ได้เลวเหมือนผม พวกเขาเป็นคนชอบธรรม แต่ผมสิ ไม่สมควรเลยจริงๆ พระเจ้าครับ โปรดเมตตาอภัยให้ลูกด้วย ขอธรรมิกชน ช่วยสวดอธิษฐานให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2548
เวลา 22.45-23.50
........ จิตชั่วร้ายจากภัยมืดกำลังแผ่อิทธิพลครอบคลุมไปทั่ว ในทุกหนทุกแห่งหรือ แม้แต่ในบ้านของลูกเองมันก็สามารถเข้ามาได้ ด้วยสื่อที่ทันสมัยในสายตาของ มนุษย์ และสื่อนี้แหละจะนำความวิบัติทางจิตวิญญาณมาให้แก่ลูกๆของแม่ อย่างรวดเร็วโดยลูกไม่ทันรู้ตัว จงดูแลลูกหลานของลูกๆให้ดี เขายังอ่อนเยาว์ นักที่จะเข้าใจว่าอะไรคือพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า อะไรที่เป็นของประทานมา จากพระองค์ พวกเขาจะแยกไม่ออก จิตชั่วร้ายกำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อล่า วิญญาณขอลูกของแม่ไปอยู่กับมัน จงเตือนสติซึ่งกันและกันเถิดลูกแม่ อย่ารอ ให้วันพิพากษาครั้งที่2 นี้ใกล้เข้ามาไปกว่านี้เลย
เวลา 22.45-23.50
........ จิตชั่วร้ายจากภัยมืดกำลังแผ่อิทธิพลครอบคลุมไปทั่ว ในทุกหนทุกแห่งหรือ แม้แต่ในบ้านของลูกเองมันก็สามารถเข้ามาได้ ด้วยสื่อที่ทันสมัยในสายตาของ มนุษย์ และสื่อนี้แหละจะนำความวิบัติทางจิตวิญญาณมาให้แก่ลูกๆของแม่ อย่างรวดเร็วโดยลูกไม่ทันรู้ตัว จงดูแลลูกหลานของลูกๆให้ดี เขายังอ่อนเยาว์ นักที่จะเข้าใจว่าอะไรคือพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า อะไรที่เป็นของประทานมา จากพระองค์ พวกเขาจะแยกไม่ออก จิตชั่วร้ายกำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อล่า วิญญาณขอลูกของแม่ไปอยู่กับมัน จงเตือนสติซึ่งกันและกันเถิดลูกแม่ อย่ารอ ให้วันพิพากษาครั้งที่2 นี้ใกล้เข้ามาไปกว่านี้เลย
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ เสาร์ เม.ย. 22, 2006 2:35 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อย่าคิดว่าคุณเลวกว่าคนอื่นเลยครับ บางคนอาจจะกระทำบาปพวกนี้โดยไม่สำนึกเลยด้วยซ้ำ
สิ่งที่คุณควรทราบคือ พระเจ้าทรงรูจักเราดี และรู้ว่าเราล้มได้ ถ้าพระองค์คิดว่าเราเอาชนะบาปได้ง่าย สามารถเป็นคนดีครบครันได้ด้วยความสามารถตัวเองแล้ว....
พระองค์จะต้องมาสิ้นพระชนม์ไถ่บาปทำไม
ดังนั้น ผมสงสัยว่า คำว่าคริสเตียนที่ไม่เหมือนคริสเตียนเลยคืออะไร คือไม่ทำบาปเลยโดยสิ้นเชิงหรือ ไม่ใช่แน่ มิฉะนั้น พระเยซูเจ้าคงไม่มอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์แก่เปโตรที่ปฏิเสธพระองค์ทั้งที่ทรงทำนายล่วงหน้าแล้วถึง3ครั้ง แต่พระองค์ทรงทราบความอ่อนแอของเราดี และการที่จะเป็นคริสตชนที่เหมือนคริสตชน คือการรักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจ และยอมรับความจริงอย่างซื่อสัตย์ว่า เราอ่อนแอ และลำพังกำลังของเราไม่สามารถเอาชนะบาปได้เอง ต้องพึ่งพระเมตตาของพระองค์เท่านั้น
ในพระคัมภีร์ ตั้งแต่ปฐมกาล มีใครที่ไม่มีข้อตำหนิไหมครับ พระคัมภีร์ของเราดีมาก เพราะเขียนถึงคนแต่ละคนอย่างตรงไปตรงมา แม้แต่เรื่องบกพร่องของเขา แม้แต่กษัตริย์ดาวิดที่พระเจ้ารักมาก ก็ยังพลาดทำบาป ในพระคัมภีร์ คนที่ไม่เคยผิดมีใครบ้างนอกจากพระเยซู แต่ดุเอาว่า พระองค์ก็ยังคงมาหาคนบกพร่อง และเรียกเขาให้รับใช้ ไม่ได้รังเกียจ จงระวังคนที่สอนคุณว่าพระเจ้าจะลงโทษอย่างนั้นอย่างนี้ให้มาก เพราะพระเยซูมาเพื่อประกาศความรอด ไม่ได้มาเพื่อประกาศการลงโทษ
คุรลองกลับไปดูหลังเดอะแพชชั่น พระเยซุเจ้าเองหกล้มกี่ครั้งกว่าจะถึงเชิงกางเขน สิ่งนี้สอนเราว่า แม้จะตกในบาปสักกี่ครั้งก็ตาม ก้อย่าเสียน้ำใจเลย แต่จงทำแบบพระองค์คือ พยายามลุกขึ้นใหม่ทุกครั้ง
ฟป 3:12
ข้าพเจ้ายังไม่บรรลุเป้าหมายหรือยังทำไม่สำเร็จ ข้าพเจ้ายังมุ่งหน้าวิ่งต่อไป เพื่อจะช่วงชิงรางวัลให้ได้ดังที่พระคริสตเยซูทรงช่วงชิงข้าพเจ้าไว้ได้แล้ว พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่คิดว่า ข้าพเจ้าชนะแล้ว ข้าพเจ้าทำเพียงอย่างเดียวคือ ลืมสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง มุ่งสู่เบื้องหน้าอย่างสุดกำลัง ข้าพเจ้ากำลังวิ่งเข้าสู่เส้นชัยไปหารางวัลที่พระเจ้าทรงเรียกจากสวรรค์ให้ข้าพเจ้าเข้าไปรับในพระคริสตเยซู ดังนั้น เราทุกคนที่บรรลุวุฒิภาวะแล้วจงมีความรู้สึกนึกคิดเช่นนี้ และถ้าท่านทั้งหลายยังคิดเป็นเรื่องอื่น พระเจ้าก็จะทรงเปิดเผยเรื่องนี้แก่ท่าน ดังนั้น เมื่อเราก้าวหน้าถึงที่ใดแล้ว จงก้าวหน้าต่อไปในทิศทางเดียวกัน
----ดังนั้นให้คิดใหม่นะครับ คิดแบบนี้คือ "หนทาง"คือพระเยซูเจ้านี้ คุณยังต้องเดินด้วยตัวเอง ดังนั้นถ้าล้ม ก็ล้มในพระองค์ แต่ตราบใดที่ยังไม่หลงออกไปทางอื่น คุณก็ยังเป็นของพระองค์ ยังอยู่บน"หนทาง"ที่ถูกต้องคือ พระเยซูเจ้า ดังนั้นเมื่อผิดพลาด สำนึกเสียใจแล้วต้องลุก ไม่ใช่จมปลัก พระองค์ประสงค์ช่วยคุณให้ลุกอยู่แล้ว พระองค์ไม่ใช่คนที่จะลงโทษซ้ำเติมลูกของพระองค์ ดังนั้นจงมุ่งไปข้างหน้าต่อไป แม้จะล้มกี่ครั้งก็ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่เมื่อถึงเป้าหมายแล้ว คนที่ล้มบ่อย หรือล้มไม่บ่อย ก็ไม่ต่างกัน ล้วนถูกนับว่าถึงเส้นชัยทั้งนั้น ดังนั้น เมื่อล้มแล้วจงลุกขึ้น และอย่าคิดว่า มีบาปอะไรที่เกินพระเจ้าจะอภัยให้คุณได้ จำไว้ว่า "พระเมตตาของพระเจ้ามีชัยชนะเหนือพระยุติธรรมของพระองค์" พระองค์ไม่ได้อยากเห็นลูกของพระองค์ร้องไห้ไปตลอดทางที่กลับไปหาพระบิดาหรอกนะครับ
2คร 1:9
เรารู้สึกประหนึ่งว่าถูกตัดสินประหารชีวิต ความทุกข์ยากเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อมิให้เราไว้ใจตนเอง แต่ให้ไว้ใจในพระเจ้าผู้ทรงบันดาลให้ผู้ตายกลับคืนชีพ พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากอันตรายยิ่งใหญ่ที่จะต้องตาย และพระองค์จะทรงช่วยให้เรารอดพ้นอีก เรายังมั่นใจว่าพระองค์จะทรงช่วยให้เรารอดพ้นต่อไป
---ขอสันติสุขของพระคริสตเจ้าครอบครองจิตใจของคุณ อาเมน
สิ่งที่คุณควรทราบคือ พระเจ้าทรงรูจักเราดี และรู้ว่าเราล้มได้ ถ้าพระองค์คิดว่าเราเอาชนะบาปได้ง่าย สามารถเป็นคนดีครบครันได้ด้วยความสามารถตัวเองแล้ว....
พระองค์จะต้องมาสิ้นพระชนม์ไถ่บาปทำไม
ดังนั้น ผมสงสัยว่า คำว่าคริสเตียนที่ไม่เหมือนคริสเตียนเลยคืออะไร คือไม่ทำบาปเลยโดยสิ้นเชิงหรือ ไม่ใช่แน่ มิฉะนั้น พระเยซูเจ้าคงไม่มอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์แก่เปโตรที่ปฏิเสธพระองค์ทั้งที่ทรงทำนายล่วงหน้าแล้วถึง3ครั้ง แต่พระองค์ทรงทราบความอ่อนแอของเราดี และการที่จะเป็นคริสตชนที่เหมือนคริสตชน คือการรักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจ และยอมรับความจริงอย่างซื่อสัตย์ว่า เราอ่อนแอ และลำพังกำลังของเราไม่สามารถเอาชนะบาปได้เอง ต้องพึ่งพระเมตตาของพระองค์เท่านั้น
ในพระคัมภีร์ ตั้งแต่ปฐมกาล มีใครที่ไม่มีข้อตำหนิไหมครับ พระคัมภีร์ของเราดีมาก เพราะเขียนถึงคนแต่ละคนอย่างตรงไปตรงมา แม้แต่เรื่องบกพร่องของเขา แม้แต่กษัตริย์ดาวิดที่พระเจ้ารักมาก ก็ยังพลาดทำบาป ในพระคัมภีร์ คนที่ไม่เคยผิดมีใครบ้างนอกจากพระเยซู แต่ดุเอาว่า พระองค์ก็ยังคงมาหาคนบกพร่อง และเรียกเขาให้รับใช้ ไม่ได้รังเกียจ จงระวังคนที่สอนคุณว่าพระเจ้าจะลงโทษอย่างนั้นอย่างนี้ให้มาก เพราะพระเยซูมาเพื่อประกาศความรอด ไม่ได้มาเพื่อประกาศการลงโทษ
คุรลองกลับไปดูหลังเดอะแพชชั่น พระเยซุเจ้าเองหกล้มกี่ครั้งกว่าจะถึงเชิงกางเขน สิ่งนี้สอนเราว่า แม้จะตกในบาปสักกี่ครั้งก็ตาม ก้อย่าเสียน้ำใจเลย แต่จงทำแบบพระองค์คือ พยายามลุกขึ้นใหม่ทุกครั้ง
ฟป 3:12
ข้าพเจ้ายังไม่บรรลุเป้าหมายหรือยังทำไม่สำเร็จ ข้าพเจ้ายังมุ่งหน้าวิ่งต่อไป เพื่อจะช่วงชิงรางวัลให้ได้ดังที่พระคริสตเยซูทรงช่วงชิงข้าพเจ้าไว้ได้แล้ว พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่คิดว่า ข้าพเจ้าชนะแล้ว ข้าพเจ้าทำเพียงอย่างเดียวคือ ลืมสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง มุ่งสู่เบื้องหน้าอย่างสุดกำลัง ข้าพเจ้ากำลังวิ่งเข้าสู่เส้นชัยไปหารางวัลที่พระเจ้าทรงเรียกจากสวรรค์ให้ข้าพเจ้าเข้าไปรับในพระคริสตเยซู ดังนั้น เราทุกคนที่บรรลุวุฒิภาวะแล้วจงมีความรู้สึกนึกคิดเช่นนี้ และถ้าท่านทั้งหลายยังคิดเป็นเรื่องอื่น พระเจ้าก็จะทรงเปิดเผยเรื่องนี้แก่ท่าน ดังนั้น เมื่อเราก้าวหน้าถึงที่ใดแล้ว จงก้าวหน้าต่อไปในทิศทางเดียวกัน
----ดังนั้นให้คิดใหม่นะครับ คิดแบบนี้คือ "หนทาง"คือพระเยซูเจ้านี้ คุณยังต้องเดินด้วยตัวเอง ดังนั้นถ้าล้ม ก็ล้มในพระองค์ แต่ตราบใดที่ยังไม่หลงออกไปทางอื่น คุณก็ยังเป็นของพระองค์ ยังอยู่บน"หนทาง"ที่ถูกต้องคือ พระเยซูเจ้า ดังนั้นเมื่อผิดพลาด สำนึกเสียใจแล้วต้องลุก ไม่ใช่จมปลัก พระองค์ประสงค์ช่วยคุณให้ลุกอยู่แล้ว พระองค์ไม่ใช่คนที่จะลงโทษซ้ำเติมลูกของพระองค์ ดังนั้นจงมุ่งไปข้างหน้าต่อไป แม้จะล้มกี่ครั้งก็ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่เมื่อถึงเป้าหมายแล้ว คนที่ล้มบ่อย หรือล้มไม่บ่อย ก็ไม่ต่างกัน ล้วนถูกนับว่าถึงเส้นชัยทั้งนั้น ดังนั้น เมื่อล้มแล้วจงลุกขึ้น และอย่าคิดว่า มีบาปอะไรที่เกินพระเจ้าจะอภัยให้คุณได้ จำไว้ว่า "พระเมตตาของพระเจ้ามีชัยชนะเหนือพระยุติธรรมของพระองค์" พระองค์ไม่ได้อยากเห็นลูกของพระองค์ร้องไห้ไปตลอดทางที่กลับไปหาพระบิดาหรอกนะครับ
2คร 1:9
เรารู้สึกประหนึ่งว่าถูกตัดสินประหารชีวิต ความทุกข์ยากเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อมิให้เราไว้ใจตนเอง แต่ให้ไว้ใจในพระเจ้าผู้ทรงบันดาลให้ผู้ตายกลับคืนชีพ พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากอันตรายยิ่งใหญ่ที่จะต้องตาย และพระองค์จะทรงช่วยให้เรารอดพ้นอีก เรายังมั่นใจว่าพระองค์จะทรงช่วยให้เรารอดพ้นต่อไป
---ขอสันติสุขของพระคริสตเจ้าครอบครองจิตใจของคุณ อาเมน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เป็นกำลังใจให้นะครับ
ขอพระเจ้าและพระแม่มารีย์อวยพรครับ
ขอพระเจ้าและพระแม่มารีย์อวยพรครับ
-
- โพสต์: 131
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
- ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima
ผมเป็นคนที่มีจุดอ่อนด้านเรื่องนี้มากครับ ฮอร์โมนเพศผมอาจจะมีมากจนผิดปกติ แต่ครั้งหนึ่งผมเคยหักห้ามใจได้เกือบ6เดือน แต่ผมมาล้มลงครั้งใหญ่ครั้งนี้ครับ ที่ผมกลับไปใช้ชีวิตแบบเหมือนคนไม่รู้จักพระเจ้าเลย ผมทำบาปเหมือนไม่มีพระเจ้าอยู่ในใจผม แต่ผมก็ยังคงจะประกาศสงครามต่อสู้กับเนื้อหนังต่อไป ไม่ว่าผมจะล้มลงอีกครั้ง และจะพยายามให้ถึงที่สุดครับ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยเตือนและเป็นกำลังใจให้ผม ผมรักพี่น้องคริสตชนมากครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ขอเป็นกำลังใจให้พี่ lordtole นะครับ
ผมจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับชีวิตผม ผมเป็นเกย์และก๋เคยมีแฟน...แล้วก็แน่นอนก็ต้องเคยมีอะไรกัน จนมาวันหนึ่งพระเจ้าได้นำทางผมกลับเข้ามาในทางของพระองค์(ตรงนี้เรื่องมันยาว) ทำให้ผมรู้สึกเอน็จอนาถตนเองและเลิกพฤติกรรมเลวร้ายทั้งหมดที่เคยเป็นเช่น ทำบาปอุลามก ขี้โมโหฉุนเฉียว ยกตนข่มคนอื่น ดูถูกคนอื่น เถียงเพื่อความสะใจ ขี้อิจฉาอย่างร้ายแรง ฯลฯ แต่เรื่องบาปอถลามกนั้นติดที่แฟนผม ตัวผมนั้นอยากเลิกบาปนี้แต่ผมยังคบกับแฟนอยู่แฟนผมเค้าไม่ยอมและได้ด่าว่าพระเจ้าและศาสนาคริสต์รวมทั้งปผู้มีพระคุณสำหรับผมในการนำผมกลับมาหาพระอย่างเสียๆหายๆ ทำให้ผมอึดอัดและคับแค้นใจมาก จนในที่สุดผมก็ได้ตัดสินใจเลิกกับเขาเราคบกันมา 6 ปี คิดดูนะครับคบกันมา 6 ปีแล้วเลิกเพราะเค้าขาดเรื่องนี้ไม่ได้ นั่นทำให้ผมคิดว่า โอเค...เราเลิกกับเขาเพราะเรื่องนี้ดังนั้นเราจะไม่ยอมตกในบาปเพราะเรื่องนี้อีก มิเช่นนั้นการเลิกกันครั้งนี้ก็สูญเปล่า
ผลคือผมก็ยังตกในบาปอยู่.... นี่เกิดอะไรขึ้น? ผมเลิกกับเขาที่คบกันมา 6 ปีเพราะอยากเลิกเรื่องบาปอุลามก แต่สุดท้ายก็ยังตกในบาปอยู่ทำให้ผมเสียใจอย่างมากทุกครั้งที่ทำ
ต่อมาผมตระหนักได้ว่า ...เราเลิกกับเขาเพราะเราเข้ามาอยู่ในหนทางแห่งความรอดของพระเป็นเจ้า นั่นทำให้ผมคิดได้อีกว่า ประเด็นไม่ใช่เลิกแล้วต้องไม่ทำอีก เพราะมันเป็นความคิดเยี่ยงมนุษย์ แต่ประเด็นคือขอเพียงเรามีจิตใจที่จะต่อสู้กับบาป และหากพลาดพลั้งเมื่อใด ก็ให้เราขอโทษพระองค์ และพระองค์จะทรงอภัยให้เสมอ ดังนั้นการที่ผมเลิกกับเค้าก็เป็นหลักฐานที่แสดงว่าผมมีใจที่จะยึดสู้และทำสงครามกับฝ่ายเนื้อหนัง แม้ว่าผมจะแพ้แต่นั่นไม่สำคัญ สำคัญที่ผมยังมีใจที่จะสู้ต่อมั้ย? สำคัญที่ผมยังจะรักพระองค์และต่อสู้เพื่อพระองค์ต่อมั้ย? และผมเชื่อนักหนาว่าวันหนึ่งพระเป็นเจ้าจะประทานชัยชนะให้แก่เรา
1คร 15:54-58
เมื่อสิ่งที่เน่าเปื่อยนี้จะสวมใส่ความไม่เน่าเปื่อย และเมื่อธรรมชาติที่ต้องตายนี้จะสวมใส่ความไม่รู้จักตายแล้ว ก็จะเป็นจริงตามคำที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
ผมจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับชีวิตผม ผมเป็นเกย์และก๋เคยมีแฟน...แล้วก็แน่นอนก็ต้องเคยมีอะไรกัน จนมาวันหนึ่งพระเจ้าได้นำทางผมกลับเข้ามาในทางของพระองค์(ตรงนี้เรื่องมันยาว) ทำให้ผมรู้สึกเอน็จอนาถตนเองและเลิกพฤติกรรมเลวร้ายทั้งหมดที่เคยเป็นเช่น ทำบาปอุลามก ขี้โมโหฉุนเฉียว ยกตนข่มคนอื่น ดูถูกคนอื่น เถียงเพื่อความสะใจ ขี้อิจฉาอย่างร้ายแรง ฯลฯ แต่เรื่องบาปอถลามกนั้นติดที่แฟนผม ตัวผมนั้นอยากเลิกบาปนี้แต่ผมยังคบกับแฟนอยู่แฟนผมเค้าไม่ยอมและได้ด่าว่าพระเจ้าและศาสนาคริสต์รวมทั้งปผู้มีพระคุณสำหรับผมในการนำผมกลับมาหาพระอย่างเสียๆหายๆ ทำให้ผมอึดอัดและคับแค้นใจมาก จนในที่สุดผมก็ได้ตัดสินใจเลิกกับเขาเราคบกันมา 6 ปี คิดดูนะครับคบกันมา 6 ปีแล้วเลิกเพราะเค้าขาดเรื่องนี้ไม่ได้ นั่นทำให้ผมคิดว่า โอเค...เราเลิกกับเขาเพราะเรื่องนี้ดังนั้นเราจะไม่ยอมตกในบาปเพราะเรื่องนี้อีก มิเช่นนั้นการเลิกกันครั้งนี้ก็สูญเปล่า
ผลคือผมก็ยังตกในบาปอยู่.... นี่เกิดอะไรขึ้น? ผมเลิกกับเขาที่คบกันมา 6 ปีเพราะอยากเลิกเรื่องบาปอุลามก แต่สุดท้ายก็ยังตกในบาปอยู่ทำให้ผมเสียใจอย่างมากทุกครั้งที่ทำ
ต่อมาผมตระหนักได้ว่า ...เราเลิกกับเขาเพราะเราเข้ามาอยู่ในหนทางแห่งความรอดของพระเป็นเจ้า นั่นทำให้ผมคิดได้อีกว่า ประเด็นไม่ใช่เลิกแล้วต้องไม่ทำอีก เพราะมันเป็นความคิดเยี่ยงมนุษย์ แต่ประเด็นคือขอเพียงเรามีจิตใจที่จะต่อสู้กับบาป และหากพลาดพลั้งเมื่อใด ก็ให้เราขอโทษพระองค์ และพระองค์จะทรงอภัยให้เสมอ ดังนั้นการที่ผมเลิกกับเค้าก็เป็นหลักฐานที่แสดงว่าผมมีใจที่จะยึดสู้และทำสงครามกับฝ่ายเนื้อหนัง แม้ว่าผมจะแพ้แต่นั่นไม่สำคัญ สำคัญที่ผมยังมีใจที่จะสู้ต่อมั้ย? สำคัญที่ผมยังจะรักพระองค์และต่อสู้เพื่อพระองค์ต่อมั้ย? และผมเชื่อนักหนาว่าวันหนึ่งพระเป็นเจ้าจะประทานชัยชนะให้แก่เรา
1คร 15:54-58
เมื่อสิ่งที่เน่าเปื่อยนี้จะสวมใส่ความไม่เน่าเปื่อย และเมื่อธรรมชาติที่ต้องตายนี้จะสวมใส่ความไม่รู้จักตายแล้ว ก็จะเป็นจริงตามคำที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
*no1 ให้น้องปั๊ม
เยี่ยมมากครับ
เยี่ยมมากครับ
ผู้ชายส่วนใหญ่จะอ่อนแอเรื่องนี้ นี่เป็นกางเขนที่พระประทานให้ พระเจ้ารู้ว่าเราอ่อนแอในเรื่องนี้แต่พระองค์ก็ทรงใจดีอภัยให้เสมอแล้วเราก็ทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก เราต้องแบกมันทุกวันถึงล้มกี่ครั้งก็ต้องลุกครับแบกกางเขนไปให้ถึงเส้นชัยให้ได้นะครับ เช่นเดียวกับพระเยซูที่แบกกางเขนของพระองค์ถึงล้มแล้วพระองค์ก็ลุกขึ้นใหม่เพื่อเดินต่อ พยายามทน ให้เราคิดว่าเป็นมรณะสักขีเพื่อพระองค์ แล้วบาปจะกลายเป็นพระพรครับ :)
"ถ้าผู้ใดใครตามเรามาให้ผุ้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับการเขนของตน แบกและตามเรามา" (มธ. 16 : 24)
เสริมอีกนิดเรื่องเซฟรูปเก็บไว้ดูถ้าเรายังไม่แน่ใจว่าจะเลิกได้จริงๆ ก็ยังไม่ต้องลบทิ้งก็ได้ถ้าเป็นคนอื่นเขาแนะนำให้ลบทิ้งให้หมดเพื่อเราจะได้ไม่เผอไปดูอีก แต่พี่คิดว่าถ้าน้องลบทิ้งเดียวมีความต้องการก็ต้องไปค้นมาใหม่อยู่ดีทำให้เราหมกมุ่นกับมันมากขึ้น ให้เราเก็บไว้ระยะหนึ่งก่อนเพราะมันเลิกไม่ไดภายในวันสองวันอย่างแน่นอน หรือเขียนลงแผ่นแล้วเอาไว้ห่างๆ มือเรา แล้วพูดกับพระเจ้าว่า "ข้าพเจ้าข้อแบกสิ่งนี้เป็นการเขนของข้าพเจ้า" พี่ว่าไม่ตลกครับที่จะแบกCD ลามกเป็นกางเขน "จะไม่ขอเปิดดูมันอีก หรือกระทำบาปนี้อีกเมื่อไรที่ข้าพเจ้าต้องการอยากดู หรืออยากทำบาปนี้ ข้าพเจ้าจะคิดว่าเป็นมรณะสักขีเพื่อพระองค์" ทำอย่างนี้แล้วพระจะอวยพร แต่เมื่อไรที่เราอ่อนแออยากคิดถึงมันให้เราหันเหความคิด ไปสนใจเรื่องอื่นแทนอย่าไปคิดต่อเด็กขาด เอาความรู้สึกไปสนใจสิ่งอื่นแล้วสิ่งนี่ถวายให้พระไป ห้ามไปสนใจครับ :)
แล้วถ้าเราบอกไม่แบกได้ไหม มันอยากดู อยากทำนะ พระเยซูตรัสว่า "38และผู้ใดที่ไม่รับกางเขนของตนตามเราไป ผู้นั้นก็ไม่มีค่าควรกับเรา" (มธ.10 : 35)
แต่ถ้าเราอ่อนแอทำอีกก็เป็นเรื่องปกติเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการสืบพันธุ์ไม่แปลกถ้าไม่รู้สึกเลยนี่สิแปลก ไม่ต้องไปฟ้องผิดตัวเองมาก ปีศาจอาจเอาข้อนี้มาฟ้องผิดได้ ให้เราแก้บาป พระเจ้าใจดีมากพร้อมที่จะอภัยให้เราเสมอครับพระองค์เข้าใจตัวเราดีกว่าตัวเราเองอีก แบกไปล้มไปจนกว่าจะถึงจุดหมายครับ อย่าลืมพระองค์ก็ทรงแบกเป็นเพื่อนเราอยู่ที่ภูเขา ทรงทรมานไปพร้อมๆ กับกางเขนที่เราแบกนั้น แล้วเมื่อไรที่เราล้มพระองค์ก็ทรงล้มด้วย ที่หัวเข่าพระองค์ทำไมเป็นแผมากเหลือเกิน เป็นแผแตกจนดูไม่ได้ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเราล้มกันบ่อยครับ นี่คือพระเมตตาของพระองค์
"ถ้าผู้ใดใครตามเรามาให้ผุ้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับการเขนของตน แบกและตามเรามา" (มธ. 16 : 24)
เสริมอีกนิดเรื่องเซฟรูปเก็บไว้ดูถ้าเรายังไม่แน่ใจว่าจะเลิกได้จริงๆ ก็ยังไม่ต้องลบทิ้งก็ได้ถ้าเป็นคนอื่นเขาแนะนำให้ลบทิ้งให้หมดเพื่อเราจะได้ไม่เผอไปดูอีก แต่พี่คิดว่าถ้าน้องลบทิ้งเดียวมีความต้องการก็ต้องไปค้นมาใหม่อยู่ดีทำให้เราหมกมุ่นกับมันมากขึ้น ให้เราเก็บไว้ระยะหนึ่งก่อนเพราะมันเลิกไม่ไดภายในวันสองวันอย่างแน่นอน หรือเขียนลงแผ่นแล้วเอาไว้ห่างๆ มือเรา แล้วพูดกับพระเจ้าว่า "ข้าพเจ้าข้อแบกสิ่งนี้เป็นการเขนของข้าพเจ้า" พี่ว่าไม่ตลกครับที่จะแบกCD ลามกเป็นกางเขน "จะไม่ขอเปิดดูมันอีก หรือกระทำบาปนี้อีกเมื่อไรที่ข้าพเจ้าต้องการอยากดู หรืออยากทำบาปนี้ ข้าพเจ้าจะคิดว่าเป็นมรณะสักขีเพื่อพระองค์" ทำอย่างนี้แล้วพระจะอวยพร แต่เมื่อไรที่เราอ่อนแออยากคิดถึงมันให้เราหันเหความคิด ไปสนใจเรื่องอื่นแทนอย่าไปคิดต่อเด็กขาด เอาความรู้สึกไปสนใจสิ่งอื่นแล้วสิ่งนี่ถวายให้พระไป ห้ามไปสนใจครับ :)
แล้วถ้าเราบอกไม่แบกได้ไหม มันอยากดู อยากทำนะ พระเยซูตรัสว่า "38และผู้ใดที่ไม่รับกางเขนของตนตามเราไป ผู้นั้นก็ไม่มีค่าควรกับเรา" (มธ.10 : 35)
แต่ถ้าเราอ่อนแอทำอีกก็เป็นเรื่องปกติเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการสืบพันธุ์ไม่แปลกถ้าไม่รู้สึกเลยนี่สิแปลก ไม่ต้องไปฟ้องผิดตัวเองมาก ปีศาจอาจเอาข้อนี้มาฟ้องผิดได้ ให้เราแก้บาป พระเจ้าใจดีมากพร้อมที่จะอภัยให้เราเสมอครับพระองค์เข้าใจตัวเราดีกว่าตัวเราเองอีก แบกไปล้มไปจนกว่าจะถึงจุดหมายครับ อย่าลืมพระองค์ก็ทรงแบกเป็นเพื่อนเราอยู่ที่ภูเขา ทรงทรมานไปพร้อมๆ กับกางเขนที่เราแบกนั้น แล้วเมื่อไรที่เราล้มพระองค์ก็ทรงล้มด้วย ที่หัวเข่าพระองค์ทำไมเป็นแผมากเหลือเกิน เป็นแผแตกจนดูไม่ได้ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเราล้มกันบ่อยครับ นี่คือพระเมตตาของพระองค์
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 11:33 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
เอ่อ รู้สึกหลายคน จะมีปัญหาเรื่องนี้ ใจเย้น ๆพี่ว่ามันต้องมีทาง ตอนนี้ขยันสวด และปล่อยใจให้ว่างไปก่อน จะช่วยสวดให้ด้วยนะ
บางช่วงผมก็เป็นหนักครับ
ตอนนี้ค่อยดีขึ้น สูบภาพน้อยลงเรื่อยๆ
นี่ก้เป็นเหมือนโรคร้ายสำหรับผู้ชายทั้งหลายครับ มันจะกำเริบเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ตอนนี้ค่อยดีขึ้น สูบภาพน้อยลงเรื่อยๆ
นี่ก้เป็นเหมือนโรคร้ายสำหรับผู้ชายทั้งหลายครับ มันจะกำเริบเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังงัยบ้างนะคะ